เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  38.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) โกรธง่าย...หายเร็ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เชื่อว่าหากเลือกได้ ก็คงไม่มีใครอยากยืนอยู่ท่ามกลางไอแดดร้อนระอุในช่วงบ่ายให้เสี่ยงผิวหนังไหม้เกรียม ยิ่งเป็นการกรำแดดร้อนเปรี้ยงไปพร้อมๆกับเศษดินเศษฝุ่นที่คละคลุ้งเข้าปากเข้าจมูกให้ทรมานก็ยิ่งต้องหลีกเลี่ยง ทว่าคมพัชญ์คือข้อยกเว้น ไม่รู้ชายหนุ่มไปโด๊ปยาขยันตัวไหนมา ต่อมขยันถึงได้พลุ่งพล่านไม่เกรงกลัวไอแดดที่แผดเผาเช่นนี้ ร่างสูงบังคับคันโยกให้คันไถครูดไปกับหน้าดินจนละอองดินเม็ดเล็กๆสีน้ำตาลฟุ้งกระจายไปในอากาศพาให้ ทั่วบริเวณคล้ายมีหมอกควันปกคลุม อันที่จริงหน้าที่นี้ไม่ใช่ของคมพัชญ์ แต่เพราะช่วงสี่วันที่ผ่านมาอาการหงุดหงิดมันครอบงำ เห็นอะไรก็รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด พอเห็นรถไถที่คนงานนำมาจอดเตรียมสำหรับไถหน้าดิน คนอารมณ์ขึ้นๆลงๆก็กระโดดขึ้นขับโดยไม่ฟังคำทัดทานของลูกน้องที่ร้องเตือน ชายหนุ่มบังคับคันไถพลิกหน้าดินให้ร่วนซุยเพื่อเตรียมการเพาะปลูกรอบใหม่แบบเอาเป็นเอาตายจนลูกน้องชะตาขาดที่ถูกเพื่อนคนงานถีบให้เข้ามารายงานต้องตะโกนเรียกอยู่หลายครั้งกว่าที่คมพัชญ์จะยอมหันหน้ามาสนใจ

 

“นายครับ นาย”     

   

“จะเรียกทำไมนักหนาวะ ไม่เห็นรึไงว่าฉันไม่ว่าง”

 

“คือว่า... คือ...”

 

น้ำเสียงเข้มๆว่าทำผู้ชายอกสามศอกสะดุ้งจนเสียอาการแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับดวงตาแข็งกร้าวที่ตวัดมองมาด้วยความเคืองขุ่น ทำเอาคนงานที่เป็นหน่วยกล้าตายเกิดอาการตัวสั่น แม้แต่ลิ้นยังพลอยแข็งทื่อติดอ่างขึ้นมากะทันหัน นาทีนี้หากถูกจับไปขังไว้ในบ้านผีสิงสุดเฮี้ยนยังรู้สึกว่าน่ากลัวน้อยกว่าการยืนต่อหน้าคมพัชญ์กลางวันแสกๆเสียอีก

 

“ถ้าลิ้นมึงจะพันกันขนาดนี้ เดินกลับไปที่โรงครัวแล้วเอามีดตัดทิ้งซะ มีไว้แค่ให้ครบสามสิบสองจริงๆ”

 

“ไม่พันแล้วครับ คือผมจะมาบอกนายว่าคุณหนูลาดา มายืนรอนายอยู่ตรงนั้นครับ”

 

ถูกเจ้านายที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฉียบขาดแนะนำให้ตัดลิ้น มีหรือที่คนงานจะยังกล้าติดอ่างให้ถูกเชือด คนเกือบชะตาขาดรีบอธิบายพร้อมชี้มือกร้านแดดไปยังตำแหน่งที่มีร่างงดงามยืนอยู่ไม่ไกลออกไปทางด้านหลัง บอกเสร็จก็รีบถอยฉาก รีบหนีเอาตัวรอดเมื่อเห็นดวงตาของคมพัชญ์ทวีความเรืองรองเยี่ยงปีศาจหลังมองเห็นคนมาใหม่

 

“มาทำไม!”

 

เสียงห้วนห้าวตะคอกดุนำทาง คมพัชญ์รีบกระโดดลงจากหลังรถไถทันทีที่หันมาเห็นลันลาดายืนยิ้มหวานอยู่กลางแดด มันใช่สถานที่ที่เจ้าหล่อนควรมายืนหรือไง เขายังนึกโมโหตัวเองไม่หายเลยที่หลายวันก่อนพาเจ้าหล่อนไปยืนเก็บมะม่วงจนแก้มนวลเนียนแดงก่ำ หลังจากนั้นจึงไม่คิดจะพาเมียออกมาตากแดดตากลมให้ระคายผิวอีก แล้วนี่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่นานแค่ไหน ดวงตาขุ่นขวาง มือทั้งสองกำหมัดแน่นระหว่างที่เดินเข้าหาแล้วก็ยิ่งพบความจริงว่าบนเนื้อตัวของหญิงสาวมีเพียงเดรสผ้าลื่นสีหวานแขนกุดความยาวแค่เข่าปิดบังร่างกาย หมวกสวมกันแดดไม่มี เสื้อแขนยาวไม่ได้ใส่ แดดร้อนจนเผาวัวตายควายล้มได้ทั้งคอกขนาดนี้ แล้วผิวของเมียเขาบอบบางอย่างกับเปลือกไข่จะไม่ละลายเหรอวะ

 

“อุ้ย!”

 

ร่างบอบบางถูกตวัดขึ้นสู่อ้อมแขนเลอะฝุ่นทันทีที่คมพัชญ์เข้าถึงตัว ดวงตาคมกริบตวัดมองเพื่อระงับอาการดิ้นรนอันเป็นสาเหตุให้ร่างบางหล่นตุบไปนอนคลุกฝุ่น ท่อนขาแข็งแรงออกเดินเมื่อใบหน้าหวานๆยอมซุกหาอกอุ่นโดยละม่อม อุ้มไปนี่แหละดีแล้ว ไม่ได้อยากเอาใจอะไรนักหรอก แต่หากรอให้เดินเอง ลันลาดาก็เดินช้าเสียจนกลัวว่าผิวสวยๆจะถูกแดดเผาจนไหม้เกรียม เสียของตายชัก

 

“อากาศร้อนขนาดนี้ยังออกมายืนตากแดด สติดีรึเปล่า เรื่องโง่ๆนี่ถนัดนัก!”

 

อุ้มพาลันลาดามาอาศัยร่มเงาจากต้นขนุนที่กำลังติดผลอ่อนตรงผืนดินแปลงข้างๆ คมพัชญ์จึงยอมปล่อยร่างบางลงยืนกับพื้นแต่สองร่างก็ยังแนบชิดเพราะถูกท่อนแขนแข็งแกร่งโอบเอวเล็กไว้ไม่ให้ห่างตัว ยอมรับว่ากลิ่นกายหอมละมุนจากร่างในอ้อมแขนช่วยให้อารมณ์เดือดดาลลดระดับลง แต่ก็ยังไม่มากพอจะลบล้างความผิดที่คนตัวบางริอ่านมายืนอยู่ท่ามกลางไอแดด คมพัชญ์จึงระบายโทสะผ่านริมฝีปากบางเฉียบเสียงกรรโชกดุจนไหล่บางสะดุ้งโหยง ความตึงเครียดในน้ำเสียงมากมายเสียจนลันลาดาไม่อาจสู้สายตา หญิงสาวก้มหน้าจนปลายคางแนบชิดหว่างอก เรียวปากสีเรื่อเม้มแน่นพยายามประคับประคองไม่ให้บ่อน้ำตาแตกกระจาย

 

“แล้วจะตอบได้หรือยังว่ามาทำไม”

 

กว่าอารมณ์โกรธที่เห็นเมียตัวน้อยถูกแดดเผาจะจางลงก็ตอนที่หยดน้ำใสๆของคนในอ้อมกอดตกกระทบท่อนแขนตัวเองนั่นแหละ จะเป็นอะไรไปได้นอกจากน้ำตา สรุปว่าเขาทำลันลาดาร้องไห้อีกจนได้ คิดได้ดังนั้นเรียวปากที่ตั้งท่าจะพ่นคำต่อว่าอีกพวงใหญ่จึงหุบฉับ เหลือไว้เพียงคำถามแรกที่ยังต้องการคำตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม

 

“ไม่ต้องร้องแล้ว พี่แค่ถาม”

 

ใจหายวาบเมื่อเชยคางนุ่มให้เงยขึ้นสบตาแล้วพบว่าแก้มเนียนเลอะเทอะด้วยหยาดน้ำตา สองมือหนาจึงช่วยกันประคองใบหน้าหวานพลางใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยร่องรอยความเสียใจออกจากแก้มนวล

 

“ลาดา... ฮึก... ลาดาซื้อกาแฟกับขนมมาฝากพี่คมค่ะ พี่วินขับรถมาส่ง”

 

คำตอบเจือเสียงสะอื้นของลันลาดาส่งผลกับหัวใจของคมพัชญ์มหาศาลกว่าที่คิด เมื่อครู่มัวแต่โกรธเลยมองไม่เห็นอะไร ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายอ่อนยวบเมื่อหลุบสายตาลงมองถุงกระดาษที่มือบางกำไว้แน่น นาทีนี้ไม่ได้นึกเห็นแก่กินเลย แต่ที่ทำให้หัวใจดวงแกร่งพองโตคับอกเป็นเพราะกำลังสุขใจที่รู้ว่าลันลาดายังนึกถึง ก่อนหน้านี้กวินพลส่งข้อความมาบอกแล้วว่าจะพาเมียเขาไปนั่งดื่มกาแฟในตัวเมือง เขายอมให้ไปทั้งที่ใจไม่อยากปล่อยหญิงสาวห่างกายเพราะอยากให้ลันลาดาไปเปิดหูเปิดตาเผื่อจะหายจากอาการเศร้าซึมที่เขาเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าในขณะที่ไปข้างนอก ลันลาดาจะมีกระใจเป็นห่วงเขาด้วย ดวงตาคมเปล่งประกายเจิดจ้า เพิ่งรู้ว่าการมีตัวตนอยู่ในห้วงนึกถึงของภรรยา มันสุขจนหัวใจพองฟูได้ถึงเพียงนี้

 

“มือเลอะ จะให้กินยังไง”

 

คมพัชญ์ซ่อนมารยาสาไถยไว้ภายใต้หน้ากากเรียบเฉย มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นเสมอไหล่เป็นหลักฐานว่ามันสกปรกจนไม่เหมาะที่จะหยิบอาหารเข้าปากตามหลักวิชาสุขศึกษา สกิลเรียกร้องความสงสารจากเมียแนบเนียนจนคนหัวอ่อนอย่างลันลาดาตามไม่ทัน หญิงสาวคงนึกไม่ถึงว่าก่อนหน้านี้พ่อหนุ่มอนามัยจัดตรงหน้าเคยหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มแก้กระหายทั้งที่สองมือเต็มไปด้วยดินโคลนหลังช่วยคนงานเข็นรถติดหล่มมาแล้วด้วยซ้ำ มั่นใจเหลือเกินว่าหากกวินพลอยู่ตรงนี้ ไอ้พี่ชายตัวดีต้องแอบด่าเขาว่าไอ้ตอแหลแน่ๆ แต่ก็ช่างหัวมัน ปล่อยให้กวินพลด่าไปเถอะ คนไม่มีเมียคอยปรนนิบัติก็จะขี้อิจฉาแบบนี้ล่ะ

 

“ถ้า... ถ้าพี่คมไม่ว่า ลาดาป้อนให้ก็ได้ค่ะ” ใครว่าก็บ้าฉิบหาย กินเองจะอร่อยสู้เมียป้อนได้ไงเล่า

 

“ลำบากก็ไม่ต้อง” แกล้งประชดไปอย่างนั้นแหละ ลองลันลาดากล้าไม่ป้อนเขาขึ้นมาล่ะก็ พ่อฟาดยับ!

 

“ไม่ลำบากเลยค่ะ ลาดาอยากทำให้”

 

“ก็รีบๆป้อนมาสิ กาแฟละลายจะหมดอยู่แล้วไม่เห็นรึไง”

 

คำตอบกระตือรือร้นของลันลาดาสร้างความพอใจได้มากมายนัก มากจนคมพัชญ์เกือบเผลอแย้มยิ้มกว้างตามความรู้สึกพองฟูภายในใจ แต่เพราะสมองร้องเตือนว่ามีแผนเรียกร้องการเอาอกเอาใจที่มากกว่านี้ คมพัชญ์จึงต้องแสร้งทำว่ายังขุ่นเคืองเพื่อให้เมียตามง้องอน

 

“นั่งนี่แหละ กระโปรงจะได้ไม่เลอะ”

 

“ค่ะ”

 

หากสาบานให้ฟ้าผ่าถ้าพูดโกหก ร่างสูงของทายาทคนเล็กไร่บารมีเสียดฟ้าคงถูกสายฟ้าฟาดจนไหม้เกรียมเป็นคนแรก ปากหรือก็บอกว่ากลัวกระโปรงตัวสวยเลอะดิน มันเป็นข้ออ้างที่ไร้ความจริงจนน่าหัวเราะ อันที่จริงคมพัชญ์ก็แค่อยากโอบกอดลันลาดาไว้ในอ้อมแขนถึงได้จับร่างบางนั่งหันหน้าเข้าหาทับลงมาบนตักแกร่งหลังจากที่ชายหนุ่มสละตัวเองนั่งลงบนพื้นดินทิ้งมาดหนุ่มอนามัยจัด แม้จะเขินอายด้วยกลัวคนงานผ่านมาเห็นแต่เพราะใบหน้าที่ยังขึงขังของคมพัชญ์ทำให้ลันลาดาไม่กล้าหือ หญิงสาวจำต้องนั่งนิ่งบนตักอุ่นพลางยกแก้วกาแฟขึ้นป้อนคนที่เอาแต่จ้องหน้า จากนั้นเค้กสตรอว์เบอร์รี่ครีมสดที่เธอติดใจในรสชาติก็ถูกตักป้อนให้สามีทางพฤตินัยลองชิม คมพัชญ์ชอบหรือเปล่าไม่รู้ แต่พอเห็นชายหนุ่มอ้าปากรับเหมือนเด็กชายตัวน้อยรอให้มารดาป้อนอาหาร ลันลาดาก็ตักขนมขึ้นป้อนด้วยหัวใจเบ่งบานคำแล้วคำเล่าจนหมด

 

‘อย่ากลัวไปเลยคนดี ให้โกรธแค่ไหน พี่ก็ไม่มีวันทำร้ายเมียของพี่ได้ลง’

 

ตามใจภรรยาเรียบร้อย คราวนี้ก็ถึงเวลาของสามี คมพัชญ์พิงแผ่นหลังกับลำต้นต้นขนุนพลางกดศีรษะเล็กๆแนบอกอุ่น ลันลาดาก็เอนตัวพิงอกกว้างไม่มีแง่งอน อาการโอนอ่อนยอมให้กอดแต่โดยดีของเมียตัวน้อยทำให้มุมปากของคมพัชญ์หยักยิ้มด้วยความโล่งใจ เพราะนับตั้งแต่ที่ลันลาดารู้เรื่องนายมั่น ดวงตาที่เคยมองอย่างภักดีของหญิงสาวนั้นมีความหวาดกลัวเคลือบแฝงทุกครั้งที่หญิงสาวลอบมองเขา และมันแปลบปลาบใจทุกครั้งที่เขามองเห็นจนต้องหนีไปหมกตัวอยู่ในไร่ ทว่าวันนี้ความหวาดระแวงนั้นไม่มีอีกแล้ว ความน้อยอกน้อยใจที่เมียมองตัวเองเป็นยักษ์มารก็พลันจางหาย จะกอดจะหอมก็สนิทใจเหมือนอย่างตอนนี้ที่ร่างสองร่างอิงแอบแนบชิด แม้ไร้ถ้อยคำสนทนา แต่กลับเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองรู้สึกว่าภายในใจมีเส้นใยบางๆกำลังถักทอเชื่อมหากัน

****************************************************************************************

 สรุปที่เราทายกันเมื่อวันก่อน ว่าถ้าลาดาเจอหน้าอิพี่คมแล้วจะยิ้มได้หรือจะร้องไห้ ผลก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อยว่า...ทั้งสองอย่างเลยนะจ๊ะ ดีนะที่พี่คมยั้งปากทัน ไม่งั้นฉากนี้น้ำตาท่วมจอซ้ำรอยเดิม เค้ารักกัน ดีกันแล้วเราก็ดีจายยยยยย

แต่ก็อย่าวางใจพระเอกไบโพล่าร์คนนี้ของภัคมากนักนะคะ อะไรก็เเกิดขึ้นได้ถ้ายายลาดาขยันทำให้พี่คมของขึ้น อยากรู้จุดจบของผู้ชายปากร้าย สายเหวี่ยงจะลงเอยแบบไหน จับหนังสือกันได้นะคะ ลงชื่อจองไว้ก่อนแล้วค่อยโอนเงินสิ้นเดือนก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะราคาที่เปิดให้จองตอนนี้มีส่วนลด + จัดส่งฟรีแบบลงทะเบียน ที่สำคัญคือได้หนังสือแน่ๆ

ลงชื่อจองได้ที่เพจ 'พิจักขณา พิชามญชุ์' หรือ inbox เฟซบุ๊ค 'พิจักขณา พิชามญชุ์ นักเขียน' ได้เลยค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา