สืบสู้ผี ภาค เมฆาคนล่าผี
6.7
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 04.55 น.
26 ตอน
2 วิจารณ์
22.37K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) สมุดวาดเขียนสั่งตาย Part 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมฆาต้องนอนอยู่ในรพ.เกือบหนึ่งอาทิตย์ ก่อนที่เขาจะกระชากสายน้ำเกลือออกจากตัว และเร้นหลบออกมาจากรพ.กลับมาเดินกระเผลกๆ อยู่ในสำนักงานนักสืบของเขาเอง
"เมื่อไรนายจะหยุดเดินไปเดินมาสักทีว๊ะเมฆ? " นิกนั่งเท้าคางมองเมฆจากที่โต๊ะของเขา "นายเดินกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้เป็นชั่วโมงแล้วนะ รู้ป่าว แล้วไอ้ขาที่เป๋ของนายน่ะ แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร? ที่จริงนายเองน่ะ ไม่ควรจะหนีออกมาจากรพ.หรอกนะ น่าจะให้หมอเขารักษาให้ดีๆ ก่อน ถ้าตอนหลังนายเกิดพิการเดินขาเป๋ไปตลอดชีวิตจะแย่เอานะเว้ย..! "
เมฆาหันขวับมาทันที "เฮ๊อะ... ฉันอยู่ในรพ.หนึ่งวันก็เหมือนอยู่ในนรกหนึ่งปี นี่อยู่ไปหกวันก็เหมือนอยู่ในนรกหกปี ฉันทนต่อไปไม่ได้หรอกว่ะนิก แล้วนายก็ไม่ต้องมาห่วงอะไรกับร่างกายของฉันด้วย เพราะขาของฉันน่ะ มันไม่ได้เป๋หรอกนะ ฉันรู้ตัวของฉันดี ต่อให้มันเป๋ไปจริงๆ ฉันก็จะทำให้มันกลับมาดีเหมือนเดิมจนได้แหล่ะ เฮ๊อะ! "
"เคๆ ๆ " นิกยกมือโบก "ฉันรู้ว่านายน่ะมีร่างกายไม่เหมือนคนอื่นเขา นายมีของดีที่ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว ถ้าเป็นคนอื่น คงได้ตายห่าตั้งแต่ยังไม่ถึงรพ.แล้ว เฮ้อ... ฉันเองก็แค่เป็นห่วงนายในฐานะเพื่อนก็แค่นั้นเองหรอกนะ"
เมฆาหยุดเดิน และยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างฝืนๆ "ขอโทษเถอะว๊ะนิก ที่ฉันอาจจะดูอารมณ์หงุดหงิดไปสักหน่อย ฉันเองน่ะ ไม่ค่อยได้พลาดท่าเสียทีให้กับใครสักเท่าไร ก็เลยหงุดหงิดรำคาญอยู่จนถึงตอนนี้ ความจริงงานนี้ฉันไม่น่าจะพลาดเลยนะนิก? "
"งานนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่เมฆ... " นิกเอนหลังลงไปที่เก้าอี้นวมอย่างสบายอารมณ์ "นายเองก็สามารถกำจัดผีในห้องของนายณเดชออกไปได้ แม้จะไม่ใช่ด้วยฝีมือของนายเอง ส่วนนายณเดชนั่นตอนนี้ก็คงจะกลับไปนอนอยู่ที่คอนโดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว งานในเคสนี้ผ่านไปด้วยดี ส่วนค่าจ้างในการไล่ผีก็ถูกส่งมาเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างวินๆ ก็มีแต่นายเองเท่านั้นที่เกือบจะซวย เพราะว่าทางตำรวจเกือบจะตั้งข้อสงสัยว่านายเป็นโจรที่แอบลักลอบขึ้นไปบนตึกเพื่อจะโจรกรรมลักทรัพย์จนกระทั่งพลาดท่าตกลงจากระเบียงตึกซะเอง แต่เรื่องนี้นายณเดชก็ได้แก้ต่างให้กับนายเรียบร้อยแล้ว ว่านายเป็นเพื่อนที่มาเที่ยวที่ห้องของเขา และเป็นลมหน้ามืดพลัดตกลงไปน่ะ"
เมฆาจ้องตาของนิก "งานน่ะไม่เสียหายก็จริง แต่ความรู้สึกของฉันน่ะมันโคตรจะเสีย ไม่รู้สิ บางทีฉันอาจจะหงุดหงิดกับตัวเองมากกว่าอะไรอย่างอื่น และฉันก็อดจะคิดไม่ได้ว่า ถ้าฉันรอบคอบและระมัดระวังกว่านี้สักหน่อย วิญญาณของแม่ผีสาวที่ชื่อกาหลงนั่นน่ะก็คงจะไม่ต้องมาดับสูญไปแบบไม่ได้ผุดได้เกิดไปแบบนี้ "
"เฮ้อ... เอาน่าเมฆ ยังไงเหตุการณ์มันก็ผ่านไปแล้ว เรามาดูงานอื่นๆ กันดีกว่า ว่ามีงานเคสไหนที่พอจะทำให้เราสนใจหรือไปแก้มือกันได้ในช่วงนี้"
แล้วนิกก็กางสมุดบันทึกข้างหน้าโต๊ะออกมาดู
เมฆาจึงกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมที่อยู่หน้าโต๊ะของนิก พลางเคาะนิ้วที่มุมโต๊ะ "นายเองคงไม่ได้สนใจแต่เรื่องเงิน โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่นเลยใช่ไหมนิก? "
นิกกำลังพลิกหน้าสมุดบันทึกไปมาก็พลันเงยหน้ามองเมฆา "ไม่...ไม่เลยเมฆ ฉันไม่ได้สนใจแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ฉันน่ะคำนึงถึงเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญอีกด้วยนะ"
"อะไรล่ะ...? "
"เอาที่สำคัญสุดตอนนี้นะ อีกไม่กี่วันจะสิ้นเดือนอีกแล้ว และเราก็จำเป็นที่จะต้องเคลียร์เงินค่าเช่าสำนักงานแห่งนี้ ทั้งเดือนใหม่และเดือนเก่าอีกสองเดือนด้วยนะ ไม่อย่างนั้นก็เอวังกันล่ะ..."
แล้วเมฆาก็สะดุ้งเล็กน้อย "โอเคๆ .. รีบดูสมุดบันทึกของนายต่อไปซิ..."
นิกพลิกหน้าสมุดบันทึกไปมาอีกรอบหนึ่ง "ที่จริงมีเคสหนึ่งที่เพิ่งโทรมาเมื่อต้นเดือน ตอนนั้นนายก็ไม่อยู่พอดี ฉันก็เลยขอเบอร์โทรกลับของเขาไว้ เพราะในตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่านายจะกลับมาเมื่อไร ถ้าจำไม่ผิดนะ ตอนนั้นนายน่ะกำลังไปสืบเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ที่เขมรน่ะ"
"อื่อฮื้อ... เคสนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรรึ? " เมฆาถาม
"เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ผีที่สิงในของเล่นน่ะ คือมีครอบครัวหนึ่งเขาคิดว่ามีผีที่สิงอยู่ในของเล่นมือสองที่เขาซื้อมาให้ลูกชายของเขาน่ะ เพราะต่อมาลูกชายของเขาก็มีอาการผิดปกติ คือเลิกสุงสิงกับเพื่อนคนอื่นแม้แต่กับพ่อแม่ของตัวเอง และต่อมาพ่อแม่ของเด็กคนนั้นก็สังเกตุว่าลูกชายของเขามักจะแอบพูดแอบคุยกับของเล่นของเขาเองน่ะ"
"อืม... คงเป็นผีที่สิงในตุ๊กตาสินะ"
นิกส่ายหน้าทันที "โอ... คงจะเชยแล้วที่ผีจะมาสิงตุ๊กตา และนี่ก็เป็นเด็กผู้ชายนะ ของเล่นที่คาดว่ามีผีสิงของเด็กคนนี้น่ะ เป็น หุ่นยนต์โมเดลพลาสติกต่างหากล่ะเมฆ"
"เร๊อะ... ฉันยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลยแฮะ แต่มันก็คงจะไม่แตกต่างจากผีที่สิงตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนะฉันว่า..."
"ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น... เอ... ดูเหมือนว่านายจะไม่ค่อยสนใจเคสแบบนี้สักเท่าไรนะ" นิกติงเมฆาเพราะเห็นสีหน้าเขาเฉยๆ แล้วเขาก็พลิกสมุดบันทึกไปมาอีก "เคสแบบไหนก็น่าจะรับไว้ก่อนนะ ไม่งั้นเดือนหน้า การเงินของพวกเราก็อาจจะช็อตกันกระจุยกระจายเลยนะเว๊ย..." นิกบ่นออกมาเบาๆ
"ฉันก็ไม่ได้ว่า จะไม่รับงานนี้นี่นะ ฉัน...? "
"เดี๋ยวนะ... เหมือนฉันจะลืมอะไรบางอย่างไป..." นิกยกมือเบรคเมฆาไว้
"เมื่อไม่กี่วันนี้ มีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาหานายนะ บอกว่ามีเคสด่วนหรือเคสสำคัญที่อยากให้นายไปช่วยหน่อย พอคนๆ นี้เล่ารายละเอียดคร่าวๆ แล้ว ก็บอกมาอีกว่า เคสนี้น่ะอาจจะอยู่ไกลไปสักหน่อยเพราะเป็นเคสที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัดแถวภาคกลางตอนบน แถมคนโทรมาก็ไม่อาจจะรับประกันได้ว่านายจะได้เงินค่าจ้างหรือเปล่า? "
"เฮ๊อะ... มีอย่างงี้ด้วยเหรอว๊ะ จะงานปราบผีหรืองานอะไร ก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกันนะโว๊ย จริงไม๊ล่ะนิก? งานนี้ตัดไปก่อนเถอะว่ะ" เมฆาเกิดอาการฉุนขึ้นมานิดหน่อย เลยไม่อยากจะฟังรายละเอียดของงานเคสนี้ต่อไป
"ฮ่าๆ ที่จริงฉันก็อยากให้นายรับงานแรกมากกว่า เพราะถึงจะดูว่าเป็นเคสที่ไม่หวือหวานัก แต่ก็ได้ค่าจ้างแน่ๆ แต่ว่า..." นิกชะโงกหน้าไปใกล้เมฆา "คนที่โทรมาสั่งว่า ให้บอกนายด้วยว่า นี่เป็นการขอร้องของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของนายเอง... ฉันก็เลยอึ้ง จากนั้นเธอก็บอกชื่อของเธอมาคำหนึ่ง แล้วก็วางสายไปเลย"
"เพื่อนเก่า...? " เมฆาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งทันที "ใครว๊ะ...? เพื่อนเก่า? นอกจากนายแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยมีหรอกนะเพื่อนเก่าน่ะ? และนายพูดว่า'เธอ'ใช่ไม๊ว๊ะนิก? งั้นคนคนนี้ก็เป็นผู้หญิงงั้นสิ แล้วชื่อของเธอล่ะ? "
"อาคิราห์...! "
นิกบอกอย่างเน้นเสียง "ชื่อของเธอก็คือ 'อาคิราห์' นายรู้จักเธอไม๊ล่ะเมฆ? "
เมฆารีบลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้นวมทันที
"ที่แท้ก็... ยายแม่มดนั่นน่ะเอง!! "
นิกทำหน้าเหรอหรามองเมฆา "แม่มดรึ...? ตกลงเธอไม่ใช่คนดีงั้นสิ? "
"เปล่าหรอกนิก..." เมฆาหันหน้ากลับมามองนิก "ที่จริงฉันเป็นหนี้ชีวิตเธอต่างหากล่ะ..."
แล้วเมฆาก็นั่งลงเหมือนเดิม "คือฉันไม่เคยเจอกับเธอมานานมาก และไม่คิดว่าจะเป็นเธอที่ติดต่อมาทางนาย เมื่อเป็นการขอร้องมาจากทางเธอ ฉันก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ ก็อย่างที่บอกว่าฉันเคยเป็นหนี้ชีวิตเธอ แล้วไอ้เคสที่ว่านี้ ตกลงมันเป็นเคสที่เกี่ยวกับอะไรกันล่ะนิก...? "
"ฉันพอจะจดไว้อยู่..." นิกพลิกสมุดบันทึกอีกครั้ง "เคสที่เพื่อนเก่าของนายขอร้องให้นายไปจัดการนี้น่ะ... มันเป็นเรื่องของ 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย'น่ะ! "
หัวคิ้วของเมฆาขมวดเข้าหากันทันที
สมุดวาดเขียนสั่งตาย...?!
อา... ฟังดูแล้ว นี่มันดูจะไม่ใช่เคสธรรมดาๆ ซะแล้วล่ะมั้ง? และก็ใช่แล้ว... ถ้าเป็นเคสธรรมดาๆ คนที่มีความสามารถสูงอย่าง'อาคิราห์'ก็คงจะไม่ติดต่อเขามาแน่ๆ
"นิก เดี๋ยวอ่านรายละเอียดของเคสนี้ให้ฉันฟังหน่อยนะ"
"ได้เลย..." นิกก้มลงจะอ่านรายละเอียดให้เมฆาฟัง แต่ก็เงยหน้าขึ้นซะก่อน "แต่ว่าเมฆ... ร่างกายของนายน่ะ มันจะไหวเหรอตอนนี้? "
เมฆาลุกขึ้นยืน แล้วมองหน้านิกด้วยมาดที่เข้มสุดๆ
"นายก็รู้ว่าร่างกายของฉันมันไม่ใช่ธรรมดา...! ไม่เกินเช้าวันพรุ่งนี้ล่ะ ที่นายจะเห็นฉันเลิกเดินขาเป๋อย่างแน่นอน และฉันก็พร้อมจะเดินทางทันที...! "
คำตอบที่ชัดเจนของเมฆา เล่นเอานิกอ้าปากค้างไปชั่วขณะ...!
(โปรดติดตาม ตอนที่ 2 ของ 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย' อีกไม่นานเกินรอครับ)
"เมื่อไรนายจะหยุดเดินไปเดินมาสักทีว๊ะเมฆ? " นิกนั่งเท้าคางมองเมฆจากที่โต๊ะของเขา "นายเดินกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้เป็นชั่วโมงแล้วนะ รู้ป่าว แล้วไอ้ขาที่เป๋ของนายน่ะ แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร? ที่จริงนายเองน่ะ ไม่ควรจะหนีออกมาจากรพ.หรอกนะ น่าจะให้หมอเขารักษาให้ดีๆ ก่อน ถ้าตอนหลังนายเกิดพิการเดินขาเป๋ไปตลอดชีวิตจะแย่เอานะเว้ย..! "
เมฆาหันขวับมาทันที "เฮ๊อะ... ฉันอยู่ในรพ.หนึ่งวันก็เหมือนอยู่ในนรกหนึ่งปี นี่อยู่ไปหกวันก็เหมือนอยู่ในนรกหกปี ฉันทนต่อไปไม่ได้หรอกว่ะนิก แล้วนายก็ไม่ต้องมาห่วงอะไรกับร่างกายของฉันด้วย เพราะขาของฉันน่ะ มันไม่ได้เป๋หรอกนะ ฉันรู้ตัวของฉันดี ต่อให้มันเป๋ไปจริงๆ ฉันก็จะทำให้มันกลับมาดีเหมือนเดิมจนได้แหล่ะ เฮ๊อะ! "
"เคๆ ๆ " นิกยกมือโบก "ฉันรู้ว่านายน่ะมีร่างกายไม่เหมือนคนอื่นเขา นายมีของดีที่ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว ถ้าเป็นคนอื่น คงได้ตายห่าตั้งแต่ยังไม่ถึงรพ.แล้ว เฮ้อ... ฉันเองก็แค่เป็นห่วงนายในฐานะเพื่อนก็แค่นั้นเองหรอกนะ"
เมฆาหยุดเดิน และยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างฝืนๆ "ขอโทษเถอะว๊ะนิก ที่ฉันอาจจะดูอารมณ์หงุดหงิดไปสักหน่อย ฉันเองน่ะ ไม่ค่อยได้พลาดท่าเสียทีให้กับใครสักเท่าไร ก็เลยหงุดหงิดรำคาญอยู่จนถึงตอนนี้ ความจริงงานนี้ฉันไม่น่าจะพลาดเลยนะนิก? "
"งานนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่เมฆ... " นิกเอนหลังลงไปที่เก้าอี้นวมอย่างสบายอารมณ์ "นายเองก็สามารถกำจัดผีในห้องของนายณเดชออกไปได้ แม้จะไม่ใช่ด้วยฝีมือของนายเอง ส่วนนายณเดชนั่นตอนนี้ก็คงจะกลับไปนอนอยู่ที่คอนโดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว งานในเคสนี้ผ่านไปด้วยดี ส่วนค่าจ้างในการไล่ผีก็ถูกส่งมาเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างวินๆ ก็มีแต่นายเองเท่านั้นที่เกือบจะซวย เพราะว่าทางตำรวจเกือบจะตั้งข้อสงสัยว่านายเป็นโจรที่แอบลักลอบขึ้นไปบนตึกเพื่อจะโจรกรรมลักทรัพย์จนกระทั่งพลาดท่าตกลงจากระเบียงตึกซะเอง แต่เรื่องนี้นายณเดชก็ได้แก้ต่างให้กับนายเรียบร้อยแล้ว ว่านายเป็นเพื่อนที่มาเที่ยวที่ห้องของเขา และเป็นลมหน้ามืดพลัดตกลงไปน่ะ"
เมฆาจ้องตาของนิก "งานน่ะไม่เสียหายก็จริง แต่ความรู้สึกของฉันน่ะมันโคตรจะเสีย ไม่รู้สิ บางทีฉันอาจจะหงุดหงิดกับตัวเองมากกว่าอะไรอย่างอื่น และฉันก็อดจะคิดไม่ได้ว่า ถ้าฉันรอบคอบและระมัดระวังกว่านี้สักหน่อย วิญญาณของแม่ผีสาวที่ชื่อกาหลงนั่นน่ะก็คงจะไม่ต้องมาดับสูญไปแบบไม่ได้ผุดได้เกิดไปแบบนี้ "
"เฮ้อ... เอาน่าเมฆ ยังไงเหตุการณ์มันก็ผ่านไปแล้ว เรามาดูงานอื่นๆ กันดีกว่า ว่ามีงานเคสไหนที่พอจะทำให้เราสนใจหรือไปแก้มือกันได้ในช่วงนี้"
แล้วนิกก็กางสมุดบันทึกข้างหน้าโต๊ะออกมาดู
เมฆาจึงกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมที่อยู่หน้าโต๊ะของนิก พลางเคาะนิ้วที่มุมโต๊ะ "นายเองคงไม่ได้สนใจแต่เรื่องเงิน โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่นเลยใช่ไหมนิก? "
นิกกำลังพลิกหน้าสมุดบันทึกไปมาก็พลันเงยหน้ามองเมฆา "ไม่...ไม่เลยเมฆ ฉันไม่ได้สนใจแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ฉันน่ะคำนึงถึงเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญอีกด้วยนะ"
"อะไรล่ะ...? "
"เอาที่สำคัญสุดตอนนี้นะ อีกไม่กี่วันจะสิ้นเดือนอีกแล้ว และเราก็จำเป็นที่จะต้องเคลียร์เงินค่าเช่าสำนักงานแห่งนี้ ทั้งเดือนใหม่และเดือนเก่าอีกสองเดือนด้วยนะ ไม่อย่างนั้นก็เอวังกันล่ะ..."
แล้วเมฆาก็สะดุ้งเล็กน้อย "โอเคๆ .. รีบดูสมุดบันทึกของนายต่อไปซิ..."
นิกพลิกหน้าสมุดบันทึกไปมาอีกรอบหนึ่ง "ที่จริงมีเคสหนึ่งที่เพิ่งโทรมาเมื่อต้นเดือน ตอนนั้นนายก็ไม่อยู่พอดี ฉันก็เลยขอเบอร์โทรกลับของเขาไว้ เพราะในตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่านายจะกลับมาเมื่อไร ถ้าจำไม่ผิดนะ ตอนนั้นนายน่ะกำลังไปสืบเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ที่เขมรน่ะ"
"อื่อฮื้อ... เคสนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรรึ? " เมฆาถาม
"เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ผีที่สิงในของเล่นน่ะ คือมีครอบครัวหนึ่งเขาคิดว่ามีผีที่สิงอยู่ในของเล่นมือสองที่เขาซื้อมาให้ลูกชายของเขาน่ะ เพราะต่อมาลูกชายของเขาก็มีอาการผิดปกติ คือเลิกสุงสิงกับเพื่อนคนอื่นแม้แต่กับพ่อแม่ของตัวเอง และต่อมาพ่อแม่ของเด็กคนนั้นก็สังเกตุว่าลูกชายของเขามักจะแอบพูดแอบคุยกับของเล่นของเขาเองน่ะ"
"อืม... คงเป็นผีที่สิงในตุ๊กตาสินะ"
นิกส่ายหน้าทันที "โอ... คงจะเชยแล้วที่ผีจะมาสิงตุ๊กตา และนี่ก็เป็นเด็กผู้ชายนะ ของเล่นที่คาดว่ามีผีสิงของเด็กคนนี้น่ะ เป็น หุ่นยนต์โมเดลพลาสติกต่างหากล่ะเมฆ"
"เร๊อะ... ฉันยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลยแฮะ แต่มันก็คงจะไม่แตกต่างจากผีที่สิงตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนะฉันว่า..."
"ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น... เอ... ดูเหมือนว่านายจะไม่ค่อยสนใจเคสแบบนี้สักเท่าไรนะ" นิกติงเมฆาเพราะเห็นสีหน้าเขาเฉยๆ แล้วเขาก็พลิกสมุดบันทึกไปมาอีก "เคสแบบไหนก็น่าจะรับไว้ก่อนนะ ไม่งั้นเดือนหน้า การเงินของพวกเราก็อาจจะช็อตกันกระจุยกระจายเลยนะเว๊ย..." นิกบ่นออกมาเบาๆ
"ฉันก็ไม่ได้ว่า จะไม่รับงานนี้นี่นะ ฉัน...? "
"เดี๋ยวนะ... เหมือนฉันจะลืมอะไรบางอย่างไป..." นิกยกมือเบรคเมฆาไว้
"เมื่อไม่กี่วันนี้ มีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาหานายนะ บอกว่ามีเคสด่วนหรือเคสสำคัญที่อยากให้นายไปช่วยหน่อย พอคนๆ นี้เล่ารายละเอียดคร่าวๆ แล้ว ก็บอกมาอีกว่า เคสนี้น่ะอาจจะอยู่ไกลไปสักหน่อยเพราะเป็นเคสที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัดแถวภาคกลางตอนบน แถมคนโทรมาก็ไม่อาจจะรับประกันได้ว่านายจะได้เงินค่าจ้างหรือเปล่า? "
"เฮ๊อะ... มีอย่างงี้ด้วยเหรอว๊ะ จะงานปราบผีหรืองานอะไร ก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกันนะโว๊ย จริงไม๊ล่ะนิก? งานนี้ตัดไปก่อนเถอะว่ะ" เมฆาเกิดอาการฉุนขึ้นมานิดหน่อย เลยไม่อยากจะฟังรายละเอียดของงานเคสนี้ต่อไป
"ฮ่าๆ ที่จริงฉันก็อยากให้นายรับงานแรกมากกว่า เพราะถึงจะดูว่าเป็นเคสที่ไม่หวือหวานัก แต่ก็ได้ค่าจ้างแน่ๆ แต่ว่า..." นิกชะโงกหน้าไปใกล้เมฆา "คนที่โทรมาสั่งว่า ให้บอกนายด้วยว่า นี่เป็นการขอร้องของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของนายเอง... ฉันก็เลยอึ้ง จากนั้นเธอก็บอกชื่อของเธอมาคำหนึ่ง แล้วก็วางสายไปเลย"
"เพื่อนเก่า...? " เมฆาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งทันที "ใครว๊ะ...? เพื่อนเก่า? นอกจากนายแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยมีหรอกนะเพื่อนเก่าน่ะ? และนายพูดว่า'เธอ'ใช่ไม๊ว๊ะนิก? งั้นคนคนนี้ก็เป็นผู้หญิงงั้นสิ แล้วชื่อของเธอล่ะ? "
"อาคิราห์...! "
นิกบอกอย่างเน้นเสียง "ชื่อของเธอก็คือ 'อาคิราห์' นายรู้จักเธอไม๊ล่ะเมฆ? "
เมฆารีบลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้นวมทันที
"ที่แท้ก็... ยายแม่มดนั่นน่ะเอง!! "
นิกทำหน้าเหรอหรามองเมฆา "แม่มดรึ...? ตกลงเธอไม่ใช่คนดีงั้นสิ? "
"เปล่าหรอกนิก..." เมฆาหันหน้ากลับมามองนิก "ที่จริงฉันเป็นหนี้ชีวิตเธอต่างหากล่ะ..."
แล้วเมฆาก็นั่งลงเหมือนเดิม "คือฉันไม่เคยเจอกับเธอมานานมาก และไม่คิดว่าจะเป็นเธอที่ติดต่อมาทางนาย เมื่อเป็นการขอร้องมาจากทางเธอ ฉันก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ ก็อย่างที่บอกว่าฉันเคยเป็นหนี้ชีวิตเธอ แล้วไอ้เคสที่ว่านี้ ตกลงมันเป็นเคสที่เกี่ยวกับอะไรกันล่ะนิก...? "
"ฉันพอจะจดไว้อยู่..." นิกพลิกสมุดบันทึกอีกครั้ง "เคสที่เพื่อนเก่าของนายขอร้องให้นายไปจัดการนี้น่ะ... มันเป็นเรื่องของ 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย'น่ะ! "
หัวคิ้วของเมฆาขมวดเข้าหากันทันที
สมุดวาดเขียนสั่งตาย...?!
อา... ฟังดูแล้ว นี่มันดูจะไม่ใช่เคสธรรมดาๆ ซะแล้วล่ะมั้ง? และก็ใช่แล้ว... ถ้าเป็นเคสธรรมดาๆ คนที่มีความสามารถสูงอย่าง'อาคิราห์'ก็คงจะไม่ติดต่อเขามาแน่ๆ
"นิก เดี๋ยวอ่านรายละเอียดของเคสนี้ให้ฉันฟังหน่อยนะ"
"ได้เลย..." นิกก้มลงจะอ่านรายละเอียดให้เมฆาฟัง แต่ก็เงยหน้าขึ้นซะก่อน "แต่ว่าเมฆ... ร่างกายของนายน่ะ มันจะไหวเหรอตอนนี้? "
เมฆาลุกขึ้นยืน แล้วมองหน้านิกด้วยมาดที่เข้มสุดๆ
"นายก็รู้ว่าร่างกายของฉันมันไม่ใช่ธรรมดา...! ไม่เกินเช้าวันพรุ่งนี้ล่ะ ที่นายจะเห็นฉันเลิกเดินขาเป๋อย่างแน่นอน และฉันก็พร้อมจะเดินทางทันที...! "
คำตอบที่ชัดเจนของเมฆา เล่นเอานิกอ้าปากค้างไปชั่วขณะ...!
(โปรดติดตาม ตอนที่ 2 ของ 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย' อีกไม่นานเกินรอครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ