นางสาวแสนเฉิ่ม
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.06 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ณ ปัจจุบัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าตรู่ของวันใหม่ ท้องฟ้าสดใสฉาบทาด้วยสีฟ้าอ่อน มองดูสบายตา
สายลมเย็นพัดพาความสดชื่นเย็นสบายทั้งกายและใจมากระทบผิวของหญิงสาว ผู้มีนามว่า "ทรามเชย"
หญิงสาวหน้าตาธรรมดา แต่งตัวแสนเชย ปัจจุบันเธออายุ 30 ปี เป็นนักเขียนอิสระ เธอถนัดเขียนเรื่องสั้นแนวหักมุมและให้แง่คิด สถานะหัวใจยังว่าง ด้วยหน้าตาที่ธรรมดา สีหน้าที่เรียบเฉยซ่อนความรู้สึก ผู้คนจึงมักไม่เข้าใจและเลือกที่จะมองข้ามเธออยู่เสมอ
เช้านี้หญิงสาวเลือกที่จะมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน หล่อนหยิบสมุดบันทึกเล่มโปรดและดินสอคู่ใจออกมาแล้วเขียนลงไปว่า
"เสียงกระซิบจากสายลม"
ขณะกำลังง่วนอยู่กับการเขียนเรื่องสั้นเรื่องใหม่อยู่นั้น เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือที่แสนคุ้นหูก็ดังขึ้น
"สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์..."
เสียงริงโทนถูกตัดจบด้วยเสียงกรอกหูของเจ้าของมือถือลงไปว่า
"จ้า ว่าไงเหมียว"
"เชย ตอนนี้เธออยู่ไหน มาหาเราหน่อยได้มั้ย มีเรื่องเดือดร้อนอยากให้ช่วยหน่อยน่ะ"
ปลายสายพูดตอบกลับมาด้วยเสียงกระวนกระวายใจ
"ได้สิ เธออยู่ที่บ้านใช่มั้ยเหมียว ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวเราจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ"
ด้วยความมีน้ำใจและรักเพื่อนมาก หลังวางสายทรามเชยจึงรีบเก็บของ แล้วตรงไปหาเหมียวหรือวิฬาร์ยาเพื่อนสนิทที่บ้านในทันที
-----------------------------------
กริ๊ง! กริ๊ง!
หลังเสียงกดกริ่งที่หน้าบ้านหลังสีขาว ขนาดกะทัดรัดหยุดลงไป เพียงครู่เดียววิฬาร์ยาเพื่อนของเธอก็ออกมาเปิดประตูต้อนรับด้วยรอยยิ้มหวานทันที
"มาแล้วเหรอเชย ชั้นกำลังรอเธออยู่พอดีเลย"
ทรามเชยอดแปลกใจไม่ได้ ก็เมื่อครู่ที่คุยกันทางโทรศัพท์เสียงเพื่อนหล่อนยังฟังดูร้อนรน เหมือนมีเรื่องเดือดร้อนใจอย่างหนักอยู่เลย ซึ่งตรงข้ามกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง
"นี่เหมียว ตกลงว่าเธอมีเรื่องอะไรให้ชั้นช่วยเหรอ"
เหมียวยิ้มแหยๆแก้เก้อ ก่อนพูดขึ้นว่า
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอกจ้ะเชย ชั้นแค่อยากให้เธอมารู้จักกับคนๆนึงเอาไว้เท่านั้นเอง"
"ใครเหรอเหมียว"
เพื่อนสาวไม่ตอบ แต่รีบฉุดแขนหญิงสาวเขาไปในตัวบ้านทันที โดยหล่อนต้องยินยอมเดินตามเข้าไปข้างในอย่างเสียไม่ได้
เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขก หล่อนเห็นเพียงด้านข้างของใครคนหนึ่งนั่งบนโซฟาอยู่ก่อนแล้ว เขาแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบเต็มยศ เป็นใครก็คงเดาได้ไม่ยากว่า เขาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นั่นเอง
เสียงใสๆของเหมียวพูดแนะนำคนข้างๆว่า
"พี่เสือๆ นี่ทรามเชยหรือเชยเพื่อนที่เหมียวเคยเล่าให้พี่ฟัง แล้วนี่พี่ชายเราเอง ชื่อสิงหา หรือจะเรียกพี่เสือก็ได้จ้ะ"
ชายหนุ่มในเครื่องแบบหันมามองคนพูดและหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ น้องสาวอย่างเต็มตา
เขามองสำรวจผู้มาใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดในสิ่งที่แทบทำให้คนฟังหน้าชาไปทั้งแถบ
"นี่เหรอเพื่อนจอมเฉิ่มของเธอ ที่เคยเล่าให้พี่ฟังบ่อยๆ"
ทรามเชยยกมือไหว้ตามมารยาทด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกความรู้สึกซึ่งเป็นเรื่องปกติของเธอ พร้อมกับพูดว่า
"สวัสดีค่ะ พี่เสือ"
หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ถ้าเขามองไม่ผิด แววตาของหล่อนดูเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่างในตัวเขาอยู่
สักพักหล่อนละสายตาไปหาน้องสาวของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า
"เหมียว ถ้าเธอไม่มีอะไรแล้ว เราขอตัวกลับก่อน ไว้เจอกันนะ"
ยังไม่ทันที่น้องสาวตัวแสบของเขาจะทันได้พูดอะไร นายตำรวจหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า
"ถ้ามีแขกมาเยี่ยมบ้าน แล้วอยู่ๆ ก็หนีกลับไปเลย โดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้ตอนรับ ผมถือว่าเสียมารยาทมากเลยนะครับ หรือว่าคุณจะทำอะไรผิดมา ถึงต้องแสดงออกมาว่ากลัวตำรวจอย่างผมขนาดนี้ล่ะครับ คุณทรามเชย"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แอบยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก พร้อมกับลอบมองปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ
"ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ดิชั้นมารบกวนเวลาคุณตำรวจ หากไม่ใช่เพราะเหมียวชวนมา ดิชั้นคงไม่มาที่นี่ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะเหมียว"
ประโยคสุดท้ายเธอหันไปพูดกับเพื่อนสนิท ก่อนยกมือไหว้ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในที่นั้นอย่างเสียมิได้
โดยไม่รอช้า หญิงสาวรีบหมุนตัว ก้าวเท้าออกไปจากห้องรับแขกทันที ด้วยเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชายของเพื่อนอีก
ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มรีบสาวเท้าไปขวางหน้าหล่อนไว้ พร้อมทั้งพูดว่า
"แล้วถ้าผมบอกว่า คนที่ให้ยัยเหมียวชวนคุณมาที่นี่คือผมล่ะ"
ได้ผลเกินคาด ทรามเชยหันมามองตำรวจหนุ่มด้วยความสงสัย พร้อมทั้งถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า
"คุณว่าอะไรนะคะ"
สิงหายักคิ้วให้หล่อน พร้อมรอยยิ้มยียวนกวนประสาทใส่หน้าหญิงสาว แล้วพูดว่า
"ผมบอกว่า ผมเป็นคนให้ยัยเหมียวชวนคุณมาที่นี่ เพราะผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ"
"เรื่องอะไรเหรอคะ"
หล่อนถามด้วยความสงสัย
"เดี๋ยวคุณก็รู้ ตามผมมานี่สิ"
ตำรวจหนุ่มเดินนำไปยังสวนหลังบ้าน หญิงสาวจำต้องเดินตามเขาไปด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก โดยมีสายตาของวิฬาร์ยาที่มองตามหลังเพื่อนไปด้วยความเป็นห่วง
โปรดติดตามตอนต่อไป➡️
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ