เทพตกสวรรค์ ทัณฑ์นิรันดร์กาล
9.3
เขียนโดย 秋冬夢春
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.05 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
20.07K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 18.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ปะทะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ คิสึเนะจับอินุกิทุ่มลงพื้นด้วยความเดือดดาล ก่อนจะตะคอกใส่
“เจ้ากล้าดีเช่นไร!! ถึงลงมาสังหารพวกมนุษย์เช่นนี้!!!”
“ชิ! ผู้อาวุโสที่สอง อย่ามาแส่หาเรื่อง!!” อินุกิพูด “ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า!!” นางตวัดกรงเล็บใส่คิสึเนะ ซึ่งหญิงสาวตั้งการ์ดป้องกัน แต่ทว่ามันกลับปล่อยพลังใส่ตลบหลังจนนางกระเด็นไปไกลพอสมควร ก่อนที่คิสึเนะจะพุ่งเข้าไปเพื่อปะทะกับอินุกิใหม่ พลังหยินสีดำทมิฬของอินุกิเข้าปะทะกับพลังหยางสีขาวของคิสึเนะ ทั้งสองรำฟาดฟันกันบนท้องฟ้ากลางราตรี ผลัดกันรุกไล่อย่างดุเดือด หากผู้ใดพ่ายย่อมหมายถึงชีวิตที่ดับสูญลง
“อย่ามาแส่เรื่องของข้า!!” อินุกิพูด “ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า!!”
“ในนามของผู้อาวุโสที่สองแห่งหมู่บ้านจิ้งจอก ข้าจำเป็นต้องนำเจ้ากลับไปรับโทษที่หมู่บ้านจิ้งจอก!! จงยอมแพ้เสียแต่โดยดีอินุกิ!!” คิสึเนะพูดบ้าง
“หุบปาก! ข้าจะไม่ยอมกลับไปที่นั่นเป็นครั้งที่สอง!!” นางตะคอกพร้อมกับระเบิดพลังหยินใส่หญิงสาว
“ถ้าข้าฆ่าเจ้าได้ ทีนี้ก็ไม่มีใครตามล่าข้าเป็นแน่!!” อินุกิพูด “ตายเสีย!!” พร้อมกับสาดพลังงานหยินสีดำทมิฬใส่คิสึเนะ
“กรี๊ดด”
นางกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลังนั่นรุนแรงพอที่จะทำให้นางกระเด็นไปกระแทกพื้นด้านล่างจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ พลังของมันมีมากกว่าที่นางคาดเอาไว้เสียอีก ร่างระหงนอนบาดเจ็บอยู่พื้นเบื้องล่างโดยไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ
“ปัง!” อินุกิตามไปซัดพลังเวทย์ใส่อีกครั้งจนคิสึเนะกระอักเลือดออกมาคำโต
“อั่ก”
คิสึเนะเห็นดังนั้นจึงสวนด้วยพลังเวทย์ของตนเองกลับไปบ้าง คราวนี้มันทำให้ฝ่ายตรงข้ามกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างแรง
“แก!!!” ด้วยความโกรธสุดขีดมันหวนกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วจึงรวบรวมพลังเวทย์และทุ่มใส่นาง “จงหายไปเสีย!! ผู้อาวุโสที่สอง!” พลังหยินอันมหาศาลของมันทุ่มใส่คิสึเนะที่อยู่นอนเจ็บเบื้องล่าง
“ฟุ่บ” เงาหนึ่งพุ่งเข้าไปอุ้มคิสึเนะออกมาได้ทันเวลาก่อนที่พลังจะปะทะเข้ากับตัวนาง ไม่นานหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยระเบิดอันรุนแรง
“ตู้ม!!!”
“ไหนเจ้าว่าจะรับมือมันได้ง่าย?” นาการะพูด ขณะที่อุ้มคิสึเนะวิ่งหลบหนีพลังของอินุกิ
“พลังหยินมันมหาศาลเกินไป มันน่าจะดูดซับพลังหยินบนโลกใบนี้เยอะจนเกินมือข้าไป” คิสึเนะกล่าว พลังหยินของอินุกิมันมีมากเสียจนนางเองก็คาดไม่ถึง
“งั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง” นาการะกล่าวพร้อมกับวางหญิงสาวลงในที่ปลอดภัย ก่อนจะย่างเท้าออกไปเผชิญหน้ากับอินุกิ
“เจ้าเป็นใคร? แล้วผู้อาวุโสที่สองอยู่ที่ใด!!” นางถามนาการะที่ยืนอยู่เบื้องล่าง
“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ…สำคัญตรงที่ว่าเมื่อใด เจ้าจะดับสูญต่างหาก!” นาการะพูดเนิบๆ
เขาเรียกคาตานะของตนเองออกมาจากมิติว่าง ใบดาบสีเงินสะท้อนแสงจันทร์และดวงตาสีฟ้าครามของชายหนุ่ม สัญชาติญาณของนางกำลังบอกนางว่าชายผู้นี้อันตราย
“หึๆ วาจาเจ้าช่างสามหาว ข้าจะสังหารเจ้าเสียแล้วข้าจะตามล่าผู้อาวุโสที่สองอีกครั้ง!” อินุกิพูด ในมือของนางมีพลังหยินบริสุทธิ์สีดำทมิฬอยู่
“ถ้าคิดว่าทำได้…ก็ลองดู” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย
ชั่วพริบตานาการะได้หายไปจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ ก่อนจะโผล่ไปที่ตรงหน้าอินุกิที่ลอยกลางอากาศ แล้วเตะเข้าไปที่ไปหน้าของนางอย่างจัง อินุกิที่ไม่ทันระวังตัวจึงหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
“อั่ก!!!” เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ อินุกิที่ยังงงงวยอยู่ โดนนาการะซ้ำอีกทีหนึ่งกลางหน้าอกจนกระอักโลหิตออกมาคำโต
“ลุกขึ้นมา จิ้งจอกโลกันต์เอ๋ย” นาการะพูด “แค่นี้คงไม่ทำให้เจ้าหมดสภาพหรอกจริงไหม?”
“เจ้า!! ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตรงนี้!!” อินุกิพูดก่อนจะกระโจนเข้าไปหานาการะ
แต่แล้วก็ถูกนาการะฟันจนแขนขวาขาดสะบั้น!!!
“กรี๊ดดด!!” นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด โลหิตสีแดงฉานสาดไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“เป็นอะไร? ความเก่งกาจที่สำแดงเมื่อครู่มันหายไปไหนเสียล่ะ?” นาการะเย้ยหยัน
อินุกิงอกแขนขึ้นมาใหม่จากพลังหยินที่ตนเองมี แต่มันก็ทำให้พลังงานหยินของนางลดลงไปอย่างน่าใจหาย
มันจึงเริ่มการดูดพลังงานหยินจากโลกใบนี้อีกครั้ง ส่วนนาการะยังคงไม่ลดดาบลงจากศัตรูตรงหน้า
อินุกิดูดกลืนความพยาบาท ความชิงชัง ความโลภ ความโกรธ ความลุ่มหลงที่มีอยู่ในโลกใบนี้หลั่งไหลเข้ามาเป็นพลังให้แก่นาง จนพลังกล้าแข็งกว่าเมื่อครู่เสียอีก
“เอาล่ะ! มาต่อกันเลยไหมเจ้ามนุษย์?” อินุกิยิ้มเย้ยหยัน
“นาการะ ระวังตัวด้วย พลังนางกล้าแข็งกว่าเมื่อครู่เป็นอันมาก” คิสึเนะตะโกน “อย่าประมาทนางเป็นอันขาดเลยนะ!!”
“……” นาการะไม่พูดประการใด เพียงแต่พุ่งเข้าไปปะทะกับมันอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้นาการะสัมผัสได้ว่าพลังนางแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่ เสื้อผ้าของชายหนุ่มเริ่มขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าที่ไร้ร่องรอยเริ่มมีบาดแผล กรงเล็บอันแหลมคมนั่นเฉียดใบหน้าของชายหนุ่มไปเพียงคืบ พลังทั้งสองฟาดฟันกันบนท้องนภาสีน้ำหมึก มันมิใช่พลังที่มนุษย์ธรรมดาจะเข้าไปยุ่งได้เลย พลังงานของเทพีอมาเตระสึที่อยู่ในร่างของนาการะกำลังเดือดพล่านราวกับน้ำเดือด เมื่อเจอกับพลังหยินที่เป็นปรปักษ์
“เคล็ดวิชาอสูรเก้าหาง : ความตายเงียบงัน!!” อินุกิใช้เคล็ดวิชาของนางในการสังหารนาการะ หางทั้งเก้าพุ่งเข้าโจมตีนาการะที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“ระบำเพลิงตัดพิรุณ…” นาการะใช้เพลิงประหารเทพและการร่ายรำในเพลงดาบในการปัดป้องทุกสิ่ง รวมไปถึงหางของอินุกิที่พยายามปลิดชีพตนด้วยเช่นกัน จังหวะการร่ายรำของเพลงดาบนั้นดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ นาการะปัดทุกอย่างออกห่างจากตัว แต่คลื่นพลังงานสีดำยังไม่ยอมแพ้พยายามที่จะฝ่าการป้องกันเข้าไปมอบความตายให้แก่ชายหนุ่ม
“จงหายไปเสีย!” อินุกิปาคลื่นพลังงานหยินสีดำใส่นาการะ หากแต่ก็ยังคงปัดป้องและสวนเข้ามาโจมตีนางได้อีกครั้ง ครั้งนี้คมดาบเฉือนเข้าไปที่ใบหน้าอันขาวเนียนจนเกิดเป็นรอยแผลยาว พลังหยินอันดำมืดหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลดุจดั่งน้ำป่าที่ไหลหลาก
“กรี๊ดดด!! แก! แก! อภัยให้ไม่ได้!!! จงตายไปเสีย!!!” อินุกิซัดคลื่นพลังอันมหาศาลใส่นาการะ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงหลบได้อีกครา ก่อนจะสวนกลับด้วยความเฉียบคม ครานี้คมดาบตัดหางหนึ่งของนางไปสร้างความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ
“กรี๊ดดด!!! หางข้า หางของข้า!!!!” อินุกิร้องด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิต
“ครั้งต่อไปมันจะเป็นคอของเจ้า…” นาการะพูด ใช่ว่าตัวชายหนุ่มจะไร้ซึ่งบาดแผลเสียทีเดียว ยังคงมีบาดแผลเล็กๆ ประปรายเต็มไปทั้งร่าง ก่อนจะยกดาบขึ้นมาอีกคราเตรียมปลิดชีพจิ้งจอกตรงหน้า
“แก!!” อินุกิตะโกนด้วยความเดือดดาลสุดชีวิต แต่แล้วมันกลับนึกนึกแผนชั่วร้ายออก
นาการะพุ่งเข้าไปหมายจะปลิดชีพ ชั่วพริบตาที่คมดาบกำลังจะสะบั้นคอของนางนั้น
“ข้ายอมแล้วๆ ข้ายอมให้จับกุมแล้ว!” อินุกิจึงยกมือขึ้นยอมแพ้ หากแต่นาการะยังคงไม่ปักใจเชื่อ นางจึงลดพลังหยินของตนลง เสมือนยอมให้จับกุมแต่โดยดี
“……” ชายหนุ่มยังคงไม่ลดดาบลง
“นางยอมแล้ว เพราะงั้นเจ้าลดดาบลงเถิด” หากแต่คิสึเนะที่โผล่มาจากทางด้านหลัง บอกให้นาการะลดดาบลง
“อาจจะเป็นแผนของนาง” นาการะตอบพร้อมกับหันมามองนาง
“……” คิสึเนะยิ้มให้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาอินุกิ
“ข้าจะจองจำเจ้า จนกว่าจะกลับไปถึงหมู่บ้านจิ้งจอก” คิสึเนะกล่าวกับอินุกิ
ชั่วพริบตาที่คิสึเนะกำลังจะจองจำนางนั้น อินุกิได้ระเบิดพลังหยินออกมาอย่างรุนแรงเพื่อสังหารคิสึเนะและนาการะไปพร้อมกันทั้งคู่ “พวกแกทั้งคู่ จงตายไปเสีย!!!!!” อินุกิตะโกน
“ระวัง!!!!!!!!!” นาการะตะโกน ก่อนจะพุ่งเข้าไปคว้าตัวคิสึเนะเอาไว้ แวบนึงที่สัมผัสความรู้สึกได้ เขารู้สึกเป็นห่วงนางจับขั้วหัวใจ “อย่าตายนะ”
“ตู้ม!!!!!!!” เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนพัดพาร่างของทั้งสองคนกระเด็นไปไกล
เมื่อเสียงระเบิดสงบ ร่างกายของอินุกิที่กำเนิดจากพลังหยินได้กลับมารวมตัว ก่อให้เกิดเป็นรูปร่างอีกครั้ง ครานี้นางอ่อนแรงลงไปมากเลยทีเดียว ส่วนทางด้านทั้งสองคนนั้น คิสึเนะยังคงปลอดภัยดีด้วยอ้อมกอดของนาการะ หากแต่ชายหนุ่มนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิด จนนอนหายใจรวยริน
“พวกแก!! ทำไมยังไม่ตาย!!” อินุกิแค่นเสียง หากนาการะลุกขึ้นมาตอนนี้นางเองก็แทบไม่มีแรงจะสู้แล้วเช่นกัน
นางลอยลงมายืนโงนเงนอยู่ที่พื้น ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมมิได้
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วอินุกิ! ข้าจะควบคุมตัวเจ้ากลับไปยังหมู่บ้านจิ้งจอกเดี๋ยวนี้!!” คิสึเนะกล่าว ก่อนจะลุกยืนขึ้น
“เหอะ! เรื่องอะไรข้าจะยอมกลับไปให้โง่!!” อินุกิแค่นยิ้ม “วันนี้ข้าจะยอมจากไปก่อน! ข้าจะมาคิดบัญชีกับพวกเจ้าทั้งสองในภายหลัง! เตรียมใจเอาไว้เถิด ท่านผู้อาวุโส!!” นางกล่าว ก่อนจะหนีหายเข้าไปในประตูมิติโทงาระเบื้องหลัง
“ประเดี๋ยวสิ!” คิสึเนะตะโกนไล่หลัง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ประตูมิติได้ปิดหายไปต่อหน้าต่อตาของนาง
“บ้าจริง!” นางสบถ “จริงสิ!! นาการะ! เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง!!!” คิสึเนะเหมือนพึ่งนึกถึงชายหนุ่มขึ้นได้
“ข้า…ยัง…ไหว……” นาการะเอ่ยขึ้นเบาๆ “บาดแผลค่อนข้างสาหัส กระดูกข้าน่าจะแหลกละเอียดเพราะแรงระเบิด คงต้องพักฟื้นสักระยะ” ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่ากระดูกสันหลังของเขาแหลกจนไม่เหลือชิ้นดี คงใช้เวลาสักระยะเพื่อให้พลังของเทพีอมาเตระสึช่วยรักษาสมานกระดูกล่ะนะ
“แล้วอินุกิล่ะ?” นาการะเอ่ยถามนางอีกครั้ง
“นางหนีไปแล้ว นางบาดเจ็บสาหัส คาดว่าคงอีกพักใหญ่ๆ กว่านางจะปรากฏตัวอีกครั้ง” คิสึเนะตอบพร้อมกับตรวจดูบาดแผลของนาการะคร่าวๆ
ตามร่างกายมีรอยไหม้ประปราย มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งจากแรงระเบิด แผลฉีีกขาดระหว่างหัวไหล่ด้านซ้ายจนมีโลหิตไหลออกมานองอยู่ที่พื้น เหล่านี้มันล้วนรุนแรงสาหัสจนสามารถคร่าชีวิตคนธรรมดาได้เลยทีเดียว หากแต่กับนาการะนั้นไม่ เขาต้องกัดฟันอดทนกับความเจ็บปวดเหล่านี้เพราะเพียงเป็นอมตะ
“ข้า………ขอโทษ ข้าขอโทษจริงๆ ถ้าหากว่าข้าไม่ตกหลุมพรางของมันแล้วล่ะก็………” เมื่อเห็ยนสภาพดังนั้นแล้ว คิสึเนะจึงกล่าวทั้งน้ำตา นางร้องไห้ ร้องไห้เป็นครั้งแรกเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มตรงหน้า
“อย่าได้ร้องไห้ไปเลย……” นาการะเอื้อมมือขวาที่ยังพอขยับได้ไปปาดน้ำตาของนาง
มีแวบหนึ่งความคิดที่ว่านางน่ารักก็ได้แล่นเข้ามาในหัว สติที่กำลังเลือนลางเริ่มแยกแยะความเป็นจริงไม่ออก แต่เขาพยายามเพ่งสมาธิกับเหตุการณ์ตรงหน้าให้ได้มากที่สุด เพื่อกล่าวในสิ่งที่ตนอยากจะกล่าว
“เป็นความผิดของข้าเอง…ฮึก! ฮือออ!” คิสึเนะกล่าวทั้งน้ำตาพลางสะอื้นไห้
“อย่าได้โทษตัวเองไปเลย……เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว…” นาการะพูดขึ้น “นี่……ข้าขออะไรเจ้าสักอย่างได้หรือไม่?”
“เจ้าจะขออะไรจากข้า ฮึก! ขอมาได้เลย ข้าพร้อมจะทำทุกอย่าง…” คิสึเนะกล่าวพลางสะอื้นไห้
“เจ้าช่วย………มาเป็นนายหญิงของข้าได้หรือไม่?” นาการะกล่าวพลางยื่นมือสัมผัสแก้มของนาง ดวงตาสีฟ้าครามประสานกับสีฟ้าใสเป็นครั้งแรก นาการะมองลึกลงไปในดวงตาของนาง บางสิ่งกำลังร่ำร้องในสิ่งที่เขาควรทำนับตั้งแต่พบหน้านางครั้งแรก
“ข้า…ข้า…ข้าเหรอ??” คิสึเนะที่จู่ๆ โดนสารภาพรักถึงกับหยุดสะอื้นไห้
“ใช่…เจ้าช่วย…มาเป็นนายหญิงของข้าได้หรือไม่ เป็นนายหญิงที่ตระกูลแห่งดวงดาราของข้า…เคียงคู่กับข้า” ชายหนุ่มเอ่ยกล่าว
“……” คิสึเนะเงียบ “จะ……เจ้าชอบข้าตรงไหนล่ะ?” ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำออกมาอย่างเขินอาย
“ทุกตรงที่เป็นเจ้า…ทุกสิ่งทุกอย่าง…อึ่ก!” นาการะกล่าว พร้อมกับความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา
นางอาจจะเคยเหย้าแหย่นาการะเรื่องนายหญิงเพื่อปั่นหัวชายหนุ่มบ้าง แต่พอเจอเหตุการณ์จริง นางเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ทำได้แต่เพียงหน้าแดงและเขินอายเฉกเช่นสตรีทั่วไป
คิสึเนะเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำออกมา “ตะ…แต่ข้าไม่เคยเป็นนายหญิงมาก่อน ขะ……ข้าเกรงว่า” คิสึเนะกล่าวตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย
“………” ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ จากชายหนุ่ม สายตาของนาการะเต็มไปด้วยความเว้าวอนและออดอ้อน ราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอความเห็นใจจากสตรีตรงหน้า
“อ๊า! เจ้าขี้โกงนี่ ใช้สายตาแบบนั้น!!” หญิงสาวตะโกน นี่มันไม่ยุติธรรมเลย เหตุใดเขาจึงใช้สายตาที่ขี้โกงนั้นกับนางกันเล่า “กะ…ก็ได้ ข้าจะเป็น ข้าจะเป็นนายหญิงของเจ้า” นางตะโกนออกมาจนสุดเสียง
“ขอบคุณนะ………………” นาการะกล่าวก่อนที่จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวและสลบไป
“นี่! นี่! นาการะ! นาการะ!………” คิสึเนะเขย่าตัวนาการะด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่านาการะแค่สลบไป จึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
ก่อนที่ไม่นานนักอาโอยามะและเหล่าองเมียวจิคนอื่นๆ จะเข้ามาสำรวจพื้นที่หลังเสียงระเบิดสงบลง พร้อมกับนำร่างของนาการะไปรักษาอย่างเร่งด่วน เคราะห์ดีที่นาการะมีพลังของเทพีอมาเตระสึที่คอยพยุงชีพและสมานกระดูกที่แตกละเอียดไว้ มิเช่นนั้นอาการเช่นนี้คงจะถึงแก่ชีวิตเป็นแน่
“อาการของท่านรุ่นที่สองคงตัวแล้วขอรับ…เอ่อ…” อาโอยามะกล่าว แต่หาคำเรียกตัวนางไม่ได้
“คิสึเนะ นามของข้าคือ ซาซานาเอะ เรียวกะ คิสึเนะ นายหญิงของตระกูลแห่งดวงดารา”
“เจ้ากล้าดีเช่นไร!! ถึงลงมาสังหารพวกมนุษย์เช่นนี้!!!”
“ชิ! ผู้อาวุโสที่สอง อย่ามาแส่หาเรื่อง!!” อินุกิพูด “ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า!!” นางตวัดกรงเล็บใส่คิสึเนะ ซึ่งหญิงสาวตั้งการ์ดป้องกัน แต่ทว่ามันกลับปล่อยพลังใส่ตลบหลังจนนางกระเด็นไปไกลพอสมควร ก่อนที่คิสึเนะจะพุ่งเข้าไปเพื่อปะทะกับอินุกิใหม่ พลังหยินสีดำทมิฬของอินุกิเข้าปะทะกับพลังหยางสีขาวของคิสึเนะ ทั้งสองรำฟาดฟันกันบนท้องฟ้ากลางราตรี ผลัดกันรุกไล่อย่างดุเดือด หากผู้ใดพ่ายย่อมหมายถึงชีวิตที่ดับสูญลง
“อย่ามาแส่เรื่องของข้า!!” อินุกิพูด “ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า!!”
“ในนามของผู้อาวุโสที่สองแห่งหมู่บ้านจิ้งจอก ข้าจำเป็นต้องนำเจ้ากลับไปรับโทษที่หมู่บ้านจิ้งจอก!! จงยอมแพ้เสียแต่โดยดีอินุกิ!!” คิสึเนะพูดบ้าง
“หุบปาก! ข้าจะไม่ยอมกลับไปที่นั่นเป็นครั้งที่สอง!!” นางตะคอกพร้อมกับระเบิดพลังหยินใส่หญิงสาว
“ถ้าข้าฆ่าเจ้าได้ ทีนี้ก็ไม่มีใครตามล่าข้าเป็นแน่!!” อินุกิพูด “ตายเสีย!!” พร้อมกับสาดพลังงานหยินสีดำทมิฬใส่คิสึเนะ
“กรี๊ดด”
นางกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พลังนั่นรุนแรงพอที่จะทำให้นางกระเด็นไปกระแทกพื้นด้านล่างจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ พลังของมันมีมากกว่าที่นางคาดเอาไว้เสียอีก ร่างระหงนอนบาดเจ็บอยู่พื้นเบื้องล่างโดยไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ
“ปัง!” อินุกิตามไปซัดพลังเวทย์ใส่อีกครั้งจนคิสึเนะกระอักเลือดออกมาคำโต
“อั่ก”
คิสึเนะเห็นดังนั้นจึงสวนด้วยพลังเวทย์ของตนเองกลับไปบ้าง คราวนี้มันทำให้ฝ่ายตรงข้ามกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างแรง
“แก!!!” ด้วยความโกรธสุดขีดมันหวนกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วจึงรวบรวมพลังเวทย์และทุ่มใส่นาง “จงหายไปเสีย!! ผู้อาวุโสที่สอง!” พลังหยินอันมหาศาลของมันทุ่มใส่คิสึเนะที่อยู่นอนเจ็บเบื้องล่าง
“ฟุ่บ” เงาหนึ่งพุ่งเข้าไปอุ้มคิสึเนะออกมาได้ทันเวลาก่อนที่พลังจะปะทะเข้ากับตัวนาง ไม่นานหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยระเบิดอันรุนแรง
“ตู้ม!!!”
“ไหนเจ้าว่าจะรับมือมันได้ง่าย?” นาการะพูด ขณะที่อุ้มคิสึเนะวิ่งหลบหนีพลังของอินุกิ
“พลังหยินมันมหาศาลเกินไป มันน่าจะดูดซับพลังหยินบนโลกใบนี้เยอะจนเกินมือข้าไป” คิสึเนะกล่าว พลังหยินของอินุกิมันมีมากเสียจนนางเองก็คาดไม่ถึง
“งั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง” นาการะกล่าวพร้อมกับวางหญิงสาวลงในที่ปลอดภัย ก่อนจะย่างเท้าออกไปเผชิญหน้ากับอินุกิ
“เจ้าเป็นใคร? แล้วผู้อาวุโสที่สองอยู่ที่ใด!!” นางถามนาการะที่ยืนอยู่เบื้องล่าง
“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ…สำคัญตรงที่ว่าเมื่อใด เจ้าจะดับสูญต่างหาก!” นาการะพูดเนิบๆ
เขาเรียกคาตานะของตนเองออกมาจากมิติว่าง ใบดาบสีเงินสะท้อนแสงจันทร์และดวงตาสีฟ้าครามของชายหนุ่ม สัญชาติญาณของนางกำลังบอกนางว่าชายผู้นี้อันตราย
“หึๆ วาจาเจ้าช่างสามหาว ข้าจะสังหารเจ้าเสียแล้วข้าจะตามล่าผู้อาวุโสที่สองอีกครั้ง!” อินุกิพูด ในมือของนางมีพลังหยินบริสุทธิ์สีดำทมิฬอยู่
“ถ้าคิดว่าทำได้…ก็ลองดู” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย
ชั่วพริบตานาการะได้หายไปจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ ก่อนจะโผล่ไปที่ตรงหน้าอินุกิที่ลอยกลางอากาศ แล้วเตะเข้าไปที่ไปหน้าของนางอย่างจัง อินุกิที่ไม่ทันระวังตัวจึงหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
“อั่ก!!!” เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ อินุกิที่ยังงงงวยอยู่ โดนนาการะซ้ำอีกทีหนึ่งกลางหน้าอกจนกระอักโลหิตออกมาคำโต
“ลุกขึ้นมา จิ้งจอกโลกันต์เอ๋ย” นาการะพูด “แค่นี้คงไม่ทำให้เจ้าหมดสภาพหรอกจริงไหม?”
“เจ้า!! ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตรงนี้!!” อินุกิพูดก่อนจะกระโจนเข้าไปหานาการะ
แต่แล้วก็ถูกนาการะฟันจนแขนขวาขาดสะบั้น!!!
“กรี๊ดดด!!” นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด โลหิตสีแดงฉานสาดไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“เป็นอะไร? ความเก่งกาจที่สำแดงเมื่อครู่มันหายไปไหนเสียล่ะ?” นาการะเย้ยหยัน
อินุกิงอกแขนขึ้นมาใหม่จากพลังหยินที่ตนเองมี แต่มันก็ทำให้พลังงานหยินของนางลดลงไปอย่างน่าใจหาย
มันจึงเริ่มการดูดพลังงานหยินจากโลกใบนี้อีกครั้ง ส่วนนาการะยังคงไม่ลดดาบลงจากศัตรูตรงหน้า
อินุกิดูดกลืนความพยาบาท ความชิงชัง ความโลภ ความโกรธ ความลุ่มหลงที่มีอยู่ในโลกใบนี้หลั่งไหลเข้ามาเป็นพลังให้แก่นาง จนพลังกล้าแข็งกว่าเมื่อครู่เสียอีก
“เอาล่ะ! มาต่อกันเลยไหมเจ้ามนุษย์?” อินุกิยิ้มเย้ยหยัน
“นาการะ ระวังตัวด้วย พลังนางกล้าแข็งกว่าเมื่อครู่เป็นอันมาก” คิสึเนะตะโกน “อย่าประมาทนางเป็นอันขาดเลยนะ!!”
“……” นาการะไม่พูดประการใด เพียงแต่พุ่งเข้าไปปะทะกับมันอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้นาการะสัมผัสได้ว่าพลังนางแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่ เสื้อผ้าของชายหนุ่มเริ่มขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าที่ไร้ร่องรอยเริ่มมีบาดแผล กรงเล็บอันแหลมคมนั่นเฉียดใบหน้าของชายหนุ่มไปเพียงคืบ พลังทั้งสองฟาดฟันกันบนท้องนภาสีน้ำหมึก มันมิใช่พลังที่มนุษย์ธรรมดาจะเข้าไปยุ่งได้เลย พลังงานของเทพีอมาเตระสึที่อยู่ในร่างของนาการะกำลังเดือดพล่านราวกับน้ำเดือด เมื่อเจอกับพลังหยินที่เป็นปรปักษ์
“เคล็ดวิชาอสูรเก้าหาง : ความตายเงียบงัน!!” อินุกิใช้เคล็ดวิชาของนางในการสังหารนาการะ หางทั้งเก้าพุ่งเข้าโจมตีนาการะที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“ระบำเพลิงตัดพิรุณ…” นาการะใช้เพลิงประหารเทพและการร่ายรำในเพลงดาบในการปัดป้องทุกสิ่ง รวมไปถึงหางของอินุกิที่พยายามปลิดชีพตนด้วยเช่นกัน จังหวะการร่ายรำของเพลงดาบนั้นดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ นาการะปัดทุกอย่างออกห่างจากตัว แต่คลื่นพลังงานสีดำยังไม่ยอมแพ้พยายามที่จะฝ่าการป้องกันเข้าไปมอบความตายให้แก่ชายหนุ่ม
“จงหายไปเสีย!” อินุกิปาคลื่นพลังงานหยินสีดำใส่นาการะ หากแต่ก็ยังคงปัดป้องและสวนเข้ามาโจมตีนางได้อีกครั้ง ครั้งนี้คมดาบเฉือนเข้าไปที่ใบหน้าอันขาวเนียนจนเกิดเป็นรอยแผลยาว พลังหยินอันดำมืดหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลดุจดั่งน้ำป่าที่ไหลหลาก
“กรี๊ดดด!! แก! แก! อภัยให้ไม่ได้!!! จงตายไปเสีย!!!” อินุกิซัดคลื่นพลังอันมหาศาลใส่นาการะ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงหลบได้อีกครา ก่อนจะสวนกลับด้วยความเฉียบคม ครานี้คมดาบตัดหางหนึ่งของนางไปสร้างความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ
“กรี๊ดดด!!! หางข้า หางของข้า!!!!” อินุกิร้องด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิต
“ครั้งต่อไปมันจะเป็นคอของเจ้า…” นาการะพูด ใช่ว่าตัวชายหนุ่มจะไร้ซึ่งบาดแผลเสียทีเดียว ยังคงมีบาดแผลเล็กๆ ประปรายเต็มไปทั้งร่าง ก่อนจะยกดาบขึ้นมาอีกคราเตรียมปลิดชีพจิ้งจอกตรงหน้า
“แก!!” อินุกิตะโกนด้วยความเดือดดาลสุดชีวิต แต่แล้วมันกลับนึกนึกแผนชั่วร้ายออก
นาการะพุ่งเข้าไปหมายจะปลิดชีพ ชั่วพริบตาที่คมดาบกำลังจะสะบั้นคอของนางนั้น
“ข้ายอมแล้วๆ ข้ายอมให้จับกุมแล้ว!” อินุกิจึงยกมือขึ้นยอมแพ้ หากแต่นาการะยังคงไม่ปักใจเชื่อ นางจึงลดพลังหยินของตนลง เสมือนยอมให้จับกุมแต่โดยดี
“……” ชายหนุ่มยังคงไม่ลดดาบลง
“นางยอมแล้ว เพราะงั้นเจ้าลดดาบลงเถิด” หากแต่คิสึเนะที่โผล่มาจากทางด้านหลัง บอกให้นาการะลดดาบลง
“อาจจะเป็นแผนของนาง” นาการะตอบพร้อมกับหันมามองนาง
“……” คิสึเนะยิ้มให้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาอินุกิ
“ข้าจะจองจำเจ้า จนกว่าจะกลับไปถึงหมู่บ้านจิ้งจอก” คิสึเนะกล่าวกับอินุกิ
ชั่วพริบตาที่คิสึเนะกำลังจะจองจำนางนั้น อินุกิได้ระเบิดพลังหยินออกมาอย่างรุนแรงเพื่อสังหารคิสึเนะและนาการะไปพร้อมกันทั้งคู่ “พวกแกทั้งคู่ จงตายไปเสีย!!!!!” อินุกิตะโกน
“ระวัง!!!!!!!!!” นาการะตะโกน ก่อนจะพุ่งเข้าไปคว้าตัวคิสึเนะเอาไว้ แวบนึงที่สัมผัสความรู้สึกได้ เขารู้สึกเป็นห่วงนางจับขั้วหัวใจ “อย่าตายนะ”
“ตู้ม!!!!!!!” เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนพัดพาร่างของทั้งสองคนกระเด็นไปไกล
เมื่อเสียงระเบิดสงบ ร่างกายของอินุกิที่กำเนิดจากพลังหยินได้กลับมารวมตัว ก่อให้เกิดเป็นรูปร่างอีกครั้ง ครานี้นางอ่อนแรงลงไปมากเลยทีเดียว ส่วนทางด้านทั้งสองคนนั้น คิสึเนะยังคงปลอดภัยดีด้วยอ้อมกอดของนาการะ หากแต่ชายหนุ่มนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิด จนนอนหายใจรวยริน
“พวกแก!! ทำไมยังไม่ตาย!!” อินุกิแค่นเสียง หากนาการะลุกขึ้นมาตอนนี้นางเองก็แทบไม่มีแรงจะสู้แล้วเช่นกัน
นางลอยลงมายืนโงนเงนอยู่ที่พื้น ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมมิได้
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วอินุกิ! ข้าจะควบคุมตัวเจ้ากลับไปยังหมู่บ้านจิ้งจอกเดี๋ยวนี้!!” คิสึเนะกล่าว ก่อนจะลุกยืนขึ้น
“เหอะ! เรื่องอะไรข้าจะยอมกลับไปให้โง่!!” อินุกิแค่นยิ้ม “วันนี้ข้าจะยอมจากไปก่อน! ข้าจะมาคิดบัญชีกับพวกเจ้าทั้งสองในภายหลัง! เตรียมใจเอาไว้เถิด ท่านผู้อาวุโส!!” นางกล่าว ก่อนจะหนีหายเข้าไปในประตูมิติโทงาระเบื้องหลัง
“ประเดี๋ยวสิ!” คิสึเนะตะโกนไล่หลัง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ประตูมิติได้ปิดหายไปต่อหน้าต่อตาของนาง
“บ้าจริง!” นางสบถ “จริงสิ!! นาการะ! เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง!!!” คิสึเนะเหมือนพึ่งนึกถึงชายหนุ่มขึ้นได้
“ข้า…ยัง…ไหว……” นาการะเอ่ยขึ้นเบาๆ “บาดแผลค่อนข้างสาหัส กระดูกข้าน่าจะแหลกละเอียดเพราะแรงระเบิด คงต้องพักฟื้นสักระยะ” ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่ากระดูกสันหลังของเขาแหลกจนไม่เหลือชิ้นดี คงใช้เวลาสักระยะเพื่อให้พลังของเทพีอมาเตระสึช่วยรักษาสมานกระดูกล่ะนะ
“แล้วอินุกิล่ะ?” นาการะเอ่ยถามนางอีกครั้ง
“นางหนีไปแล้ว นางบาดเจ็บสาหัส คาดว่าคงอีกพักใหญ่ๆ กว่านางจะปรากฏตัวอีกครั้ง” คิสึเนะตอบพร้อมกับตรวจดูบาดแผลของนาการะคร่าวๆ
ตามร่างกายมีรอยไหม้ประปราย มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งจากแรงระเบิด แผลฉีีกขาดระหว่างหัวไหล่ด้านซ้ายจนมีโลหิตไหลออกมานองอยู่ที่พื้น เหล่านี้มันล้วนรุนแรงสาหัสจนสามารถคร่าชีวิตคนธรรมดาได้เลยทีเดียว หากแต่กับนาการะนั้นไม่ เขาต้องกัดฟันอดทนกับความเจ็บปวดเหล่านี้เพราะเพียงเป็นอมตะ
“ข้า………ขอโทษ ข้าขอโทษจริงๆ ถ้าหากว่าข้าไม่ตกหลุมพรางของมันแล้วล่ะก็………” เมื่อเห็ยนสภาพดังนั้นแล้ว คิสึเนะจึงกล่าวทั้งน้ำตา นางร้องไห้ ร้องไห้เป็นครั้งแรกเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มตรงหน้า
“อย่าได้ร้องไห้ไปเลย……” นาการะเอื้อมมือขวาที่ยังพอขยับได้ไปปาดน้ำตาของนาง
มีแวบหนึ่งความคิดที่ว่านางน่ารักก็ได้แล่นเข้ามาในหัว สติที่กำลังเลือนลางเริ่มแยกแยะความเป็นจริงไม่ออก แต่เขาพยายามเพ่งสมาธิกับเหตุการณ์ตรงหน้าให้ได้มากที่สุด เพื่อกล่าวในสิ่งที่ตนอยากจะกล่าว
“เป็นความผิดของข้าเอง…ฮึก! ฮือออ!” คิสึเนะกล่าวทั้งน้ำตาพลางสะอื้นไห้
“อย่าได้โทษตัวเองไปเลย……เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว…” นาการะพูดขึ้น “นี่……ข้าขออะไรเจ้าสักอย่างได้หรือไม่?”
“เจ้าจะขออะไรจากข้า ฮึก! ขอมาได้เลย ข้าพร้อมจะทำทุกอย่าง…” คิสึเนะกล่าวพลางสะอื้นไห้
“เจ้าช่วย………มาเป็นนายหญิงของข้าได้หรือไม่?” นาการะกล่าวพลางยื่นมือสัมผัสแก้มของนาง ดวงตาสีฟ้าครามประสานกับสีฟ้าใสเป็นครั้งแรก นาการะมองลึกลงไปในดวงตาของนาง บางสิ่งกำลังร่ำร้องในสิ่งที่เขาควรทำนับตั้งแต่พบหน้านางครั้งแรก
“ข้า…ข้า…ข้าเหรอ??” คิสึเนะที่จู่ๆ โดนสารภาพรักถึงกับหยุดสะอื้นไห้
“ใช่…เจ้าช่วย…มาเป็นนายหญิงของข้าได้หรือไม่ เป็นนายหญิงที่ตระกูลแห่งดวงดาราของข้า…เคียงคู่กับข้า” ชายหนุ่มเอ่ยกล่าว
“……” คิสึเนะเงียบ “จะ……เจ้าชอบข้าตรงไหนล่ะ?” ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำออกมาอย่างเขินอาย
“ทุกตรงที่เป็นเจ้า…ทุกสิ่งทุกอย่าง…อึ่ก!” นาการะกล่าว พร้อมกับความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา
นางอาจจะเคยเหย้าแหย่นาการะเรื่องนายหญิงเพื่อปั่นหัวชายหนุ่มบ้าง แต่พอเจอเหตุการณ์จริง นางเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ทำได้แต่เพียงหน้าแดงและเขินอายเฉกเช่นสตรีทั่วไป
คิสึเนะเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำออกมา “ตะ…แต่ข้าไม่เคยเป็นนายหญิงมาก่อน ขะ……ข้าเกรงว่า” คิสึเนะกล่าวตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย
“………” ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ จากชายหนุ่ม สายตาของนาการะเต็มไปด้วยความเว้าวอนและออดอ้อน ราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอความเห็นใจจากสตรีตรงหน้า
“อ๊า! เจ้าขี้โกงนี่ ใช้สายตาแบบนั้น!!” หญิงสาวตะโกน นี่มันไม่ยุติธรรมเลย เหตุใดเขาจึงใช้สายตาที่ขี้โกงนั้นกับนางกันเล่า “กะ…ก็ได้ ข้าจะเป็น ข้าจะเป็นนายหญิงของเจ้า” นางตะโกนออกมาจนสุดเสียง
“ขอบคุณนะ………………” นาการะกล่าวก่อนที่จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวและสลบไป
“นี่! นี่! นาการะ! นาการะ!………” คิสึเนะเขย่าตัวนาการะด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่านาการะแค่สลบไป จึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
ก่อนที่ไม่นานนักอาโอยามะและเหล่าองเมียวจิคนอื่นๆ จะเข้ามาสำรวจพื้นที่หลังเสียงระเบิดสงบลง พร้อมกับนำร่างของนาการะไปรักษาอย่างเร่งด่วน เคราะห์ดีที่นาการะมีพลังของเทพีอมาเตระสึที่คอยพยุงชีพและสมานกระดูกที่แตกละเอียดไว้ มิเช่นนั้นอาการเช่นนี้คงจะถึงแก่ชีวิตเป็นแน่
“อาการของท่านรุ่นที่สองคงตัวแล้วขอรับ…เอ่อ…” อาโอยามะกล่าว แต่หาคำเรียกตัวนางไม่ได้
“คิสึเนะ นามของข้าคือ ซาซานาเอะ เรียวกะ คิสึเนะ นายหญิงของตระกูลแห่งดวงดารา”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ