เทพตกสวรรค์ ทัณฑ์นิรันดร์กาล

9.3

เขียนโดย 秋冬夢春

วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.05 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  20.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 18.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ความรู้สึก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “อาการเจ้าหนูนั่นเป็นเช่นไรบ้าง?” เทพีอินาริถามคิสึเนะที่เดินออกมาจากห้องที่ถูกเตรียมไว้สำหรับนาการะ

          “อาการเบื้องต้นไม่มีสิ่งน่าเป็นห่วงเพคะ มีแค่รอยฟกช้ำเล็กน้อยกับบาดแผลจากการตกจากที่สูงเพียงเท่านั้น” คิสึเนะกล่าวรายงาน

          “ได้ยินเช่นนั้นข้าก็สบายใจ~” เทพีอินาริกล่าว “คิจิคุเทน ไปต้มน้ำอุ่นมาให้คิสึเนะที” องค์เทพีกล่าวสั่งผู้เป็นน้องสาว

          “เจ้าค่า~ ต้มน้ำให้เจ้าหมาน้อย~ ฮืม ฮืม ฮืม” เทพีคิจิคุเทนฮัมเพลงไปด้วย

          เหตุที่เทพีคิจิคุเทนชอบเรียกคิสึเนะว่าเจ้าหมาน้อยก็ด้วยความเอ็นดู เพราะตั้งแต่คิสึเนะเกิดมาพระองค์ก็เป็นคนคอยดูแลมาตลอด แม้กระทั่งวันที่มารดาของคิสึเนะเสีย พระองค์ก็ยังคงอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน ซึ่งในส่วนตรงนี้คิสึเนะอนุญาตให้เพียงแค่เทพีสององค์นี้เรียกเพียงเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นผู้มีพระคุณกับตน

          “ข้าจะให้เจ้าดูแลเจ้าหนูนั่นนะ มีอะไรรายงานข้าด้วย” เทพีอินาริหันมากล่าวกับนาง “ข้าว่าจะเข้าไปที่วังหลวงเสียหน่อย” พระองค์กล่าว

          “ด้วยเหตุอันใดหรือเพคะ?” คิสึเนะถามด้วยความสงสัย เพราะหากไม่ใช่วันที่สภาแห่งสรวงสวรรค์ประชุมแล้ว เทพีตรงหน้านางแทบจะติดบ้านเลยก็ว่าได้

          “ข้าว่าจะเข้าไปเข้าเฝ้าเทพสึคุโยมิ พระอนุชาของเทพีอมาเตระสึเสียหน่อย เห็นว่าวันนี้พระองค์หวนกลับมายังที่ราบแดนสวรรค์หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาเสียนาน” เทพีอินาริกล่าว

          “เอ๊ะ! มิใช่ว่าพระองค์ถูกเนรเทศไปยังแดนสนธยาแล้วมิใช่หรือเพคะ?” คิสึเนะกล่าวด้วยความสงสัย เพราะเหตุที่ต้องโทษทัณฑ์ของเทพสึคุโยมิ คือการที่ได้ลงมือสังหารเทพียูเกะโมชิ เทพีแห่งอาหารและเกษตรกรรม ผู้เป็นคู่ครองของเทพีตรงหน้านางมิใช่หรือ? แล้วเหตุอันใดพระองค์ถึงอยากจะไปพบหน้าเทพผู้ที่ได้ลงมือสังหารชายาของพระองค์กันเล่า?

          “เจ้ากำลังคิดว่าข้าจะไปพบหน้า เทพสึคุโยมิด้วยเหตุอันใดน่ะหรือ?” องค์เทพีกล่าวถาม “ก็นะ มันเป็นหน้าที่ของข้า ถึงความรู้สึกของข้าจะไม่ชอบขี้หน้าเทพสึคุโยมินั่นเท่าใดนัก แต่ในฐานะอนุชาของเทพีอมาเตระสึแล้ว ข้าคงทำได้แค่เพียงก้มหัวให้ล่ะนะ” เทพีอินาริยักไหล่อย่างหยี่ระ

          “เพคะ” คิสึเนะกล่าว

          ก่อนที่เทพีอินาริจะจำแลงกายเป็นบุรุษเพศ ที่มีความกำยำและแข็งแรง จนคิสึเนะเองก็เกือบลืมไปว่าเทพีหรือเทพตรงหน้ามีความสามารถในการจำแลงกายได้ทั้งสตรีเพศและบุรุษเพศ และก่อนที่จะไปพระองค์ยังไม่ลืมที่จะกำชับกับคิสึเนะและเทพีคิจิคุเทนอีกหน

          “ข้าฝากพวกเจ้าดูแลเจ้าหนูนั่นด้วย และอย่าให้เทพองค์ใดรับรู้ถึงการมาถึงของเจ้าหนูนั่นเป็นอันขาด” เทพีอินาริกำชับ ก่อนจะเหาะมุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของพระราชวังหลวงชั้นในสุด

          “เพคะ/เจ้าค่ะ” ทั้งสองรับคำ

 

พระราชวังชั้นใน

          “อา~นี่คือที่ราบแดนสวรรค์ของเสด็จพี่สินะ? แล้วท่านพี่ของข้าล่ะไปอยู่ไหนกัน?” เสียงของบุรุษในชุดผ้าไหมสีม่วงดังขึ้นภายในราชรถสวรรค์สีทองอร่ามท่ามกลางเทพอารักษ์ทั้งสี่

          “พ่ะย่ะค่ะ องค์อนุชา ด้วยบัดนี้องค์เทพีอมาเตระสึ มิประสงค์จะให้ผู้ใดเข้ารบกวนพระองค์ในขณะที่บำเพ็ญตบะในภูเขาที่ห่างไกลออกไปขอรับ” เทพอารักษ์องค์หนึ่งรายงานผู้เป็นนาย

          “โห๊! ท่านพี่ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมสินะ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย” เทพสึคุโยมิปิดหนังสือเล่มหนา สายเหลือบมองบริเวณโดยรอบ

          "ไม่ได้กลับมาเสียนาน ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลยสินะ" พระองค์กล่าวพึมพำ

          ร่างผอมเพรียวในชุดผ้าไหมสีม่วงแสบตา ก้าวออกจากราชรถ เผยให้เห็น เรือนผมสีเงินแวววาวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่อยู่บนฟากฟ้าไกล ดวงตาสีทองเป็นประกายแลดูตัดกับเรือนผมสีเงินยิ่งนัก 

          “โอ้! ข้าเกือบลืมไปแน่ะ ว่ารัศมีของท่านพี่นั้นรุนแรงขนาดไหน หึๆๆ” เทพสึคิโยมิพูดแล้วหัวเราะเบาๆ ทันใดนั้นเองพระองค์ก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติมาจากทางทิศตะวันตก พลังที่เหล่าเทพและเทพีทั้งหลายหวาดกลัว พระองค์หยุดชะงักแล้วหันหน้าไปตามทิศทางของพลังนั้น แต่ทว่าเสียงของเทพอารักษ์ก็ฉุดพระองค์ไว้เสียก่อน

          “กระหม่อมขอเชิญพระองค์เข้าประทับยังวังหน้าเถิดพ่ะย่ะค่ะ อีกมินานองค์เทพีอมาเตระสุก็จะทรงออกจากการบำเพ็ญตบะแล้ว” เทพอารักษ์ทูลเชิญเทพสึคุโยมิไปยังวังหน้าอันเป็นสถานที่ประทับของเทพที่รองลงมาจากพระองค์ซึ่งบัดนี้ว่างเปล่า

          “อืม นำทางข้าไปเถิด” เทพสึคิโยมิผละความสนใจจากพลังต้องห้ามที่ตรวจพบได้ แล้วเดินตามเทพอารักษ์ไปยังวังหน้าเพื่อคอยการออกจากการบำเพ็ญตบะของผู้เป็นพี่สาวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

          “พ่ะย่ะค่ะ” เทพอารักษ์ตนนั้นได้เดินนำทางเทพสึคุโยมิไปยังเรือนพำนักในวังหน้า

 

ณ ที่พำนักของเทพีอินาริ

          นาการะที่สลบไสลไม่ได้สตินั้นได้ดิ่งลงสู่ห้วงแห่งนิทราอันคุ้นเคยอีกครั้ง

          “นี่ข้า……โดนองค์ชายดึงมาอีกแล้วหรือเนี่ย?” นาการะยืนสงบนิ่งท่ามกลางความมืดสีดำสนิท

          “เจ้ามาแล้วหรือ?” เสียงอันคุ้นเคยขององค์ชายดังขึ้นด้านหลัง ดึงให้นาการะหันกลับไปมอง หากแต่คราวนี้องค์ชายกลับจำแลงร่างเป็นร่างเยาว์วัยของตนเอง

          “เหตุใดท่านจึงจำแลงร่างเป็นเด็กน้อยเช่นนั้นเล่า?” นาการะถามองค์ชาย

          “ไม่รู้สิ พอมาอยู่ดินแดนนี้แล้ว ความรู้สึกของข้าก็เหมือนกลับไปอยู่ในวัยเยาว์อีกครา” องค์ชายกล่าว

          “เช่นนั้นหรอกหรือ?” นาการะพยักหน้าเบาๆ

          “ช่างเรื่องนั้นเถิด ที่ข้าเรียกเจ้ามาเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก” เทพตรงหน้ากล่าว

          “เรื่องอันใดกัน?” ชายหนุ่มถามสวนกลับไป

          “ข้าพึ่งทราบว่าท่านน้าของข้าเสด็จกลับมายังที่ราบแห่งนี้” องค์ชายกล่าว “นั่นหมายถึงกำลังจะมีเรื่องใหญ่บังเกิด”

          “น้าของท่าน หมายถึงเทพสึคุโยมิน่ะหรือ?” นาการะถามซึ่งก็ได้รับคำตอบจากองค์ชายด้วยการพยักหน้า

          ถ้าหากชายหนุ่มจำไม่ผิด ในครั้งมหาสงครามเทพสึคุโยมินั้นบัญชากองทัพแห่งสรวงสวรรค์ที่ 2 ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากองทัพภูติจันทรา อันเกิดจากเวทย์ที่ไร้ขีดจำกัดของพระองค์ที่สร้างขึ้นมาเป็นรูปเทพอารักษ์แห่งจันทราและเป็นเพียงกองทัพเดียวจากทั้งหมด 9 กองทัพหลักของทวยเทพที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อเทพีอมาเตระสึ ด้วยเหตุเช่นนั้นกองทัพนี้จึงขึ้นชื่อเรื่องความเด็ดขาดและโหดเหี้ยมตามนิสัยของผู้เป็นนาย

          “แล้วเรื่องใหญ่ที่ว่านั่นคือ?” นาการะเอ่ยถามอีกครั้ง

          “ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่อยากให้เจ้าช่วยจับตาดูความเคลื่อนไหวของท่านน้าให้ข้าที” องค์ชายกล่าวร้องขอ

          “ข้าไม่รับปาก หากแต่จะพยายามเท่าที่ทำได้” นาการะพยักหน้า

          “ย่อมเป็นการดี เพราะถ้าหากเกิดสิ่งผิดปกติในสรวงสวรรค์แห่งนี้ นอกจากเสด็จแม่ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้น ที่สามารถแก้ไขมันได้” องค์ชายกล่าวพร้อมพยักหน้า

          “ข้าหรือ?” นาการะรู้สึกแปลกใจ “เหตุใดข้าจึงสามารถแก้ไขมันได้กันเล่า?”

          “พลังที่เจ้าครอบครองเช่นไรเล่า พลังที่แม้กระทั่งเทพผู้อารักขาโพธิสัตว์เช่นข้ายังขยาด” เทพตรงหน้าชายหนุ่มกล่าว “พลังที่แม้แต่เหล่าเทพสูงสุดทั้งหกยังต้องหวาดกลัว พลังที่มีนามว่า เปลวเพลิงประหารเทพ

          “ข้าเข้าใจแล้ว” นาการะกล่าวสำทับ

          “ความรู้สึกของเจ้า ลองถามมันและให้มันนำพาเจ้าเองแล้วกัน ข้ามิอาจจะแทรกแซงมันได้ ข้าจะเข้าแทรกแซงได้ก็ต่อเมื่อเจ้าอนุญาตเท่านั้น” องค์ชายกล่าวปริศนาทิ้งท้าย ก่อนที่นาการะจะรู้สึกเหมือนถูกโยนออกจากห้วงมิติแห่งนั้น

          .

          .

          “อึก……อืออออ” ชายหนุ่มรู้สึกตัวในตอนค่ำของวัน ซึ่งประจวบเหมาะกับเวลาที่คิสึเนะจะเข้ามาดูอาการพอดิบพอดี

          "เจ้าฟื้นแล้วหรือ? ดีใจจัง” คิสึเนะกล่าวพลางวางถังน้ำอุ่นไว้ข้างๆ เตียง

          “อือ……? แล้วที่นี่ที่ใดกัน? เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้?” นาการะเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะถ้าจำไม่ผิด ครั้งสุดท้ายที่เขารู้สึกตัวคือตกลงมากระแทกอะไรสักอย่างจนหมดสติไป

          “โถ่เอ๋ย เจ้าตกลงมากระแทกหลังคาชาวบ้านของหมู่บ้านจิ้งจอกจนหมดสติไป และที่นี่ก็คือเรือนพำนักของเทพีอินาริ” คิสึเนะกล่าวตอบพร้อมกับลูบหัวนาการะด้วยความเป็นห่วง

          “เป็นเช่นนี้เองหรอกหรือ?” มิน่าเขาถึงรู้สึกปวดไปทั้งร่างกายเช่นนี้

          “ว่าแต่ เจ้าตามข้ามาทำไมที่นี่~?” คิสึเนะปล่อยรังสีอำมหิตออกมา พร้อมกับหยิกแก้มนาการะไปด้วย

          “อ้าอ้อแอ้อาอามอนอ๋องอ้าอับ (ข้าก็แค่มาตามคนของข้ากลับ) ” นาการะพูดอย่างไม่ชัดนักด้วยเพราะโดนหยิกแก้มอยู่

          “คนของเจ้า?” นางทำหน้าสงสัย

          “อ้อเอ้าไอ (ก็เจ้าไง) ” นาการะตอบหน้าตาย

          “พะ……พูดอะไรของเจ้า……/////……” มือทั้งสองที่เคยหยิกแก้มนาการะหันกลับมาปิดใบหน้าที่แดงก่ำของนางเอง

          “นี่…………” นาการะเรียกหญิงสาว

          “มะ……มีเรื่องอันใด………………” นางหันกลับมาถาม แต่แล้วนางก็ถูกชายตรงหน้าแย่งชิงจุมพิตไปอีกครา ดวงตาของนางเบิกโพลงด้วยความตกใจ ไม่ว่ายังไงนางก็ไม่ชินอยู่ดี

          ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องสว่างลอดบานหน้าต่าง ชายหนุ่มและหญิงสาวแสดงออกถึงความรักและความห่วงหา ความรู้สึกของทั้งสองหลอมรวมเป็นหนึ่ง แม้จากกันเพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่ความคะนึงหามีมากคณานับ มือทั้งสองกุมกันไว้อย่างแน่นหนาประหนึ่งว่ากลัวจะหลุดจากหายกันไปอีก ไม่นานนักชายหนุ่มจึงถอนจุมพิตออกจากหญิงสาว

          “ข้า……คิดถึงเจ้านะ…” นาการะกล่าวความในใจ ก่อนที่คราวนี้คิสึเนะจะพุ่งเข้ามาจุมพิตชายหนุ่มบ้าง

          “………” มือทั้งสองที่เคยเกาะกุมกันแน่น บัดนี้ต่างฝ่ายต่างกอดกัน ตักตวงความรู้สึกทั้งหลายที่มีให้ได้มากที่สุด

          “(แอ๊ด) ………ไอ้หยา!!! เจ้าหมาน้อย!!!!” เสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตะโกนของเทพีคิจิคุเทนที่เห็นภาพที่หญิงสาวกำลังจุมพิตกับชายหนุ่มอยู่ “พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่??” องค์เทพีกล่าวขึ้น

          “อะ……เอ่ออออ……” คิสึเนะอ้ำอึ้ง หันหน้ามามองนาการะ

          “พวกข้าก็แสดงออกถึงความรักอยู่เช่นไรเล่า………” คำตอบของนาการะทำเอานางช็อคไปเลย “แล้วท่านเป็นใคร ใยถึงรุกล้ำพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอินาริ” นาการะดึงคาตานะออกมาจากช่องมิติ เพลิงประหารเทพสีขาวสะท้อนเข้าไปในนัยน์ตาสีดำสนิท

          “ไอ้หยา! เพลิงประหารเทพ!!” เทพีคิจิคุเทนรีบเข้าไปกอดคิสึเนะด้วยความหวาดกลัว

          “ตอบข้ามา ไม่งั้นก็ดับสูญ…!!!” นาการะพูดเสียงเรียบใส่องค์เทพี

          “ระ…เรามีนามว่า…คะ…คิจิคุเทน ปะ เป็นเทพีแห่งความงาม น้องสาวของท่านพี่อินาริ” เทพีคิจิคุเทนตอบเสียงสั่น

          “……” นาการะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหันไปหาคิสึเนะเพื่อถาม “จริงหรือไม่?” แล้วชายหนุ่มก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า นาการะจึงยอมลดคาตานะลงและส่งมันเข้าประตูมิติเช่นเดิม

          “ขออภัยสำหรับการเสียมารยาทขอรับ” นาการะค้อมหัวให้องค์เทพี

          “ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ” มืออันบอบบางของเทพีคิจิคุเทนลูบหัวนาการะ

          นาการะนึกย้อนไปในมหาสงคราม เทพีคิจิคุเทน น่าจะเป็นหนึ่งในเทพีที่อยู่ในแนวหลัง ด้วยไม่สามารถต่อสู้ใช้วิทยายุทธ์ได้ ด้วยพระองค์เป็นเทพีแห่งความงาม ซึ่งนาการะไม่เคยเจอหน้าพระองค์เลย เพราะตนเองประจำอยู่แนวหน้าตลอดมหาสงคราม จึงไม่แปลกนักที่จะไม่คุ้นชินกับองค์เทพี

 

ตัดกลับไปที่วังหน้า

          เมื่อชั่วครู่หนึ่งเทพสึคุโยมิสัมผัสได้ถึงพลังต้องห้าม จนต้องละสายตาออกจากหนังสือที่กำลังอ่าน

          “นี่มัน……” พระองค์พึมพำเบาๆ

          “ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

          “เข้ามาได้” เทพสึคุโยมิกล่าวอนุญาต เมื่อประตูถูกเปิดออก เบื้องหลังประตูคือภูติจันทราตนหนึ่งที่เข้ามาตามพระองค์ “ได้เวลาแล้วพ่ะย่ะค่ะ เหล่าเทพทั้งหลายต่างรอท่านอยู่”

          “อืม…นำข้าไป” เทพสึคุโยมิหันกลับมาพร้อมกับลุกยืนขึ้น

          “หรือว่าข้าคิดไปเอง?” พระองค์คิดในใจ ปัดความรู้สึกที่รบกวนจิตใจพระองค์ ก่อนจะเดินตามภูติจันทราไปยังห้องโถงของพระราชวังหน้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้?

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา