สืบสู้ผี ภาค เมฆาคนล่าผี
6.7
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 04.55 น.
26 ตอน
2 วิจารณ์
22.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) สมุดวาดเขียนสั่งตาย part 20 คืนร่าง !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสิ่งที่เคยเป็นอาจารย์คงผู้เป็นเกจิอาจารย์ทางเวทมนต์ผู้ชำนาญการปราบผี บัดนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นหญิงสาวนางหนึ่งที่มีรูปโฉมงดงามปานภาพวาดที่อยู่ในเครื่องแต่งกายแบบชาววังของพวกขอมโบราณ
เเละหญิงสาวผู้นี้ก็ค่อยๆเดินเยื้องย่างเข้ามาจนใกล้ครูชัยรัตน์และเมขลาด้วยสายตาที่คมวาวและเต็มไปด้วยรังสีแห่งการกดดันชนิดหนึ่ง
"ป... ปานวาด !" ครูชัยรัตน์อุทานออกมาอย่างตะลึงพรึงเพริด "เธอ... เธอตายไปแล้วนี่ ?!" จากนั้นเขาก็ขยับร่างถอยหลังไปอย่างไม่รู้สึกตัว
เมขลาเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาทันที และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่า สิ่งที่เธอเห็นอยู่ข้างหน้านี้ก็คือเด็กหญิงปานวาดจริงๆ
เด็กหญิงปานวาดผู้ที่มีเรือนร่างราวกับหญิงแรกรุ่นทั้งที่ยังเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนประถมคนหนึ่งเท่านั้น !
แต่ทว่าสิ่งที่น่าแปลกใจในขณะนี้ก็คือ ทำไมเด็กหญิงปานวาดถึงได้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างสมส่วนเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวยิ่งกว่าเด็กหญิงปานวาดคนเดิมที่เธอเคยได้เห็นมาก่อนหน้านี้อีกล่ะ ?
แล้วเธอก็อดจะเกิดคำถามใหม่อยู่ในใจด้วยความพรั่นพรึงไม่ได้ว่า หญิงสาวประหลาดที่กลายร่างมาจากอาจารย์คงผู้นี้ จะใช่ เด็กหญิงปานวาด หรือไม่ใช่เด็กหญิงปานวาดกันแน่ล่ะ..?!
"ตกใจกันมากสินะ..." หญิงสาวประหลาดกวาดสายตาไปที่ครูชัยรัตน์และเมขลา "พวกแกกำลังคิดว่าข้าจะใช่เด็กหญิงคนนั้นหรือไม่ใช่กันแน่ใช่ไหม ?" แล้วเธอก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นจนน่าขนลุก
"เธอ... เธอก็คือปานวาด ไม่ใช่ เหรอ...?" ครูชัยรัตน์ถามขึ้นอย่างปากคอสั่น จากนั้นก็ขยี้ตาตนเองไปมา แล้วเพ่งมองหญิงสาวข้างหน้าด้วยสีหน้าอันหวาดหวั่น
"หรือว่า... หรือว่าเธอจะไม่ใช่ แต่... แต่ยังไงเธอก็ตายไปแล้วนี่ อย่า... อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้วล่ะ...!"
เมื่อครูชัยรัตน์เห็นแล้วว่า หญิงสาวผู้นี้จะเป็นอะไรอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากผีเด็กหญิงปานวาดแน่ๆ เขาก็ยกมือพนมไหว้ขึ้นเหนือหัวอย่างตัวสั่นงันงกทันที
"อยากจะรู้ความจริงกันใช่ไหม งั้นก็จะบอกให้..." หญิงสาวประหลาดแสยะยิ้ม
"ที่จริงข้าไม่ใช่ เด็กหญิงปานวาด และข้าก็ใช่... เด็กหญิงปานวาด เราอาจเป็นคนเดียวกัน และอาจไม่ใช่คนเดียวกัน...!"
เมขลาได้ฟังคำตอบของหญิงประหลาดก็ถึงกับอึ้งจนร่างชงักค้าง และแม้แต่ครูชัยรัตน์ที่ตั้งท่าจะกระชากร่างของเมขลาให้โกยอ้าวไปด้วยกันก็ยังขาแข็งราวกับโดนสกดไว้
แล้วหญิงสาวประหลาดผู้นี้ก็แหงนหน้าหัวเราะพลางหมุนร่างตัวเองไปรอบๆ
"พวกเจ้า ลองดูกันให้ชัดๆสิ ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ฮ่าฮ่าฮ่า"
ครูชัยรัตน์กับเมขลาต่างประคองร่างของกันและกันขณะที่ต่างก็เหลียวหน้าไปมาเพื่อสำรวจรอบๆตัว จากนั้นทั้งสองก็ได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์อันน่าเหลือเชื่อเพิ่มเข้ามาอีก
รอบๆบริเวณของทั้งสองในขณะนี้กลับไม่ใช่พื้นที่ที่เป็นถนนหรือชายป่าที่อยู่รายรอบหมู่บ้านทับรุ้งอีกต่อไปแล้ว แต่มันกลับกลายเป็นที่ไหนสักแห่งที่เป็นสถานที่อันโล่งกว้างที่มีต้นไม้ที่คล้ายๆต้นหมากหรือต้นตาลขึ้นอยู่ประปราย มองเลยไปไม่ไกลก็ยังเห็นตัวปราสาทหินโบราณตั้งอย่างโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้น
ทิวทัศน์รอบๆตัวของทั้งสองในขณะนี้ก็ดูชัดเจนและค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสายตาของทั้งสองก็ได้มองเห็นกำแพงเมืองโบราณปรากกฎขึ้นมาอีกทิศหนึ่งในระยะราวห้าร้อยเมตร เลยข้ามกำแพงเข้าไปยังมองเห็นสิ่งที่เหมือนมหาราชวังโบราณอันสวยงาม
ครูชัยรัตน์กับเมขลาแม้จะตระหนกกับสิ่งที่เห็นอยู่รอบๆ แต่ก็ยังอดรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นมาไม่ได้ว่าอยู่ๆพวกตนได้มาอยู่ในสถานที่อันแปลกประหลาดนี้ได้อย่างไรกัน ?
"เราอยู่ที่ไหนกันพี่ชัยรัตน์...? หรือว่าพวกเราตายไปแล้ว จึงได้มาอยู่ในสถานที่อันสวยงามแห่งนี้ ?" เมขลาถามครูชัยรัตน์โดยก็ลืมไปว่าหญิงสาวประหลาดยังยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกตน
"ไม่รู้สิเม..." ครูชัยรัตน์ตอบเมขลาขณะที่สายตาก็ยังไม่ละจากตัวมหาราชวังที่อยู่ภายในกำแพง "แต่ที่นี่มันช่างสวยงามอย่างว่าจริงๆนั่นล่ะ"
"แม้แต่พวกเจ้าก็ยังชอบสินะ..." เสียงหญิงสาวประหลาดพูดขึ้นอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้ครูชัยรัตน์กับเมขลาสะดุ้งกันขึ้นมาทันที
"แต่พวกเจ้าก็คงจะไม่รู้กันหรอกว่า สถานที่อันสวยงามแห่งนี้เอง ที่สร้างความรันทดคับแค้นให้กับข้า ข้าผู้ถูกปรักปรำ ข้าผู้ถูกหักหลัง จนไฟแค้นของข้าได้ถูกจุดให้พัดโหมไปทั่วสถานที่แห่งนี้ิ ข้าจึงได้ตัดสินใจที่จะทำลายทั้งศัตรูและสถานที่แห่งนี้ให้มันมอดไหม้ไปกับสายตาข้าทั้งหมด !"
ขาดคำของหญิงสาวประหลาด ภาพมหาราชวังภายในรั้วกำแพงก็แปรสภาพเป็นมหาราชวังที่มีเปลวเพลิงโหมไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นสิ่งก่อสร้างทั้งหลายภายในนั้นก็ค่อยๆพังทลายลงไปอย่างน่ากลัว !
ครูชัยรัตน์กับเมขลาต่างก็ตกใจกับภาพที่เห็น แต่เมื่อหันกลับไปมองที่ตัวปราสาทหินที่อยู่ภายนอกกำแพง ก็กลับไม่ได้มีเปลวเพลิงเผาไหม้หรือได้พังทลายลงไปเช่นพระราชวังในกำแพง
แต่ว่าจู่ๆสภาพบรรยากาศที่สว่างไสวอยู่เมื่อครู่ ในขณะนี้ก็กลับสลัวมืดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง และทันใดนั้นก็ปรากฏภาพของลานพิธิอะไรบางอย่างปรากฏอยู่ที่เบื้องหน้าของปราสาทหิน
ที่ด้านหน้าของลานพิธีแห่งนี้ ยังมีผู้คนจำนวนหลายสิบคนที่แต่งกายแบบคนโบราณชุมนุมกันอยู่ โดยที่ในมืิอของผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ถือคบไฟจนรอบบริเวณพิธีนี้ก็สว่างไสวไปด้วยแสงแห่งเปลวเพลิง
และเมื่อมองไปที่ใบหน้าของผู้คนเหล่านี้ต่างก็ล้วนมีสีหน้าอันเขม็งตึงเครียดโดยถ้วนทั่ว โดยที่สายตาของแต่ล่ะคนต่างก็จดจ้องไปที่ตรงกลางของลานพิธีอย่างไม่วางตา
เมื่อครูขัยรัตน์และเมขลามองตามสายตาของคนเหล่านั้นไปยังกลางลานพิธีที่ได้ยกพื้นขึ้นมาอีกเล็กน้อย พวกเขาก็ได้เห็นว่า ได้มีต้นเสาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ขณะที่โคนต้นเสาได้ถูกกองไว้ด้วยท่อนไม้หรือท่อนฟืนที่ทับถมสูงขึ้นมาอยู่ระดับหนึ่ง และเลยขึ้นไปจากกองฟืนนั้นก็ยังมีร่างของใครคนหนึ่งถูกมัดติดกับต้นเสาอย่างแน่นหนา
และเมื่อเพ่งพิศไปที่ใบหน้านั้นแล้ว ครูชัยรัตน์กับเมขลาก็แทบช็อคกันไปอีกครั้ง
เพราะร่างที่ถูกมัดติดกับต้นเสานั้น ก็คือ หญิงสาวลึกลับผู้มีหน้าตาคล้ายกับ 'เด็กหญิงปานวาด' นั่นเอง ?!!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ