สืบสู้ผี ภาค เมฆาคนล่าผี

6.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 04.55 น.

  26 ตอน
  2 วิจารณ์
  22.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) สมุดวาดเขียนสั่งตาย Part 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     เย็นนั้นหลังจากที่เมฆาได้เสร็จสิ้นจากการสอนวิชาศิลปะในคาบสุดท้ายให้กับเด็กนักเรียนชั้น ป.6 เรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินดิ่งตรงไปที่โต๊ะหินอ่อนที่อยู่ริมสนามฟุตบอลนั้นทันที

เขาเดินวนอยู่รอบๆ โต๊ะหินอ่อนพลางสังเกตุบนโต๊ะอย่างละเอียดแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติหรือมีร่องรอยอะไรอยู่บนโต๊ะหินอ่อนนี้แม้แต่น้อยนิด

จากนั้นเขาจึงลองนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนที่อยู่ข้างๆ โต๊ะและลองพิจารณาโต๊ะนั้นดูอีกครั้ง แต่ก็ยังมองไม่เห็นอะไรอีกเหมือนเดิม

ครู่ต่อมาเขาลองตะแคงหัวมองไปที่โต๊ะอีกครั้ง และแล้วร่องรอยของอะไรอย่างหนึ่งก็ได้ปรากฏออกมาจากขอบของโต๊ะหินอ่อนตัวนี้ทันที

เมฆาชะโงกหน้าตะแคงๆ เข้าไปจนใกล้ขอบโต๊ะ แล้วก็เห็นเป็นรอยดินสอจางๆ ที่เขียนเป็นตัวหนังสือบางอย่างไว้ที่ตรงขอบนั้น

'เผาสมุด'

นั่นเป็นคำจากรอยดินสอจางๆ ที่เมฆาอ่านได้จากตรงนั้น

แล้วเมฆาก็ลุกขึ้นสำรวจมองไปรอบๆ ขอบโต๊ะนั้นโดยรอบ แต่ก็ไม่พบว่าจะมีร่องรอยของตัวหนังสือใดๆ ให้เขาได้พบเจออีก จึงสรุปได้ว่า คำว่า'เผาสมุด'นี้ อาจจะเป็นเพียงคำๆ เดียวที่วิญญาณของเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ขีดเขียนเอาไว้ให้เขาได้เห็นนั่นเอง

แล้วเมฆาก็ได้ลองพิจารณาถึงคำๆ นี้ดูอีกครั้ง 'เผาสมุด... เอ สมุดที่ว่านี้ก็คงจะเป็นสมุดวาดเขียนเล่มนี้นั่นเอง เพราะจะอย่างไรแล้ว วิญญาณของเด็กผู้หญิงคนนี้ดูแล้วก็น่าจะเป็นเด็กนักเรียนของที่นี่อย่างแน่นอน และเธอคงจะมีความเกี่ยวข้องกับสมุดวาดเขียนเล่มนี้อยู่ไม่มากก็น้อย แล้วเธอจะเป็นเด็กนักเรียนคนเดียวกับที่เป็นใบ้ผู้ได้เขียนภาพคำทำนายอันน่าสยดสยองนั้นหรือเปล่ากันนะ?

แต่มันก็เป็นไปได้มากทีเดียว เพราะว่าวิญญาณของเด็กผู้หญิงนี้ดูเหมือนจะมีอายุอยู่ในราว 11-12 ที่ถ้ามีชีวิตอยู่ก็น่าจะกำลังเรียนอยู่ในชั้น ป.5 หรือ ป.6 นั่นเอง'

แต่คำว่า'เผาสมุด'นี้ ก็กลับเป็นคำที่สร้างปริศนาให้กับเมฆาอยู่ในตอนนี้ เขายังไม่เข้าใจว่า ทำไมวิญญาณของเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงบอกให้เขาเผาสมุด?

'ทำไมล่ะ...ทำไมเด็กคนที่เป็นใบ้และวาดภาพคำทำนายอาถรรพ์นี้ขึ้นมากลับต้องการที่จะเผาสมุดเล่มนี้ หรือว่านี่จะเป็นเด็กคนล่ะคนกัน...?

เมฆานั่งขบคิดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้นึกถึงการพูดคุยของเขากับครูสุนทรที่ได้มาคุยกับเขาอีกครั้งเมื่อคืนก่อนนี้ ครูสุนทรได้เล่าเพิ่มเติมว่า อาถรรพ์ของสมุดวาดเขียนเล่มนี้ได้เริ่มแสดงความอาถรรพ์ไปยังผู้ที่ได้ครอบครองสมุดวาดเขียนเล่มนี้หลังจากที่เด็กผู้หญิงที่เป็นใบ้ได้เสียชีวิตไปแล้ว

ครูสุนทรได้บอกเขาว่า ตอนที่เด็กคนนั้นได้เสียชีวิตไปใหม่ๆ สมุดวาดเขียนเล่มนี้ได้ตกไปเป็นสมบัติของเด็กคนที่เป็นญาติของเด็กที่เป็นใบ้ซึ่งมีบ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่เด็กคนที่เป็นญาตินี้กลับต้องรีบบอกให้พ่อแม่ของตนเอาสมุดวาดเขียนนี้ไปคืนให้กับพ่อแม่ของเด็กใบ้ เพราะเด็กคนนั้นกลับฝันถึงเด็กใบ้ผู้เป็นเจ้าของสมุดวาดเขียนที่ได้เข้ามาทวงสมุดวาดเขียนเล่มนี้คืนในความฝันอยู่ถึงสองคืนติด จนเด็กผู้เป็นญาติถึงกับขวัญเสียไปเลยทีเดียว

พ่อแม่ของเด็กใบ้จึงได้เก็บสมุดวาดเขียนนี้ไว้ที่บ้าน ก่อนที่จะมีการเสียชีวิตของเด็กคนที่หนึ่งและสองในเวลาต่อมาซึ่งตรงกับภาพเหตุการณ์ในสมุดวาดเขียนสองภาพแรก และหลังจากนั้นเองข่าวลือเรื่องสมุดวาดเขียนอาถรรพ์ซึ่งพวกเด็กนักเรียนในโรงเรียนบ้านทับรุ้งได้เรียกกันว่า 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย' ก็ถูกโจษขานไปทั่วโรงเรียนหรือหมู่บ้านด้วยความอกสั่นพรั่นพรึงด้วยกันทั้งหมด

เมฆาลองไคร่ครวญถึงเรื่องนี้แล้วก็สันนิษฐานได้อย่างหนึ่งว่า พวกเด็กนักเรียนบางคนในโรงเรียนคงได้เคยเห็นรูปวาดในสมุดเล่มนี้มาก่อนบ้างแล้วก่อนที่เด็กผู้หญิงที่เป็นใบ้จะมาเสียชีวิตไป และคงเป็นเพราะเด็กคนที่เป็นญาติได้จดจำเหตุการณ์ในภาพวาดของสมุดเล่มนี้ได้จึงได้เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนนักเรียนคนอื่นฟังถึงความตรงกันของเหตุการณ์นั้นด้วยจึงทำให้เรื่องนี้ขยายวงแห่งความหวาดกลัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ครูสุนทรยังได้เล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นไม่นาน พ่อแม่ของเด็กที่เป็นใบ้ได้นำสมุดวาดเขียนไปมอบให้ทางวัดทับรุ้งเก็บรักษาไว้โดยเพียงหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นความบังเอิญที่มีเด็กสองคนต้องมาเสียชีวิตตามภาพวาดนั้น

แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ก็กลับมีเด็กคนที่สามที่ต้องมาเสียชีวิตตามภาพเหตุการณ์ในภาพวาดนั้นโดยไม่ผิดเพี้ยน!

และนั่นก็นำมาซึ่งความหวาดกลัวในอาถรรพ์ของสมุดวาดเขียนอย่างถึงที่สุด จนพวกชาวบ้านถึงกับแทบนอนไม่หลับและแทบจะไม่เป็นอันทำกินกันเลยทีเดียว

และในที่สุดชาวบ้านเกือบทั้งหมดก็มาหารือกันเพื่อที่จะหาใครสักคนมาช่วยเหลือหรือคลี่คลายปริศนาอาถรรพ์ของสมุดวาดเขียนสั่งตายเล่มนี้ให้จงได้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ภาพวาดในสมุดวาดเขียนนั้นไม่ได้มีแค่เพียงสามภาพ แต่มันยังมีอีกสามภาพที่ได้ถูกฉีกออกไปจากสมุดโดยที่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าถูกฉีกไปตั้งแต่เมื่อไรหรือภาพที่เหลือนั้นจะเป็นการทำนายการตายของใครหรือของเด็กคนไหนในหมู่บ้านนี้กันแน่?

และนั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ครูสุนทรผู้เป็นครูใหญ่ของหมู่บ้านทับรุ้งได้รับหน้าที่เพื่อสืบค้นหาผู้ที่จะมาช่วยคลี่คลายปริศนาอันน่าขนลุกนี้ให้ได้ ซึ่งต่อมาครูสุนทรก็ได้ยินกิตติศัพท์ของ 'อาคิราห์' ผู้ที่ใครๆ หลายคนให้สมญาว่าเป็นจอมอาคมหญิงผู้สามารถแก้ปัญหาทางเรื่องของภูตผีปิศาจให้กับใครต่อใครหลายคนอย่างได้ผลมาแล้ว แต่อาคิราห์ผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นเพื่อนเก่าของเมฆาเองอาจจะไม่ว่างในช่วงนี้จึงได้มอบหมายเคสนี้มาให้กับเขาแทน

เมฆานั่งขบคิดถึงเรื่องสมุดวาดเขียนนี้ต่อไปก็คิดว่า เด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนบ้านทับรุ้งนี้น่าจะมีบางคนที่พอจะบอกได้ถึงที่มาที่ไปของสมุดวาดเขียนเล่มนี้ได้ หรือน่าจะมีเด็กบางคนที่อาจจะเข้าใจจิตเจตนาของเด็กผู้หญิงที่เป็นใบ้นั้นอยู่ด้วยก็ได้ ว่ามีจุดประสงค์อะไรในการวาดคำทำนายอันน่ากลัวนั้นออกมา

และเขาก็จะต้องค้นหาเด็กนักเรียนคนที่พอจะร่วมมือกับเขาในเรื่องนี้ให้จงได้ต่อไป ซึ่งถ้าเด็กยอมร่วมมือกับเขา ก็อาจจะทำให้เขาเข้าถึงความจริงได้เร็วยิ่งขึ้น ระหว่างที่ตัวเขาเองก็ต้องลงมือสืบเรื่องนี้ให้ละเอียดที่สุดเพื่อป้องกันเหตุร้ายหรือการเสียชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้นอีกตามคำทำนายของภาพวาดในสมุดวาดเขียนที่ถูกฉีกไปถึงสามหน้า

อย่างไรก็ดี อย่างน้อยสมุดวาดเขียนเล่มนี้ในขณะนี้ก็ได้ถูกเก็บรักษาไว้อยู่ที่ห้องพักของเขาที่อยู่ห่างจากโรงเรียนนี้ไปแค่กิโลกว่าเท่านั้นเอง และคืนนี้เมื่อเขากลับไปที่ห้องพักของเขาแล้ว เขาจะลองค้นหาความลับที่อาจจะพบเจอในสมุดวาดเขียนเล่มนี้ดูอีกครั้ง

แต่ทว่า... เมื่อเขากลับไปที่ห้องพักและออกไปหาอะไรกินตอนค่ำอยู่ที่ร้านข้าวแกงปากซอยของหมู่บ้าน เขาก็พบกับความผิดปกติ เมื่อเขารู้สึกได้ว่า ห้องของเขาได้มีคนแอบงัดเข้าไปในระหว่างที่เขาไม่อยู่เมื่อตอนค่ำ

เมฆารีบผลักเปิดประตูห้องของเขาเข้าไป ก็ได้พบกับสภาพของห้องที่ถูกรื้อค้นกระจุยกระจายจนเละเทะ

จากนั้นเขาก็ได้เฉลียวใจและมองไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่ใต้โต๊ะวางทีวี เขาก็ได้เห็นว่าหนังสือต่างๆ ตรงนั้นได้ถูกเรื้อจนกระจุยกระจายและตกเรี่ยราดลงมากับพื้นข้างล่าง

และก็แน่นอนอย่างที่สุด สิ่งที่เขาได้แอบเอาซ่อนหรือสอดไปในระหว่างหนังสือเหล่านั้น มันก็คือ 'สมุดวาดเขียนอาถรรพ์' ที่บัดนี้ก็ได้อัณฒานหายไปเรียบร้อยแล้ว!

"โจรแสบ...! ดอดเข้ามาขโมยสมุดวาดเขียนเลยรึ เหอะ สมุดวาดเขียนเล่มนี้คงมีค่าหรือมีความหมายกับใครบางคนมากแน่ๆ ...?! " เมฆาบ่นแล้วก็ส่ายหัว

และขณะที่เขากำลังสงสัยว่าโจรที่เข้ามางัดห้องเขานี้มันช่างลงมือได้อย่างรวดเร็วซะเหลือเกิน เพราะเขาเองก็ออกไปกินข้าวแค่เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้น กลับมาก็กลายเป็นอย่างนี้ไปซะแล้ว หูของเขาตอนนี้ก็กลับได้ยินเสียงแกรกๆ กรากๆ อยู่ที่รั้วบ้านเช่าที่อยู่ด้านหลังห้องของเขา จากนั้นก็มีเสียงเหมือนคนโดดจากรั้วเสียงดังตุ้บ ก่อนที่จะมีเสียงหมาในบริเวณนั้นเห่ากรรโชกขึ้นมาอย่างเอ็ดอึง...!!

 

(โปรดติดตาม 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย Part 5' ในอีกเร็วๆ นี้นะครับ)

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา