Accident Of Love พรหมลิขิตผ้าพันแผล

-

เขียนโดย jaindyzone

วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.14 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,963 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562 22.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) เข็มที่ 8 ดูแล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

SKY

 

ตอนนี้ผมอยู่ห้องพี่ไฟครับ ผมนอนคิดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ผมว่าผมไม่ต้องใช้วิธีของไอ้ตั้มเพื่อพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เหตุการณ์หน้าป้ายรถเมล์วันนี้ ทำให้ผมได้คำตอบแล้ว ว่าผมคิดยังไง

 

นึกถึงตอนที่ผม บอกพี่ไฟว่าขอเป็นมากกว่าคนรู้จัก ผมยอมรับว่ากลัวมาก กลัวพี่ไฟปฏิเสธ กลัวมากกว่าตอนขอให้พาไปเลี้ยงข้าวซะอีก

 

  แต่ถึงพี่ไฟจะไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ และยิ่งเห็นหน้าแดงๆ ทำตัวไม่ถูกแบบนั้น  ผมเลยขอคิดเข้าข้างตัวเองนิดหน่อยว่า ผมก็มีหวัง

 

 จากนี้ไปผมจะเดินหน้าเต็มที่ เตรียมรับมือไว้เลยพี่ไฟ ผมจะทำให้พี่ตอบรับผมให้ได้คอยดู....ผมนึกขึ้นได้เลยหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดเข้าไลน์กลุ่ม ที่มีแต่เพื่อนสนิท

 

SKY : กูว่ากูชอบพี่ไฟ กูจะจีบเค้า และพวกมึงต้องช่วยกู   

แมวน้ำ: ???  ใครคือ พี่ไฟวะ

Tanthai: ใช่พี่หมอหล่อๆคนนั้นป่ะ

ต้ามมม: หึ

นายน้อย: อะไร ยังไง เมื่อไหร่ ?

Tanthai: มึงไปรักไปชอบเค้าตอนไหนวะ

Tanthai: เล่ามาเลยนะ ไม่งั้นกูนอนไม่หลับแน่ๆคืนนี้

ต้ามมม: ไม่ลองใช้แผนกูก่อนหรอออ ไรหว้า....

Tanthai: มึงจะมาทิ้งระเบิดไว้แบบนี้ไม่ได้นะโว๊ยยย

Tanthai: ไอ้ตั้ม มึงรู้เรื่องใช่ป่ะ  เล่ามาเดี๋วนี้

ต้ามมม: ใช่กูรู้...แต่กูไม่บอก อยากให้มึงอกแตกตาย

ต้ามมม: ส่งสติกเกอร์ (ลิงหัวเราะ)

Fishปลา: ฮันแน่......มีช๊อปมีเกียร์อยากเป็นเมียหมออออ

Fishปลา: เอ๊ะ หรือว่ามีเมียเป็นหมอวะ  ฮี้ววววววว

ต้ามมม: ฮุยยยยยย

นายน้อย: ฮาาาาาา

แมวน้ำ: ใครมีมะกรูด

Tanthai: มาแลกมะนาว

นายน้อย: ใครมีลูกสาววว  ไม่ใช่ๆ ใครมีคุณหมออออ

แมวน้ำ: มาแลกสกาย ตา ละ ลาาาา

SKY : ไอ้พวกเหี้ยยยยยยยย

Tanthai: มึงไม่รอพวกกูต่อเพลงกันจบก่อนล่ะ

SKY : เจอกันที่ ม.

Tanthai: มึงจะมาทิ้งกูไว้กับเผือกทั้งสวนไม่ได้นะโว๊ยยยย

แมวน้ำ: ฝันดีทู้กกกกคน

Tanthai: เชี่ยแมวมึงไม่อยากรู้หรอวะ

นายน้อย: ฝันดีทู้กกกกคน

ต้ามมม: ฝันดีทู้กกกกคน

Fishปลา: ฝันดีทู้กกกกคน

Tanthai: ไอ้พวกเชี่ยย ขอให้พวกมึงฝันร้ายยยยยยยยยย

 

ความขี้เสือกนี้มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆครับ

         

          ผมหลับตาลงพยายามนอนให้หลับ แต่ก็นอนไม่หลับ อาจจะเพราะแปลกที่ พี่หมอไฟคงนอนไปแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง ไข้จะลดหรือยังนะ นี่เรียกว่าเป็นห่วงใช่มั้ย

 

          ผมนอนเล่นเกมในโทรศัพท์จนแบตหมดก็เริ่มง่วงบ้างแล้ว ในขณะที่สติกำลังจะเลือนหายไปนั้น ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินออกมาข้างนอกน่าจะเป็นพี่หมอ

 

ออกมาทำไม

 

หมอไฟ

 

ผมตื่นมากลางดึก เพราะอาการปวดหัว นี่ขนาดกินยาไปแล้วนะ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยป่วยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ป่วยละก็จะเป็นหนักเลยผมรู้ตัวเองดี ว่าพรุ่งนี้ผมนอนซมแน่ๆ

 

แค่ยันตัวลุกจากเตียงยังแทบไม่ไหว เพราะปวดหัวมาก คั่นเนื้อคั่นตัวไปหมด ต้องนั่งพิงที่หัวเตียงซักพักเพื่อให้ร่างกายปรับตัว เปิดไฟหัวเตียง และพยายามมองหากระเป๋ายาของตัวเอง แต่ไม่เจอ สงสัยวางลืมไว้ข้างนอกแน่ๆ

 

ผมค่อยๆลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก เห็นกระเป๋ายาวางอยู่บนโต๊ะหน้าทีวี พยายามพยุงตัวเองเดินไปหยิบกระเป๋ายา ในขณะที่อาการปวดหัวก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

มองไปเห็นคนที่นอนขดตัวอยู่หน้าทีวี ผมเลยพยามเดินให้เสียงดังน้อยที่สุดจะได้ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่

เมื่อหยิบกระเป๋ายาได้แล้ว กำลังจะหันหลังกลับ แต่จู่ๆก็รู้สึกเหมือนห้องหมุนขึ้นมากะทันหันผมหลับตา คิดว่าตัวเองคงล้มลงไปกองที่พื้นแน่ๆ ถ้าไม่มี..

 

อ้อมแขนแข็งแรงของใครบ้างคนมารับไว้ 

.

.

.

คนที่นอนหน้าทีวีเมื่อครู่ 

 

“พี่หมอไฟ” สกายเรียกผมเสียงเบา

 

“พี่ไข้สูงอ่ะ” ผมพยักหน้ารับอย่างรู้ตัว

 

“หยิบยาในกระเป๋าให้พี่หน่อย”

 

สกายพาผมมานั่งที่โซฟา

“นี่ครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้” เจ้าตัวลุกไปเอาน้ำมารินใส่แก้วแล้วส่งมาให้

 

“พี่ไปโรงพยาบาลเถอะ” สกายว่าและมองด้วยสายตากังวล

 

“พี่กินยาเดี๋ยวไข้ก็ลด”

 

“ทำไมพี่ดื้อแบบนี้” สกายว่าพลางเอามือมาอังหน้าผากผม

 

“เดี๋ยวพี่เช็ดตัว และแปะแผ่นลดไข้ ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว” “พี่รู้ตัวเองหรอกน่า”

 

“โอเครู้ก็รู้ พี่เป็นหมอนี่” สกายว่าพลางส่ายหน้า ทำไมต้องส่ายหน้าใส่พี่ไฟด้วยอ่า

 

“มาเดี๋ยวผมพาไปห้อง” “และไม่ต้องบอกว่าพี่เดินไหวนะไม่งั้นผมอุ้มไปจริงๆด้วย”

 

“.......”

 

สกายพยุงผมมาในห้อง  ผมขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงหลับตาซักพักเพื่อให้ร่างกายปรับตัว ไม่ให้ปวดหัวไปมากกว่านี้

“ผ้าเช็ดตัวพี่อยู่ไหน”

 

“เดี๋ยวผมเอาชุบน้ำอุ่นให้” สกายถาม

 

“อยู่ในนั้น” ผมชี้ไปที่ตู้เล็กๆข้างห้องน้ำ คราวนี้ผมยอมแต่โดยดีเพราะให้ลุกเองคงไม่ไหวจริงๆ และถ้าปล่อยไว้แบบนี้พรุ่งนี้ผมคงต้องไปนอนโรงพยาบาลให้ไอ้น้ำมันหัวเราะเยาะแน่ๆ

 

“นี่ครับ” ผมรับมาแล้วแล้วเริ่มเช็ดหน้าตัวเองเบาๆ

 

“มาผมเช็ดให้ดีกว่า” สกายว่าพลางดึงผ้าเช็ดตัวไปจากมือผม

 

“มะ....ไม่ต้อง  พี่เช็ดเองได้” สกายมองหน้าผม สายตาจริงจัง จนผมต้องหลบตา ทำไม่ต้องทำเหมือนตอนแม่จะตีผมเวลาดื้อตอนเด็กๆเลย ฮื่ออออ พี่ไฟไม่ได้ดื้อซักหน่อย

 

“ผมเช็ดให้เองจะเร็วกว่าพี่จะได้พักผ่อนเร็วๆ”  

“นะครับ”  ผมเลยทำได้แค่พยักหน้าให้ไป

 

หลังจากกินยาเสร็จก็เหมือนว่าความง่วงเหมือนจะเข้าครอบงำ ผมหลับตาลงสติค่อยเลือนรางเต็มที แต่ก็ยังได้เสียงสกายบอกว่าจะเช็ดตัวให้ รู้สึกได้ว่ามีความเย็นจากผ้าเช็ดตัวมาโดนใบหน้า ผมเลยหันหน้าหนี แล้วซุกหน้าเข้ากับหมอนเพื่อหาท่าสบาย จากนั้นผมก็.........Zzzzz

 

ผมตื่นเพราะได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น ผมควานหามันมาเพื่อกดรับ

 

“ว่าไง” เสียงผมไม่ดีเอามากๆ รู้สึกเจ็บคอทันทีที่พูดออกไป

 

“เป็นไร   ใกล้ตายหรอเสียงแหบเชียว” ไอ้เพื่อนเวร

 

“เออป่วยมีไร วันนี้วันหยุดกู”

 

“หืมมมม มึงป่วยหรอกูว่าจะชวนไปดูหนังซะหน่อย”

 

“งั้นมึงพักเหอะ เดี๋ยวตอนบ่ายกูไปดูใจ” ดูมันพูดแต่ละอย่าง

 

“ไม่ต้องเสนอหน้ามาไอ้คนเลวกูยังไม่ตาย แค่ก แค่ก.. ง่ายๆ” ด่ามันเยอะไปหน่อยไอเลย

 

“เอาน่าเดี๋ยวพี่หมอน้ำจะไปฉีดยาให้เองแล้วเจอกันนะจ๊ะคนป่วย 55555”

 

แล้วมันก็วางสายไป ไอ้น้ำมันเป็นแบบนี้แหละครับ ถึงมันจะกวนตีน แต่มันก็เป็นห่วงเพื่อน ผมรู้นิสัยมันดี   

อาการปวดหัวยังมีอยู่นิดหน่อย แต่เจ็บคอมากๆเลยครับ เฮ้ออออ ไม่ชอบอาการแบบนี้เลยครับ หงุดหงิด ลุกไปล้างหน้าดีกว่าเผื่อจะดีขึ้น

 

ทันทีที่ก้าวลงจากเตียง สายตาก็ไปสะดุดกับอะไรบ้างอย่างที่พื้นข้างเตียง

นี่มัน  ............. สกาย

 

 

มานอนตรงนี้ได้ยังไง

 

ผมเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าแปลงฟัน ยังไม่อาบน้ำหรอกครับเดี๋ยวไข้กลับ  แค่เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินออกมาสกายยังนอนท่าเดิม ไม่สบายหรือเปล่านะ

 

ผมเดินไปใกล้ๆเอามือแตะหน้าผากสกาย ก็ปกตินี่น่า  สงสัยเป็นจะคนนอนขี้เซาขนาดผมแตะตัวยังไม่ตื่น ผมคุกเข่านั่งมองหน้าคนเด็กกว่าที่นอนหลับอยู่ คิ้วเข้ม ขมวดน้อยๆ ตอนผมเอามือปัดผมให้ จมูกโด่งจัง  ทำไมเกิดมาหน้าตาดีแบบนี้นะ

 

          ปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน วันนี้วันเสาร์คงไม่มีเรียน ตอนนี้แปดโมงกว่าๆไปทำอาหารเช้าก่อนดีกว่า ผมพอทำอาหารได้ พวกอาหารง่ายๆ  รสชาติไม่ได้อร่อยมากมาย แต่ก็ไม่อดตายถ้าอยู่คนเดียว 555

 

          ผมกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งไม่เจอสกายบนฟูกแล้ว  สงสัยเข้าห้องน้ำผมเลยเดินมานั่งที่หน้าทีวี เปิดทีวีดูฆ่าเวลารอ

 

 “พี่หมอไฟ”  “เป็นไงบ้างครับพี่ยังมีไข้อยู่หรือเปล่า” สกายเดินออกมานั่งที่โซฟาข้างๆผม

 

“เมื่อคืนพี่ไข้สูงมากเลย ผมเช็ดตัวให้พี่ทั้งคืนเลย” ว่าพลางเอามือแตะหน้าผากผมอีก...

ถึงว่าตื่นมาไม่มีไข้เลย

 

“พี่ไข้ขึ้นจนเพ้อรู้ตัวบ้างมั้ย”  ผมส่ายหน้า

 

“ขอบคุณนะ” “คุณเป็นแขกๆแท้” ผมว่าอย่างรู้สึกผิด ถึงว่าล่ะสกายหลับลึกเชียวสงสัยจะเพิ่งมานอนตอนเช้า   เพราะดูแลผมนี่เอง

 

“คุณอีกแล้ว” สกายหน้ามุ่ย

 

“พี่ยังไม่ชินนี่”

 

“ไปกินมื้อเช้ากันพี่ทำไว้แล้ว” “ไถ่โทษไง”

 

มื้อเช้าวันนี้เป็น โจ๊กหมูสับครับผมตักมาให้สกาย และตัวเอง เรานั่งตรงข้ามกัน

 

“วันนี้ไม่มีเรียนใช่มั้ย” ผมถาม

 

“ไม่มีครับ” “พี่อยู่ที่นี่คนเดียวหรอ”

 

“อืม....” ผมว่าพลางตักโจ๊กเข้าปาก

 

“แล้วเสื้อผ้านี่....”

 

“อ่อ ของพี่นี่แหละ พี่ชอบใส่แบบนี้เวลาอยู่ห้องมันสบายดี”

 

สกายพยักหน้ารับ จากนั้นเราก็กินไปคุยไป จนสกายอิ่ม ส่วนผมกินได้นิดเดียวครับเจ็บคอ

“พี่กินน้อยจัง”  “เจ็บคอหรอ”

 

“อืมนิดหน่อย”  “แต่กินยาแล้วไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่...”

 

“พี่เป็นหมอ ผมรู้” สกายว่ายิ้มๆ

 

“รู้ก็ดี แล้วนี่เราไม่มีธุระที่ไหนหรอ”

 

“นี่พี่ไล่ผมหรอ  อะไรอ่ะผมอุตส่าดูแลพี่ทั้งคืน” พูดซะรู้สึกผิดเลย

 

“ไม่ได้ไล่พี่แค่ถามเอง ขี้โวยวาย”

 

“แปลว่าผมอยู่ต่อได้ใช่ป่ะ”  สกายพูดพร้อมทำตาวาว

 

ผมหัวเราะเบาๆ เด็กจริงๆเลย  จากนั้นเจ้าตัวก็บอกอยากดูหนัง เราเลยมานั่งดูหนังกันที่โซฟา เป็นหนังสืบสวนสอบสวนที่ฉายไปนานแล้ว

 

ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาก็ดูเหมือนว่าสกายจะหลับอยู่เหมือนกัน เพราะหัวเอนมาพิงไหล่ผม  ผมเลยปิดทีวี และประคองให้นอนที่โซฟาดีๆ

 

ในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นนั้นคนที่หลับอยู่ก็ดึงมือผมไว้ ทำให้ผมสะดุดจนล้มลงไปทับคนที่นอนอยู่ กลายเป็นผมทับตัวสกายและถูกกอดไว้

 

ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  หัวใจกลับมาทำงานหนักอีกครั้งเพราะมันเต้นระรัวขึ้นมา จนผมกลัวว่ามันจะวายไปซะก่อน

 

“สกาย”   “ปล่อยพี่” ผมว่าเสียงเบา เจ้าตัวลืมตาขึ้นมา เราสบตากันอยู่นานจนผมต้องหลบสายตา เพราะรู้สึกว่าหน้าเห่อออร้อนขึ้นมาเอาดื้อๆ สกายเอามือข้างนึ่ง มาปัดปอยผมที่ปรกหน้าผมออกเบาๆ จากนั้นก็ลูบลงมาที่หางคิ้ว ปลายจมูก แก้มและปาก......ลูบวนไปมาอยู่อย่างนั้น จากนั้นก็เอามือไปลูบปากตัวเอง ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่ปล่อยไปอย่างนั้น

 

“ปากพี่นุ่มจัง” “นุ่มกว่าปากผมจริงๆด้วย” เจ้าตัวว่าเสียงแผ่วเบา ผมรู้สึกได้ว่าหัวใจของเราทั้งคู่เต้นแข่งกันจนไม่รู้เสียงของใครเป็นของใคร มือที่กอดผมไว้ลูบหลังเบาๆเหมือนปลอบใจ ส่วนอีกข้างมาวางอยู่ที่ท้ายทอย และนวดคลึงเบาๆ

 

 ผมค่อยๆโน้มตัวลงไปหาคนที่อยู่ด้านล่าง เหตุการณ์เหมือนเมื่อวานไม่มีผิด ช่องว่างเราห่างกันเพียงแค่นิดเดียว เพียงแต่วันนี้ผมสบตาคนที่อยู่ด้านล่างอย่างไม่คิดจะหลบ

 

เมื่อปากเราสัมผัสกัน ความรู้สึกอุ่นวาบ แล่นไปทั่วร่างกาย

 

 

และหลังจากนั้น…

.

.

ติ่งต่อง ๆๆ   เสียงออดที่หน้าห้องดังขึ้น ผมรีบผละตัวออกมาทันที

เหตุการณ์เหมือนเมื่อวานไม่มีผิด...........

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา