ห้าดรุณี (ลงเว็บนี้กับเว็บเด็กดี)

-

เขียนโดย ณัฐพล

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.21 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,607 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562 21.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2 พลทหารคนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นายทหารอีกคนตรวจร่างกายเช็คว่ากรผ่านคุณสมบัติทุกอย่างและในตอนบ่ายนายทหารอีกคนเรียกชื่อกร กรเดินออกมาเขาก็จับใบดำและทบ1และ2 ปรากฎว่า กรจับได้ทบ.1ค่ายจักรพงษ์จังหวัดปราจีนบุรี เขาดีใจมากๆที่เขากำลังจะได้รับข้าราชการทหาร เสียงเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทขึ้นพร้อมเคลื่อนรถไปตามถนนสายหลัก พอเขาติดไฟแดงตรงสามแยก เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาใส่หูฟังบลูทูธ พร้อมกดเบอร์แม่ เปลวกนกตอนนี้กำลังทำงานบ้าน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหน้าจอขึ้นชื่อว่า ‘กร’ เธอกดรับสาย

“ฮัลโหลแม่ ผมมีข่าวดีจะมาบอกครับ ผมได้เป็นทหารแล้วครับแม่”

“จริงหรอลูก”เปลวกนกพูดอย่างดีใจ

“จริงครับแม่ ผมไปอยู่ค่ายที่จังหวัดปราจีนบุรีครับแม่”

“ก็ไม่ไกลนี่ลูกดีแล้วที่มีหน้าที่การงานทำ”

“ครับแม่งั้นแค่นี้นะครับผมขับรถอยู่ค่อยคุยนะครับ”

ธนากรรีบออกรถก่อนที่จะไฟแดงอีกครั้ง

ชายภาเดินมาหาภรรยาสุดสวย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคุณ”

“ตากรได้เป็นทหารแล้วค่ะคุณ”

“หา! จริงหรอเปลว”

ชายภาคิไนยตกใจและดีใจมากๆที่บุตรชายคนโตเป็นทหาร ดนัยก็ติดทหารเหมือนกันเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ

เย็นวันนั้นปิ่นพึ่งกลับมาจากที่ทำงานไม่ไกลจากบ้านเขาเห็นพี่ชายดูมีความสุขซึ่งผิดจากทุกวันที่ผ่านมา เขาทั้งบ่นว่า ความรู้ไม่เข้าสมองบ้าง  ไม่เอาไหนบ้างแต่วันนี้ดูอมยิ้ม ปิ่นจึงเดินเข้าไปถามแม่ของตน

“แม่คะ วันนี้พี่ดูแปลกๆ แล้วพี่เขาติดทหารหรือเปล่าคะแม่”

เปลวกนกไม่ตอบใดๆ เลิกคิ้วให้อีกฝ่ายมาตอบเอง

“น้องปิ่น คือฟังดีๆนะ พี่ติดทหารนะ”

ปิ่นหันหน้าไปทางกร พร้อมอาการดีใจโอบกอดพี่ชาย

“พี่กรดีใจด้วยนะคะ เป็นทหารนะเป็นรั้วของชาติ เกิดมาแค่ชาติเดียวเราต้องตายในสนามรบ ขนาดปิ่นเองก็อยากเป็นเลยค่ะ”

“ไอ้เป็นนะมันก็ดีอยู่หรอกนะแต่เวลาฝึกจริงๆมันไม่ง่ายๆนะ มันต้องสร้างความอดทน เหมือนลูกเสือ เขาก็สร้างความอดทน สู้กับแดดจัด เข้มแข็ง มีระเบียบวินัย มันก็เหมาะกับสุภาพบุรุษสุภาพสตรีถ้าเอาไปเป็นกลัวว่าจะไม่ค่อยสู้แดด ถึงแม้ว่าบางคนจะเก่งสมบูรณ์แบบก็ตามนะปิ่น” กรบอกปิ่น

ปิ่นอึ้งแล้วนึกตามเธอเป็นผู้หญิงแต่ก็ดูห้าวๆ อีกเสียงที่ดังขึ้นอีกเสียงขัดจังหวะ

“ปิ่น นั่นปิ่นใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ นี่จ่อยใช่ไหม”ปิ่นถามอีกฝ่าย

“ใช่ปิ่นนั่นใครนะปิ่น”กรถามถึงคนที่มาเยือน

“งั้นปิ่นแนะนำเลยนะคะ นี่คือจ่อยแฟนของปิ่นเอง จ่อยนี่พ่อกับแม่แล้วนี่ก็พี่ชายเราเอง”ปิ่นแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จัก

“สวัสดีครับคุณพ่อ แม่ และพี่…ปิ่นพี่เธอชื่ออะไรหรอ”จ่อยถามอีกฝ่าย

“พี่กรจ้า”

“ครับพี่กร”

“จ่อยพึ่งมาถึงหรอ”

“ใช่ จ่อยเอาปลาร้าทรงเครื่องมาฝากปิ่นด้วย ส่วนนี่คือโอม เพื่อนผมเอง”

“สวัสดีครับ”โอมยกมือไหว้อีกฝ่าย

“จริงดิจ่อย นายมาเป็นคนขับรถให้แก่วังของเราเอาไหม”คุณชายภาคิไนยเสนอความเห็น

“เอาครับ ผมเป็นคนขับรถประจำตัวคุณกรและคุณปิ่นส่วนโอมเป็นคนสวนดีไหมครับ”จ่อยออกข้อเสนอ

“ก็ดีนะจะได้ช่วยกันหาเงิน บ้านนายจนหรอจ่อย”คุณชายภาถามอีกฝ่าย

“ครับบ้านผมจนมากๆผมเองก็เป็นแค่ชาวนา”

“ต่อไปนี้เราจะรับนายสองคนเข้าทำงานละกันนะ”

“ครับช่วงนี้หางานยากมากเลยครับ ผมจบในระดับวุฒิปริญญาตรีก็จบกันมาเยอะแต่ทำไรได้ไม่ค่อยมากเลยครับ”จ่อยบอก ชายภาคิดตาม

“มันก็ใช่นะนายพูดถูก ส่วนเงินเดือนจะเริ่มสตาร์ทที่ 300บาทต่อวัน รวมแล้วก็6,000บาทของแต่ละเดือนเอาไหม”ชายภาบอก

“ครับนายท่าน”

ปิ่นมองหน้าจ่อยซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ส่วนกรนั้นเดินเข้าวังไปวันนี้อากาศร้อน อุณหภูมิ 36องศา กรเหงื่อออกตามใบหน้าเอาแขนปาดเหงื่อ ส่วนน้องสาวสุดแสบคอยทำหน้าที่เอาน้ำและไอศครีมมาเสริฟให้อีกฝ่าย

“จ่อย วันนี้อากาศร้อนมากๆเลยนะวันนี้ แล้วว่าแต่ที่นั่นร้อนมากไหม”กรถามอีกฝ่าย

“ร้อนจริงๆครับวันนี้ ที่บ้านผมก็ไม่ต่างกันครับ แล้วคุณกรถามเนี่ยอยากจะไปแถวบ้านผมละสิครับ”

“ไม่คือว่าเราจะไปค่ายทหารพอดีจะไปทำงานที่ปราจีนบุรี”

“ไม่ไกลจากที่นี่เลยนะครับ ไปวันไหนครับ”

“เดือนหน้านะ จ่อยเกณฑ์ทหารหรือยังละ”

“เกณฑ์แล้วแต่ผมรอดผมก็ดีใจนะที่คุณกรจะกลายเป็นพลทหาร ม.ล.ธนากรครับ”จ่อยบอก

 พออีกสักพักดนัยเดินเข้ามา ปิ่นเห็นอีกฝ่ายเดินมาก็ยกมือไหว้

“สวัสดีค่ะพี่ดนัย”เสียงใสเอ่ยขึ้น

“สวัดดีครับน้องปิ่น ไอ้กรอยู่ไหม”

“อยู่ค่ะ งั้นเชิญเข้าไปข้างในบ้านก่อนนะคะ”ปิ่นผายมือเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายให้เข้าไปในบ้าน

“วันนี้อากาศร้อนมากๆ เลยนะครับพี่ดูข่าวแต่ละข่าวมีแต่คนใจร้อน สงสัยอากาศร้อนคนเลยร้อนตาม”ดนัยบอก

“ใช่ค่ะ มีแต่ข่าวฆ่ากันตายคนเราตายทุกวัน”

แล้วอีกสักพักกรเดินลงมาพอดี

“กร นายไปไหนมา”ดนัยถามอีกฝ่าย

“ไปอาบน้ำมาวะแล้วแกมาแวะหาฉันหรอ”

“เออใช่วะ จริงดิคนใช้แกไปไหนวะ”เสียงเข้มเอ่ยถาม

“เดี๋ยวมาวะ ปิ่นไปเรียกนายจ่อยมาหน่อยสิ”กรวานน้องสาวให้ไปเรียกอีกฝ่าย

“น้องสาวแกน่ารักและสวยขึ้นนะเว้ยเพื่อน คนนี้ให้ข้าจีบได้ไหมวะ”ดนัยบอกพร้อมทีจริงทีเล่น

“แกฟังเรานะเว้ย คือว่าน้องสาวฉันเขามีแฟนแล้วเว้ย แฟนเขาก็คนขับรถบ้านเราไง”กรบอก

“หา! จริงหรอวะก็ดีนี่มีแต่ฉันนี่แหล่ะวะที่โสด”

ปิ่นเดินมากลับคนขับรถวันนี้เขาสวมเสื่อเชิตสีเทากางเกงสแล็กสีดำ เขาเดินมาอย่างสุภาพ

“พี่กร นายจ่อยมาแล้วค่ะ”เสียงใสบอกกับอีกฝ่าย

“นายจ่อย พาเราไปห้างสรรพสินค้า ธนพ สโตร์หน่อยสิ”

“มันอยู่ตรงไหนครับ”คนขับรถถามเจ้านาย

“แป๊บนะ”

 กรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดapp แผนที่แล้วปักหมุดห้างสรรพสินค้า ธนพ สโตร์

“นี่ อยู่ถนนพัฒนาการ ตรงไหนนี่นะจะถึงดนัยจะไปด้วยกันไหม”กรชักชวนอีกฝ่ายให้ไปด้วยกัน

“ไปสิครับเพื่อนยาก”

ดนัยเอาแขนโอบคอเพื่อนพร้อมตบไหล่

“พี่กรให่ปิ่นไปด้วยได้ไหมคะ”ปิ่นเอ่ยขึ้นผู้เป็นพี่ชาย

“ได้สิน้องปิ่น ไปหายัยดา สา ตาและธนพกัน”

คนขับรถเปิดประตูให้อีกฝ่ายขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกจากวังไป

ดนัยเอ่ยสงสัยจึงถามขึ้น

“กร คือว่าธนพนี่คือใครหรอ”

“ธนพคือเพื่อนเราเอง เขาเป็นลูกชายคนโตของน้าธนากับน้าโสมภาไง”กรบอก

“คุณธนาคนที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรอ คุณธนพคงรวยนะสิครับ”ดนัยเสริม

“ก็ระดับหนึ่งนะแต่เห็นว่าตอนนี้กำลังเป็นรองผู้จัดการบริษัทธนพ ดิเวลโลพเม้นท์อยู่นะ”กรบอก

รถก็มาหยุดที่หน้าห้างสรรพสินค้า ธนพ สโตร์ ตอนนี้กิจการของห้างนี้เติบโตมากๆ

“โอ้โห ห้างใหญ่จัง”ดนัยอุทานขึ้น

คนขับรถเปิดประตูเพื่อให้ผู้โดยสารลง

“จ่อยนายกลับวังก่อนก็ได้นะส่วนเราจะคุยกับรองผู้จัดการของห้างนี้”

“ขอรับ”

ในตอนนี้รถเคลื่อนออกจากห้างไปตามทางถนน

“เชิญสิดนัย”กรผายมือให้เพื่อนเดินก่อนตน

ธนพเดินมาตรวจงานตามความเรียบร้อยและพูดคุยกับพนักงาน เขาเหลือบไปเห็นธนากร พร้อมเดินเลี่ยงไปจากตรงนั้น

“พี่กร”ธนพโผลเข้ากอดผู้ที่มาเยือน

“สบายดีไหมตานพ”

“สบายดีครับพี่ได้ยินข่าวว่าพี่เป็นทหารหรอครับ”

อีกฝ่ายพยักหน้า

“พี่นพ ตากับยัยสาอยู่ไหมคะ”ปิ่นถามหาอีกฝ่าย

“อยู่นะปิ่น สองคนนั้นอยู่ห้องทำงานของเรา”

ธนพเดินนำหน้าเพื่อให้ปิ่นเดินตาม ห้องทำงานเป็นห้องที่ดูกว้างขวางสะอาดตาของผู้ที่พบเห็น บนโต๊ะทำงานมีเครื่องเขียน เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ เอกสารและแฟ้ม แม้แต่เครื่องพิมพ์ดีดยังตั้งอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง ปิ่นเสนอหน้าเข้ามา

“สวัสดีจ๊ะสองสาว”ปิ่นทักทายอย่างเป็นกันเอง

“อ้าวปิ่น เรากำลังคิดถึงเธออยู่เลย”

ลลิตากับอาลิสาโผเข้ากอดปิ่นเพื่อนรักที่ไม่เคยเจอกันมานาน

“ฉันก็คิดถึงเธอทั้งสองคนเหมือนกัน ตาเธอเรียนจบหรือยังละ”

“เราเรียนจบแล้ว จบปุ๊บมาทำงานช่วยครอบครัวเลยนะ”

“แล้วสาละเรียนจบหรือยัง”

“ยังเลยนะเรียนปีสุดท้ายแล้วปิ่นละเรียนจบยัง”

“จบแล้ว นั่นเอกสารอะไรหรอคะพี่นพ”ปิ่นถามอีกฝ่าย

“นี่คือเอกสารสถิติของยอดขายในแต่ละเดือนไงปิ่นหรือว่าปิ่นสนใจจะย้ายมาทำงานที่ ธนพดิเวลโลพเม้น จำกัดหรอ” ธนพถามอีกฝ่าย

“ก็สนใจนะคะเราจะได้ช่วยธุรกิจไปด้วยกันแต่น้าโสมเขาเสียไปนานแล้วปิ่นเลยอยากช่วย”

ธนพอมยิ้มอย่างเป็นนัยๆ

“จริงดิพี่กรเหลืออีกกี่เดือนครับเนี่ยจะได้ไปเข้าค่ายทหาร”

กรสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนเอ่ยให้แก่อีกฝ่ายฟัง

“เดือนหน้านะ พี่ก็คงไปแล้ว”

 “จริงดิ พี่คงจะได้สาวๆ ลูกนายทหารมาเป็นภรรยาแล้วละมั๊ง” ธนพพูดทีเล่นทีจริง”

“เรื่องความรักเอาไว้ทีหลังนะเรื่องงานมาก่อน”

ธนพตบบ่าอีกฝ่ายพร้อมหันหน้ามาหาหญิงสาวที่กำลังคุยกับเพื่อน

“แล้วปิ่นละมีแฟนหรือยังเอ่ย”

เจ้าหล่อนตอบอย่างมั่นใจก่อนส่งยิ้มให้อีกฝ่าย

“มีแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้แต่งงานกับเขาเท่านั้นเอง”

ธนพไม่เคยรู้เลยว่า ปิ่นมีคนที่ชอบอยู่แล้ว

“เขาเป็นคนที่ไหนหรอ”

ปิ่นมองหน้าอีกฝ่ายก่อนตอบ

“เขาเป็นคนกาฬสินธุ์ค่ะ แต่ปิ่นไม่เคยไปเลยเห็นว่าอยู่ทางภาคอีสาน”

ธนพเคยไปดูกิจการทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือทางนั้นตอนช่วงฤดูร้อนอากาศจะดูแห้งแล้งมาก ธนพมองมาอีกฝ่ายกำลังคุยกับลลิตากับอาริสา

“ปิ่นงั้นผมจะให้ปิ่นมาทำงานที่นี่นะ เราเป็นเพื่อนกันนี่ไม่ต้องเกรงใจหรอก”ธนพบอกพร้อมมองมาทางกร

กรในตอนนี้กำลังคุยกับดนัยซึ่งกำลังมองสาวๆ คุยกัน ดนัยแอบชอบลลิตาเพราะเธอดูเป็นกันเองดนัยเข้าไปคุยกับลลิตาโดยทันที

“สวัสดีครับคุณ”ดนัยทักทายพร้อมน้อมตัวลง

“สวัสดีค่ะคุณชื่ออะไรคะ”ลลิตาถามอีกฝ่าย

“ผมชื่อดนัยครับ คุณไม่ทราบชื่ออะไรครับ”

“คุณเป็น”

“ผมเป็นเพื่อนของกรครับ”

ดนัยบอก ส่วนปิ่นมองที่อีกฝ่ายแนะนำตัวก่อนที่จะขัดจังหวะ

“ทำอะไรกันอยู่นะพี่ดนัย แหมจีบยัยตาหรอแหมเสน่ห์แรงเลยนะ”ปิ่นเสริมพร้อมแซว

ลลิตาใบหน้าแดงกล่ำดนัยเองก็ยิ้มแบบแห้งๆก่อนที่จะเดินออกไปนอกห้องเพื่อไปคุยกับกร

“พี่กรครับ พี่สุดยอดมากๆเลยครับที่พี่ได้งาน”

ธนพชื่นชมอีกฝ่าย

“จริงสิธนพได้ข่าวคุณหญิงป้าโฉมสำอางหรือเปล่า”

ธนพผ่อนลมหายใจก่อนจะเล่าเรื่องที่น้าหญิงยอเคยเล่าให้ฟัง

“ฟังนะพี่กร ตั้งแต่น้าหญิงยอคุณหญิงป้าโฉมสำอางได้หนีและหลังจากนั้นเห็นว่าไปแต่งงานกับสามีใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่ สามีใหม่เขาเป็นพ่อค้าวานิช และอีกไม่นานล้มป่วยและเสียชีวิต เห็นว่าคุณหญิงป้ามีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อ วาดอะไรสักอย่างหนึ่ง ปานวาดหรือแม้นวาดนี่แหล่ะเห็นว่าเขาจะมาในวังนภาธรด้วยนะ พี่ต้องระวังด้วยนะครับ” ธนพเตือนด้วยความหวังดี

“ขอบคุณมากนะธนพ”ธนากรกล่าวขอบคุณพร้อมตบไปที่บ่า

“งั้นพี่กลับก่อนนะ ทุกคนปะดนัยกลับ”

“พี่กรแล้วปิ่นละคะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้น

“กลับสิ วันหลังค่อยมาทำงานที่นี่กันใหม่”

ธนากรรีบเดินออกจากห้างสรรพสินค้า ธนพสโตร์ พร้อมล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อที่จะโทรไปหาคนขับรถ

“ฮัลโหลจ่อยมารับผมหน่อยที่หน้าห้างธนพสโตร์”

สิบห้านาทีต่อมา รถก็เคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าห้างธนพสโตร์ก่อนทั้งสามจะขึ้นรถ ปิ่นคอยส่งยิ้มให้นายจ่อยเป็นระยะๆ ในขณะเดียวกัน ดนัยเพ้อถึงลลิตาซึ่งเป็นผู้หญิงที่ดูหวานมีน้ำใจอ่อนโยน

“กร คนที่ชื่อสาธิดานี่คนไหนหรอ”

“อ๋อคนนั้นนะเขาติดเรียนอยู่นะ แต่เขาเป็นคนคุยไม่ค่อยเก่งแบบดื้อเงียบนะ”

“แล้วคนที่ชื่อ ปานวาด แม้นวาดนี่คือใครหรอ”

ปิ่นสะดุ้งชื่อนี้เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

“เห็นว่าเป็นลูกสาวของคุณหญิงโฉมสำอางนะเรื่องนี้พี่ไม่รู้”

รถได้เคลื่อนเข้ามายังวังนภาธร นายจ่อยทำหน้าที่เปิดประตูรถโดยทันที กรกับดนัยยืนอยู่หน้าวัง ส่วนปิ่นยื่นน้ำเย็นๆเอามาให้นายจ่อย

“ดนัยเราว่านายไปรอที่ห้องพิเศษที่มีแอร์อยู่ด้านโน้นก่อนส่วนเราจะคุยกับแม่ของเรา”กรให้อีกฝ่ายไปรอที่ห้องรับรองพิเศษ

ส่วนกรเข้าไปข้างในวัง

“แม่ครับ”

“อ้าวตากรมีอะไรหรอลูก”เปลวเอ่ยถามบุตรชายก่อนเห็นอีกฝ่ายเหงื้อแตกผลัก

“แม่เล่าให้ฟังหน่อยสิครับคุณหญิงโฉมสำอางกับคุณหญิงน้ายอเกียรติเป็นอะไรกัน”

เปลวสูดลมหายใจลึกๆ

“เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแม่กับเขาไม่ได้เป็นอะไรกับเขาป่านนี้คงมีบุตรแล้วละมั๊ง”

“ใช่แม่ แต่เห็นว่าบุตรสาวเขาจะมาที่นี่ด้วยนี่ครับแม่”

ธนากรบอก

 เรือลำหนึ่งกำลังเข้ามาจอดเทียบท่า คุณหญิงเปลว คุณชายภา ปิ่นและรวมถึงกรก็เดินมาดูอีกฝ่ายที่มาเยือน เธอสวมชุดที่ดูใส่สบาย เธอไม่ได้มาแค่คนเดียว เธอมากับสาวใช้อีกคน

“ถึงแล้วค่ะคุณวาด”

เธอชื่อม.ล.แม้นวาด ศุภคุณ เธอเป็นคนผิวขาวตามฉบับคนเหนือ เธอไหว้อีกฝ่าย

“สวัสดีค่ะ คุณหญิงน้าทั้งสอง ฉันชื่อแม้นวาดหรือวาด ฉันจะมาขอพักอาศัยที่นี่สัก 3-4เดือนดีไหมนะ ไม่ดีกว่าค่ะ จะอยู่สัก 2ปี”เธอพูดเย้ยยันอีกฝ่าย

“จะอยู่กี่ปีก็อยู่เถอะหลานก็ดีนะ ปิ่นลูกเราจะได้มีเพื่อนซะที”

ปิ่นจ้องมองหน้าอีกฝ่าย พร้อมตั้งตัวเป็นศรัตรูกัน

“ไม่นะคะคุณพ่อ ปิ่นมีเพื่อนเยอะอยู่แล้วนี่คะ”

“คนนี้หรอชื่อปิ่น ก็ไม่เลวนี่ เห็นว่าเก่งมวยไทยหรอ เก่งนี่ แล้วนั่นคือคุณกรใช่ไหม บึกบึน สมเป็นชายชาติทหารนี่”

“ออกไปจากวังของฉันเดี๋ยวนี้”เปลวตะคอกไล่อีกฝ่าย

“ไม่ออกค่ะคุณน้า อ๋อนี่เขาต้อนรับแขกแบบนี้หรอคะ คนใช้ของบ้านนี้ไม่มีหรอ”

โอมเดินเข้ามา

“มีครับมีอะไรหรอครับ”

“ดูว่าที่นี่มีตรงไหนห้องไหนว่างบ้าง”

“ห้องชั้นบน ด้านซ้ายสุดว่างครับ มีแอร์ทั่วถึงครับ”

คุณวาดชำเลืองมองก่อนก้าวออกไปตามทาง

“คุณแม่คะ ยัยนั่นนี่น่าสั่งสอนให้นะคะ ใครที่ต่ำใครที่สูงจะได้สั่งสอนด้วยหมัดและตบ”

“ใจเย็นๆ สิลูกปล่อยมันไป”

“กลับเข้าบ้านกัน”

ทั้งสี่คนกลับเข้าไปในวัง โอมนั้นส่งอีกฝ่ายเข้าห้องเป็นห้องกว้างน่านอน โอมเองก็ได้ติ๊บในการส่งมาแค่ หนึ่งร้อยบาท

“ขอบคุณครับคุณหนู งั้นผมไปก่อนนะครับ”โอมขอตัวลา

“ห้องนี้น่านอนจัง เอารูปคุณแม่ของฉันมาวางที่นี่หน่อยสิ น้อย”คุณวาดวานใช้คนรับใช้ส่วนตัวนำรูปมาวาง

“คุณแม่คะ ต่อไปนี้หนูจะแก้แค้นให้นะคะ อย่าเป็นห่วงหนูนะคะ”แม้นวาดฉีกยิ้มเป็นนัยๆ

กรเดินเข้าไปหาดนัยก่อนที่ดนัยขอตัวลาเพื่อไปตัดผม

พอถึงเดือนพฤษภาคม ดนัยกับธนากรจึงร่ำลากันไปเพื่อที่จะเข้าค่ายทหารที่ปราจีนบุรี

“พ่อครับผมไปก่อนนะครับพ่อ แม่ก็เช่นกันนะครับ”

“เดินทางปลอดภัยนะลูก”

กรโอบกอดบิดาและมารดาส่วนน้องสาวเขามอบเงินหนึ่งพันให้น้องเพื่อเอาไปใช้จ่าย ก่อนรถจะเคลื่อนออกไป พอหลังจากนั้น

แม้นวาดก็เดินมาพอดี ปิ่นบอกพ่อแม่ให้ไปก่อน

“นี่พี่ชายเธอไปแล้วนี่ ก็ดีนี่จะได้หมดคู่แข่งไปอีกคน”แม้นวาดเยอะเย้ย

“แล้วไงใครจะไปใครจะมามันก็ชั่งของฉัน เธอเป็นแค่ผู้มาอาศัยอยู่มันก็เรื่องของพวกเรา”ปิ่นบอก

“หรอก็ดีนี่ ฉันว่าฉันโทรหาอาหญิงยอดีกว่า”

“เชิญมันเรื่องของเธอไม่ใช่ของฉันไปดีกว่าไม่อยากมีเรื่องกับคนบางคน”

“นี่แน่จริงก็มาสิ”

“เข้ามาสิวะ อยากเจอหมัดสักครั้งดีไหม เข้ามาสิฉันเก่งนะ”

ปิ่นทำท่าเหมือนชกมวยแต่ปิ่นเองเคยฝึกเพื่อป้องกันตัว

“ไปดีกว่า เชอะเบื่อคนบางคน”

“ปะน้อยกลับ”

ปิ่นผ่อนลมหายใจแล้วเดินไปอีกทาง แต่สำหรับคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ พ่อกับแม่ของเธอ

“พ่อคะแม่คะ ขอโทษนะคะที่บอกให้พ่อกับแม่เข้ามาในนี้”

“ไม่เป็นไรลูก พ่อเข้าใจแล้วแม่วาดนะเขามีเรื่องกับลูกหรือ”ชายภาถาม

“ใช่ค่ะพ่อ แต่ปิ่นเองก็ไม่ได้อยากชกเขานี่คะ”

“ลูกทำถูกแล้ว คนเราอยู่ในสังคมนี้มันก็มีสู้นั่นแหล่ะ”

“ค่ะพ่อ ป่านนี้พี่กรคงจะถึงค่ายแล้วมั๊งคะ”

 ณ.ค่ายทหารจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี รถประจำค่ายทหารเคลื่อนเข้ามาในค่ายทหาร ดนัยกับธนากรก็ตื่นเต้น

ครูฝึกต้อนรับพลทหารใหม่มา

“ยินดีต้อนรับสู่ค่ายทหารของเราสำหรับพลทหารปีนี้เราจะมีการฝึกพละกำลัง เราเป็นชายชาติทหารเราต้องเข้มแข็งอย่าอ่อนแอ

แดดร้อนเราต้องสู่กับแดด ใครอ่อนแอ ต้องถูกลงโทษเข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ”พลทหารทุกนายพูดอย่างพร้อมเพียงกัน

“ดีมาก”ครูฝึกบอก

คุณกรกับดนัยก็ทำตามอย่างที่ครูฝึกบอกก่อนที่จะพัก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา