สืบสู้ผี ภาค เมฆาคนล่าผี
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 04.55 น.
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ว่านผีสิง Part 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมฆายืนมองนกแสกประหลาดที่เกาะอยู่ตรงขอบระเบียงหลังห้องด้วยสีหน้าที่ปราศจากอาการตื่นตระหนก
"แกเป็นใคร...?" เขาเอ่ยถามเจ้านกหน้าโลหิตด้วยเสียงต่ำๆ ขณะที่ก็เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการจู่โจมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจนก... ยิ่งมันเป็นนกประหลาดที่มีสีสันผิดธรรมชาติแบบนี้...? เมฆาบอกกับตัวของเขาเอง
เจ้านกแสกประหลาดไม่ยอมตอบว่าอะไร แต่กลับหมุนหัวจนจงอยปากของมันขึ้นไปอยู่ที่ส่วนบน และส่วนที่เป็นตาทั้งคู่ของมันกลับไปอยู่ที่ส่วนล่าง อันเป็นเอกลักษณะเฉพาะของนกตระกูลนี้ที่สามารถหมุนหัวหรือคอไปได้เกือบรอบ
"แกไม่รู้จักข้าหรอก คริคริ..." มันกลับย้อนถาม "แต่ว่าข้าน่ะ ดันรู้จักแกดีทีเดียวนะ คริคริคริ..."
คำพูดของมันทำให้เมฆาถึงกับตาเบิกโพลงขึ้นวูบหนึ่ง
นี่มันรู้จักเราด้วยรึนี่...? สงสัยว่าเมื่อครู่นี้มันก็คงจะแอบจับตาดูเรามาตั้งแต่ตอนแรกที่เราได้เข้ามาแน่ๆ...?
"ชื่อของเจ้าน่ะ ก็คือ เมฆา คนต่างด้าวชาวเขมร..." เจ้านกหน้าแดงพูดต่อ "เจ้ากำลังวางแผนที่จะสืบหาเจ้านายผู้แสนดีของข้า โดยมาเปิดสำนักงานนักสืบในเมืองไทยเพื่อหวังจะฟลุ๊กได้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของเจ้านายข้า แต่เจ้านายของข้าน่ะก็รู้ทุกอย่าง และก็อย่าหวังเลยว่า เจ้าจะมีปัญญามาทำลายแผนการที่สำคัญของท่านลงได้... คริคริ..."
"เรอะ..." เมฆากระพริบตาปริบๆ "แล้วที่เจ้าเผยตัวออกมาอย่างนี้ ไม่คิดว่ามันจะสายเกินไปรึ เพราะในครั้งนี้ข้าเองก็สามารถที่จะหยุดยั้งน้องคนสวยนั่นให้หยุดการทำตัวเป็นปิศาจผู้ชั่วร้ายลงได้แล้ว...?"
"คริคริคริ..." เจ้านกแสกหัวเรเราะแล้วหมุนคอกลับมาเหมือนเดิม "เจ้าคิดว่า หยุดยั้งนางไว้ได้แล้วรึ ? เจ้าอย่าลืมว่าจะอย่างไรนางก็ยังเป็นข้าทาสที่อยู่ในความควบคุมของเจ้านายข้า คริคริคริ"
"ข้าจะปลดปล่อยนางเอง ข้าจะปลดปล่อยให้นางหลุดพ้นจากการเป็นทาสของไอ้เฒ่าปิศาจนั่นเอง...! เสียงของเมฆาประกาศออกมาอย่างมั่นใจชัดเจน
ขณะนั้นน้ำตาแห่งจิตวิญญาณของหญิงสาวผู้เป็นปิศาจต้นว่านก็เอ่อทะลักออกมาราวกับสายน้ำขณะที่นางยังคงนั่งอยู่ที่กลางห้อง
"คริคริคริ... ช่างน่าขำนัก คนที่จะสามารถปลดปล่อยนางให้เป็นอิสระได้ ก็คือเจ้านายของข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้นล่ะ ใช่ไม๊ นังกาหลง ?!" เจ้านกประหลาดหันไปเรียกชื่อของหญิงสาว
แล้วเมฆาก็ได้รู้ในจังหวะนี้ว่า ที่แท้ชื่อของปิศาจสาวตนนี้ก็คือ 'กาหลง' แต่ภายหลังจากการถูกเอ่ยนาม ปิศาจสาวตนนี้ก็มีอาการตัวสั่นขึ้นมาจนแทบทรงตัวไม่อยู่
"ข้า... ข้าทำงานไม่สำเร็จ... แต่ข้าก็ไม่อยากจะทำต่อไปอีกแล้ว ข้าไม่อยากจะเป็นปิศาจผู้ชั่วร้ายอีกแล้ว...!" เสียงของกาหลงปิศาจสาวบอกออกมาชัดถ้อยชัดคำ
"คริคริคริ คำประกาศของเจ้าชัดเจนดีมาก ถ้างั้น..."
แล้วเจ้านกแสกก็ดีดตัวโผพุ่งเข้าไปยังร่างของกาหลงทันที !
"จงแตกดับสลายไปซะตอนนี้เถอะ...!!"
แต่ในพริบตานั้น เมฆาก็โผพุ่งร่างเข้าไปขวางทิศทางที่เจ้านกแสกพุ่งเข้าไปหาปิศาจสาวทันที !
และในชั่วพริบตานั้นเช่นกัน ที่เจ้านกแสกก็เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหันราวกับมันมีร่างที่อยู่เหนือกฏของฟิสิกส์...!
จากที่เมฆาได้เห็นแน่ๆแล้วว่ามันกำลังพุ่งร่างเข้าไปหากาหลงมันก็กลายเป็นว่ามันได้เปลี่ยนทิศกลางอากาศได้อย่างเหลือเชื่อ แล้วพุ่งเข้าไปที่ต้นว่านที่อยู่ในกระถางตรงระเบียงทันที ในขณะที่เขาเองก็ล้มลงไปกองตรงหน้าของกาหลงอย่างเสียศูนย์...!
แล้วเจ้านกแสกก็ได้พ่นบางสิ่งบางอย่างที่ดูราวกับเป็นน้ำสีเขียวๆลงไปที่ต้นว่านทันที จากนั้นมันก็โผขึ้นไปเกาะอยู่ที่กำแพงริมระเบียงอีกครั้ง
เมฆารีบหันกลับไปมองยังที่ต้นว่านในกระถางนั้นด้วยความรู้สึกที่ว่า ไม่น่าเสียรู้ให้กับเจ้าสัตว์ปีกอันอัปลักษณ์นั้นได้อย่างง่ายๆเลย และเขาเองก็ดันกลับลืมคิดที่จะปกป้องต้นว่านนั่นเอาไว้ก่อน และตอนนี้มันก็คงจะสายเกินไป เพราะหลังจากที่ต้นว่านได้ถูกน้ำสีเขียวๆจากปากของเจ้านกแสกพ่นใส่ มันก็ค่อยๆปรากฏกลุ่มควันสีขาวพร้อมๆกับกลิ่นเผาไหม้ที่บนลำต้นของต้นว่านขึ้นมาอย่างทันที พร้อมๆกับที่ต้นว่านนั้นก็ค่อยๆเปื่อยสลายลงไปราวกับโดนน้ำกรดอันรุนแรงเข้ากัดกร่อนอย่างรวดเร็ว...!
จากนั้นเสียงร้องอันโหยหวนของกาหลงก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของเมฆา
เมฆารีบเหลียวหน้ากลับไป ก็ได้เห็นว่าร่างของกาหลงค่อยๆสลายตัวไปกับอากาศธาตุที่อยู่รอบๆตัวด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดรวดร้าวเหลือประมาณ
"พี่... เมฆา... " เสียงอันสั่นเครือของกาหลงเฉือดเฉือนจิตใจของเมฆาอย่างที่เขาไม่อยากที่จะยอมรับมัน "ขอบ... คุณ... สำหรับ... สิ่งดีๆ... ที่พี่เมฆา... อยากจะทำ... เพื่อฉัน... กาหลงขอลา... ก่อน..."
คำสุดท้ายที่ออกจากปากของกาหลง ได้จางหายไปพร้อมๆกับร่างวิญญาณของเธอที่ได้แตกดับไปอย่างที่จะไม่มีวันได้หวนกลับมาอีกแน่นอน
และเมื่อเมฆาได้หันกลับไปมองที่ต้นว่านในกระถาง ก็เห็นว่าบัดนี้มันก็เหลือแต่ซากของต้นว่านที่กองเปื่อยยุ่ยอยู่ในกระถางแค่นั้นเอง
เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้านกแสกประหลาดที่ยังคงเกาะนิ่งอยู่ที่กำแพงริมระเบียงด้วยความรู้สึกที่อยากจะขย้้ำฉีกเนื้อของมันให้แหลกคามือไปซะเหลือเกินในตอนนี้
แล้วเจ้านกประหลาดก็ทำท่าเอียงคอมองดูเขาราวกับจะเย้ยหยันเขาให้สาสมใจ
พริบตานั้น เมฆาก็โผพุ่งทะยานเข้าไปหาเจ้านกด้วยความเร็วดุจสายฟ้า...!
แต่เจ้านกเองก็ดูเหมือนจะตั้งหลักรับการจู่โจมจากเมฆาอยู่แล้ว มันรีบโผพุ่งขึ้นสู่ด้านบนทันที ทำให้เมฆาคว้าได้แต่อากาศธาตุ และพยายามจะโผพุ่งขึ้นรวบตัวมันที่ลอยตัวอยู่เหนือหัวให้ได้ ในขณะที่เท้าของเขาก็ขึ้นไปเหยียบอยู่ตรงขอบระเบียงอย่างหมิ่นเหม่เต็มที...!
แล้วเจ้านกแสกก็กระพือปีกถี่ๆก่อนที่จะหมุนตัวลงไปที่ด้านหลังของเมฆาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับใช้ขาทั้งสองข้างตะกุยลงไปที่หลังศรีษระของเมฆาอย่างไม่ปราณี...!
แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เมฆาผู้ที่กำลังมีอารมณ์โทสะพลันแล่นขึ้นหน้า ต้องเสียหลักร่วงตกลงไปจากขอบระเบียงของห้องคอนโดที่อยู่สูงถึงชั้นสิบห้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัว...!
เสียงโครมใหญ่ที่เบื้องล่าง พร้อมๆกับภาพของเมฆาที่นอนหงายแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว...
ไม่... ร่างกายของเขาเท่านั้นที่หยุดการเคลื่อนไหว แต่ในสายตาทั้งสองของคลองจักษุของเขานั้น เขายังคงมองเห็นร่างของเจ้าสัตว์ปีกอันอัปลักษณ์นั่นค่อยๆบินจากไปพร้อมๆกับเสียงหัวเราะ คริคริคริ ที่ดังก้องกังวานไปถึงขั้วประสาทแห่งจิตวิญญาณของเขาที่ประสบกับคำว่า 'พ่ายแพ้' ให้กับมันอย่างขมขื่นในครั้งนี้... !
(จบตอน 'ว่านผีสิงห์' โปรดติดตามตอนต่อไป ในเร็วๆนี้ครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ