ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก
-
เขียนโดย เจ้าหนอน
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.
19 ตอน
1 วิจารณ์
17.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ที่ประชุมในสวรรค์ มีเหล่าเทพทั้งเทพสวรรค์และเทพนรก กำลังประชุมกันอยู่ โดยหัวข้อในการประชุมครั้งนี้คือ เด็กหนุ่มสองคน ซึ่งเป็นลูกครึ่งเทพสวรรค์และเทพนรก นามว่า โคลว์ และ คลาวดี้ เทพแห่งน้ำหรือ วอลต์ สเทลลาส เทพสาวที่มีความงดงามกว่าเทพองค์ไหนๆ เรือนผมสีฟ้า ดัดลอนคลื่นใหญ่ ผิวขาวอมชมพู ที่อยู่ในชุดกระโปรงสีฟ้า ที่ยาวไปทางด้านหลังเหมือนชุดทักษิโด้แขนพองแต่ยาวไปถึงข้อมือ สวมถุงมือสีฟ้า อ่อน สวมมงกุฎดอกไม้นานาชนิด ตรงคอมีสร้อยรูปหยดน้ำโดยด้านในคือกุหลาบสีฟ้าอันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวสวมรองเท้าส้นสูง รัดส้นสีฟ้า ข้างกายมีคฑาคริสตัลอันเป็นอาวุธประจำกาย ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโต จับจ้องไปที่เทพองค์สูงสุดที่เป็นประธานในการประชุม ที่พูดมาทั้งหมดคือ ฉันเองค่ะ^^ ขอแนะนำตัวนะค่ะ ฉันชื่อ เอนาริ เลมอน ชื่อเล่น โนริ หรือชื่อจริงๆคือ วอลต์ สเทลลาสค่ะ เป็นเทพแห่งน้ำ และเป็นเทพที่สวยที่สุดในบรรดาเทพทั้งหมคค่ะ โดยความสามารถพิเศษคือใช้เวทมนตร์ประเภทหลักได้ทุกประเภท อีกทั้งยังเป็นลูกสาวคนรองของตระกูลเอนาริ ถ้าถามว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไร คำตอบคือ กำลังประชุมกับเหล่าเทพอยู่ค่ะ โดยหัวข้อในการประชุมคือ ลูกครึ่งเทพสวรรค์และเทพนรก สองคนชื่อ โคลว์ และคลาวดี้ “ทุกท่านมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง” เทพองค์สูงสุดนาม ‘โพไซดอน’หรือพูดง่ายๆคือท่านพ่อของฉันเอ่ยถามความคิดเห็น “กระหม่อมคิดว่าเราน่าจะดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาไปก่อน ถ้าพวกเขาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวโลกเมื่อไหร่ เราค่อยประชุมกันอีกที” เทพ ‘อพอลโล่’ เอ่ยขึ้นเมื่อจบคำถามของท่านพ่อ “พี่ก็คิดเช่นนั้น” เทพแห่งสายฟ้า ‘ซุส’ หรือพี่ชายของท่านพ่อ กล่าวขึ้น อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ เพราะท่านลุง ซุสนั่นแหละที่เป็นคนให้กำเนิด คลาวดี้น่ะ เรื่องมันถึงยุ่งอย่างนี้ไง “เพราะท่านพี่ไม่อยากให้เหล่าเทพสังหารบุตรชายของท่านต่างหาก” เทพนรก ‘ฮาเดส’ กล่าวขึ้น เมื่อท่านลุงพูดจบ “มันผิดรึ? ที่พี่ปกป้องลูกชายของพี่น่ะ” ส่วนท่านลุงก็ไม่น้อยหน้าตอบกลับรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด “พอเถอะท่านพี่ทั้งสอง” และก็เป็นท่านพ่อที่เป็นคนห้ามศึกสายเลือดที่กำลังเกิดขึ้นขนาดย่อม ท่านลุงซุสและท่านลุงฮาเดสต่างสะบัดหน้าหนีเมื่อถูกห้าม เฮ้อ~ จะโทษท่านลุงซุสก็ไม่ถูกเพราะความรักมันกำหนดทิศทางของมันไม่ได้ ท่านลุงซุสจึงได้ไปพบรักกับเทพนรก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด แต่ก็ไม่มีใครแก้ไขอดีตที่เกิดขึ้นได้ “พวกลูกๆมีความคิดเห็นอย่างอื่นหรือไม่?” ท่านพ่อหันมาถามเทพวัยรุ่นที่มีทั้งหมดห้าองค์ หนึ่งในนั้นก็มีฉันด้วย “ลูกคิดเช่นเดียวกับท่านลุงเพคะ” เบิร์น ฟินิกส์ ลูกสาวของท่านลุงฮาเดส ซึ่งเป็นเทพสาวที่สวยมาก(แต่น้อยกว่าฉัน^^) ได้ข่าวว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว แต่ได้เจอกันแค่ปีละครั้ง ในร่างมนุษย์ของเธอฉันก็ไม่รู้จักหรอก แต่ในร่างเทพเธอก็โคตรสวยเลย ผมสีแดงเพลิงที่รวบขึ้นสูง มัดด้วยเชือกถักสีน้ำตาลอันศักสิทธ์ ประดับด้วยที่ปักผมรูปทรงเหลี่ยมแบบแปลกๆสีม่วงอ่อน นอกจากนั้นก็มีอะไรแหลมๆเล็กๆโผล่ออกมา ถ้าเดาไม่ผิดนั่นคงเป็นเขาของเทพปีศาจรุ่นเยาว์ ใบหูของเธอมีลักษณะยาวและแหลมเล็กน้อย ดวงตาแววโรจน์สีแดงเพลิงเป็นประกายนั้นดูโดดเด่นไม่เหมือนใครที่อยู่ล้อมรอบ แต่ที่จะเด่นที่สุดบนในหน้าเรียวนั้นคงจะเป็นอักขระโบราณแปลกๆที่เป็นลวดลายคดเคี้ยวแปลกๆแต่สวยงามรอบดวงตาข้างซ้ายนั่น บางทีฉันอาจจะตกใจกลัวเธอบ้างนิดหน่อยถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเธอเป็นเทพปีศาจฝ่ายดี ที่แน่ๆคือฉันชอบเขี้ยวเล็กๆในปากของเธอนั่นแหละมากที่สุด เป็นเทพที่สวยและงดงามจริงๆ แต่เธอดูนิ่งไปหน่อยนะ ช่วงจังหวะหนึ่งเธอหันมาสบตากับฉันพอดี นั่นทำเอาฉันหลบสายตาแทบไม่ทัน แต่เธอกลับคลี่ยิ้มบางๆมาให้ ทำเอาฉันแปลกใจนิดหน่อย เวลาเธอยิ้มเธอดูสวยมากเลยนะ เฮ้อ~เธอไม่น่าเกิดเป็นเทพนรกเลย อาเมน -_-* “แล้วลูกล่ะ ไลค์ สตาร์?” พ่อหันไปถาม เทพแห่งแสงองค์หนึ่ง ที่เขาทำท่าไม่สนใจหัวข้อการประชุมเลย ดูจากสายตาแล้ว เขาน่าจะอายุเท่าฉันนะ “ลูกยังไงก็ได้พะยะค่ะ” เขาตอบแบบไม่ใส่ใจ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่เขามาประชุม ไลค์ สตาร์ เทพแห่งแสงที่หล่อเหลาที่สุดในบรรดาเทพทั้งมวล ลูกชายของท่านลุงอพอลโล่ ทรงผมออกแนวเพลย์บอยนิดๆ ผมสีแอลม่อน จมูกโด่งเป็นสัน ผิวขาวจัดต่างกับฉันที่ขาวอมชมพู สวมเสื้อมีฮูดสีขาว กางเกงสเลค ขายาวสีขาว มีธนูเทวะเป็นอาวุธประจำกาย ดวงตาสีซิลเวอร์บลูฉายแววไม่สบอารมณ์ “เจ้ายังพูดง่ายเหมือนเดิมเลยนะ แล้วลูกล่ะ วอลต์ สเทลลาส?” ท่านพ่อหันมาถามฉัน ที่เอาแต่พินิจวิเคราะห์ ไลค์ สตาร์ “ลูกเห็นด้วยกับท่านลุงซุสเพคะท่านพ่อ” ฉันตอบกลับ ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ท่านลุงซุสที่ฉายแววโล่งอก “ถ้าเช่นนั้น การประชุมครั้งนี้มีผลสรุปว่า เราจะคอยดูความเคลื่อนไหวของ โคลว์และคลาวดี้ ถ้าทั้งสองสร้างความวุ่นวายเมื่อไหร่ เหล่าเทพจะทำการสังหารพวกเขาทันที” ท่านพ่อสรุปการประชุม ก่อนที่การประชุมจะจบลง ฉันสยายปีกหงส์สีขาวขนาดใหญ่ ที่น่าจะเห็นได้ในระยะสองพันเมตรออก ก่อนทะยานออกจากห้องประชุม ไปที่สวนน้ำอันเป็นที่พักผ่อนประจำตัว สวนน้ำยังคงความงดงามเอาไว้ รอบสวนเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีฟ้าที่เบ่งบานแข่งกับดอกอื่นๆ พอมองลงไปด้านล่างก็จะเจอโลกมนุษย์อันแสนวุ่นวายที่ฉันต้องกลับลงไป T^T ฉันร่อนลงที่ชิงช้าสีขาว ที่ดูโดดเด่นเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบสีฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความงดงามของดอกกุหลาบลดน้อยลงแม้แต่น้อย ฉันแกว่งชิงช้าเบาๆพลางนึกถึงเรื่องที่ต้องทำเมื่อลงไปโลกมนุษย์ ฉันเป็นควีนของโรงเรียนค่ะ งานค่อนข้างหนัก เพราะต้องทำทุกอย่างเหมือนประธานนักเรียน ทั้งเช็คจำนวนนักเรียนในแต่ละวันว่าลากี่คน ย้ายมาใหม่กี่คน ไหนจะเรื่องงานโรงเรียนอีก หนักนะค่ะ แต่อีกหน่อยคงสบายแล้วล่ะค่ะ เพราะที่โรงเรียนกำลังจะเลือกคิงเพื่อมาดำรงตำแหน่งคู่กับฉัน^_^ อืมมมม….. จะว่าไป โคลว์กับคลาวดี้หน้าตาเป็นยังไงนะ คลาวดี้จะคล้ายท่านลุงซุสหรือเปล่า เฮ้อ~แม้แต่หน้าตาฉันยังไม่รู้จักเลย ทั้งร่างมนุษย์แล้วก็ร่างเทพ ว่าแต่ สองคนนั้นถือว่าเป็นเทพหรือเปล่า? แล้วเปลี่ยนร่างได้เหมือนฉันหรือเปล่าว่ะ? โอ๊ย!!!ข้อมูลก็ไม่มี แล้วฉันจะดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ยังไงเนี่ย! “วอลต์ เรากลับกันดีกว่านะลูก^^” เทพ ‘อะโฟร์ไดร์’ หรือท่านแม่สุดที่รักของฉันเดินมาหาพร้อมกับท่านพ่อ “ค่ะ^^” ฉันตอบกลับก่อนที่เราสามคนพ่อแม่ลูกจะบินกลับโลกโดยมีอีกสามชีวิตที่รออยู่
+ + + คฤหาสน์เอนาริ+ + + เมื่อกลับมาถึงบ้านโดยร่ายเวทย์ล่องหนกันคนอื่นเห็น ฉันก็จัดการคืนร่างมนุษย์ เป็นคุณหนูแสนสวย ผมสีดำเหลือบม่วงที่ยาวเหยียดตรงไปถึงกลางหลัง โดยมีกิ๊บรูปผีเสื้อติดประดับเอาไว้ สวมชุดไปรเวทธรรมดาแต่ดูดี ดวงตาสีน้ำทะเลยังคงโดดเด่นแม้จะอยู่ในร่างมนุษย์ ผิวขาวอมชมพู ใบหน้าเนียนสวยไร้สิว ฉันช่างเป็นผู้หญิงที่สวยเริ่ดจริงๆโฮะๆ ^O^ ฉันเดินลัลลาลงมาชั้นล่าง เพราะห้องฉันอยู่ชั้นสี่(ก็บ้านฉันมีสี่ชั้น) ก่อนจะเดินไปที่สระน้ำที่วาโตรุ และพี่เซนอิจิกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ “สองหนุ่มทำอะไรอยู่เอ่ย? ^^” ฉันทักทายคนทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม แต่ผลที่ได้กลับมาคือ…. “ว่ายน้ำฮะ พี่โนริมาเล่นด้วยกันสิ^^” <= วาโตรุ “มีตาก็ดูเอาสิว่าทำอะไร” <= พี่เซนอิจิ พี่เซนอิจิมักพูดแบบนี้เสมอแล้วพี่เขาก็ไม่ค่อยชอบฉันสักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ T^T วาโตรุขึ้นจากสระก่อนจะมาจูงมือฉันไปนั่งที่ม้านั่งข้างสระ พลางนวดไหล่ให้ “พี่โนริเหนื่อยมั้ยฮะ แล้วงานที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?” วาโตรุถามอย่างเป็นห่วง คือฉันบอกวาโตรุว่าจะไปดูงานที่โรงเรียนน่ะ เออ! วาโตรุอยู่มอสี่ ส่วนฉันอยู่มอหก พี่เซนฯ อยู่มหาลัยปีสอง “ไม่เท่าไหร่หรอกจ้ะ แล้วเราล่ะทานอะไรหรือยัง?” ฉันถามกลับเพราะนี่มันจะเย็นแล้ว “ยังเลยฮะ รอพี่โนริอยู่ แต่พี่เซนฯทานแล้วล่ะฮะ ไม่รอกันเลย” วาโตรุบ่นเบาๆ มันเป็นอย่างนี้ตลอดแหละ พี่เซนฯไม่ยอมทานข้าวร่วมกับฉันเลย ไม่รู้เป็นอะไร ทั้งๆที่ฉันอยากทานข้าวกับพี่เขาแทบตาย T^T “ถ้างั้นเราไปทานข้าวดีกว่านะ แล้วคุณน้าชิออนล่ะ?” ฉันถามหาสมาชิกอีกคนที่เป็นแม่ของวาโตรุและพี่เซนฯ คือฉันกับทั้งสองคนมีพ่อคนเดียวกัน แต่คนละแม่ ฉันจูงมือวาโตรุเข้ามาในบ้าน ก่อนจะไล่เจ้าตัวดีไปอาบน้ำ เพราะเพิ่งเล่นน้ำเสร็จ ก่อนจะเดินไปบอกแม่บ้านให้เตรียมอาหารเย็นไว้ “โอ๊ย!!!!” พี่เซนฯที่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ชนฉันอย่างจังจนล้มก้นทิ่มพื้น แต่พี่เซนฯกลับเดินผ่านฉันไปเฉย “คุณหนูรอง!! เจ็บมากหรือเปล่าคะ!?” แม่บ้านสองคนวิ่งมาพยุงฉัน ฉันส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ทานอาหาร โดยมีแม่บ้านมาทำแผลที่เข่าให้ “คุณชายใหญ่ไม่เปลี่ยนเลยนะคะ พี่น้องกันแท้ๆทำกันได้” แม่บ้านบ่นพึมพำ พลางทำแผลไปด้วย “ช่างเค้าเถอะค่ะ” ฉันบอกปัดๆ ก่อนที่น้าชิออนจะเดินเข้ามา “ตายแล้วลูก!ไปทำอะไรมาเนี่ย!? ทำไมเข่าถลอกอย่างนี้” น้าชิออนถามอย่างเป็นห่วง พลางทิ้งของทุกอย่างในมือลงพื้น แล้วมาดูอาการฉัน “ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ โนริซุ่มซ่ามวิ่งหกล้มน่ะค่ะ เอ่อ….แม่บ้านคะ ไปทำอย่างอื่นเถอะค่ะ หนูไม่เป็นไรแล้ว” ฉันแทรกขึ้นเมื่อแม่บ้านทำท่าจะพูดอะไรออกมา ก่อนที่แม่บ้านจะเดินไปอีกทาง วาโตรุเดินลัลลาลงมา ฉันรีบซ่อนรอยแผลทันทีก่อนจะส่งยิ้มไปให้ “มาทานข้าวได้แล้ว ไอ้เจ้าแสบ” ฉันบอกก่อนที่วาโตรุจะเดินมานั่งข้างๆฉัน ส่วนแม่บ้านก็ทยอยเอาอาหารมาเสิร์ฟ เป็นจังหวะเดียวกับที่ท่านพ่อและท่านแม่เดินลงมาพอดี “ทานข้าวได้แล้วนะคะ คุณพ่อ คุณแม่” ฉันเรียกท่านทั้งสอง ก่อนที่พวกท่านจะเดินมาทานอาหาร “แล้วเซนล่ะลูก” ท่านแม่ถามหาลูกชายอีกคน “สงสัยเซนคงอยู่บนห้องน่ะค่ะ คุณผู้หญิง” น้าชิออนบอก เฮ้อ~น้าชิออนเมื่อไหร่เลิกเรียกท่านแม่แบบนั้นซะที “ชิออน ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เรียกคุณพี่ มาๆ มานั่งนี่เร็ว” ท่านแม่กวักมือเรียกน้าชิออนไปนั่งข้างๆท่าน น้าชิออนจึงเดินก้มหน้าก้มตาไปหาท่านแม่ บรรยากาศบนโต๊ะเป็นไปตามปกติ มีเสียงหัวเราะแทรกมาเป็นระยะ พูดคุยกันบ้าง ก่อนที่การทานอาหารจะจบลง ฉันเดินมาส่งน้องชายที่ห้องนอน ก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับห้อง แล้วไปอาบน้ำแต่งตัว สุดท้ายก็มานั่งดูดาวที่ระเบียงห้อง การเป็นเทพก็ไม่ได้ดีไปซะทุกอย่างหรอกนะ ต้องปิดบังตัวตนจริงๆจากมนุษย์ ไม่เว้นแม้กระทั่ง วาโตรุ พี่เซนฯ แล้วก็น้าชิออน เพราะพวกเขาไม่มีสายเลือดเทพ ต้องคอยจัดการเทพนรกฝ่ายดำที่มาวุ่นวายบนโลกมนุษย์ เพราะ เบิร์น ฟินิกส์ ไม่สามารถควมคุมพวกเขาได้ ถึงแม้จะเป็นธิดาของเจ้านรกก็ตาม เมื่ออากาศเริ่มเย็น ฉันจึงกลับเข้ามาในห้อง แล้วกระโดดขึ้นเตียง เฮ้อ~ พรุ่งนี้ขี้เกียจไปโรงเรียนจัง แต่ทำไงได้ ฉันต้องไปดูหน้าตาของคนที่มาลงสมัครคิงน่ะสิ ว่าจะใช้ได้แค่ไหน หวังว่าเขาคนนั้นคงไม่ลงสมัครหรอกนะ
+ + + คฤหาสน์เอนาริ+ + + เมื่อกลับมาถึงบ้านโดยร่ายเวทย์ล่องหนกันคนอื่นเห็น ฉันก็จัดการคืนร่างมนุษย์ เป็นคุณหนูแสนสวย ผมสีดำเหลือบม่วงที่ยาวเหยียดตรงไปถึงกลางหลัง โดยมีกิ๊บรูปผีเสื้อติดประดับเอาไว้ สวมชุดไปรเวทธรรมดาแต่ดูดี ดวงตาสีน้ำทะเลยังคงโดดเด่นแม้จะอยู่ในร่างมนุษย์ ผิวขาวอมชมพู ใบหน้าเนียนสวยไร้สิว ฉันช่างเป็นผู้หญิงที่สวยเริ่ดจริงๆโฮะๆ ^O^ ฉันเดินลัลลาลงมาชั้นล่าง เพราะห้องฉันอยู่ชั้นสี่(ก็บ้านฉันมีสี่ชั้น) ก่อนจะเดินไปที่สระน้ำที่วาโตรุ และพี่เซนอิจิกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ “สองหนุ่มทำอะไรอยู่เอ่ย? ^^” ฉันทักทายคนทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม แต่ผลที่ได้กลับมาคือ…. “ว่ายน้ำฮะ พี่โนริมาเล่นด้วยกันสิ^^” <= วาโตรุ “มีตาก็ดูเอาสิว่าทำอะไร” <= พี่เซนอิจิ พี่เซนอิจิมักพูดแบบนี้เสมอแล้วพี่เขาก็ไม่ค่อยชอบฉันสักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ T^T วาโตรุขึ้นจากสระก่อนจะมาจูงมือฉันไปนั่งที่ม้านั่งข้างสระ พลางนวดไหล่ให้ “พี่โนริเหนื่อยมั้ยฮะ แล้วงานที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?” วาโตรุถามอย่างเป็นห่วง คือฉันบอกวาโตรุว่าจะไปดูงานที่โรงเรียนน่ะ เออ! วาโตรุอยู่มอสี่ ส่วนฉันอยู่มอหก พี่เซนฯ อยู่มหาลัยปีสอง “ไม่เท่าไหร่หรอกจ้ะ แล้วเราล่ะทานอะไรหรือยัง?” ฉันถามกลับเพราะนี่มันจะเย็นแล้ว “ยังเลยฮะ รอพี่โนริอยู่ แต่พี่เซนฯทานแล้วล่ะฮะ ไม่รอกันเลย” วาโตรุบ่นเบาๆ มันเป็นอย่างนี้ตลอดแหละ พี่เซนฯไม่ยอมทานข้าวร่วมกับฉันเลย ไม่รู้เป็นอะไร ทั้งๆที่ฉันอยากทานข้าวกับพี่เขาแทบตาย T^T “ถ้างั้นเราไปทานข้าวดีกว่านะ แล้วคุณน้าชิออนล่ะ?” ฉันถามหาสมาชิกอีกคนที่เป็นแม่ของวาโตรุและพี่เซนฯ คือฉันกับทั้งสองคนมีพ่อคนเดียวกัน แต่คนละแม่ ฉันจูงมือวาโตรุเข้ามาในบ้าน ก่อนจะไล่เจ้าตัวดีไปอาบน้ำ เพราะเพิ่งเล่นน้ำเสร็จ ก่อนจะเดินไปบอกแม่บ้านให้เตรียมอาหารเย็นไว้ “โอ๊ย!!!!” พี่เซนฯที่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ชนฉันอย่างจังจนล้มก้นทิ่มพื้น แต่พี่เซนฯกลับเดินผ่านฉันไปเฉย “คุณหนูรอง!! เจ็บมากหรือเปล่าคะ!?” แม่บ้านสองคนวิ่งมาพยุงฉัน ฉันส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ทานอาหาร โดยมีแม่บ้านมาทำแผลที่เข่าให้ “คุณชายใหญ่ไม่เปลี่ยนเลยนะคะ พี่น้องกันแท้ๆทำกันได้” แม่บ้านบ่นพึมพำ พลางทำแผลไปด้วย “ช่างเค้าเถอะค่ะ” ฉันบอกปัดๆ ก่อนที่น้าชิออนจะเดินเข้ามา “ตายแล้วลูก!ไปทำอะไรมาเนี่ย!? ทำไมเข่าถลอกอย่างนี้” น้าชิออนถามอย่างเป็นห่วง พลางทิ้งของทุกอย่างในมือลงพื้น แล้วมาดูอาการฉัน “ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ โนริซุ่มซ่ามวิ่งหกล้มน่ะค่ะ เอ่อ….แม่บ้านคะ ไปทำอย่างอื่นเถอะค่ะ หนูไม่เป็นไรแล้ว” ฉันแทรกขึ้นเมื่อแม่บ้านทำท่าจะพูดอะไรออกมา ก่อนที่แม่บ้านจะเดินไปอีกทาง วาโตรุเดินลัลลาลงมา ฉันรีบซ่อนรอยแผลทันทีก่อนจะส่งยิ้มไปให้ “มาทานข้าวได้แล้ว ไอ้เจ้าแสบ” ฉันบอกก่อนที่วาโตรุจะเดินมานั่งข้างๆฉัน ส่วนแม่บ้านก็ทยอยเอาอาหารมาเสิร์ฟ เป็นจังหวะเดียวกับที่ท่านพ่อและท่านแม่เดินลงมาพอดี “ทานข้าวได้แล้วนะคะ คุณพ่อ คุณแม่” ฉันเรียกท่านทั้งสอง ก่อนที่พวกท่านจะเดินมาทานอาหาร “แล้วเซนล่ะลูก” ท่านแม่ถามหาลูกชายอีกคน “สงสัยเซนคงอยู่บนห้องน่ะค่ะ คุณผู้หญิง” น้าชิออนบอก เฮ้อ~น้าชิออนเมื่อไหร่เลิกเรียกท่านแม่แบบนั้นซะที “ชิออน ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เรียกคุณพี่ มาๆ มานั่งนี่เร็ว” ท่านแม่กวักมือเรียกน้าชิออนไปนั่งข้างๆท่าน น้าชิออนจึงเดินก้มหน้าก้มตาไปหาท่านแม่ บรรยากาศบนโต๊ะเป็นไปตามปกติ มีเสียงหัวเราะแทรกมาเป็นระยะ พูดคุยกันบ้าง ก่อนที่การทานอาหารจะจบลง ฉันเดินมาส่งน้องชายที่ห้องนอน ก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับห้อง แล้วไปอาบน้ำแต่งตัว สุดท้ายก็มานั่งดูดาวที่ระเบียงห้อง การเป็นเทพก็ไม่ได้ดีไปซะทุกอย่างหรอกนะ ต้องปิดบังตัวตนจริงๆจากมนุษย์ ไม่เว้นแม้กระทั่ง วาโตรุ พี่เซนฯ แล้วก็น้าชิออน เพราะพวกเขาไม่มีสายเลือดเทพ ต้องคอยจัดการเทพนรกฝ่ายดำที่มาวุ่นวายบนโลกมนุษย์ เพราะ เบิร์น ฟินิกส์ ไม่สามารถควมคุมพวกเขาได้ ถึงแม้จะเป็นธิดาของเจ้านรกก็ตาม เมื่ออากาศเริ่มเย็น ฉันจึงกลับเข้ามาในห้อง แล้วกระโดดขึ้นเตียง เฮ้อ~ พรุ่งนี้ขี้เกียจไปโรงเรียนจัง แต่ทำไงได้ ฉันต้องไปดูหน้าตาของคนที่มาลงสมัครคิงน่ะสิ ว่าจะใช้ได้แค่ไหน หวังว่าเขาคนนั้นคงไม่ลงสมัครหรอกนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ