เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  38.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) ข้ออ้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“ฮึบ! อีกนิดเดียว”

 

คงจะจริงดังที่ถูกคมพัชญ์ค่อนขอดว่าขาสั้น เพราะเขย่งสุดปลายเท้า ยืดเหยียดสุดปลายมือก็แล้ว แต่ลันลาดาก็ยังเก็บลูกมะม่วงที่ห้อยอยู่บนกิ่งเหนือศีรษะไม่ถึง อันที่จริงจะรอให้ป้าตองเป็นคนมาสอยก็ได้ แต่ไหนๆก็เห็นแล้วและคิดว่ามันไม่ได้สูงมากมายจึงควรเก็บมันไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ลืมจนมันสุกคาต้น ปลายเท้าบอบบางเขย่งขึ้นอีกแต่มือก็ยังแตะได้แค่ปลายลูก ร่างบางทิ้งตัวยืนกับพื้นเมื่อเริ่มเมื่อยพลางแหงนหน้าขึ้นมอง ในใจคิดว่าถ้าเพิ่มความสูงได้อีกสักสิบเซนติเมตรก็คงดี แต่เมื่อโควต้าที่กระดูกขาจะยืดหมดไปตั้งแต่อายุสิบห้าปี ลันลาดาจึงเขย่งปลายเท้าอีกครั้งพยายามเกร็งแผ่นหลังให้ยืดตรงเพื่อให้แขนเหยียดขึ้นสูงกว่าเดิม ใกล้แล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้นมือบางก็จะคว้าเจ้ามะม่วงไว้ได้ ทว่า...

 

“แม่พันธุ์ขาสั้นเป็นหมาดัชชุนแบบนี้ ต่อไปมีลูก ลูกฉันไม่ต้องสอยมะเขือกินรึไง”

 

รู้ตัวว่าไม่ได้ยืนอยู่ลำพังก็ตอนที่ขั้วของมะม่วงลูกที่หมายตาถูกเด็ดด้วยปลายมือสีน้ำผึ้งของคนที่มายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ตามด้วยแก้มนิ่มที่ถูกปลายจมูกโด่งกดลงมาหนักๆคล้ายต้องการทำโทษจนผิวแก้มกลมป่องยุบยวบ ลันลาดายืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจก่อนผ่อนคลายลงเมื่อร่างกายรับรู้ว่าเป็นสัมผัสจากสามี ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตั้งใจทำงานหรือเป็นเพราะการเคลื่อนไหวที่แผ่วเบาของคมพัชญ์ เธอจึงไม่รู้การมาของชายหนุ่ม สิ่งเดียวที่รู้ในตอนนี้คือความอับอายระคนน้อยใจ ดวงตาหม่นหมองหลุบลงมองหน้าขาของตัวเองอย่างทดท้อ

 

ต้องเตี้ยขนาดไหนนะถึงต้องสอยมะเขือกิน?

 

“ลาดาขอโทษค่ะพี่คม” ‘ขอโทษลูกด้วยนะจ๊ะ’

 

เป็นคำขอโทษที่เกิดจากความรู้สึกผิดจากใจ ผิดที่เลือกเกิดมาเป็นสตรีขาเรียวยาวสวยอย่างในอุดมคติของคมพัชญ์ไม่ได้ และรู้สึกผิดต่อสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่อาจจะเกิดมาในวันข้างหน้า ลันลาดามองมือที่กอดเอวบางไม่ยอมปล่อยพลางลอบถอนหายใจเมื่อนึกถึงเจ้าของ คมพัชญ์มีใบหน้าหล่อเหลา คิ้วหนาเข้ม นัยน์ตาลุ่มลึกคมหวาน ริมฝีปากบางได้รูป และจมูกโด่งเป็นสันสวย อีกทั้งรูปร่างยังสูงใหญ่ ช่วงไหล่กว้างบึกบึนตามสไตล์หนุ่มเลือดผสมระหว่างไทยจากฝั่งพ่อเลี้ยงนภัทรกับคุณกวิตา มารดาของเขาที่เป็นสาวอาหรับนัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มที่เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อนจากสาเหตุเครื่องบินตกตอนเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด คมพัชญ์กับกวินพลรับเอาดีเอ็นเอส่วนดีจากบิดามารดามาทุกกระเบียดนิ้วจนสองหนุ่มนั้นหล่อเหลาแข็งแกร่งปานเทพบุตรเดินดิน

 

“ว่าไง” เรียวปากได้รูปเอ่ยถาม ปลายจมูกก็วนเวียนจุมพิตกระหม่อมบางไม่หยุด

 

“ลูกเราคง...ไม่โชคร้ายแบบนั้นมั้งคะ”

 

ปากก็ว่าไปว่าเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอกับคมพัชญ์คงไม่โชคร้ายขาสั้นเหมือนแม่ แต่น้ำเสียงกลับแผ่วเบาไร้ความเชื่อมั่น ภายในใจเกิดคำถามขึ้นมาครามครันว่าเด็กน้อยที่เป็นเลือดผสมระหว่างผู้หญิงตัวเตี้ยๆ ขาสั้นๆ หน้าจืดๆอย่างเธอกับเขาจะออกมาเป็นแบบไหน แน่นอนว่าถ้าเลือกได้ เธอก็อยากให้ลูกเป็นเด็กใฝ่ดี คัดสำเนารูปร่างหน้าตามาจากบิดาทุกกระเบียดนิ้วจะได้ไม่มีข้อด้อยให้ต้องเป็นกังวล แต่ถ้าหากโชคร้ายแล้วลูกน้อยออกมาขาสั้นเหมือนเธอล่ะ จะทำอย่างไร 

 

‘ยายเด็กโง่’

 

จมูกโด่งกดลงบนเส้นผมหอมนุ่มไปอีกครั้งอย่างไม่รู้เบื่อ เพราะตัวสูงกว่า ใบหน้าของคมพัชญ์จึงก้มมองปฏิกิริยาของยายหน้าหวานที่ถูกกักตัวไว้ในอ้อมแขนได้ถนัด หัวคิ้วขมวดมุ่น ดวงตากลมใสจ้องอยู่ที่เรียวขา และริมฝีปากบางที่เม้มแน่นเข้าหากัน เดาไม่ยากเลยว่าลันลาดาคงกำลังวิตกกังวลเรื่องความสูงของลูก โถๆๆ น่าสงสารมนุษย์น้อยในอ้อมแขนเขาเสียจริง นี่คงกลัวลูกจะขาสั้นเหมือนที่เขาแกล้งว่าล่ะสิ เรียวปากได้รูปคลี่ยิ้มก่อนเกยปลายคางบนกระหม่อมบางของคนคิดมาก ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าหากมีลูกสาว เขาก็อยากให้แม่หนูถอดแบบความน่ารักน่าถนอมมาจากคนเป็นแม่นั่นแหละ

 

‘มันก็แค่ข้ออ้าง’

 

อันที่จริงช่วงขาของลันลาดาก็เรียวสวยเหมาะสมกับเรือนร่างบอบบางน่าถนอมของเจ้าหล่อนดีอยู่แล้ว แต่ที่ต้องแกล้งว่าก็เพราะต้องการกลบเกลื่อนพฤติกรรมน่าอายของตัวเองที่ไม่มีสมาธิทำงานเอาเสียเลยเมื่อรู้ว่ามีร่างเล็กๆแต่อวบอุ่นนุ่มนิ่มอยู่ไม่ไกลตัวนัก ตามันคอยจะมองหา หูมันก็แว่วไปเองว่าได้ยินเสียงใสร้องเรียกด้วยความคิดถึง ส่วนสมองยิ่งแล้วใหญ่ มันคอยแต่จะนึกวนเวียนถึงช่วงเวลาเร่าร้อนที่ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับลันลาดาจนเนื้อตัวซาบซ่านร้อนผ่าวแข่งกับอากาศ ใจมันเอาแต่โหยหาอยากกอดร่างบางแบบนี้ แล้วจะเอาสมาธิมาจากไหน พยายามใจแข็งยืนคุมงานต่อไปแต่สุดท้ายขามันก็เลือกทำตามคำสั่งที่ส่งตรงจากอกด้านซ้ายด้วยการเดินตรงดิ่งเข้าหาร่างบางของเมีย แขนก็เช่นกัน มันโอบกอดเอวเล็กเข้าชิดอกทันทีด้วยความโหยหา ปากร้ายๆจึงต้องหาเรื่องว่าลันลาดาแก้เก้อ ไม่งั้นคงหาเหตุผลมาตอบไม่ได้ว่าทำไมอยู่ๆถึงทิ้งงานมายืนกอดหญิงสาวแบบนี้ ทั้งที่ตอนเดินเข้าไร่เพิ่งจะงอนจนตาขุ่นขวางตอนถูกเมียร้องขอไม่ให้โอบเอวต่อหน้าคนงาน

 

‘แม่สัญญานะคะว่าตอนท้อง แม่จะดื่มนมเยอะๆ’

 

สถานที่เดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกันแต่ภวังค์ความคิดของคนสองคนกลับแตกต่างกันสิ้นเชิง ในขณะที่คมพัชญ์กำลังกอบโกยช่วงเวลาหวานที่ได้โอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน ทว่าคนในอ้อมแขนกลับยังหมกมุ่นกับเรื่องยีนเด่นยีนด้อยของลูกน้อยไม่คลาย แม้ยังไม่เคยตั้งครรภ์ แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่ที่ห่วงใยไปล่วงหน้าแค่คิดว่าในท้องแบนๆที่มีมือหนาวางทาบอยู่จะมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆอาศัย ลันลาดาก็ให้คำสัญญาว่าจะพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้ลูกน้อยต้องตัวเตี้ยขาสั้นเหมือนแม่ และด้วยความกังวลมากมายบังตา จึงไม่มีเวลาให้ลันลาดาได้ถอดรหัสคำพูดของคนที่ยืนกอดซ้อนอยู่ด้านหลัง คนถูกกอดไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าคำพูดของคมพัชญ์กำหนดชัดเจนว่าหญิงสาวคือสตรีที่ชายหนุ่มเลือกให้เป็นแม่ของลูก ย้อนแย้งกับคำที่คนตัวโตเคยขู่ไว้วันก่อนว่างานแต่งอาจไม่เกิดขึ้น

 

“นายจ้ะ นาย”

 

.....................................................................................................................

“ลิตเติ้ลโฮม คาเฟ่”

 

ใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงรถสปอร์ตคันงามของกวินพลก็มาจอดอยู่หน้าร้านกาแฟเล็กๆกลางเมืองตามจีพีเอสระบุตำแหน่งที่รณฤทธิ์ส่งมาให้ ตาคมมองผ่านแว่นกันแดดสีชาไปยังป้ายชื่อหน้าร้านที่จำได้ขึ้นใจก่อนกวาดมองไปรอบๆ ตัวร้านเป็นอาคารพาณิชย์แบบสองชั้นอยู่หลังกลางสุดจากทั้งหมดเจ็ดร้านที่เจ้าของเปิดให้เช่า ที่ถนนฝั่งตรงข้ามเป็นร้านค้าส่งขนาดใหญ่ มีผู้คนซื้อของพลุกพล่านและอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลประจำจังหวัด ทำเลการค้าถือว่าดี ทีนี้ก็ต้องลุ้นที่รสชาติว่าจะถูกใจคนกินหรือเปล่า แต่ที่ดีแน่ๆก็เจ้าของร้านนี่แหละที่ทำให้กวินพลยอมขับรถมาไกลหลายสิบกิโลเมตร ถ้าหวังแค่ดื่มกาแฟจะแวะร้านไหนก็คงไม่ต่างกันมาก ให้เลขาฯชงให้ยังได้ แต่นี่เพราะกวินพลหวังกินคนชงกาแฟก็เลยต้องถ่อมาไกลขนาดนี้

 

‘เป้าหมายมีไว้พุ่งชนโว๊ย ลุย!’

 

ป้ายหน้าร้านแขวนไว้ว่าเปิดบริการแล้วจะต้องรออะไรอีก ร่างสูงจึงก้าวลงจากรถ รถโคตรแพง คนขับโคตรหล่อ จึงไม่น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มจะกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในบริเวณนั้นทันทีที่ลงมายืนอยู่ข้างรถ ยิ่งตอนกวินพลถอดแว่นกันแดดสีชาเหน็บไว้ตรงอกเสื้อก็ยิ่งส่งให้ชายหนุ่มดูหล่อเท่เหมือนพระเอกในภาพยนตร์ ทายาทคนโตของไร่บารมีเสียดฟ้าเดินตรงดิ่งเข้าไปในร้านไม่ได้สนใจสักนิดว่าสาวๆในบริเวณใกล้เคียงกำลังทอดสะพานส่งมาให้เป็นทิวแถว นั่นเพราะคนเดียวที่จิตใจของชายหนุ่มจดจ่อกำลังยืนทำหน้าสวยชงกาแฟอยู่ตรงเคาท์เตอร์นั่นแล้ว

 

‘ร้านน่ารัก เหมือนเจ้าของเลย’

 

เพียงก้าวแรกที่กวินพลเข้าไปยืนในร้าน ความอบอุ่นเปรียบเสมือนได้ยืนอยู่กลางบ้านหลังน้อยในวัยเยาว์ก็พุ่งเข้าใส่ ผนังร้านตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในบ้านไม้สไตล์คันทรี พื้นที่ร้านสองในสามถูกจัดไว้สำหรับเป็นที่นั่งของลูกค้า มีโต๊ะทั้งหมดหกชุด และเก้าอี้บาร์ตัวยาวใกล้หน้ากระจกทางเข้าอีกสอง ความพิเศษอยู่ที่โต๊ะแต่ละตัวจะจำลองเป็นหนึ่งโซนของบ้าน เหมือนอย่างโต๊ะที่เดินเข้ามาเจอเป็นตัวแรกใช้โซฟาจัดไว้เลียนแบบห้องรับแขก ที่พื้นปูทับด้วยพรมลายดอกซากุระสีชมพูหวานผืนโต ตรงกลางมีโต๊ะกลมประดับด้วยแจกันและดอกไม้สดสวยงาม มีการ์ตูน นิตยสารอ่านเล่น และหมอนอิงลวดลายแปลกตา เหมาะสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มเพราะนั่งคุยนั่งเล่นกันได้หลายคน

 

ถัดไปเป็นโต๊ะสำหรับนั่งทำการบ้าน ความละเอียดของคนจัดคือใช้โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่เป็นโต๊ะทำงานของจริงมาตั้ง บนโต๊ะมีโคมไฟ กล่องใส่ดินสอไม้ที่เหลาไว้แหลมพร้อมใช้งาน ยางลบแบบมีกลิ่นหอมที่เด็กหลายคนชอบเอามาแทะ สีไม้ สีเทียน กบเหลาดินสอรูปสัตว์นับสิบอัน สมุดลายการ์ตูนที่ใช้เขียนได้จริง และที่ผนังก็มีกระดานดำเล็กๆเขียนตารางเรียนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์เอาไว้ โดยไม่ลืมโปสเตอร์สำหรับเด็กน้อยหัดท่องพยัญชนะภาษาไทยและอังกฤษสุดฮิตที่เด็กไทยทุกคนต้องเคยผ่านมาแปะไว้ แต่มุมนี้มีพื้นที่ของโต๊ะจำกัดจึงนั่งได้แค่สองคน

 

ส่วนอีกสี่โต๊ะก็มีโต๊ะนั่งเล่นสำหรับสตรีเพราะบนโต๊ะมีตุ๊กตาเด็กผู้หญิงพร้อมตะกร้าใส่ข้าวของเอาไว้แต่งตัวอีกเพียบจัดวางเอาไว้ อีกด้านตรงข้ามเป็นของผู้ชาย ตุ๊กตาเหล่าฮีโร่ในวัยเด็ก โมเดลรถแข่ง ลูกฟุตบอล และโดมิโนเอาไว้ให้นั่งเล่นแบบแมนๆ ถัดไปเป็นมุมเป็นเลียนแบบห้องครัว หม้อ ไห กะละมัง ชาม ช้อนชิ้นเล็กๆซึ่งเหมือนของจริงมากเอาไว้ให้เล่นขายข้าวขายแกง มันน่ารักจนผู้ชายตัวโตๆอย่างเขายังรู้สึกคันมืออยากหยิบกระทะกับตะหลิวอันน้อยมาผัดเล่น

 

และโต๊ะสุดท้ายที่ทำให้กวินพลนึกถึงคำว่าครอบครัว โซนนี้ใช้โซฟาแทนเก้าอี้คล้ายมุมนั่งเล่น ต่างกันที่บนโต๊ะมีตะกร้าใส่ไหมพรมก้อนกลมๆหลากสีและมีถุงเท้าคู่น้อยถักค้างไว้แทนนิตยสาร มีหนังสือนิทานเก่าๆที่หน้าปกบอบช้ำจากการเก็บไว้เป็นเวลานาน และหนังสือพิมพ์จัดวางไว้ มองแล้วก็เหมือนเป็นมุมที่คุณแม่นั่งถักผ้าพันคอนั่งคุยกับสามีที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ บนตักอุ่นๆมีลูกน้อยนอนแผ่พุงรอให้ใครคนใดคนหนึ่งวางของในมือแล้วอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน มุมปากบางเฉียบหยักยิ้มเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ รอก่อนเถอะ อีกไม่นานมันจะต้องเป็นมุมที่เขากับเจ้าของร้านใช้เวลาร่วมกันทุกวันเหมือนในจินตนาการ

 

“ลิตเติ้ลโฮมค่าเฟ่ สวัสดีค่ะ เช้านี้รับ... คุณ! ไอ้หื่น มาทำไม!”

 

แต่ดูท่าแล้วจินตนาการของกวินพลคงต้องยืดเวลาออกไปอีกนานพอสมควรกว่าที่ฝันจะเป็นจริง เพราะทันทีที่ของขวัญ เจ้าของลิตเติ้ลโฮมคาเฟ่เงยหน้าจากเครื่องบดกาแฟสดขึ้นมาเห็นหน้าชายหนุ่ม น้ำเสียงนุ่มๆที่คอยทักทายลูกค้าอยู่เป็นนิจก็พลันห้าวห้วน พานไปถึงดวงตากลมโตที่เคยสุกสกาวก็พลอยเรืองรองเมื่อรู้ว่าลูกค้าที่เดินผ่านประตูร้านเข้ามาคือไอ้หื่นหน้าหล่อที่บังอาจจับอกเธอเมื่อคืน

 

“แก๊สสองถัง ส่งด่วนไร่บารมีเสียดฟ้าครับ”

 

“นี่คุณ ร้านฉันขายกาแฟ แล้วจะมีแก๊สขายได้ไงฮะ”

 

นอกจากไม่สลดที่ได้รับฉายาสุดอันตราย กวินพลยังมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์ที่ของขวัญยืนชงกาแฟพร้อมสั่งซื้อแก๊สหุงต้มด้วยดวงตาบริสุทธิ์ใสซื่อ ซื่อจนน่าตบ ซื่อจนของขวัญเกิดอาการหัวร้อนอยากเอากาแฟเดือดๆสาดไล่รอยยิ้มกรุ่มกริ่มบนใบหน้าหล่อลากดินของไอ้หื่นให้จางหายเพราะรู้ว่าชายหนุ่มแกล้งทำเพื่อกวนประสาทเธอล้วนๆ

“ก็รู้นี่ งั้นคุณก็ไม่น่าถามนะว่าผมมาทำไม ลาเต้ มัคคีอาโต้เย็น เสิร์ฟที่โต๊ะ พร้อมรอยยิ้มหวานๆนะจ๊ะยาหยี”  

สั่งเมนูกาแฟที่ต้องการเสร็จกวินพลก็ไม่ยืนรอให้โดนคนสวยด่า ของขวัญตวัดดวงตาค้อนๆมองตามชายหนุ่มที่ไปหย่อนก้นลงนั่งไขว่ห้างที่โต๊ะมุมโปรดที่สุดของเธอ ยืนกระแทกลมหายใจฮึดฮัดอยู่สองสามที มือบางจึงเริ่มชงกาแฟตามที่กวินพลต้องการ เพราะสมองมันร้องเตือนว่าลูกค้าคือพระเจ้า และร้านกาแฟเปิดใหม่ที่ใช้เงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนของเธอก็กำลังต้องการพระเจ้าจำนวนมากมาใช้บริการเสียด้วย เพราะฉะนั้นเธอต้องอดทน!

‘รีบชง รีบกิน อีตาบ้านี่จะได้รีบกลับ!’                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                        

...........................................................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา