เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) แฝดนรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“ใช่เรื่องมาพูดเล่นไหม ไม่ตลกนะพ่อ”

 

น้ำเปล่าจากแก้วที่จ่อริมฝีปากและควรเดินทางสู่ลำคอแกร่งส่งต่อไปยังกระเพาะอาหารกลับพ่นกระฉอกออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบของคมพัชญ์ บุตรชายคนเล็กฉายาแฝดนรกผู้น้องแห่งไร่บารมีเสียดฟ้าทันทีที่ได้ยินบิดาบังเกิดเกล้าเอ่ยบอกถึงเรื่องการแต่งงานของเขา มือสีคล้ำแดดที่มีเรียวนิ้วยาวสวยยกขึ้นปาดริมฝีปากที่มีหยดน้ำเกาะกระจายอยู่กับเคราดกยาวออกลวกๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นเอ็ดผู้เป็นพ่อด้วยคำพูดและแววตา ข้อหาช่างกล้าเอาของแสลงมาหยอกล้อบุตรชายสุดที่รัก แต่กลับถูกความเย็นเยือกราวก้อนน้ำแข็งลูบไล้ไปตามแนวกระดูกสันหลังเมื่อสบตากับพ่อเลี้ยงนภัทรจนริมฝีปากบางเฉียบอ้าค้าง เพราะไม่ได้มีแววว่าจะล้อเล่นสักนิดบนใบหน้าคมคายของพ่อเลี้ยงคนดัง ความแน่วแน่ในดวงตาคู่นั้นทำเอาคมพัชญ์เผลอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ร่างสูงขยับตัวถอยห่างจนแผ่นหลังบึกบึนชนพนักโซฟาในห้องนั่งเล่นที่นั่งอยู่ พลางคิดว่าเขาไม่น่าหลงกลกลับมากินข้าวเย็นตามคำชวนของบิดาเลย รู้อย่างนี้ควงสาวๆในสต็อกไปนอนฟัดกันที่โรงแรมจะดีกว่า ซวยแล้วกู!

 

“นั่นคุณพ่อสุดที่รักของเรานะโว๊ย ไม่ใช่แก๊งสามช่า ฉันว่าคราวนี้ของจริง เตรียมวัดตัวตัดชุดสูทได้เลย แกจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ขอแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้ง โชคดีนะจ๊ะน้องรักของพี่”

 

เกิดความเงียบระหว่างที่สองพ่อลูกสบตากันเหมือนต้องการอ่านความนัยจากดวงตาให้ทะลุไปถึงหัวใจ ทำให้กวินพลแฝดนรกผู้พี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับน้องชายทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งมานั่งลงเคียงข้างคมพัชญ์ราวต้องการประกาศตัวว่าอยู่ฝั่งเดียวกับน้องชาย กำลังจะอุ่นใจอยู่แล้วเชียวที่ได้พี่ชายมาช่วยต้านพลังอำมหิตของคุณพ่อบังเกิดเกล้า แต่เปล่าเลย นอกจากไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น คำพูดตอกย้ำพร้อมคำอวยพรล่วงหน้าของกวินพลที่กระซิบกระซาบข้างหูแต่กลับได้ยินกันทั่วถึงยังทำให้คมพัชญ์ซาบซึ้ง จนอยากยันฝ่าเท้าใส่ไอ้ตัวแสบที่เกิดก่อนเขาแค่สองนาทีเพื่อส่งมันกลับไปนั่งที่โซฟาของมันนัก เลวกว่าใครก็ไอ้แฝดนรกตัวพี่นี่แหละ!

 

“ไม่เอาน่าพ่อ อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย ผมยังไม่พร้อม”

 

“แต่แกอายุไม่ใช่น้อยแล้วนะไอ้คม สามสิบสองขวบแล้ว ถึงเวลาที่แกควรจะมีครอบครัว มีคมน้อยมาให้พ่ออุ้มเล่นได้แล้ว”

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่พ่อเลี้ยงนภัทรมีปัญหาเรื่องสถานะโสดของบุตรชายทั้งสองแล้วพยายามกรอกหูเรื่องทายาทรุ่นที่สามของไร่บารมีเสียดฟ้า แต่ทุกครั้งก็แค่เกริ่นๆ ออกแนวหลอกถามถึงความเป็นไปได้ เมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากแฝดนรกสุดที่รักท่านก็เงียบไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ซึ่งมันแตกต่างกับครั้งโดยสิ้นเชิง ลางสังหรณ์ สัมผัสพิเศษ หรือพลังงานลึกลับบางอย่างบอกเขาว่าครั้งนี้พ่อเลี้ยงนภัทรเอาจริงแน่ ส่งผลให้คนถูกจิ้มเลือกเป็นเจ้าบ่าวออกอาการโวยวายดั่งคนใกล้สติแตก เพราะเรื่องแต่งงานมันไกลความต้องการของชายหนุ่มเกินไป หรือถ้าให้พูดตรงๆคือแฝดคนน้องไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าชีวิตนี้จะแต่งงาน!

 

“คมพัชญ์น้องรัก พ่อหลอกด่าว่านายแก่ว่ะ”

 

“ได้ข่าวว่านายเกิดก่อนฉันสองนาทีนะกวินพล ในโลกนี้ฉันอาจจะแก่กว่าใครหลายคน แต่หนึ่งคนที่มันจะแก่กว่าฉันไปตลอดปีตลอดชาติก็คือแก แกนั่นแหละกวินพล ไอ้แก่!”

 

บางครั้งสายใยผูกพันความเป็นฝาแฝดที่ใครหลายคนกล่าวขานว่ามันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเชือกเถาวัลย์ร้อยรัดก็มีค่าน้อยกว่าการเอาตัวรอดจากพันธะสมรสที่ไม่ต้องการ นาทีนี้หากกวินพลถามหาความเป็นพี่น้องจากคมพัชญ์คงขึ้นสเตตัสว่าสินค้าหมดชั่วคราว เพราะเวลานี้ ขอแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้พ่อเลี้ยงนภัทรเปลี่ยนใจเลือกเขาเป็นเจ้าบ่าว แม้หนทางเอาตัวรอดจะริบรี่ แต่เมื่อศักดิ์ความเป็นพี่พอจะนำมาใช้เป็นช่องทางเล็กๆให้พอยื่นขาถีบกวินพลเป็นเจ้าบ่าวตามบัญชาของพ่อเลี้ยงนภัทรแทนตัวเองได้ คมพัชญ์จึงไม่รีรอรีบใช้เรื่องนี้เป่าหูบิดา ก่อนชายหางตาสาแก่ใจเยาะเย้ยพี่ชายที่เริ่มจะมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวไม่ต่างจากเขาเมื่อครู่

 

“พ่อครับ ถ้าเรียงกันตามอายุ ไอ้วินมันต้องแต่งก่อนผมไม่ใช่เหรอ เพราะมันเป็นพี่ มันเกิดก่อน พี่คนโตต้องเสียสละสิวะ อย่าเถียง พ่อเคยสอน ฉันฉลาด ฉันจำได้” คมพัชญ์เป่าหูบิดา ก่อนหันไปชี้หน้าเอ็ดพี่ชาย

 

“อย่ามาโยนขี้สิวะ ฉันเกิดก่อนแค่สองนาทีเองนะ”

 

ร่างสูงของกวินพลสะดุ้งเฮือก ถูกน้องชายหลอกด่าว่าไอ้แก่ยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเท่าคำพูดต่อมาของมันเลย ใบหน้าคมหันขวับหรี่ตามองอีกคนที่หน้าตาเหมือนเขาราวส่องกระจก คมพัชญ์คงหล่อเทียบเคียงเขาหากมันไม่นิยมไว้หนวดไว้เคราแลคล้ายลิงอุรังอุตังเต็มคางนั่น นึกหมั่นไส้ดวงตาใสซื่อของมันจนคันไม้คันมือยุบยิบ นี่ถ้าพ่อไม่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้มีหวังเขาคงได้จับมันขึงพืดบนโซฟา แล้วเอาไฟแช็คลนคาง เผาเคราสุดรักของไอ้น้องชายตัวดีเอาคืนมันแน่ ระดับความเลวตีคู่สูสีกับเขาก็มันนี่แหละ ไอ้น้องเวร!

 

“จะกี่นาทียังไงนายก็เป็นพี่ฉันอยู่ดี โบราณว่าน้องแต่งก่อนพี่ไม่เหมาะ จริงใช่ไหมพ่อ”

 

“อย่านะพ่อ อย่าไปฟังมัน พ่อต้องตั้งมั่นในเจตนาเดิมสิครับ คนที่พ่ออยากให้แต่งงานคือคมพัชญ์ คมพัชญ์ คมพัชญ์ และคมพัชญ์นะพ่อ”

 

กวินพลทำหน้าเหลอหลา เหงื่อใสๆเริ่มเกาะซึมข้างขมับ คนหล่อชักนั่งไม่ติดเมื่อรู้สึกถึงความหายนะที่เริ่มมาเยือน กลัวเหลือเกินว่าพ่อเลี้ยงนภัทรจะเอนเอียงไปกับเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นของน้องชายที่ดีกรีความแสบตีคู่กันมาตลอด สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจนอยู่เฉยไม่ได้แล้ว จึงเป็นอีกครั้งที่กวินพลต้องลุกจากโซฟาตัวที่นั่ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ข้างกายคมพัชญ์ แต่แฝดผู้พี่เลือกจะหย่อนก้นลงนั่งเคียงข้างพ่อเลี้ยงนภัทรบีบนวดแขนของท่านประจบเอาใจสุดฤทธิ์ ก่อนก้มหน้าลงใกล้ใบหูของบิดาพร้อมเอ่ยชื่อของน้องชายซ้ำไปซ้ำมาเพื่อสะกดจิตของท่านให้ตั้งมั่นในจุดประสงค์เดิม

 

“ที่เจ้าคมพูดก็มีเหตุผล”

 

“พ่อ!” ฉิบหายแล้วไง! กวินพลตะโกนเรียกบิดาเสียงลั่นห้อง จนคนถูกเรียกต้องยกมือปิดหู

 

“เนอะพ่อ เป็นพี่ยังไงก็ควรแต่งก่อน จัดไปครับ เพื่อพี่ชายคนเดียวของผม ผมอาสาเป็นพ่องานให้คุณวินเอง”

 

คิ้วเข้มของคมพัชญ์ยักให้พี่ชายเมื่อเห็นท่าลูบคางอย่างกำลังครุ่นคิดของพ่อเลี้ยงนภัทร ก่อนที่คมพัชญ์จะขยับตัวเข้าไปใกล้บิดาแล้วยกฝ่ามือขึ้นแท็กกับท่านตามประสาพ่อลูกจอมกวนทันทีที่เห็นใบหน้าจืดเจื่อนของกวินพล สะใจชะมัดที่ทำให้คนกะล่อนอย่างมันจนมุมได้ อย่าหาว่าเขาไม่รักพี่เลย มันก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ หากได้คำยืนยันว่าพ่อเลี้ยงนภัทรเปลี่ยนใจให้แฝดพี่เป็นคนแต่งงานเมื่อไร คมพัชญ์คนนี้ชูสามนิ้วลูกเสือสัญญาว่าจะกลับมาเป็นน้องชายที่แสนดีอีกครั้ง แต่ตอนนี้ขอเอาตัวรอดก่อน

 

“แต่เจ้าสาวคนนี้พ่อเลือกไว้ให้แกนี่หว่า เพราะฉะนั้นแกนั่นแหละเจ้าคมที่ต้องเป็นเจ้าบ่าว”

 

“พ่อ!” คราวนี้ถึงคราวคมพัชญ์บ้างที่ตะโกนเรียกบิดาจนแก้วหูท่านสั่นสะท้าน

 

“อะไรที่พ่อว่าดี กวินพลคนนี้ก็ว่าดีด้วยครับ โบราณว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า อ๋อ...ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้เอง”

 

กวินพลทิ้งตัวลงนอนแผ่หลากับพนักโซฟาแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเมื่อสถานการณ์พลิกกลับมาเข้าข้างเขา มือหนายกขึ้นแท็กกับพ่อเลี้ยงนภัทรที่นั่งกลั้นขำแทบไม่อยู่ล้อเลียนที่คมพัชญ์ทำเมื่อครู่ ก่อนที่แฝดผู้พี่จะนั่งหัวเราะจนท้องขดท้องแข็งกับใบหน้าหดเหี่ยวเป็นมะเขือเผาของน้องชาย เขารักน้องนะ สงสารมันมากด้วยที่ต้องละทิ้งชีวิตโสด แต่เพื่อรักษาความโสดของตัวเองให้อยู่รอด มันจำเป็นจริงๆไอ้น้องเลิฟ

 

“พ่อใครวะเนี่ยไว้ใจไม่ได้เลย หักหลังกันซึ่งๆหน้าแบบนี้ได้ด้วย”

 

“ไอ้คม แกจะโวยวายทำไมวะ ลูกผู้ชายอย่างเรา สักวันก็ต้องแต่งงาน”กวินพลที่รอดตัวไปแล้วเตือนสติน้องชาย

 

“งั้นแกมาแต่งแทนฉันไหมล่ะไอ้วิน” ส่วนคนงอนที่พ่อร่วมมือกับพี่ชายหักหลังยังคงหัวเสียไม่เลิก

 

“ฉันเคารพและเชื่อมั่นในการตัดสินใจของพ่อ” คนรอดตัวแล้วจะพูดให้ดูดีขนาดไหนก็ได้

 

“พูดซะหล่อ ใช่สิไอ้วิน แกรอดแล้วนี่”

 

“ไอ้คุณวินพูดถูก เจ้าคม พ่อหวังดีกับแกนะ”

 

“ผมรู้ว่าในโลกนี้ คนที่หวังดีกับผมมากที่สุดก็คือพ่อ แต่พ่อครับ การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ ผมยังไม่รู้เลยว่าเจ้าสาวผมหน้าตาแบบไหน หน้าอกเท่าไร หมายถึง...ผมยังไม่เคยเจอเธอเลย ไม่รู้นิสัยใจคอ แล้วพ่อจะให้ผมแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักได้ยังไง จริงไหมครับพ่อ”

 

“เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับเจ้าคมนะ ผมรู้ว่าในชีวิตของเราสองคนไม่มีใครหวังดีมากไปกว่าพ่ออีกแล้ว แต่คนสองคนต้องใช้ชีวิตด้วยกัน เราให้ไอ้คมกับว่าที่น้องสะใภ้ของผมมาเจอกันก่อนดีไหมครับ แล้วค่อยหาทางหนีทีไล่...”

 

พอเห็นว่าสถานการณ์จะไม่ดี กวินพลจึงรีบออกตัวช่วยเหลือน้องชายด้วยการสนับสนุนคำพูดของคมพัชญ์ แต่กลับต้องกัดริมฝีปากยั้งคำพูดที่เหลือไว้แค่ในลำคอ เมื่อเผลอคายความคิดชั่วร้ายที่จะช่วยน้องชายให้พ้นบ่วงวิวาห์ออกไปให้บิดาไหวตัวทัน

 

“คือ... ผมหมายถึงค่อยๆดูสถานการณ์ว่าจะไปกันได้หรือเปล่าน่ะ พ่อเห็นด้วยเนอะ”

 

เห็นพ่อเลี้ยงนภัทรทำท่าครุ่นคิดตามและมีแนวโน้มว่าจะสำเร็จ กวินพลจึงหยักยิ้มมุมปากพลางลอบขยิบตาร้ายๆกับน้องชายเป็นอันรู้กันว่าแฝดนรกแห่งไร่บารมีเสียดฟ้าแม้ในยามปกติจะกัดกันเองเป็นว่าเล่น แต่พอใครคนหนึ่งตกอยู่ในห้วงเวลาคับขัน อีกคนก็ไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้ว

 

“งั้นก็ได้ พ่อจะหาโอกาสให้แกได้เจอกับยายหนูก่อนค่อย...”

 

“เจอกันแล้วก็แยกย้ายตัวใครตัวมัน และจะต้องไม่มีงานวิวาห์ตามมาหากผมไม่ได้ชอบ ไม่ถูกชะตา และไม่อยากได้ยายหนูคนนั้นมาทำเมีย” 

 

หากยายหนูของบิดาไม่ใช่...ผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ยิ้มหวาน แก้มแดงก่ำน่าฟัดที่เจอคนนั้น มั่นใจว่าอย่างไรซะเขาก็ไม่มีวันถูกชะตา!

 

พ่อเลี้ยงนภัทรยังพูดไม่ทันจบ คมพัชญ์ก็รีบแทรกเงื่อนไขของตัวเองยืนยันเจตนารมณ์ สองหนุ่มต่างวัยประสานดวงตาหน้าวัดใจกันด้วยสายแน่วแน่ประหนึ่งมั่นใจว่าธงของผู้ชนะอยู่ในกำมือของตัวเอง ก่อนผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมากกว่าหลายพรรษาจะพยักหน้ายอมตกลงกับเงื่อนไขของลูกชายคนเล็กด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเลศนัย

 

“ไม่มีปัญหา พ่อรับปาก”

 

“ไอ้วิน แกเป็นพยานให้ฉันด้วยนะโว๊ย”

 

“เออ”

 

กวินพลรับปากแต่ในใจก็คิดว่าถ้าสุดท้ายพ่อเลี้ยงนภัทรจะหักหลังแล้วจับคมพัชญ์โยนเข้าบ่วงวิวาห์ แล้วไอ้แฝดผู้น้องที่หล่อน้อยกว่าเขาสิบเท่าจะมีปัญญาทำอะไรได้วะ คนที่มันเดิมพันด้วยคือพ่อนะโว๊ย! ยิ่งพิจารณาจากโหงวเฮ้งบนใบหน้าหมองคล้ำ อันเป็นผลของการอยู่กลางแจ้งโดยปราศจากครีมกันแดดแลดูคล้ายคนดวงตกตอนนี้ พ่อหมอกวินพลคนหล่อขอทำนายดวงชะตาคร่าวๆของมันว่า...ไม่รอดหรอกมึง!

 

“งั้น...ดีล!”

 

เมื่อบิดายอมอ่อนข้อ และมั่นใจว่ามีพี่ชายสุดที่รักคอยถือหาง สุดท้ายคมพัชญ์ก็เลิกโวยวายแล้วรับปากพ่อเลี้ยงนภัทรแต่โดยดี โดยที่พ่อเลี้ยงคงรู้ไม่เลยว่าภายใต้หน้ากากลูกชายแสนเชื่อฟังของบุตรชายคนเล็กที่ลอบขยิบตาให้แฝดคนพี่นั้นกำลังสรรสร้างแผนการชั่วร้ายในใจมากมายเอาไว้เอาตัวรอดจากการถูกคลุมถุงชนไม่ปรารถนา และโดยที่คนเป็นลูกคงนึกไม่ถึงว่า คนเป็นพ่อก็หาได้ไว้ใจประกายเจ้าเล่ห์ในดวงตาของบุตรชายที่เลี้ยงมาเองกับมือเช่นกัน

 

‘เป็นลูกแต่คิดจะอยู่เหนือพ่อ...ก็ให้มันรู้ไป!’

*****************************************************************

นี่แค่ฉากแรกนะจ๊ะ เหล่าแม่ยกเล็งเห็นคุณงามความดีในตัวสองแฝดแล้วหรือยัง ฮ่าๆๆๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา