เทพตกสวรรค์ ทัณฑ์นิรันดร์กาล
9.3
เขียนโดย 秋冬夢春
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.05 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
20.11K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 18.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) เทพีอินาริ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ คิสึเนะก้าวเท้าออกมาจากประตูมิติสีทอง หลังผ่านการเดินทางอันยาวนาน(ในความคิดของนาง) เบื้องหน้าของนางในตอนนี้คือที่ราบสีเขียวขจี ที่ปลายสุดขอบฟ้านางเห็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มหึมาตั้งตะหง่านอยู่ นั่นคือพระราชวังสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของเทพีอมาเตระสึ จอมเทวีผู้ปกครองที่ราบแดนสวรรค์แห่งนี้ หมู่บ้านจิ้งจอกของนางก็ตั้งอยู่ในกำแพงพระราชวังนั่นแหละ
นางเลือกที่จะนั่งพักใต้ต้นไม้ต้นเล็กๆไม่ไกลนัก เพราะยามนี้แสงของจอมเทวีช่างร้อนแรงนัก หากเดินทางตอนนี้เกรงว่าด้วยชุดที่นางใส่ตอนนี้อาจจะทำให้นางเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน
“แดดที่นี่แรงจัง” นางพึมพำ
ผ่านไปสักพักเมื่อแดดร่มแล้ว นางจึงเริ่มออกเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านจิ้งจอกที่อยู่ไกลๆนั่น นางในร่างจิ้งจอกนั้นพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็วผ่านที่ราบอันกว้างใหญ่ จนในที่สุดนางก็มาหยุดอยู่ที่ประตูทางเข้ากำแพงพระราชวังชั้นนอก นางจึงแปลงร่างกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง จากนั้น เทพอารักษ์สองตนจึงเรียกในนางหยุด
“ประเดี๋ยวก่อน ท่านกำลังจะไปที่ใดกัน?” เทพอารักษ์ตนนึงเรียกถาม
“ข้าชื่อคิสึเนะ ผู้อาวุโสที่สองของหมู่บ้านจิ้งจอก ได้รับคำสั่งจากเทพีอินาริให้กลับมายังที่แห่งนี้” นางยื่นใบเรียกตัวพร้อมป้ายประจำตัวให้กับเทพอารักษ์
“เช่นนั้นเชิญท่านเถิด” ทั้งสองผายมือให้แก่คิสึเนะ เชื้อเชิญให้เข้าไปในประตูเมือง
“ขอบใจพวกท่านมาก” นางกล่าวยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินผ่านประตูไปเพื่อเข้าสู่หมู่บ้านจิ้งจอก
หมู่บ้านจิ้งจอก เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณกำแพงชั้นนอกของกำแพงพระราชวังสวรรค์จากทั้งหมดสามชั้น อยู่ในพื้นที่การควบคุมดูแลของเทพีอินาริ เทพีแห่งเกษตรกรรม ซึ่งมีบริวารเป็นจิ้งจอก หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่พำนักของจิ้งจอกสวรรค์และจิ้งจอกเก้าหางนับพันชีวิต โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมดสามเขต โดยแต่ละเขตจะมีผู้อาวุโสคอยดูแลสารทุกข์สุขดิบอย่างละ 1 ตน ซึ่งคิสึเนะนั้นเป็นผู้อาวุโสที่สองนั่นหมายถึงนางควบคุมดูแลในเขตที่สอง และอีกประการคืออินุกินั้นเป็นจิ้งจอกโลกันต์เพียงตนเดียวที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจิ้งจอก เพราะจิ้งจอกโลกันต์ส่วนมากถูกขับไล่ให้ไปอยู่ในมิติโทงาระหลังจบมหาสงครามด้วยเหตุเพราะเป็นจิ้งจอกเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่แปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายภูติอสูร
เมื่อนางเข้าสู่เขตหมู่บ้าน บรรยากาศความวุ่นวายเดิมๆที่นางเคยชินก็หวลกลับมาอีกครั้ง ทั้งการวิ่งเล่นของเหล่าจิ้งจอกวัยเยาว์ ความวุ่นวายในตลาดใกล้ๆ บรรยากาศของการสังสรรค์กันของจิ้งจอกสูงวัย นางล้วนแต่เคยชินทั้งสิ้น
“ข้าควรจะต้องไปรายงานเทพีอินาริก่อนสินะ” คิสึเนะคิดในใจ ก่อนจะโดนจิ้งจอกตัวน้อยตนหนึ่งที่วิ่งไม่ทันดูทางชนเข้าที่ขา ดึงความสนใจจากนาง
“ขอโทษด้วยขอรับ” จิ้งจอกตัวน้อยพูดขอโทษ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูในสายตานาง
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย” คิสึเนะลูบหัวจิ้งจอกน้อยด้วยความเอ็นดู
หลังจากนั้นนางจึงเดินทางไปยังพื้นที่พำนักของเทพีอินาริ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาไม่ไกลนัก เพื่อรายงานตัวกลับมายังหมู่บ้านให้พระองค์ทราบ
ที่พำนักของเทพีอินาริบนภูเขา
“ก๊อกๆ!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงความสนใจจากเทพีองค์น้อยที่กำลังนั่งวาดรูปอยู่
“คิจิคุเทน ไปดูให้ข้าทีซิ ว่าเป็นผู้ใด?” เสียงเทพีอีกองค์ดังขึ้นจากในครัว “บางทีอาจจะเป็นนางก็ได้~”
“เจ้าค่า~” เทพีคิจิคุเทน(เทพีแห่งความงาม) จึงลอยไปเปิดประตูให้แก่แขกผู้มาเยือน
เมื่อประตูเปิดออกก็เป็นคิสึเนะที่ยืนอยู่หลังประตูบานนั้น เทพีองค์น้อยจึงตะโกนเรียกเทพีอีกองค์ในทันใด
“เสด็จพี่เพคะ เจ้าหมาน้อยกลับมาแล้ววววว”
“เดี๋ยวเถอะ คิจิคุเทน ตะโกนแบบนั้นเสียมารยาทแบบเทพกันพอดี!!” เทพีที่อยู่ในครัวบ่นอุบเมื่อได้ยินเสียงตะโกนนั้น ก่อนจะเดินโผล่หน้าออกมาจากในครัว
หูทั้งสองแบบจิ้งจอกที่มีขนสีขาวเนียนบริสุทธิ์ ดวงตาสีเขียวมรกต หางที่สะบัดฟูฟ่องขึ้นไปในอากาศทั้งเก้า ใบหน้าที่สมส่วนกับรูปร่างอันผอมบาง ในเครื่องแบบสีแดงฉูดฉาดนั้น คงไม่ต้องบอกให้มากความว่านี่คือ เทพีอินาริ เทพีแห่งการเกษตรกรรม ผู้ปกครองหมู่บ้านจิ้งจอกเป็นแน่แท้
“ขออภัยสำหรับการเสียมารยาทของน้องสาวข้าด้วย มาเถิดเข้ามานั่งด้านใน ผู้อาวุโสที่สอง ไม่สิ ข้าต้องเรียกว่าคิสึเนะสินะ” เทพีอินาริกล่าวเชื้อเชิญคิสึเนะให้เข้ามานั่งด้านใน
“เพคะ” หญิงสาวรับคำ
“ทำตัวตามสบายนะ คิดซะว่านี่เป็นบ้านของเจ้า” องค์เทพีกล่าวก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมชาต้อนรับแขก “เจ้าเดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยสิท่า รอข้าชงชาสักครู่นะ”
“เจ้าค่ะ องค์เทพี” คิสึเนะกล่าว
“แล้วภารกิจตามล่าอินุกิเป็นเช่นไรบ้างล่ะ? ไม่เห็นเจ้ารายงานกลับมาเลย” เทพีกล่าวถามคิสึเนะ ในขณะที่เตรียมชา
“หม่อมฉันได้ปะทะกับมันครั้งแรกตอนลงไปตามล่ามันยังโลกมนุษย์เพคะ หากแต่มันหลบหนีไปได้……” คิสึเนะกล่าวพลางคิดถึงครั้งแรกที่ได้ปะทะกับอินุกิเมื่อหลายเดือนก่อน
“ฝีมือระดับเจ้าน่ะหรือ? หายากนะที่เจ้าจะปล่อยให้เป้าหมายหลุดมือในครั้งแรกได้” เทพีอินาริกล่าวอย่างแปลกใจ
“หม่อมฉันมีโอกาสปะทะกับมันในครั้งที่สอง หากแต่ทว่าในครั้งนี้มันกลับดูดพลังหยินมามากจนเกินมือหม่อมฉันไป……” หญิงสาวกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม
“แล้วผลเป็นเช่นไรล่ะ?” องค์เทพีถาม พลางยกกาน้ำชามาวางบนโต๊ะ
“หม่อมฉันพ่ายแพ้เพคะ หากแต่มีมนุษย์คนนึงได้ช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้……” คิสึเนะกล่าวพลางนึกถึงใบหน้าของนาการะ แต่นั่นก็ทำให้ภาพที่นาการะชิงจุมพิตนางขึ้นมาแทน
“…//////////…” เพียงเท่านั้นใบหน้าของนางก็ขึ้นสีชมพูฝาด
“คิสึเนะ เจ้าเป็นอะไร? ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าเจ้าแดงเช่นนั้นกัน?” เทพีอินาริถามเมื่อเห็นใบหน้าของนางขึ้นสีชมพูฝาด
“มะ…หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ…” คิสึเนะบอกปัดกลบเกลื่อน
“แล้ว……เจ้ามนุษย์ผู้นั้นมีนามว่าเช่นไรกันเล่า?” องค์เทพีกล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น พลางจิบชาเข้าไปด้วย
“โฮชิ คายาเสะ นาการะ เพคะ” นางพูด
“(พรู่ดดด!) แค่ก! แค่ก! แค่ก!” เทพีอินาริสำลักน้ำชาเมื่อนางเอ่ยชื่อของนาการะออกมา “เจ้าว่าเช่นไรนะ?”
“ชื่อของชายผู้นั้นคือ โฮชิ คายาเสะ นาการะ เพคะ?” คิสึเนะกล่าวพลางทำหน้าสงสัย ว่าองค์เทพีจะตื่นตระหนกด้วยเหตุอันใด
“โห้ว เจ้าหนูนั่นยังไม่เข้าสู่นิทรานิรันดร์เหรอเนี่ย?” เทพีอินาริกล่าวอย่างแปลกใจ
“พระองค์ทรงรู้จักนาการะเช่นนั้นหรือเพคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามเทพีตรงหน้า
“จะเรียกว่ารู้จักก็ไม่ผิดหรอกน้า~ เจ้าหนูนั่นตอนวัยเยาว์ตามติดเราต้อยๆเลย” เสียงกล่าวเนิบๆของเทพีอินาริ พลางนึกย้อนไปในอดีตอันแสนไกลเมื่อครั้นก่อนมหาสงคราม นาการะที่ยังเยาว์วัยมักจะชอบตามติดพระองค์ไปในทุกที่ “จะว่าไปก็เริ่มคิดถึงเจ้าหนูนั่นเหมือนกันน้า~ ไม่เจอกันหลายพันปีแล้วด้วยสิ”
“เป็นเช่นนั้นเองหรือเพคะ~” คิสึเนะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วเจ้าหนูนั่นเป็นเช่นไรบ้างล่ะ?” เทพีอินาริถามคิสึเนะ
“ก็ยังคงสบายดีเพคะ……” หญิงสาวกล่าว
“ได้ฟังแบบนี้ข้าก็สบายใจ แล้วเรื่องเจ้ากับเจ้าหนูนั่นเป็นเช่นไรบ้างล่ะ?” เทพีอินาริถาม นั่นทำให้คิสึเนะถึงกับสะดุ้งตกใจจนแทบตกเก้าอี้ที่นั่ง
“พระองค์ทรงรู้ได้เช่นไรเพคะ?” นางเอ่ยถาม
“ก็น้า เจ้าซูซาโนโอะนั่นเล่นป่าวประกาศทั้งสภาแห่งสวรรค์ ว่าเจ้ากับเจ้าหนูนั่นมีความสัมพันธ์กัน เบนไซเทนก็ยืนยันเองแล้วด้วย” เทพีอินาริกล่าว พลางนึกถึงการประชุมสภาแห่งสรวงสวรรค์ครั้งล่าสุดที่เทพซูซาโนโอะประกาศเรื่องนั้นไปเสียทั่ว จนเป็นที่รับรู้กันไปทั่ว อีกทั้งหนึ่งในเทพแห่งโชคลาภ ผู้ดำรงตำแหน่งเทพีแห่งความรัก เทพีเบนไซเทนก็ยังยืนยันว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง
“เอ่อ……ก็ยังไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษเพคะ” คิสึเนะหน้าแดงก่ำ เมื่อรู้ว่าเรื่องของพวกตนแดงไปทั้งที่ราบแดนสวรรค์แล้ว
“พวกเจ้านี่จริงๆเลยน้า ข้าเผลอแปบเดียวกับสานความสัมพันธ์กันถึงระดับนี้ ถ้าเจ้าคิสุเนะรู้ เจ้าหนุ่มนั่นโดนฆ่าแน่ๆ เคราะห์ดีที่เจ้านั่นเข้าเฝ้าองค์เทพีอมาเตระสึอยู่” เทพีอินาริกล่าวถึงบิดาของคิสึเนะ ที่มีนามว่า ซาซานาเอะ เรียวกะ คิสุเนะ ที่บัดนี้ปฏิบัติภารกิจอารักขาเทพีอมาเตระสึที่กำลังเข้าบำเพ็ญตบะในเทือกเขาที่ห่างไกลออกไปจากที่ราบแดนสวรรค์แห่งนี้นัก
“เพคะ” คิสึเนะที่ทำหน้าหงอยรับคำ
“เอาเถิด เราก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางความรักของพวกเจ้าหรอกนะ~” องค์เทพีกล่าว “แต่ที่ข้าเรียกเจ้ากลับมาเพราะเพื่อเตรียมต้อนรับองค์เทพีอมาเตระสึที่จะออกจากการบำเพ็ญตบะนี่แหละ” เทพีอินาริกล่าวถึงเหตุผลที่เรียกตัวคิสึเนะกลับมา
“เพคะ” คิสึเนะกล่าวรับคำ ในหนึ่งนางก็ดีใจที่ไม่ถูกขัดขวางความรักกับนาการะ แต่อีกใจกลับตั้งคำถามว่าเป็นเช่นนี้ดีแล้วหรือ?
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“นั่นใคร?” เทพีอินาริมองไปยังประตูก่อนจะเอ่ยถาม
“เทพอารักษ์เองขอรับ” เสียงทุ้มดังขึ้นหลังบานประตู
“มีธุระอันใดว่ามา” องค์เทพีกล่าวถาม
“พวกกระหม่อมเดินตรวจตราภายในหมู่บ้านเขตสองตามปกติ หากแต่เจอสิ่งผิดปกติขอรับ” เทพอารักษ์กล่าวรายงาน
“เหตุผิดปกติอันใด?” เทพีอินาริกล่าวถามกลับไป
“กระหม่อมตรวจพบบุรุษผู้หนึ่งร่วงลงมาจากท้องฟ้า แล้วร่วงลงใส่บ้านหลังหนึ่งขอรับ” เทพอารักษ์กล่าวต่อ
“นำข้าไปยังที่เกิดเหตุ” องค์เทพีกล่าวพร้อมกับลุกขึ้น “เจ้าจะไปด้วยหรือไม่ คิสึเนะ ยังไงเสียนี่มันก็เขตของเจ้า” เทพีอินาริเอ่ยชวน
“ก็ต้องไปสิเพคะ” คิสึเนะพูด หน้าที่ย่อมเป็นหน้าที่
“ใครกันที่กล้าบุกรุกที่ราบแดนสวรรค์ในการปกครองของข้า?” เทพีอินาริกล่าวพึมพำ “คิจิคุเทน ข้าฝากเจ้าดูแลบ้านทีนะ” องค์เทพีหันไปสั่งผู้เป็นน้องสาว
“เจ้าค่ะ เสด็จพี่” เทพีคิจิคุเทนกล่าวรับคำ
ทั้งสามรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุในเขตที่สองในทันที ณ ที่แห่งนั้นมีจิ้งจอกมากหน้าหลายตากำลังมุงในที่เกิดเหตุ มีเทพอารักษ์สองสามตนที่คอยกันเหล่าจิ้งจอกทั้งหลาย ไม่ให้เข้าไปยังที่เกิดเหตุ
“หลีกทาง! องค์เทพีอินาริเสด็จ!” เทพอารักษ์ตนนั้นตะโกนเสียงดัง ส่งผลให้เหล่าจิ้งจอกมุงทั้งหลายแหวกทางให้ ก่อนจะค้อมคำนับผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของหมู่บ้านจิ้งจอก
“รายงานข้ามาทีซิ ว่ามันเกิดเหตุอันใดขึ้น” เทพีอินาริกล่าวถามจิ้งจอกสาวตนหนึ่งผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ
“หม่อมฉันนั่งทำอาหารอยู่ในครัวตามปกติเพคะ หลังจากนั้นก็มีเสียงโครมครามขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างของบุรุษผู้หนึ่งนอนแน่นิ่งในห้องโถงพร้อมกับหลังคาที่เป็นรูขนาดใหญ่เพคะ” จิ้งจอกสาวตนนั้นรายงานเทพีอินาริ
“ไหนข้าขอเข้าไปดูที่เกิดเหตุหน่อย” คิสึเนะกล่าว ในฐานะผู้ควบคุมเขตที่สองของหมู่บ้านจิ้งจอก จำเป็นจะต้องเข้าไปตรวจดูความเสียหายที่เกิดขึ้น
“เจ้าค่ะ ท่านผู้อาวุโส” จิ้งจอกสาวตนนั้นนำทางทั้งสามไปยังห้องโถงที่เกิดเหตุ
ในบ้านไม้แบบโบราณที่ตรงกลางห้องโถงมีรูขนาดใหญ่บนเพดาน ส่งผลให้แสงอาทิตย์ลอดผ่านรู้นั้นเข้ามาได้ เบื้องหน้าของทั้งสามในตอนนี้คือพื้นห้องโถงที่เป็นหลุมขนาดไม่ลึกมาก ที่ก้นหลุมมีร่างของบุรุษผู้หนึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติ และทันทีที่คิสึเนะเห็นหน้านางก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“นาการะ?!” คิสึเนะอุทานเสียงดัง บุรุษที่ว่าก็คือนาการะนั่นเอง เหตุที่ชายหนุ่มร่วงลงมาผิดที่เช่นนี้เป็นเพราะความผิดปกติของประตูมิติที่ทำให้ชายหนุ่มร่วงลงมาจากท้องฟ้าเช่นนี้
“เจ้าหนูนั่นงั้นหรือ?” เทพีอินาริกล่าวถามคิสึเนะ เพราะพระองค์จำหน้านาการะไม่ค่อยได้แล้ว
“เพคะ เป็นเขาไม่ผิดแน่ๆ” หญิงสาวตอบ
“แล้วเจ้าหนู มาทำอะไรที่นี่กัน?” องค์เทพีพึมพำ
“หม่อมฉันก็สุดจะทราบเพคะ” คิสึเนะตอบ เพราะเท่าที่นางจำได้คือชายหนุ่มคอยส่งนางเพียงเท่านั้น แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน??
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถิด คิสึเนะ รีบย้ายร่างเขาไปที่บ้านของข้าก่อนก็แล้วกัน” เทพีอินาริกล่าว ก่อนจะหันไปสั่งเทพอารักษ์สองตน “พวกเจ้าช่วยย้ายชายผู้นี้ไปที่บ้านของข้าที”
“ขอรับ” ทั้งสองตนรับคำ ก่อนจะลงไปแบกร่างที่ไม่ได้สติของนาการะขึ้นมาจากหลุม
“ส่วนบ้านของเจ้าข้าจะซ่อมแซมให้เองนะ” เทพีอินาริกล่าว เพียงแค่สะบัดมือทุกสิ่งที่เสียหายก็พลันกลับมาเป็นเช่นเดิมด้วยอำนาจแห่งมนตรา
“ขอบคุณมากเพคะ” จิ้งจอกสาวเจ้าของบ้านยอบกายขอบคุณองค์เทพี
ก่อนที่เทพีอินาริจะเดินตามหลังคิสึเนะและเทพอารักษ์กลับไปยังที่พำนักของพระองค์ เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บของชายหนุ่ม
นางเลือกที่จะนั่งพักใต้ต้นไม้ต้นเล็กๆไม่ไกลนัก เพราะยามนี้แสงของจอมเทวีช่างร้อนแรงนัก หากเดินทางตอนนี้เกรงว่าด้วยชุดที่นางใส่ตอนนี้อาจจะทำให้นางเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน
“แดดที่นี่แรงจัง” นางพึมพำ
ผ่านไปสักพักเมื่อแดดร่มแล้ว นางจึงเริ่มออกเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านจิ้งจอกที่อยู่ไกลๆนั่น นางในร่างจิ้งจอกนั้นพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็วผ่านที่ราบอันกว้างใหญ่ จนในที่สุดนางก็มาหยุดอยู่ที่ประตูทางเข้ากำแพงพระราชวังชั้นนอก นางจึงแปลงร่างกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง จากนั้น เทพอารักษ์สองตนจึงเรียกในนางหยุด
“ประเดี๋ยวก่อน ท่านกำลังจะไปที่ใดกัน?” เทพอารักษ์ตนนึงเรียกถาม
“ข้าชื่อคิสึเนะ ผู้อาวุโสที่สองของหมู่บ้านจิ้งจอก ได้รับคำสั่งจากเทพีอินาริให้กลับมายังที่แห่งนี้” นางยื่นใบเรียกตัวพร้อมป้ายประจำตัวให้กับเทพอารักษ์
“เช่นนั้นเชิญท่านเถิด” ทั้งสองผายมือให้แก่คิสึเนะ เชื้อเชิญให้เข้าไปในประตูเมือง
“ขอบใจพวกท่านมาก” นางกล่าวยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินผ่านประตูไปเพื่อเข้าสู่หมู่บ้านจิ้งจอก
หมู่บ้านจิ้งจอก เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณกำแพงชั้นนอกของกำแพงพระราชวังสวรรค์จากทั้งหมดสามชั้น อยู่ในพื้นที่การควบคุมดูแลของเทพีอินาริ เทพีแห่งเกษตรกรรม ซึ่งมีบริวารเป็นจิ้งจอก หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่พำนักของจิ้งจอกสวรรค์และจิ้งจอกเก้าหางนับพันชีวิต โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมดสามเขต โดยแต่ละเขตจะมีผู้อาวุโสคอยดูแลสารทุกข์สุขดิบอย่างละ 1 ตน ซึ่งคิสึเนะนั้นเป็นผู้อาวุโสที่สองนั่นหมายถึงนางควบคุมดูแลในเขตที่สอง และอีกประการคืออินุกินั้นเป็นจิ้งจอกโลกันต์เพียงตนเดียวที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจิ้งจอก เพราะจิ้งจอกโลกันต์ส่วนมากถูกขับไล่ให้ไปอยู่ในมิติโทงาระหลังจบมหาสงครามด้วยเหตุเพราะเป็นจิ้งจอกเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่แปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายภูติอสูร
เมื่อนางเข้าสู่เขตหมู่บ้าน บรรยากาศความวุ่นวายเดิมๆที่นางเคยชินก็หวลกลับมาอีกครั้ง ทั้งการวิ่งเล่นของเหล่าจิ้งจอกวัยเยาว์ ความวุ่นวายในตลาดใกล้ๆ บรรยากาศของการสังสรรค์กันของจิ้งจอกสูงวัย นางล้วนแต่เคยชินทั้งสิ้น
“ข้าควรจะต้องไปรายงานเทพีอินาริก่อนสินะ” คิสึเนะคิดในใจ ก่อนจะโดนจิ้งจอกตัวน้อยตนหนึ่งที่วิ่งไม่ทันดูทางชนเข้าที่ขา ดึงความสนใจจากนาง
“ขอโทษด้วยขอรับ” จิ้งจอกตัวน้อยพูดขอโทษ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูในสายตานาง
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย” คิสึเนะลูบหัวจิ้งจอกน้อยด้วยความเอ็นดู
หลังจากนั้นนางจึงเดินทางไปยังพื้นที่พำนักของเทพีอินาริ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาไม่ไกลนัก เพื่อรายงานตัวกลับมายังหมู่บ้านให้พระองค์ทราบ
ที่พำนักของเทพีอินาริบนภูเขา
“ก๊อกๆ!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงความสนใจจากเทพีองค์น้อยที่กำลังนั่งวาดรูปอยู่
“คิจิคุเทน ไปดูให้ข้าทีซิ ว่าเป็นผู้ใด?” เสียงเทพีอีกองค์ดังขึ้นจากในครัว “บางทีอาจจะเป็นนางก็ได้~”
“เจ้าค่า~” เทพีคิจิคุเทน(เทพีแห่งความงาม) จึงลอยไปเปิดประตูให้แก่แขกผู้มาเยือน
เมื่อประตูเปิดออกก็เป็นคิสึเนะที่ยืนอยู่หลังประตูบานนั้น เทพีองค์น้อยจึงตะโกนเรียกเทพีอีกองค์ในทันใด
“เสด็จพี่เพคะ เจ้าหมาน้อยกลับมาแล้ววววว”
“เดี๋ยวเถอะ คิจิคุเทน ตะโกนแบบนั้นเสียมารยาทแบบเทพกันพอดี!!” เทพีที่อยู่ในครัวบ่นอุบเมื่อได้ยินเสียงตะโกนนั้น ก่อนจะเดินโผล่หน้าออกมาจากในครัว
หูทั้งสองแบบจิ้งจอกที่มีขนสีขาวเนียนบริสุทธิ์ ดวงตาสีเขียวมรกต หางที่สะบัดฟูฟ่องขึ้นไปในอากาศทั้งเก้า ใบหน้าที่สมส่วนกับรูปร่างอันผอมบาง ในเครื่องแบบสีแดงฉูดฉาดนั้น คงไม่ต้องบอกให้มากความว่านี่คือ เทพีอินาริ เทพีแห่งการเกษตรกรรม ผู้ปกครองหมู่บ้านจิ้งจอกเป็นแน่แท้
“ขออภัยสำหรับการเสียมารยาทของน้องสาวข้าด้วย มาเถิดเข้ามานั่งด้านใน ผู้อาวุโสที่สอง ไม่สิ ข้าต้องเรียกว่าคิสึเนะสินะ” เทพีอินาริกล่าวเชื้อเชิญคิสึเนะให้เข้ามานั่งด้านใน
“เพคะ” หญิงสาวรับคำ
“ทำตัวตามสบายนะ คิดซะว่านี่เป็นบ้านของเจ้า” องค์เทพีกล่าวก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมชาต้อนรับแขก “เจ้าเดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยสิท่า รอข้าชงชาสักครู่นะ”
“เจ้าค่ะ องค์เทพี” คิสึเนะกล่าว
“แล้วภารกิจตามล่าอินุกิเป็นเช่นไรบ้างล่ะ? ไม่เห็นเจ้ารายงานกลับมาเลย” เทพีกล่าวถามคิสึเนะ ในขณะที่เตรียมชา
“หม่อมฉันได้ปะทะกับมันครั้งแรกตอนลงไปตามล่ามันยังโลกมนุษย์เพคะ หากแต่มันหลบหนีไปได้……” คิสึเนะกล่าวพลางคิดถึงครั้งแรกที่ได้ปะทะกับอินุกิเมื่อหลายเดือนก่อน
“ฝีมือระดับเจ้าน่ะหรือ? หายากนะที่เจ้าจะปล่อยให้เป้าหมายหลุดมือในครั้งแรกได้” เทพีอินาริกล่าวอย่างแปลกใจ
“หม่อมฉันมีโอกาสปะทะกับมันในครั้งที่สอง หากแต่ทว่าในครั้งนี้มันกลับดูดพลังหยินมามากจนเกินมือหม่อมฉันไป……” หญิงสาวกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม
“แล้วผลเป็นเช่นไรล่ะ?” องค์เทพีถาม พลางยกกาน้ำชามาวางบนโต๊ะ
“หม่อมฉันพ่ายแพ้เพคะ หากแต่มีมนุษย์คนนึงได้ช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้……” คิสึเนะกล่าวพลางนึกถึงใบหน้าของนาการะ แต่นั่นก็ทำให้ภาพที่นาการะชิงจุมพิตนางขึ้นมาแทน
“…//////////…” เพียงเท่านั้นใบหน้าของนางก็ขึ้นสีชมพูฝาด
“คิสึเนะ เจ้าเป็นอะไร? ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าเจ้าแดงเช่นนั้นกัน?” เทพีอินาริถามเมื่อเห็นใบหน้าของนางขึ้นสีชมพูฝาด
“มะ…หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ…” คิสึเนะบอกปัดกลบเกลื่อน
“แล้ว……เจ้ามนุษย์ผู้นั้นมีนามว่าเช่นไรกันเล่า?” องค์เทพีกล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น พลางจิบชาเข้าไปด้วย
“โฮชิ คายาเสะ นาการะ เพคะ” นางพูด
“(พรู่ดดด!) แค่ก! แค่ก! แค่ก!” เทพีอินาริสำลักน้ำชาเมื่อนางเอ่ยชื่อของนาการะออกมา “เจ้าว่าเช่นไรนะ?”
“ชื่อของชายผู้นั้นคือ โฮชิ คายาเสะ นาการะ เพคะ?” คิสึเนะกล่าวพลางทำหน้าสงสัย ว่าองค์เทพีจะตื่นตระหนกด้วยเหตุอันใด
“โห้ว เจ้าหนูนั่นยังไม่เข้าสู่นิทรานิรันดร์เหรอเนี่ย?” เทพีอินาริกล่าวอย่างแปลกใจ
“พระองค์ทรงรู้จักนาการะเช่นนั้นหรือเพคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามเทพีตรงหน้า
“จะเรียกว่ารู้จักก็ไม่ผิดหรอกน้า~ เจ้าหนูนั่นตอนวัยเยาว์ตามติดเราต้อยๆเลย” เสียงกล่าวเนิบๆของเทพีอินาริ พลางนึกย้อนไปในอดีตอันแสนไกลเมื่อครั้นก่อนมหาสงคราม นาการะที่ยังเยาว์วัยมักจะชอบตามติดพระองค์ไปในทุกที่ “จะว่าไปก็เริ่มคิดถึงเจ้าหนูนั่นเหมือนกันน้า~ ไม่เจอกันหลายพันปีแล้วด้วยสิ”
“เป็นเช่นนั้นเองหรือเพคะ~” คิสึเนะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วเจ้าหนูนั่นเป็นเช่นไรบ้างล่ะ?” เทพีอินาริถามคิสึเนะ
“ก็ยังคงสบายดีเพคะ……” หญิงสาวกล่าว
“ได้ฟังแบบนี้ข้าก็สบายใจ แล้วเรื่องเจ้ากับเจ้าหนูนั่นเป็นเช่นไรบ้างล่ะ?” เทพีอินาริถาม นั่นทำให้คิสึเนะถึงกับสะดุ้งตกใจจนแทบตกเก้าอี้ที่นั่ง
“พระองค์ทรงรู้ได้เช่นไรเพคะ?” นางเอ่ยถาม
“ก็น้า เจ้าซูซาโนโอะนั่นเล่นป่าวประกาศทั้งสภาแห่งสวรรค์ ว่าเจ้ากับเจ้าหนูนั่นมีความสัมพันธ์กัน เบนไซเทนก็ยืนยันเองแล้วด้วย” เทพีอินาริกล่าว พลางนึกถึงการประชุมสภาแห่งสรวงสวรรค์ครั้งล่าสุดที่เทพซูซาโนโอะประกาศเรื่องนั้นไปเสียทั่ว จนเป็นที่รับรู้กันไปทั่ว อีกทั้งหนึ่งในเทพแห่งโชคลาภ ผู้ดำรงตำแหน่งเทพีแห่งความรัก เทพีเบนไซเทนก็ยังยืนยันว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง
“เอ่อ……ก็ยังไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษเพคะ” คิสึเนะหน้าแดงก่ำ เมื่อรู้ว่าเรื่องของพวกตนแดงไปทั้งที่ราบแดนสวรรค์แล้ว
“พวกเจ้านี่จริงๆเลยน้า ข้าเผลอแปบเดียวกับสานความสัมพันธ์กันถึงระดับนี้ ถ้าเจ้าคิสุเนะรู้ เจ้าหนุ่มนั่นโดนฆ่าแน่ๆ เคราะห์ดีที่เจ้านั่นเข้าเฝ้าองค์เทพีอมาเตระสึอยู่” เทพีอินาริกล่าวถึงบิดาของคิสึเนะ ที่มีนามว่า ซาซานาเอะ เรียวกะ คิสุเนะ ที่บัดนี้ปฏิบัติภารกิจอารักขาเทพีอมาเตระสึที่กำลังเข้าบำเพ็ญตบะในเทือกเขาที่ห่างไกลออกไปจากที่ราบแดนสวรรค์แห่งนี้นัก
“เพคะ” คิสึเนะที่ทำหน้าหงอยรับคำ
“เอาเถิด เราก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางความรักของพวกเจ้าหรอกนะ~” องค์เทพีกล่าว “แต่ที่ข้าเรียกเจ้ากลับมาเพราะเพื่อเตรียมต้อนรับองค์เทพีอมาเตระสึที่จะออกจากการบำเพ็ญตบะนี่แหละ” เทพีอินาริกล่าวถึงเหตุผลที่เรียกตัวคิสึเนะกลับมา
“เพคะ” คิสึเนะกล่าวรับคำ ในหนึ่งนางก็ดีใจที่ไม่ถูกขัดขวางความรักกับนาการะ แต่อีกใจกลับตั้งคำถามว่าเป็นเช่นนี้ดีแล้วหรือ?
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“นั่นใคร?” เทพีอินาริมองไปยังประตูก่อนจะเอ่ยถาม
“เทพอารักษ์เองขอรับ” เสียงทุ้มดังขึ้นหลังบานประตู
“มีธุระอันใดว่ามา” องค์เทพีกล่าวถาม
“พวกกระหม่อมเดินตรวจตราภายในหมู่บ้านเขตสองตามปกติ หากแต่เจอสิ่งผิดปกติขอรับ” เทพอารักษ์กล่าวรายงาน
“เหตุผิดปกติอันใด?” เทพีอินาริกล่าวถามกลับไป
“กระหม่อมตรวจพบบุรุษผู้หนึ่งร่วงลงมาจากท้องฟ้า แล้วร่วงลงใส่บ้านหลังหนึ่งขอรับ” เทพอารักษ์กล่าวต่อ
“นำข้าไปยังที่เกิดเหตุ” องค์เทพีกล่าวพร้อมกับลุกขึ้น “เจ้าจะไปด้วยหรือไม่ คิสึเนะ ยังไงเสียนี่มันก็เขตของเจ้า” เทพีอินาริเอ่ยชวน
“ก็ต้องไปสิเพคะ” คิสึเนะพูด หน้าที่ย่อมเป็นหน้าที่
“ใครกันที่กล้าบุกรุกที่ราบแดนสวรรค์ในการปกครองของข้า?” เทพีอินาริกล่าวพึมพำ “คิจิคุเทน ข้าฝากเจ้าดูแลบ้านทีนะ” องค์เทพีหันไปสั่งผู้เป็นน้องสาว
“เจ้าค่ะ เสด็จพี่” เทพีคิจิคุเทนกล่าวรับคำ
ทั้งสามรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุในเขตที่สองในทันที ณ ที่แห่งนั้นมีจิ้งจอกมากหน้าหลายตากำลังมุงในที่เกิดเหตุ มีเทพอารักษ์สองสามตนที่คอยกันเหล่าจิ้งจอกทั้งหลาย ไม่ให้เข้าไปยังที่เกิดเหตุ
“หลีกทาง! องค์เทพีอินาริเสด็จ!” เทพอารักษ์ตนนั้นตะโกนเสียงดัง ส่งผลให้เหล่าจิ้งจอกมุงทั้งหลายแหวกทางให้ ก่อนจะค้อมคำนับผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของหมู่บ้านจิ้งจอก
“รายงานข้ามาทีซิ ว่ามันเกิดเหตุอันใดขึ้น” เทพีอินาริกล่าวถามจิ้งจอกสาวตนหนึ่งผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ
“หม่อมฉันนั่งทำอาหารอยู่ในครัวตามปกติเพคะ หลังจากนั้นก็มีเสียงโครมครามขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างของบุรุษผู้หนึ่งนอนแน่นิ่งในห้องโถงพร้อมกับหลังคาที่เป็นรูขนาดใหญ่เพคะ” จิ้งจอกสาวตนนั้นรายงานเทพีอินาริ
“ไหนข้าขอเข้าไปดูที่เกิดเหตุหน่อย” คิสึเนะกล่าว ในฐานะผู้ควบคุมเขตที่สองของหมู่บ้านจิ้งจอก จำเป็นจะต้องเข้าไปตรวจดูความเสียหายที่เกิดขึ้น
“เจ้าค่ะ ท่านผู้อาวุโส” จิ้งจอกสาวตนนั้นนำทางทั้งสามไปยังห้องโถงที่เกิดเหตุ
ในบ้านไม้แบบโบราณที่ตรงกลางห้องโถงมีรูขนาดใหญ่บนเพดาน ส่งผลให้แสงอาทิตย์ลอดผ่านรู้นั้นเข้ามาได้ เบื้องหน้าของทั้งสามในตอนนี้คือพื้นห้องโถงที่เป็นหลุมขนาดไม่ลึกมาก ที่ก้นหลุมมีร่างของบุรุษผู้หนึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติ และทันทีที่คิสึเนะเห็นหน้านางก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“นาการะ?!” คิสึเนะอุทานเสียงดัง บุรุษที่ว่าก็คือนาการะนั่นเอง เหตุที่ชายหนุ่มร่วงลงมาผิดที่เช่นนี้เป็นเพราะความผิดปกติของประตูมิติที่ทำให้ชายหนุ่มร่วงลงมาจากท้องฟ้าเช่นนี้
“เจ้าหนูนั่นงั้นหรือ?” เทพีอินาริกล่าวถามคิสึเนะ เพราะพระองค์จำหน้านาการะไม่ค่อยได้แล้ว
“เพคะ เป็นเขาไม่ผิดแน่ๆ” หญิงสาวตอบ
“แล้วเจ้าหนู มาทำอะไรที่นี่กัน?” องค์เทพีพึมพำ
“หม่อมฉันก็สุดจะทราบเพคะ” คิสึเนะตอบ เพราะเท่าที่นางจำได้คือชายหนุ่มคอยส่งนางเพียงเท่านั้น แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน??
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถิด คิสึเนะ รีบย้ายร่างเขาไปที่บ้านของข้าก่อนก็แล้วกัน” เทพีอินาริกล่าว ก่อนจะหันไปสั่งเทพอารักษ์สองตน “พวกเจ้าช่วยย้ายชายผู้นี้ไปที่บ้านของข้าที”
“ขอรับ” ทั้งสองตนรับคำ ก่อนจะลงไปแบกร่างที่ไม่ได้สติของนาการะขึ้นมาจากหลุม
“ส่วนบ้านของเจ้าข้าจะซ่อมแซมให้เองนะ” เทพีอินาริกล่าว เพียงแค่สะบัดมือทุกสิ่งที่เสียหายก็พลันกลับมาเป็นเช่นเดิมด้วยอำนาจแห่งมนตรา
“ขอบคุณมากเพคะ” จิ้งจอกสาวเจ้าของบ้านยอบกายขอบคุณองค์เทพี
ก่อนที่เทพีอินาริจะเดินตามหลังคิสึเนะและเทพอารักษ์กลับไปยังที่พำนักของพระองค์ เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บของชายหนุ่ม
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ