เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.80K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

28) ตอกย้ำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“มีอะไร”

 

ปกติก็เป็นคนหัวร้อน อารมณ์ขึ้นง่ายทุกครั้งที่มีเรื่องไม่พอใจ แล้วโดนขัดจังหวะสุนทรีอย่างนี้มีหรือที่คมพัชญ์จะไม่โมโห น้ำเสียงเหี้ยมเกรียม วงหน้าบึ้งตึงของเจ้านายที่เอี้ยวตัวหันมามองตามเสียงเรียกจากทางด้านหลัง ทำให้ป้าตองที่หลบฉากอย่างรู้งานตอนเห็นคมพัชญ์เดินอมยิ้มกรุ้มกริ่มเข้าหาคนงานหน้าหวานไปก่อนหน้านี้ใจเต้นระส่ำ สองมือชื้นเหงื่อของแกบีบกุมกันแน่นอย่างพยายามข่มกลั้นความกลัวเพราะรู้ว่าในอีกอึดใจข้างหน้า อารมณ์เกรี้ยวกราดของคมพัชญ์ต้องรุนแรงกว่าตอนนี้อีกหลายเท่านัก

 

“คือ...คือ ไอ้มั่นจ้ะนาย” ป้าตองอึกอักก่อนจำใจตอบออกไปเสียงสั่น

 

“ไอ้มั่น? ทำไม?”

 

คิ้วดกหนาขมวดน้อยๆ ชื่อของอดีตคนงานทรยศทำให้คมพัชญ์ต้องหมุนตัวกลับมายืนประจันหน้ากับป้าตองเพื่อซักไซ้ให้รู้ความ มือหนาลากเอวเล็กเข้ามากอดกระชับไว้ข้างตัว ไม่ยอมให้ลันลาดาถอยหนี

 

“ไอ้มั่นมันมาขอพบนายจ้ะ”

 

“ไปลากตัวมันมา!”

 

คำสั่งเสียงเหี้ยมของคมพัชญ์ทำให้ลันลาดาลอบเหลือบดวงตาขึ้นมอง พลันขนอ่อนบนเรือนกายก็พร้อมใจกันลุกชันเมื่อเห็นแสงไฟแล่บอยู่ในดวงตาสีมืดของสามีทางพฤตินัย ไม่รู้หรอกว่าคนที่มาขอพบคมพัชญ์คือใคร ทว่ารังสีอำมหิตจากร่างสูงที่แผ่ปกคลุมบรรยากาศรอบกายให้รู้สึกหายใจลำบากทำให้เดาได้ไม่ยากว่าคงมีเหตุการณ์ไม่ค่อยดีนักระหว่างคนทั้งคู่

 

“กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหม...ว่าอย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก”

 

กรามแกร่งบดเข้าหากันเป็นสันนูน แววตาของคมพัชญ์ทวีความแข็งกร้าวเมื่อเห็นร่างซูบโทรมของนายมั่นที่ถูกขนาบสองข้างด้วยคนงานตัวโตเดินเข้ามาหา เดินเข้ามาใกล้จึงเห็นว่ามือข้างซ้ายของมันยังคงถูกพันด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ มุมปากได้รูปกระตุกเมื่อสาเหตุของบาดแผลนั้นยังคงชัดเจนในความทรงจำ ถ้อยคำแรกที่เอ่ยจึงไม่ใช่คำทักทายถามหาสารทุกสุกดิบ แต่เป็นคำที่ย้ำเตือนให้นายมั่นพึงระลึกถึงน้ำเสียงเชียบขาดที่เขากำชับสั่งในวันสุดท้ายที่เจอกัน

 

“นายครับ ผมขอโทษ ขอโอกาสให้ผมสักครั้งนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว นะครับนาย”

 

น้ำเสียงเย็นเยือกสวนทางกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว พาให้คนที่อยู่ใกล้รวมทั้งลันลาดาหนาวสะท้านไปทั้งร่าง แล้วคนมีชนักปักหลังจะทนไหวหรือ ท่อนขาของอดีตคนงานอ่อนแรงกะทันหันจนร่างทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นต่อหน้าคมพัชญ์ เห็นแบบนั้นลันลาดาจึงรีบขยับตัวหมายเข้าไปช่วยพยุงแต่ถูกมือใหญ่กอดกระชับเอวเล็กให้อยู่กับที่ นายมั่นพนมมือขึ้นไหว้อดีตเจ้านายพลางอ้อนวอนขอความปรานีด้วยใบหน้านองน้ำตา สำนึกผิดได้ในวันที่สายว่าหากวันนั้นไม่ละโมบโลภมาก ป่านนี้ตนคงไม่ต้องกลายเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก จริงอยู่ว่าคมพัชญ์ให้หัวหน้าคนงานจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยมาหนึ่งก้อนพอให้เลี้ยงชีพได้สักระยะ ทว่าการถูกไร่บารมีเสียดฟ้าขับไล่ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเขาต้องประพฤติผิดร้ายแรงจึงไม่มีไร่อื่นรับเขาเข้าทำงานอีก นายมั่นจึงต้องบากหน้าพาร่างกระปลกกระเปลี้ยกลับมาขอความเมตตาจากคมพัชญ์

 

“กลับไปซะ”

 

แต่ความหวังกลับสูญสลาย น้ำตาลูกผู้ชายของอดีตคนงานไม่มีผลต่อการตัดสินใจ คมพัชญ์ยืนมองนายมั่นด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนหันมองต้นไม้ใบหญ้าที่มีค่ากว่าคนทรยศ พลางออกปากไล่เสียงเฉียบขาด

 

“นาย ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะครับ ได้โปรด ผมไม่มีที่ไปจริงๆ”

 

“ถ้ามึงไม่รีบไสหัวออกไปจากไร่กู มึงได้ไปที่ชอบๆแน่”

 

“พี่คม! อย่าค่ะ”

 

ลันลาดาร้องห้ามเสียงหลงเมื่อคมพัชญ์ปล่อยมือจากเอวบางเพื่อรับกระบอกปืนจากหัวหน้าคนงานที่เป็นคนเดินคุมนายมั่นมาหาเจ้านายเหนือหัว ปลายกระบอกปืนที่จ่อหน้าผากทำให้นายมั่นตาเหลือกโพลง รีบยกมือขึ้นร้องขอชีวิตด้วยความหวาดกลัวสุดขีดเพราะรู้ดีว่าคนอย่างคมพัชญ์ไม่ใช่คนพูดแค่ปาก แผลที่มือซ้ายเป็นหลักฐานยืนยันได้ดีว่าแฝดนรกคนน้องแห่งไร่บารมีเสียดฟ้าเป็นคนเฉียบขาดขนาดไหน

 

“ลากมันออกไป ถ้าใครเห็นมันกล้าเข้ามาเหยียบไร่กูอีก ยิงทิ้งได้ทันที”

 

สิ้นประกาศิตเสียงห้วนจากคมพัชญ์ ร่างอ่อนแรงของนายมั่นก็ถูกคนงานช่วยกันหิ้วปีกพาเดินออกไปจากไร่ คนงานในบริเวณใกล้เคียงก็หันกลับไปตั้งใจทำงานของตัวเองเพราะไม่อยากโดนลูกหลงจากอารมณ์เดือดดาลของผู้เป็นนาย คงเหลือเพียงลันลาดาที่ยังยืนมองตามร่างอ่อนแรงของนายมั่นไปด้วยความสงสาร

 

“มองอะไร!”

 

คมพัชญ์ตวาดลั่นจนร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นว่าดวงตากลมหวานที่ควรจะมองเขาเพียงคนเดียวยังชะเง้อคอมองตามร่างอดีตคนงานไม่เลิก แม้รู้ว่าลันลาดาคงไม่คิดอะไรกับไอ้มั่น แต่มันก็เป็นผู้ชาย และเขาก็ไม่ชอบใจเลยสักนิดที่เห็นเมียตัวเองให้ความสนใจผู้ชายคนอื่นทั้งที่ผัวก็ยืนหัวโด่อยู่ข้างๆ

 

“คือ... เอ่อ... พี่คมคะ ผู้ชายคนนั้นทำผิดร้ายแรงเหรอคะ พี่คมถึงไม่ให้อภัย”

 

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” คมพัชญ์ตัดบทเพราะไม่อยากได้ยินเสียงเมียให้ความสนใจเรื่องไอ้มั่นให้ระคายหูอีก

 

“แต่เขาน่าสงสารนะคะ ดูเหมือนจะยังป่วยอยู่ด้วย เรารอให้เขาหายดีแล้วค่อยปล่อยไปไม่ได้เหรอคะ”

 

เพราะความสงสารจึงทำให้ลันลาดายังไม่เลิกเซ้าซี้ ความพยายามโน้มน้าวของหญิงสาวทำให้ใบหน้าของคมพัชญ์แดงคล้ำด้วยไฟโทสะร้อนระอุ ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าตอนนี้โกรธไอ้มั่นเพราะถูกมันหักหลังหรือเดือดร้อนที่มันกำลังช่วงชิงความห่วงใยจากลันลาดาไปจากเขากันแน่ ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความอึดอัด ชั่วครู่คมพัชญ์จึงตวัดเอวคอดเข้ามาชิดร่างสูง เรียวคางน่ารักถูกปลายนิ้วโป้งหยาบลูบไล้ระหว่างตัดสินใจ ไม่ช้าใบหน้าคมก็ก้มลงชิดใบหูบอบบางพลางเฉลยความจริงที่เก็บงำให้ลันลาดารับรู้

 

“เห็นแผลที่มือมันไหม นั่นคือผลของการที่มันทรยศ แล้วฉันก็เป็นคนเอาปืนยิงมันเอง รู้แบบนี้แล้วยังอยากให้มันอยู่ในไร่นี้อีกไหมล่ะ ถ้าอยากมีผัวเป็นฆาตกร เธอก็ไปตามมันกลับมา คราวนี้ฉันจะได้ยิงมันให้ไส้แตกไปเลย รำคาญ!”

 

“จะ...จริงเหรอคะ”

 

“ทำไม ตกใจมากงั้นเหรอหนูน้อย เสียใจด้วยนะที่เธอโชคร้ายได้ผัวจิตใจอำมหิต จำไว้ว่าฉันเกลียดคนทรยศที่สุด ใครที่กล้าหักหลังฉัน...จุดจบของมันไม่เคยสวยงาม จำไว้!”

 

เรียวขาที่ถูกค่อนขอดว่าสั้นนักหนาอ่อนแรงจนคมพัชญ์ต้องรีบกอดประคองร่างบางแนบชิดลำตัว ใบหน้าของลันลาดาซีดเซียว ดวงตาเบิกกว้างที่จ้องมองมาด้วยความผิดหวังและหวาดกลัวเหมือนเขาคือปีศาจส่งผลให้อกแกร่งด้านซ้ายของคมพัชญ์ปวดแปลบกะทันหัน ชายหนุ่มแสยะยิ้มสมเพชให้ตัวเอง เมื่อสุดท้ายสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็เกิดขึ้นจริง นึกอยู่แล้วว่าผู้หญิงนุ่มนิ่มอย่างลันลาดาคงยอมรับวิถีการปกครองแบบตาต่อตาของเขาไม่ได้ ก่อนหน้านี้เคยหวังจะใช้เวลาให้เมียหัวอ่อนค่อยๆเรียนรู้ว่าการปกครองคนหมู่มากต้องอาศัยความเฉียบขาดเป็นหลัก แต่ดูจากอาการตัวสั่นและดวงตาที่มองมาเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้าก็รู้แล้วว่าเขาคงหวังมากเกินไป

 

“กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ อยู่ก็เกะกะ”

 

ปวดใจชะมัดยามถูกเมียรักมองมาด้วยสายตาหวาดระแวง หากปล่อยให้ลันลาดามองอยู่แบบนี้ก็กลัวจะเผลอตัวทำอะไรไม่ดีกับหญิงสาวเข้าอีก อีกทั้งแสงแดดตอนใกล้เที่ยงก็จ้าซะเหลือเกิน หมวกปีกกว้างที่กวินพลจัดหาให้คงป้องกันอะไรไม่ได้มาก คมพัชญ์จึงตวัดร่างอ่อนแรงขึ้นสู่วงแขนพาเดินไปยังรถกระบะของตัวเอง ไปถึงก็ค่อยๆวางร่างบางลงบนเบาะ จากนั้นก็ขับพาคนขวัญอ่อนกลับไปส่งที่บ้าน บริการอุ้มพาไปส่งถึงเตียงนอนโดยไม่ลืมกำชับให้ป้านวลคอยอยู่เป็นเพื่อน ก่อนหมุนตัวกลับไปทำงานด้วยใจห่อเหี่ยว

***********************************************************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา