ทาสสาวจ้าวดวงใจ
-
เขียนโดย thelittlegirl
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 21.08 น.
7 ตอน
2 วิจารณ์
9,399 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 21.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ทาสสาว:ตอนที่ 6 ความรู้สึกที่ไม่เคยประสบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทาสสาวจ้าวดวงใจ ตอนที่ 6
ความรู้สึกที่ไม่เคยประสบ
บรรยากาศยามเช้าที่โถงบ้านวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะเจ้าพระยาปุรงค์เดชยอมมานั่งกินอาหารเช้าพร้อมหน้ากับคุณหญิงมะลิ คุณหญิงจึงมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คล้ายว่าคนที่ร้องไห้เมื่อวานนั้นไม่ใช่หล่อน
บ่าวทาสบนเรือนนั่งกับพื้นรอรับใช้อยู่ด้านข้าง สาวน้อยนามว่าแก้วก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ใบหน้าสวยก้มแทบจรดพื้น ไม่กล้าสบดวงตาคมที่เพียรมองมาที่ตัวเองบ่อยครั้ง อย่างมีเลศนัย
“ไอ้เจิด เอ็งไปเตรียมม้าไป วันนี้ข้าจักขี่มาไปทำงาน” เจ้าพระยาปุรงค์เดชหันไปสั่งบ่าวคนสนิทที่นั่งอยู่ไม่ไกล ซึ่งไอ้เจิดก็รับคำอย่างยินดี เพราะมันชอบขี่ม้ามาก จึงรีบไปจัดเตรียมม้าทั้งของท่านเจ้าพระยา และของมันเอง ปกติพวกบ่าวพวกทาสไม่ได้รับอนุญาตให้ขี่ม้า และยิ่งไม่มีปัญญาจะซื้อมาเป็นของตนเอง แต่ท่านเจ้าพระยาใจดีนัก เวลาที่ท่านขี่ม้าไปเข้าราชการ ได้อนุญาตให้มันขี่ม้าตามไปได้ ไม่ต้องวิ่งตามจนเหนื่อยแทบขาดใจเหมือนบ่าวบ้านอื่น บ้านที่ใจดีมีบ้างที่ให้บ่าวขี่ลาขี่วัวได้ แต่มีหรือที่ฝีเท้าของลาและวัวจะเทียบกับม้าได้ ทั่วทั้งพระนครหลวงแห่งนี้ ท่านเจ้าพระยาปุรงค์เดชขึ้นชื่อว่าใจใหญ่ใจโตที่สุดแล้ว
“แก้ว” เสียงเรียกชื่อทำให้คนที่ก้มหน้าอยู่สะดุ้ง ข้างฝ่ายคนเรียกก็ยิ้มอย่างสมใจ ที่ขู่ขวัญคนตัวเล็กได้ เอ่ยสั่งว่า “ไปหยิบหมวกที่วางอยู่ในห้องมาให้ข้าหน่อยไป” หึ คิดจะหลบเลี่ยงข้าหรือ ไม่มีทางเสียล่ะ
“เอ่อ เจ้าค่ะ” เด็กสาวรับคำ เดินหายไปทางห้องของท่านเจ้าคุณ เพื่อหยิบหมวกมาให้ตามคำสั่ง คุณหญิงดาวเรืองคิ้วกระตุก มองตามหลานสาวของยายอิ่ม ห้องนั้น แม้แต่หล่อนก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป มีแค่เจ้าคุณพี่แลไอ้เจิดคนสนิทเท่านั้น ที่เข้าออกได้ แล้วจู่ๆ ทำไมเจ้าคุณพี่จึงให้เด็กแก้วเข้าไปเล่า
แก้วผลักประตูห้องเข้าไป ไม่ได้สังเกตสังกาภายในห้องมากนัก เพียงมองหาหมวก พอเจอว่าวางอยู่บนโต๊ะ ก็รีบหยิบออกมา เจ้าพระยาปุรงค์เดชเหลือบมองแก้วที่คุกเข่า คลานนำหมวกมาส่งให้ และเขาก็รับมา ช่วงจังหวะที่ใครไปทันเห็น กระดาษเล็กๆ ใบหนึ่งถูกยัดใส่มือแก้ว เด็กสาวทำตาโต แต่ก็ไม่กระโตกกระตาก คลานกลับไปนั่งข้างยายเหมือนเดิม
“ข้าอิ่มแล้ว ไปทำงานก่อนล่ะ” พูดเสร็จก็ลุกออกไป พอดีกับไอ้เจิดที่กลับมา มันรีบกุลีกุจอช่วยถือของให้เจ้านาย
พอสามีไปแล้ว คุณหญิงดาวเรืองก็ไม่มีอารมณ์อยากอาหารอีก เมื่อดื่มยาบำรุงรสขมเสร็จ ก็ให้นังสาที่เป็นบ่าวต้นห้องพยุงกลับไปที่ห้องนอน
ทั้งป้าเยื้อน ป้ารื่น และยาย ต่างตามนายหญิงของเรือนไป เผื่อท่านจะสั่งงานหรือเรียกใช้อะไร แก้วเห็นทางสะดวก จึงคลี่กระดาษใบเล็กออกมาดู
‘คืนนี้อย่าลืมเอาผ้าผูกเอวมาคืนข้าที่ท่าน้ำ’ เด็กสาวเม้มปาก เห็นทีนัดหมายคืนนี้ อย่างไรก็หลีกเลี่ยงไม่ได้สินะ
ตกดึก สายลมพัดใบไม้ไหว พอแน่ใจว่าคนหลับกันหมดแล้ว เจ้าพระยาปุรงค์เดชเดินนำไอ้เจิดบ่าวคนสนิทมาที่ริมน้ำ ไอ้เจิดที่เดินตามหลังมาลอบมองเจ้านาย เจ้านายบอกมันว่าคืนนี้ได้นัดสาวมาเล่นน้ำ ให้มันมาดูต้นทางไว้ อย่าให้ใครเข้ามาป้วนเปี้ยนแถวริมน้ำ มาเล่นน้ำกลางดึกที่นี่ได้ แสดงว่าจะต้องเป็นพวกทาสสาวในเรือน มันล่ะอยากรู้เสียจริงๆ ว่าท่านเจ้าคุณนัดสาวคนไหนไว้
“เอ็งต้องคอยเดินดูให้ทั่วนะไอ้เจิด โดยเฉพาะตรงพุ่มไม้” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกกับบ่าวคนสนิท ในขณะที่สองเท้าก็ก้าวเดินไปยังที่นัดหมายไม่หยุด พอมาถึงริมน้ำ ก็เจอเข้ากับร่างบางที่เขย่งเท้า ชะเง้อชะแง้รออยู่ จึงโบกมือไล่ให้ไอ้เจิดถอยออกไปไกลๆ พลางสั่งกำชับ “อย่าแอบดูนะมึง”
“ขอรับๆ ไอ้เจิดไม่กล้าหรอก” บ่าวคนสนิทถอยออกไปพลางก้มหน้ายิ้ม คราวนี้ท่านเจ้าคุณกินเด็กเลยวุ้ย ไม่ธรรมดาจริงๆ ไอ้เจิดคิดเงียบๆ ในใจ เมื่อเห็นชัดว่าสาวคนนั้นคือหลานยายอิ่ม ที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน
“ไหนผ้าผูกเอวของข้าเล่า เอ็งเอามาคืนหรือไม่” มองออกว่าแม่สาวน้อยที่ยืนหน้าแดงอยู่ตรงหน้า ทั้งตระหนกและตกประหม่านัก จึงเอ่ยถามถึงผ้าผูกเอวที่ให้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ไม่รีบไม่ร้อนเอ่ยถึงจุดประสงค์หลัก เพื่อให้แม่สาวน้อยได้ผ่อนคลายลงก่อน
“เอ่อ อยู่นี่เจ้าค่ะ” เด็กสาวเอ่ยตอบพลางเอาผ้าผูกเอวคืนท่านเจ้าคุณ ที่ยื่นมือมารับไป แก้วก้มหน้ายืนบิดไปบิดมา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองท่านเจ้าคุณ ที่ท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างนุ่งผ้าขาวม้าแค่ผืนเดียว กลัวเป็นตากุ้งยิง
“เอ็งไปเล่นน้ำสิ ข้าจะนั่งดูอยู่ที่ริมฝั่งนี่” ได้ยินเสียงท่านเจ้าคุณเอ่ยสั่ง แก้วอยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่อยากเล่นน้ำต่อหน้าท่าน แต่กลับไม่กล้าพอจะเอ่ยปาก เกรงเจ้าของบ้านจะกริ้วโกรธว่าเรื่องมาก เป็นบ่าวที่ไม่ฟังคำสั่งนาย จึงยืนอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วปลดผ้าที่คลุมไว้ออกจากไหล่ทั้งสองข้างเพื่อลงไปเล่นน้ำ
เพราะไม่กล้ามาผลัดผ้าต่อหน้าท่านเจ้าคุณ วันนี้แก้วจึงนุ่งผ้าถุงพร้อมเล่นน้ำมาจากห้อง ปุรงค์เดชมองเด็กสาวค่อยๆ ปลดผ้าขาวม้าที่คลุมไหล่อยู่ออก และวางลงตรงผืนหญ้าที่แห้ง เด็กสาวก้าวลงน้ำอย่างขัดเขิน ไม่กล้ากระโดดตูมลงไปอย่างทุกวัน ผิวและไหล่นวลเนียนที่อยู่นอกผ้าถุงอาบไล้แสงดาวและจันทร์เสี้ยวน่าดูชม
สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งเฝ้าอยู่ริมฝั่งอย่างขัดเขิน สายตาที่จับจ้องมาอย่างร้อนแรงเจิดจ้านั้น ทำให้รู้สึกประหม่าเหมือนจะมีไข้สูง จึงรีบหันตัวขวับให้เขาได้เห็นแต่แผ่นหลังที่มีผมยาวสยายปกคลุมอยู่แทน มือเล็กได้แต่วักน้ำขึ้นมาล้างเนื้อตัว ไม่กล้าเล่นสนุกว่ายน้ำฉวัดเฉวียน เพราะกลัวผ้าถุงหลุดต่อหน้าท่านเจ้าคุณ
ตูม!
เสียงน้ำแตกซ่านเหมือนคนลงน้ำมา เรียกให้คนที่หันหลังเล่นน้ำอยู่หันไปมอง แต่ก็ไม่เห็นเงาของคนบนฝั่งเสียแล้ว ร่างบางหันรีหันขวางมองหาร่างที่โดดลงน้ำมาไปทั่วผืนน้ำ ทันใดนั้นเองที่ท่านเจ้าพระยาโผล่พรวดพราดจากน้ำขึ้นมาตรงหน้า
แก้วตกใจจนเตลิด รีบว่ายน้ำหนี “ทะ ท่าน ลงมาทำไมเจ้าคะ”
หนี? แม่ตัวน้อยคิดว่าจะหนีข้าพ้นหรือ ปุรงค์เดชทั้งฉุนทั้งขำ “นั่งมองอยู่ตั้งนาน ข้าก็อยากเล่นน้ำบ้างอย่างไรเล่า” คนที่ตั้งใจลงมาเล่นน้ำกับสาวน้อยยิ้มเจ้าเล่ห์ ตามไล่จับเจ้าร่างบางไปทั่วคุ้งน้ำ
ร่างกายของท่านเจ้าพระยานั้นสูงล่ำสัน มีกล้ามเนื้อหนั่นแน่นทุกสัดส่วน แข็งแรงกว่าชายในวัยเดียวกันมากนัก แหวกว่ายตามอยู่ไม่นาน ก็สามารถจับตัวสาวน้อยที่ปรารถนาเอาไว้ได้ ร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือก เมื่อโดนมือหนาสองข้างกอดกระชับที่เอวคอด อยากสลัดให้หลุด แต่กลับมือไม้อ่อนอย่างทำอะไรไม่ถูก
สาวน้อยที่ถูกเจ้าพระยากอดรัดไว้ ตัวชาวาบ รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่ต้นคอ ทั้งร่างแกร่งยังทำเสียงสูดดมซอกคอสวยให้คนตัวเล็กได้ยินอย่างจงใจ
“อื้ม ตัวเอ็งหอมเสียจริงเลยแก้ว” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหูขาวนวล ทำเอาคนในอ้อมกอดขนลุกซู่ ยืนเป็นไก่ในเล้าให้ท่านเจ้าพระยาเชือด
สองร่างหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กแนบชิดกันอยู่ในน้ำ กลิ่นสาปสาวลอยต้องนาสิก หัวใจของกันและกันเต้นแรง เพลิงร้อนก่อตัวขึ้นดุจไฟลามทุ่ง มือไม้ของท่านเจ้าพระยาเริ่มอยู่ไม่นิ่ง ลูบไล้เอวคอดผ่านผ้าถุงผืนบาง และวนมาที่หน้าท้องแบนราบ ริมฝีปากจูบชิมซอกคอหอมของสาวน้อยอย่างหลงใหล มือใหญ่เลื่อนจากหน้าท้องขึ้นมากอบกุมเต้าสวยที่ใหญ่เต็มมือ นวดคลึงอย่างพอใจ เด็กแก้วเพิ่งแรกสาว เต้าอวบก็ใหญ่เต็มไม้เต็มมือเสียแล้ว หากโตเป็นสาวสะพรั่ง เขาไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะใหญ่ล้นมือสักเพียงใด
“อา…” คนไม่ประสาเผลอเปล่งเสียงออกมา กายสาววูบวาบ คล้ายมีความร้อนแผ่ซ่านตรงจุดที่โดนนวดคลึง และไหลผ่านไปยังส่วนที่อยู่ใต้ท้องน้อย เป็นความรู้สึกที่วัยแรกสาวไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ