Secret Love ลิขิตรัก

-

เขียนโดย PMIX

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 14.06 น.

  12 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 14.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) รู้แค่หน้าฤาว่าจะรู้ใจ /4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
      
 
            ชลวิทย์ อริยภาส ขับรถมาจอด ในร้านชายคาริมบึง อย่างเช่นทุกวัน เช้าๆ เช่นนี้ ชายหนุ่มไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากนัก ไม่ต้องเคร่งเครียดกับการจราจรติดขัด
          ร้านอาหารโอบล้อมด้วยแมกไม้ดูร่มรื่น ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดีจากพนักงาน ซึ่งเขาจ้างไว้โดยเฉพาะ ชายหนุ่มเห็นร้านนี้มานาน พอๆกับอายุของเขา             สมัยตอนบิดาอยู่ เด็กชายชลวิทย์ จะมาคลุกอยู่ที่นี่กับบิดาของเขาในวันหยุด แต่พอบิดาเสียด้วยอุบัติเหตุทางรถ เขากลับต้องคอยดูแลน้องสาว แทนมารดา ที่ต้องเข้ามา บริหารร้านธุรกิจของครอบครัวแทน      จนถึงวันนี้เขาต้องเข้ามาดูแลแทนมารดา เพื่อให้ท่านได้พักผ่อน
                     ร้านชายคาริมบึง แบ่งออกเป็น สองส่วนคือส่วนที่เป็นสวนอาหาร อยู่ฟากติดกับบึงบัวและมีน้ำพุ กลางบึง มีศาลาไทย แบบโล่ง รับลมธรรมชาติ ทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติ                             มีทางเดินเป็นสะพานไม้มั่นคงสวยงามพาดไปถึง
                     อีกส่วนหนึ่งครอบครุมส่วนที่เป็นหน้าร้านและในตัวร้านไม้ เปิดไว้ให้มีเคาน์เตอร์บาร์ ในส่วนของนักดื่มที่ชอบบรรยากาศดนตรีคลาสสิคฟังสบาย และด้านหลังเป็นส่วนครัว และออฟฟิตของเขาเอง
                    ชายหนุ่มก้าวเข้าไปในร้านอย่างเคยชิน เช้าขนาดนี้ เป็นที่แน่นอนว่ายังไม่มีลูกค้าเข้าร้าน แต่ผิดสังเกตุที่มีรถเก๋งคันโก้ จอดอยู่ที่ลานจอดรถคันหนึ่งดูไม่คุ้นตา
                       เมื่อเข้ามาถึงด้านในร้าน พนักงานแม่บ้านวัยกลางคน พอเห็นชายหนุ่มก็ตรงเข้ามาทักทายด้วย เช่นทุกครั้ง
                "คุณจะรับอะไรหน่อยไหมคะ”
                                                              "ไม่ล่ะครับ แม่นุ่ม” ชลวิทย์ส่งยิ้มให้อ่อนโยน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้บริหาร และเจ้าของกิจการ ก็ไม่เคยทำตัวผิดจากตอนที่เป็นเพียงเด็กชายตัวน้อย               ยิ่งกับคนเก่าคนแก่ด้วยแล้ว ยิ่งให้ความนับถือดุจญาติ ทำให้เขาเป็นที่รักและเกรงใจของพนักงานทุกคน
                                                                   "อ้อ..แม่นุ่มครับ รถใครมาจอดแต่เช้าเชียว?”ชลวิทย์ชักถามเรื่องที่ข้องใจ
                                                                 "อ้อ ค่ะ แม่นุ่มขอโทษนะคะ ที่ลืมบอกคุณ”หญิงแก่มีท่าทีนึกขึ้นได้  "คุณผู้หญิงที่มากับคุณเกนทัศน์เมื่อคราวก่อนนะคะ เขามารอพบคุณอยู่ที่โซนบึง ค่ะ”
          "อืม อ้อ แล้วป้านิ่ม กับ อ้อย กลับมาจากตลาดแล้วเหรอครับ”ชลวิทย์ มักจะไปตลาดเพื่อชื้อของกับป้านิ่มและอ้อยบ่อยครั้ง               นัยว่าเป็นคนช่วยขับรถไปส่ง แทนเชิดชาย ซึ่งเป็นทั้งคนสวนและเป็นคนขับรถของร้าน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ โดยไม่ได้ถือเนื้อถือตัว
               อ้อย เป็นหลานของป้านิ่ม ซึ่งป้านิ่มเองก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่นุ่มอีกที จึงแทบจะเรียกได้ว่าร้านนี้แทบจะทำงานกันระบบครอบครัว คือล้วนเป็นลูกหลานของคนเก่าคนแก่ทั้งสิ้น                มีเพียงพนักงานเสริฟเท่านั้นที่เปลี่ยนหน้าบ่อย เพราะต้องใช้ เป็นจำนวนมาก
                                      "แม่นุ่ม ถ้าอ้อยกลับมาบอกว่า ช่วยทำน้ำส้มคั้นสดๆให้ผมสักแก้ว แล้วเอาไปให้โซนบึงด้วยนะครับ”ชลวิทย์ยิ้มให้คนแก่ก่อนจะเดินออกจากร้านไป                    ตัดเลาะไปตามทางเดินหินอ่อน มุ่งไปทางสะพานอันทอดไปสู่ ศาลากลางบึงกว้าง              หญิงสาวทอดสายตาลงสู่บึง เหมือนจะรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังเดินมาจึงทอดสายตามาถึงชายหนุ่ม ซึ่งกำลังมาถึง ยิ้มนั้นฉายออกมาจากริมฝีปากแดงอวบอิ่ม     “ชล!!” หล่อนลุกขึ้น เหมือนต้อนรับ
                "ไงจ๊ะริณ มาหาผมแต่เช้า”
               "แหม..ก็อดคิดถึงชลไม่ได้ ไม่โทรไปหาริณเลยนะคะ” หญิงสาวออดอ้อนเสียงหวาน
                             "ผม ต้องขอโทษริณจริงๆ ผมยุ่งๆอยู่ ริณเข้าใจผมนะจ๊ะ”ชลวิทย์เฉไปพูดเสียอย่างอื่น “ริณซื้อรถใหม่เหรอครับ”
 
      "ค่ะ พอดีรถคันเก่าริณให้น้องชายใช้” ริณฤดี โน้มตัวมาข้างหน้า หน้าแทบจะชนเขา      ชลวิทย์จึงเอนมาทางพนักพิงนิดหนึ่งเพื่อรักษาระยะ “วันนี้ชลว่างไหม คะ?” หล่อนเอื้อมมือมากุมมือชลวิทย์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
                                          
      "ครับ แต่ต้อง บ่ายๆนะครับ ต้องเซ็ก เอกสารสั่งซื้อก่อน” ริณฤดี ยื่นหน้าเข้ามาอีก                            “ไม่เป็นไรค่ะ ริณรอชลได้เสมอ” ลุกขึ้น ดึงมือชายหนุ่มตรงหน้า "งั้นรีบไปเครียร์ของชลกันเถอะค่ะ ริณจะไปนั่งให้กำลังใจในออฟฟิต”
           "แต่ว่าผมสั่งน้ำส้มคั้นสดๆให้เขาเอามาให้ริณที่นี่นะครับ รอหน่อยไหมครับ” เขาลุกขึ้นอ้อยอิ่ง มือยังคงถูกเกาะกุม จากแม่สาวเล็บแดง
                                                              "ไม่ละค่ะ น้ำส้มทานเมื่อไหร่ก็ได้”หล่อนว่า ทั้งดึงเขา ขาเขาติดเก้าอี้เซล้ม ไม่เป็นท่า “ว้าย!!” ริณฤดีพาลเซล้มทับเขาไปด้วย      หน้าที่แดงด้วยเครื่องสำอางชั้นดีนั้น ดูจะแดงด้วยเลือดสาวยิ่งขึ้น     หล่อนยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปจากอกเขา เขาเองก็รู้สึกเจ็บก้นและหลัง แต่ก็อึ้งไปด้วย
เสียงแก้วแตกดัง เผล้ง!! ปลุกสติเขาขึ้นจากภวังค์อีกครั้ง     เป็น วรรณณี ที่ยืนตะลึงถือถาดเปล่าอยู่ตรงเชิงสะพาน ชลวิทย์ช่วยดันริณฤดีให้ลุกขึ้น ก่อนจะพยุงตัวนั่ง น้องสาวเดินตรงมาอย่างเอาเรื่อง
                              "อะไรกันค่ะพี่วิทย์!!.. ทำไมแม่นี่ถึง มาอยู่ที่นี่!!..?” น้องสาวเขากระแทกถาด อลูมิเนียมลงบนโต๊ะเสียงดัง "ก็ว่าอยู่ว่ารถใคร  ก็นึกว่าแขกมีเกือกที่ไหน มาสั่งน้ำส้มแต่เช้า"             "พอทียัยวรรณ!! น้าส้มนั้นพี่เป็นคนสั่งเอง ว่าแต่เราเถอะมาได้ไง ไหนว่าวันนี้ จะไปดูหนังกับเพื่อนไง?"เขายืนนิ่งมองน้องสาวที่หน้าบูดบึ้ง  
           "นี่ถ้าน้องไม่แวะมา ก็คงไม่เห็นอะไรอย่างนี้” น้องสาวเขาหันไปทางริณฤดี ตาขวาง "พี่วิทย์ของฉัน!! ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม.. คนอย่างเธอหรอก!!” เสียงแหลมเล็กแผดเสียง
                 ชลวิทย์เข้าไปจับแขนน้องสาว    “พอเถอะยัยวรรณ!!” ริณฤดี สะอื้นกระซิกๆ เล็กๆ น้ำตาไหล              “น้องวรรณขา ทำไมต้องว่าพี่ขนาดนี้ ล่ะคะ?”ชลวิทย์มองน้องสาวด้วยสายตาตัดพ้อ                               “วรรณมีเหตุผลบ้างสิ มันเป็นอุบัติเหตุ พี่หกล้มก็แค่นั้น”ชลวิทย์พยายามอธิบายแต่ดูเหมือนจะไร้ผล                                “ผู้ชายที่อื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาล้มทับพี่วิทย์..ถึงที่นี่!!”
                                         "ชลคะ! ริณขอโทษนะคะที่ริณทำให้น้องวรรณไม่พอใจ ริณไปก็ได้ค่ะ” ริณฤดีใช้มือข้างหนึ่งปิดปาก ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป
                                          "เดี๋ยวสิครับริณ! ริณไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่ที่นี่แหละ” ชลวิทย์ดึงมือหญิงสาวที่กำลังสะอึกสะอื้นเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายร้อนเร่า แสดงอาการปึงปัง                         “พี่วิทย์!!... พี่วิทย์ เห็นผู้หญิงคนนี้ดีกว่าน้องใช่ไหม?” น้องสาวเขากำมือแน่น                                           "ยัยวรรณมีเหตุผลหน่อยสิ พี่บอกแล้วไง ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ใครเขาอยากมาล้มทับกันอยู่ที่แจ้งอย่างนี้ล่ะ"  
                               "สักวันหนึ่งเถอะน้องจะกระชากหน้ากากจิ้งจอกมันให้พี่วิทย์เห็น” ว่าเท่านั้นน้องสาวตัวร้าย ก็ล่าถอย ทิ้งริณฤดีสะอึกสะอื้นกับไหล่ห่อเหี่ยวของเขา ด้วยความหนักใจต่อน้องสาวอยู่ตรงนั้น         ว่าอะไรหนอเป็นสาเหตุให้วรรณณีจงเกียจจงชังริณฤดีได้ถึงขนาดนี้
 
                                                                                                                    …............................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา