สายสืบสุดอึด

-

เขียนโดย Vorapoch

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.42 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,583 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) บทที่ 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                รับคำขรึมๆ  ก่อนที่จะถามต่อเนื่อง

                “พวกแกสองคนพร้อมสำหรับรับงานใหม่นี้หรือยัง?”

                “แล้วถ้าพวกเราจะบอกไม่พร้อมล่ะจะทำได้ด้วยเหรอท่านหัวหน้า?”

                โอบกิจย้อนถามกลับตรงๆทำนองประชดประชัน

          “ที่แกตั้งคำถามอย่างนี้  จะบอกว่าที่ผ่านมาฉันมอบหมายงานให้ทำส่วนมากจะเป็นการบังคับใช่ไหม?”

                ถิรนัยหน้าขรึมย้อนถามกลับ

                “ก็ส่วนมากมันเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือครับคุณหัวหน้า  ท่านมักจะสั่งๆแล้วก็ให้พวกเราไปทำเสมอมาน่ะสิ...ไม่เคยเลยจะมาถามความสมัครใจของพวกเราก่อนว่าพร้อมหรือพอใจสำหรับงานที่มอบให้ไปทำรึเปล่าโดยตลอดมาก็ว่าได้?”

                “ที่ผ่านมาเอ็งไม่พอใจหรือวะโอบกิจ...?”

          แม้น้ำเสียงจะออกมาอย่างจริงจัง  แต่ทว่าหัวหน้าหน่วยงานที่ 2 หนุ่มต่างวัยสังกัดอยู่ก็ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรมากนัก  ออกจะเป็นในทางเป็นกันเองด้วยซ้ำไป  ก่อนที่จะว่าต่อเนื่อง

                “ถ้ามีอะไรไม่สบายใจเกี่ยวกับงานที่มอบให้ทำก็บอกกันตรงๆในนะเพื่อน  เอ็งกะข้ายังไงพวกเราก็เข้าทำงานในหน่วยงานสายสืบพิเศษนี่พร้อมๆกันอยู่แล้ว  ถึงแม้ข้าจะเป็นหัวหน้างานของเอ็งก็จริง  แต่ข้าก็ถือว่าเอ็งเป็นเพื่อนของข้าเสมอนะเว้ยอย่าลืม”

                “ไม่ใช่ไม่พอใจ  แต่ก็อยากจะให้...”

          เสียงของโอบกิจซึ่งทีแรกออกจะแข็งขืนก็เริ่มอ่อนลง  ก่อนที่จะว่าออกมาต่ออย่างตรงๆจนได้

                “เพียงแต่บางทีข้าก็น้อยใจเหมือนกันที่มีความรู้สึกเอ็งมอบงานให้ข้ากับเจ้าโด่งทำมันไม่ค่อยจะสลักสำคัญพอที่จะเป็นผลงานโชว์ให้คนอื่นๆเขาได้เห็นกันบ้างเลย”

                “พวกเราจะไปเริ่มงานอย่างไรหรือครับหัวหน้า?”

                โด่งระบือถามบ้าง  โดยพยายามพูดแบบไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นสถานการณ์ภายในห้องทำงานของหัวหน้าในตอนนี้เริ่มเข้าสู่สภาวะไม่ตรึงเครียดเสียแล้ว

                “เอาอย่างนี้โอบกิจ  ก่อนที่จะเริ่มสั่งงานอะไรใหม่ๆให้พวกเอ็งสองคนทำ  ข้าขอเปิดอกคุยกับเอ็งอย่างลูกผู้ชายเลยก็แล้วกันวะ”

                “ไม่เป็นไรครับหัวหน้า  ผมกับน้าโอบกิจก็ทำหน้าที่ทำงานกันอย่างเดิมนั่นแหละครับ...ผมว่าที่น้าเขาพูดอย่างนั้นก็อาจจะเป็นเพราะแกเครียดก็เลยพูดออกมาในลักษณะงอแงอย่างนี้  ความจริงแล้วคู่หูผมก็ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายทุกครั้งอย่างเต็มที่แหละครับ”

                โด่งระบือพยายามว่าไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้ดูเป็นการหัวแข็งหรือแข็งข้อระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องจนเกินไปนัก  แต่หัวหน้าถิรนัยของเขายกมือห้ามพร้อมเสียงเรียบๆอย่างขอความเห็น

                “ผมเข้าใจคุณดีนะโด่งระบือว่าอยากให้งานเป็นไปอย่างราบรื่น  ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ร่วมงาน...แต่ว่าครั้งนี้ผมขอเปิดโอกาสให้โอบกิจพูดได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจอะไร  ถ้าเกิดไม่พอใจอะไรก็ว่ามาได้ตรงๆเลย  ผมยินดีรับฟังเพื่อจะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจยังไงล่ะ...คุณเห็นว่าเป็นยังไงล่ะ  โอเครึเปล่า?”

                “ถ้าเห็นว่าน่าจะเหมาะควร  ผมก็แล้วแต่หัวหน้าเถอะครับ?”

                หนุ่มฉกรรจ์เห็นด้วยพลางขยับนั่งตัวตรงกอดอก

                ขณะที่ถิรนัยซึ่งเป็นหน้างานของพวกเขา  ได้หันหน้าไปทางโอบกิจผายมือพร้อมเสียงอนุญาต

                “เอาเลยเพื่อนเอ็งจะมีอะไรว่ากล่าวตัวข้าก็ขอให้ว่ามาได้อย่างตรงไปตรงมาเลย  ไม่ต้องเกรงใจอะไรตอนนี้ไม่ต้องถือว่าข้าเป็นหัวหน้างานของเอ็ง  ให้ถือว่าเราเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อตอนที่พวกเรามาเริ่มเข้าทำงานใหม่ๆก็ได้”

                โอบกิจทำหน้าจริงจังนั่งตัวตรง  ก่อนที่จะว่าเสียงเข้มตามมา

                “ถิรนัย  ก็อย่างที่ข้าบอกเอ็งไปเมื่อกี้นี้น่ะ  ว่าพวกข้าสองคนต้องการได้ทำงานที่มีมันสามารถที่จะแสดงผลงานออกมาได้ให้คนอื่นๆเห็นบ้าง  หวังใจว่าเอ็งคงเข้าใจนะ?”

                หัวหน้าในหน้าที่การงานของโอบกิจมองหน้า  ของลูกน้องในหน้าที่การงานและเพื่อนร่วมงานเก่าก่อนที่จะว่าออกมา

                “งานใหม่นี้ยังไงล่ะที่จะสร้างผลงานให้กับเอ็งเจ้าโด่งระบือได้  แต่ว่าปัญหาของมันก็คือมันค่อนข้างจะเสี่ยงและเป็นความลับไม่สามารถที่จะเปิดเผยให้ใครที่รู้จักรับรู้ได้...”

                “แต่ทุกงานที่หัวหน้ามอบหมายให้พวกเราปฏิบัติการกระทำที่ผ่านมาก็เป็นความลับอยู่แล้วทุกครั้งนะครับ...?”

                โด่งวิบากซึ่งเงียบไปครู่หนึ่งว่าให้ความเห็นขึ้นบ้าง

                “แต่ครั้งนี้ต้องถือโหดกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา  มันอาจจะหมายถึงชีวิตของพวกคุณทั้งคู่ด้วยก็ได้ใครจะรู้...และที่สำคัญทุกอย่างต้องเป็นความลับอย่างสุดยอดจะบอกให้ใครไม่ได้โดยเด็ดขาด  แม้แต่คนใกล้ตัว”

                หัวหน้าหน่วยสายสืบพิเศษบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง  พร้อมท่าทางก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันด้วย

                “งานนี้ข้าจะไม่บังคับให้พวกแกทั้งคู่อย่างไรทั้งสิ้น  เอาเป็นว่าข้าขอถามคำยินยอมจากปากของพวกแกตรงๆว่าจะรับงานนี้หรือไม่...ถ้าไม่ข้าก็จะมอบให้คู่อื่นไปทำแทน?”

                เสียงจริงจังเน้นถาม

                “รับสิวะไอ้ห่าก็เอ็งบอกเองไม่ใช่หรือว่างานนี้มันสามารถที่จะเป็นผลงานสร้างชื่อกันเลยไม่ใช่หรือไงกัน...?”

                รับคำพร้อมกับย้อนถามกลับ

                “ก็คงเป็นอย่างนั้น  แต่มันก็อย่างที่ว่าคือต้องแลกกับชีวิตส่วนตัวของพวกเอ็งทั้งคู่ที่จะต้องเสียไปเป็นอย่างมาก  และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าภารกิจที่ข้าจะมอบให้พวกแกทำนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ด้วย...หวังใจว่าพวกเอ็งคงจะเข้าใจที่บอกไปนะ”

                “เออข้าเข้าใจ...”

                โอบกิจรับคำ

                “ผมเข้าใจครับหัวหน้า”

                โด่งระบือก็รับคำหนักแน่นเช่นกัน

                “ดี  ถ้าอย่างนั้น  ก็มาว่าถึงงานที่จะมอบหมายให้ไปทำเลยก็แล้วกัน...”

                ถิรนัยว่าอย่างเป็นงานการ

                ซึ่ง 2 คู่หูต่างวัยก็ตั้งอกตั้งใจฟังรับงานใหม่อย่างเต็มที่เช่นกัน

                “งานก็คือคุณเจตน์ที่มาดูพวกแกเมื่อครู่ที่ผ่านมาต้องการให้มีคนปลอมตัวเป็นจรัสพงศ์บุตรชายของเขา  เพราะเขาสืบรู้มาว่ามีคนต้องการจะปองร้ายลูกชายของเขานั่นเอง...ซึ่งงานของแกนะเจ้าโด่งก็คือการไปเป็นคุณจรัสพงศ์แทนตัวจริงเขา  และก็คอยสอดส่องสืบมาให้ได้ว่ากำลังจะปองร้ายเขา  ถ้าเป็นไปได้ก็รีบรายงานมาให้ฉันได้รับรู้  แต่ถ้าจวนตัวจริงๆจะจัดการอย่างไรก็เห็นสมควรก็แล้วกันเพราะข้าก็รู้ๆอยู่ว่าพวกวายร้ายที่มันจะคิดการอย่างนี้ไม่มีวันปราณีปราศรัยอะไรเป็นแน่  ฉะนั้นถ้าเพื่อต้องการป้องกันตัวเองแล้วก็ให้จัดการได้อย่างเต็มที่ไปเลย...”

                “ได้ครับหัวหน้า”

                โด่งระบือเสียงเข้มรับคำ

                “แล้วฉันล่ะเจ้าหัวหน้า...จะให้ไปกับเจ้าโด่งมันในหน้าที่อะไรกัน?”

                โอบกิจถามบ้าง

                “อะไรก็ได้  คอยสอดส่องช่วยกันดูกับเจ้าโด่งมันและถ้าเป็นไปได้ก็คอยคุ้มครองเจ้าโด่งมันด้วยก็แล้วกัน  เพราะตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าโด่งที่สวมบทบาทอยู่  อาจจะไม่ทันได้ระมัดระวังตัวอะไรถ้าเกิดมีใครคิดจะลอบทำร้ายมันเอาได้...เอ็งทำได้ใช่ไหมโอบกิจ?”

                ย้อนถามกลับเสียงจริงจัง

                “ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนครับท่านหัวหน้าถิรนัย...รับรองได้ผมจะดูแลเจ้าโด่งมันอย่างเต็มที่ไปเลยไม่ยอมให้ใครมาเล่นงานมันง่ายอย่างแน่นอน...ท่านหัวหน้าไว้ใจผมได้เลย...”

          “งานนี้ได้เกิดล่ะกู...”

                โอบกิจคิดในใจอย่างลิงโลดขณะที่รับปากกับหัวหน้างานไปด้วยอยู่นั้น...

 

(หมายเหตุ : รีดฯท่านใดที่ติดตามอ่านงานของไรท์ฯอยู่  ต้องการมีข้อตำหนิติเตียนหรือเสนอแนะอย่างไร  หรือเพียงแค่จะทักทายเฉยๆก็แชทมาได้เลยครับที่กลุ่มนิยายพวงพลอยในเฟสฯ  หรือจะเข้ามาร่วมกลุ่มกันก็ได้นะครับ  ไรท์อยากทราบผลตอบรับการเขียนงานให้ท่านอ่านกันว่าเป็นอย่างไรถูกใจหรือไม่ประการใด  ทักเข้ามานะ...) 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา