The Last Love รักครั้งสุดท้าย
-
เขียนโดย ศรุตา
วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.08 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
10.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม พ.ศ. 2562 22.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) บทที่ 5 (2/2) ความจริง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสองเท้าไวเท่าความคิด เมย์เปิดประตูห้องนอนของเอริ ก้าวเข้าด้านในพร้อมส่งเสียงถามสิ่งที่ต้องการรู้โดยไม่ทันมองหาเจ้าของห้องด้วยซ้ำว่าอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่
“เอริ เธอได้รับข้อ...”
คำพูดที่เหลือต้องถูกกลืนลงคอเมื่อเห็นเอริกำลังยืนอ่านข้อความบนโทรศัพท์มือถือ
“อ่านข้อความของเอมิเลียแล้วใช่ไหม”
ถึงแม้เอริจะไม่ตอบ แต่เมย์ก็ไม่ยอมแพ้
“แล้วเธอจะ...”
ไม่จำเป็นต้องถามจนประโยค เพราะการกระทำของคู่สนทนาคือคำตอบอย่างดี ตั้งแต่เดินผ่านหน้า นั่งลงบนเตียง เตรียมเข้านอน
‘การประชุมวันพรุ่งนี้เอริต้องเข้าร่วมแน่นอน’
แม้ไม่เต็มใจ หากเป็นความต้องการของเอริ เมย์ยินยอมพร้อมใจที่จะไปด้วย
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เราออกจากบ้านกันสัก 8 โมงครึ่งน่าจะทันนะ”
ยังไม่ทันก้าวพ้นเขตประตูห้องนอน เสียงของคนที่รักหมดใจก็ลอยมาให้ได้ยิน จนต้องชะงักฝีเท้า
“เมย์... คืนนี้ไม่ต้องมานอนที่นี่ได้ไหม ไออยากนอนคนเดียวสักคืน”
อีกฝ่ายยอมพูดด้วยแล้ว แต่ไม่ใช่ประโยคที่อยากได้ยินเลย ถ้อยคำเหล่านั้นเสมือนคมมีดกรีดแทงใจ ถ้าควักหัวใจออกมาดูได้ คงเห็นรอยบาดไม่รู้กี่รอยต่อกี่รอย
“อืม” คำตอบรับสั้น ๆ ก่อนเมย์ก้าวออกจากห้อง
เจ้าของห้องล้มตัวลงนอนพร้อมหยาดน้ำตา ตั้งแต่ได้กลับมาที่นี่ เมย์ดูแลเธอดีเหลือเกิน อาหารการกิน รักษาบาดแผล เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เอาเป็นว่านอกจากแม่แล้ว ไม่เคยคิดว่ามีใครสามารถทำเรื่องแบบนี้ให้ได้ อันที่จริงไม่ได้อยากพูดประโยคนั้นออกไป รู้ทั้งรู้ว่าทำให้คนเป็นอาจารย์เสียใจไม่น้อย และไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง ความอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมกอดทุกคืน แต่เธอต้องการอยู่เพียงลำพังคนเดียว เพื่อขบคิดเรื่องต่าง ๆ เช่น เมย์รู้เรื่องบาดแผลได้อย่างไร ความสับสนที่เกิดขึ้นระหว่างอยากคืนดีด้วยใจจะขาดกับอยากปฏิเสธให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะความรู้สึกเจ็บยังคงประทับฝังแน่นในใจ แล้วไหนจะเรื่องการประชุมวันพรุ่งนี้ ไม่เข้าใจว่าศาสตราจารย์วินเบิร์กเรียกประชุมอีกครั้งทำไม ในเมื่อแสดงเจตจำนงชัดเจนไปแล้ว
เวลา 8.55 น. ณ ห้องประชุมภายในอาคารรูปทรงแปลกตา ทุกคนอยู่พร้อมเพรียงกัน เจ้าของสถานที่ เรย์น่า เฮย์ลี่ ขาดเพียงอีก 4 คนเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
เมื่อประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง สองในสี่ที่กำลังรอคอยก็ก้าวเข้ามา ‘เมย์และเอริ’
ไม่รู้ว่าเพราะต้องการทำให้จอมเย็นชารู้สึกเจ็บ หรือความคิดถึงที่มีต่อเด็กสาวที่เข้ามาพร้อมกัน ที่แน่ ๆ คือเสียงทักทายคือการเพิ่มรอยร้าวระหว่างศิษย์และอาจารย์คู่นี้
“เอริ... เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ไม่เจอกันหลายวัน คิดถึงจังเลย อ้อ! เรื่องย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยของฉันล่ะ ว่ายังไง เมย์เขารู้แล้วนะ จริงไหมเมย์” ท้ายประโยคหันไปมองคนที่อยู่ในบทสนทนาเพื่อย้ำถึงเรื่องที่เคยพูดกันไปก่อนหน้านี้ ก่อนหันไปคุยกับเอริต่อ
“ตัดสินใจยังไง บอกมาได้เลย ฉันรอเธออยู่นะ”
เอริไม่ตอบคำถาม ก้มหน้าก้มตาเดินตามเมย์เข้าไปนั่งยังเก้าอี้ประจำตัว ซึ่งอยู่ข้างกับคนที่เดินตาม แต่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรย์น่าพอดิบพอดี
ยังไม่ทันเรียบร้อยดี ประตูห้องถูกเปิดผ่าง ทำเอาผู้ที่นั่งอยู่ภายในสะดุ้งไปตามกัน เจ้าของการกระทำเหมือนยังไม่รู้สึกตัว เพราะวาจาที่กล่าวออกมา ไม่ได้คำนึงถึงสถานที่ กาลเทศะ หรือใจคนฟังแม้แต่น้อย
“ชักช้า โอ้เอ้ มัวเสียเวลาไปทำไม อยากไปอยู่กับยัยเรย์น่าใจแทบขาด ก็ไป ๆ ซะ เมย์จะได้เลิกเดือดร้อนเพราะเธอสักที เด็กอะไร ทำอะไรไม่เห็นแก่หน้าอาจารย์ตัวเองสักนิด แล้วนี่กล้าดียังไงมิทราบ ถึงมานั่งข้างเมย์แบบนี้ รักพี่เสียดายน้องรึไง ทางโน้นก็ดี ทางนี้ก็น่าเสียดาย หน้าด้านชะมัด อย่าริอ่านจับปลาสองมือเชียวนะ ขอเตือนไว้ก่อน”
ทุกคนในห้องประชุมยังคงนิ่งเฉย ด้วยต้องการดูพฤติกรรมของคนที่กำลังอาละวาดอยู่ขณะนี้ต่อ คนที่ทนไม่ได้คือเพย์ตันที่เดินตามเข้ามา
“พอเถอะแอลลิสัน ทุกคนมากันครบ ได้เวลาประชุมแล้ว”
“ยัง! ฉันยังไม่พอ! มาครบแบบนี้สิดี จะได้รับรู้พฤติกรรมชั่ว ๆ ของยัยเด็กนี่พร้อมกันไปเลย”
คนอารมณ์ร้อนยังไม่หยุดการระรานคนที่เด็กที่สุดในที่นี้ ยังคงด่าทออย่างไม่ทีท่าว่าจะยุติง่าย ๆ จนเฮย์ลี่ทนต่อไปไม่ไหว
“แอลลิสัน ถ้าเธอไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับเรื่องของเอริ อย่าพูดพล่อย ๆ แบบนี้จะดีกว่า”
“ทำไม! ทำไมฉันจะไม่รู้ ยัยเด็กนี่มันบอกว่าจะกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว จู่ ๆ มันก็อวดเก่งรับปากเอมิเลีย ไปหยุดการทดลองบ้านั่น ไม่บอกเมย์สักคำ มันคิดว่ามันเป็นใคร เสแสร้งว่าตัวเองเป็นคนรักษาคำพูดยิ่งกว่าอะไร แล้วดูที่มันทำสิ ปากอย่าง ใจอย่าง ทำอีกอย่าง ตอแหล เลวที่สุด นี่ยังโลภมากไปตกปากรับคำเรย์น่าว่าจะย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยของเรย์น่าอีก เธอน่ะไม่ทันยัยเด็กนี่หรอกเฮย์ลี่ แต่... เอ๊ะ! ทำไมเธอต้องออกรับแทนด้วยล่ะ อย่าบอกนะว่ามันไปหว่านเสน่ห์ใส่เธอเข้าด้วยอีกคน เอริ! เธอนี่มัน มัน...”
ความอดทนของเฮย์ลี่มาถึงที่สุด เพราะเธอตวาดกร้าวกลับ ทำให้แอลลิสันต้องรีบสงบปากสงบคำ
“ทำไมฉันจะไม่รู้ ในเมื่อฉันเป็นคนไปรับเอริที่สนามบินด้วยตัวเอง แล้วก็พาเขาไปช่วยผู้บริสุทธิ์ด้วยกัน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นั่น ฉันก็อยู่ด้วยตลอด แล้วทำไมฉันถึงจะไม่รู้เรื่องอะไร ฮะ แอลลิสัน!”
ถึงตาของเฮย์ลี่ที่เป็นฝ่ายต้องชะงัก เพราะคนที่ถูกพาดพิงขัดคอขึ้นเสียก่อน
“ศาสตราจารย์จาซินด้าคะ คุณสัญญากับหนูเอาไว้แล้วนะคะ”
“สัญญาบ้าบออะไร นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย” ความอยากรู้อยากเห็นของแอลลิสันทำให้พูดโพล่งออกมา
“ใช่เอริ ฉันสัญญากับเธอไว้ และฉันก็อยากรักษาสัญญาเหลือเกิน แต่นี่มันออกจะเกินไปหน่อยแล้ว ฉันทนเห็นเธอถูกคนอื่นเข้าใจผิด ด่าทอเจ็บ ๆ แสบ ๆ ไม่ไหวแล้ว”
“หนูขอร้องนะคะ ได้โปรด อย่าพูดมันออกมาเลย”
“หุบปาก! เธอหุบปากไปเลยนะเอริ กลัวความชั่วถูกเปิดเผยรึไง”
“แอลลิสัน! ฟังให้ดีนะ เอมิเลียไม่เคยต้องการให้เอริไปช่วยหยุดการทดลองนั่น แต่ที่จำเป็นต้องไปเพราะอาวุธนั่นมันผูกติดกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุเพียงแค่ 3 ขวบ วันที่เอมิเลียส่งรูปไปให้ดู เป็นวันที่เอริกำลังออกจากบ้านไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัว”
“ศาสตราจารย์คะ หนูขอร้อง หยุดเถอะค่ะ” เอริยังคงพยายามขอร้องเฮย์ลี่ให้หยุดอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มรื้นขึ้นขอบตา
“ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นรูปนั้น ฉันกล้าฟันธงเลยว่าไม่มีใครปฏิเสธให้การช่วยเหลือแน่นอน แล้วรู้อะไรไหม หนูน้อยคนนั้นปลอดภัย แต่เอริน่ะ ดึงมือออกมาไม่ทัน ได้รับบาดแผลรุนแรงระดับสองตั้งแต่หลังมือจนถึงบ่า เธอก็รู้ดีนี่ว่ามันทรมานแค่ไหน เอริต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลที่นั่นนาน 3 วันเต็ม ก่อนกลับมานี่ให้เธอด่าปาว ๆ แล้วอะไรอีกรู้ไหม”
“ศาสตราจารย์คะ” เสียงเอริเริ่มสั่นเครือและดังขึ้นเรื่อย ๆ
“เอริไม่ยอมบอกเมย์ เพราะทุกลมหายใจเข้าออกก็มีแต่เพื่อนรักของเธอ วันที่เอริรับปากว่าจะช่วย เขาขอร้องเอมิเลีย เรย์น่า และฉัน ไม่ให้บอกเรื่องนี้แก่เมย์ เพราะรู้ดีว่าถ้าเมย์รู้เรื่องเข้า จะไม่ปล่อยให้ตัวเขาต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้เพียงลำพัง เอริไม่ต้องการให้เมย์ได้รับอันตราย เธอเข้าใจบ้างไหม แอลลิสัน”
คำอธิบายของเฮย์ลี่มีอันต้องจบลง เพราะเอริตะโกนสุดเสียง น้ำตาไหลพราก
“หยุด! พอได้แล้ว! คุณสัญญาแล้ว ทำไม... ทำไมไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับหนูเลย”
เอริตัดพ้อด้วยเสียงสั่นเครือ สะอึกสะอื้น เพราะพูดไป ก็ร้องไห้ไป แล้วเจ้าตัวก็วิ่งหนีออกจากห้องประชุม
เมย์ลุกขึ้นยืน หันไปพูดกับเจ้าของสถานที่ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง ทำเอาคนในห้องรู้สึกเย็นยะเยือก หวั่นเกรงขึ้นมาพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย
“ฟังให้ดีนะเอมิเลีย ฉันจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง เอริเป็นคนของฉัน อย่าทำอะไรโดยพลการ ไม่บอกฉันให้รู้ก่อนอีกเป็นอันขาด หวังว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นเราสองคนเห็นดีกันแน่” พูดจบก็ก้าวตามลูกศิษย์ออกจากห้อง
บรรยากาศคุกรุ่นถูกแทรกด้วยเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเรย์น่า
“แหม พูดได้ใจจริง ๆ เฮย์ลี่ นี่ถ้าเธอไม่ชิงตัดหน้าเสียก่อน คงเป็นฉันที่ผิดสัญญากับเอริ คนอะไรรู้แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ยังกล้าว่าคนอื่นปาว ๆ นิสัยเสีย แก้ไม่หายสักที นี่แหละนะ ที่เขาว่ากันว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก”
แอลลิสันทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ หมดปัญญาต่อปากต่อคำ
ในที่สุด... การประชุมครั้งที่สองก็พังไม่เป็นท่า ไม่ต่างจากครั้งแรกแม้แต่น้อย
สวัสดีค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะอัพอาทิตย์หน้า แต่เห็นว่าเป็นวันหยุดยาว เลยตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญช่วงวันหยุด อ่านให้สนุกนะคะ
Email: saruta.map@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/saruta.map/
E-book: https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM0MTg0OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg3NTYxIjt9
“เอริ เธอได้รับข้อ...”
คำพูดที่เหลือต้องถูกกลืนลงคอเมื่อเห็นเอริกำลังยืนอ่านข้อความบนโทรศัพท์มือถือ
“อ่านข้อความของเอมิเลียแล้วใช่ไหม”
ถึงแม้เอริจะไม่ตอบ แต่เมย์ก็ไม่ยอมแพ้
“แล้วเธอจะ...”
ไม่จำเป็นต้องถามจนประโยค เพราะการกระทำของคู่สนทนาคือคำตอบอย่างดี ตั้งแต่เดินผ่านหน้า นั่งลงบนเตียง เตรียมเข้านอน
‘การประชุมวันพรุ่งนี้เอริต้องเข้าร่วมแน่นอน’
แม้ไม่เต็มใจ หากเป็นความต้องการของเอริ เมย์ยินยอมพร้อมใจที่จะไปด้วย
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เราออกจากบ้านกันสัก 8 โมงครึ่งน่าจะทันนะ”
ยังไม่ทันก้าวพ้นเขตประตูห้องนอน เสียงของคนที่รักหมดใจก็ลอยมาให้ได้ยิน จนต้องชะงักฝีเท้า
“เมย์... คืนนี้ไม่ต้องมานอนที่นี่ได้ไหม ไออยากนอนคนเดียวสักคืน”
อีกฝ่ายยอมพูดด้วยแล้ว แต่ไม่ใช่ประโยคที่อยากได้ยินเลย ถ้อยคำเหล่านั้นเสมือนคมมีดกรีดแทงใจ ถ้าควักหัวใจออกมาดูได้ คงเห็นรอยบาดไม่รู้กี่รอยต่อกี่รอย
“อืม” คำตอบรับสั้น ๆ ก่อนเมย์ก้าวออกจากห้อง
เจ้าของห้องล้มตัวลงนอนพร้อมหยาดน้ำตา ตั้งแต่ได้กลับมาที่นี่ เมย์ดูแลเธอดีเหลือเกิน อาหารการกิน รักษาบาดแผล เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เอาเป็นว่านอกจากแม่แล้ว ไม่เคยคิดว่ามีใครสามารถทำเรื่องแบบนี้ให้ได้ อันที่จริงไม่ได้อยากพูดประโยคนั้นออกไป รู้ทั้งรู้ว่าทำให้คนเป็นอาจารย์เสียใจไม่น้อย และไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง ความอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมกอดทุกคืน แต่เธอต้องการอยู่เพียงลำพังคนเดียว เพื่อขบคิดเรื่องต่าง ๆ เช่น เมย์รู้เรื่องบาดแผลได้อย่างไร ความสับสนที่เกิดขึ้นระหว่างอยากคืนดีด้วยใจจะขาดกับอยากปฏิเสธให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะความรู้สึกเจ็บยังคงประทับฝังแน่นในใจ แล้วไหนจะเรื่องการประชุมวันพรุ่งนี้ ไม่เข้าใจว่าศาสตราจารย์วินเบิร์กเรียกประชุมอีกครั้งทำไม ในเมื่อแสดงเจตจำนงชัดเจนไปแล้ว
เวลา 8.55 น. ณ ห้องประชุมภายในอาคารรูปทรงแปลกตา ทุกคนอยู่พร้อมเพรียงกัน เจ้าของสถานที่ เรย์น่า เฮย์ลี่ ขาดเพียงอีก 4 คนเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
เมื่อประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง สองในสี่ที่กำลังรอคอยก็ก้าวเข้ามา ‘เมย์และเอริ’
ไม่รู้ว่าเพราะต้องการทำให้จอมเย็นชารู้สึกเจ็บ หรือความคิดถึงที่มีต่อเด็กสาวที่เข้ามาพร้อมกัน ที่แน่ ๆ คือเสียงทักทายคือการเพิ่มรอยร้าวระหว่างศิษย์และอาจารย์คู่นี้
“เอริ... เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ไม่เจอกันหลายวัน คิดถึงจังเลย อ้อ! เรื่องย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยของฉันล่ะ ว่ายังไง เมย์เขารู้แล้วนะ จริงไหมเมย์” ท้ายประโยคหันไปมองคนที่อยู่ในบทสนทนาเพื่อย้ำถึงเรื่องที่เคยพูดกันไปก่อนหน้านี้ ก่อนหันไปคุยกับเอริต่อ
“ตัดสินใจยังไง บอกมาได้เลย ฉันรอเธออยู่นะ”
เอริไม่ตอบคำถาม ก้มหน้าก้มตาเดินตามเมย์เข้าไปนั่งยังเก้าอี้ประจำตัว ซึ่งอยู่ข้างกับคนที่เดินตาม แต่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรย์น่าพอดิบพอดี
ยังไม่ทันเรียบร้อยดี ประตูห้องถูกเปิดผ่าง ทำเอาผู้ที่นั่งอยู่ภายในสะดุ้งไปตามกัน เจ้าของการกระทำเหมือนยังไม่รู้สึกตัว เพราะวาจาที่กล่าวออกมา ไม่ได้คำนึงถึงสถานที่ กาลเทศะ หรือใจคนฟังแม้แต่น้อย
“ชักช้า โอ้เอ้ มัวเสียเวลาไปทำไม อยากไปอยู่กับยัยเรย์น่าใจแทบขาด ก็ไป ๆ ซะ เมย์จะได้เลิกเดือดร้อนเพราะเธอสักที เด็กอะไร ทำอะไรไม่เห็นแก่หน้าอาจารย์ตัวเองสักนิด แล้วนี่กล้าดียังไงมิทราบ ถึงมานั่งข้างเมย์แบบนี้ รักพี่เสียดายน้องรึไง ทางโน้นก็ดี ทางนี้ก็น่าเสียดาย หน้าด้านชะมัด อย่าริอ่านจับปลาสองมือเชียวนะ ขอเตือนไว้ก่อน”
ทุกคนในห้องประชุมยังคงนิ่งเฉย ด้วยต้องการดูพฤติกรรมของคนที่กำลังอาละวาดอยู่ขณะนี้ต่อ คนที่ทนไม่ได้คือเพย์ตันที่เดินตามเข้ามา
“พอเถอะแอลลิสัน ทุกคนมากันครบ ได้เวลาประชุมแล้ว”
“ยัง! ฉันยังไม่พอ! มาครบแบบนี้สิดี จะได้รับรู้พฤติกรรมชั่ว ๆ ของยัยเด็กนี่พร้อมกันไปเลย”
คนอารมณ์ร้อนยังไม่หยุดการระรานคนที่เด็กที่สุดในที่นี้ ยังคงด่าทออย่างไม่ทีท่าว่าจะยุติง่าย ๆ จนเฮย์ลี่ทนต่อไปไม่ไหว
“แอลลิสัน ถ้าเธอไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับเรื่องของเอริ อย่าพูดพล่อย ๆ แบบนี้จะดีกว่า”
“ทำไม! ทำไมฉันจะไม่รู้ ยัยเด็กนี่มันบอกว่าจะกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว จู่ ๆ มันก็อวดเก่งรับปากเอมิเลีย ไปหยุดการทดลองบ้านั่น ไม่บอกเมย์สักคำ มันคิดว่ามันเป็นใคร เสแสร้งว่าตัวเองเป็นคนรักษาคำพูดยิ่งกว่าอะไร แล้วดูที่มันทำสิ ปากอย่าง ใจอย่าง ทำอีกอย่าง ตอแหล เลวที่สุด นี่ยังโลภมากไปตกปากรับคำเรย์น่าว่าจะย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยของเรย์น่าอีก เธอน่ะไม่ทันยัยเด็กนี่หรอกเฮย์ลี่ แต่... เอ๊ะ! ทำไมเธอต้องออกรับแทนด้วยล่ะ อย่าบอกนะว่ามันไปหว่านเสน่ห์ใส่เธอเข้าด้วยอีกคน เอริ! เธอนี่มัน มัน...”
ความอดทนของเฮย์ลี่มาถึงที่สุด เพราะเธอตวาดกร้าวกลับ ทำให้แอลลิสันต้องรีบสงบปากสงบคำ
“ทำไมฉันจะไม่รู้ ในเมื่อฉันเป็นคนไปรับเอริที่สนามบินด้วยตัวเอง แล้วก็พาเขาไปช่วยผู้บริสุทธิ์ด้วยกัน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นั่น ฉันก็อยู่ด้วยตลอด แล้วทำไมฉันถึงจะไม่รู้เรื่องอะไร ฮะ แอลลิสัน!”
ถึงตาของเฮย์ลี่ที่เป็นฝ่ายต้องชะงัก เพราะคนที่ถูกพาดพิงขัดคอขึ้นเสียก่อน
“ศาสตราจารย์จาซินด้าคะ คุณสัญญากับหนูเอาไว้แล้วนะคะ”
“สัญญาบ้าบออะไร นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย” ความอยากรู้อยากเห็นของแอลลิสันทำให้พูดโพล่งออกมา
“ใช่เอริ ฉันสัญญากับเธอไว้ และฉันก็อยากรักษาสัญญาเหลือเกิน แต่นี่มันออกจะเกินไปหน่อยแล้ว ฉันทนเห็นเธอถูกคนอื่นเข้าใจผิด ด่าทอเจ็บ ๆ แสบ ๆ ไม่ไหวแล้ว”
“หนูขอร้องนะคะ ได้โปรด อย่าพูดมันออกมาเลย”
“หุบปาก! เธอหุบปากไปเลยนะเอริ กลัวความชั่วถูกเปิดเผยรึไง”
“แอลลิสัน! ฟังให้ดีนะ เอมิเลียไม่เคยต้องการให้เอริไปช่วยหยุดการทดลองนั่น แต่ที่จำเป็นต้องไปเพราะอาวุธนั่นมันผูกติดกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุเพียงแค่ 3 ขวบ วันที่เอมิเลียส่งรูปไปให้ดู เป็นวันที่เอริกำลังออกจากบ้านไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัว”
“ศาสตราจารย์คะ หนูขอร้อง หยุดเถอะค่ะ” เอริยังคงพยายามขอร้องเฮย์ลี่ให้หยุดอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มรื้นขึ้นขอบตา
“ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นรูปนั้น ฉันกล้าฟันธงเลยว่าไม่มีใครปฏิเสธให้การช่วยเหลือแน่นอน แล้วรู้อะไรไหม หนูน้อยคนนั้นปลอดภัย แต่เอริน่ะ ดึงมือออกมาไม่ทัน ได้รับบาดแผลรุนแรงระดับสองตั้งแต่หลังมือจนถึงบ่า เธอก็รู้ดีนี่ว่ามันทรมานแค่ไหน เอริต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลที่นั่นนาน 3 วันเต็ม ก่อนกลับมานี่ให้เธอด่าปาว ๆ แล้วอะไรอีกรู้ไหม”
“ศาสตราจารย์คะ” เสียงเอริเริ่มสั่นเครือและดังขึ้นเรื่อย ๆ
“เอริไม่ยอมบอกเมย์ เพราะทุกลมหายใจเข้าออกก็มีแต่เพื่อนรักของเธอ วันที่เอริรับปากว่าจะช่วย เขาขอร้องเอมิเลีย เรย์น่า และฉัน ไม่ให้บอกเรื่องนี้แก่เมย์ เพราะรู้ดีว่าถ้าเมย์รู้เรื่องเข้า จะไม่ปล่อยให้ตัวเขาต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้เพียงลำพัง เอริไม่ต้องการให้เมย์ได้รับอันตราย เธอเข้าใจบ้างไหม แอลลิสัน”
คำอธิบายของเฮย์ลี่มีอันต้องจบลง เพราะเอริตะโกนสุดเสียง น้ำตาไหลพราก
“หยุด! พอได้แล้ว! คุณสัญญาแล้ว ทำไม... ทำไมไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับหนูเลย”
เอริตัดพ้อด้วยเสียงสั่นเครือ สะอึกสะอื้น เพราะพูดไป ก็ร้องไห้ไป แล้วเจ้าตัวก็วิ่งหนีออกจากห้องประชุม
เมย์ลุกขึ้นยืน หันไปพูดกับเจ้าของสถานที่ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง ทำเอาคนในห้องรู้สึกเย็นยะเยือก หวั่นเกรงขึ้นมาพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย
“ฟังให้ดีนะเอมิเลีย ฉันจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง เอริเป็นคนของฉัน อย่าทำอะไรโดยพลการ ไม่บอกฉันให้รู้ก่อนอีกเป็นอันขาด หวังว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นเราสองคนเห็นดีกันแน่” พูดจบก็ก้าวตามลูกศิษย์ออกจากห้อง
บรรยากาศคุกรุ่นถูกแทรกด้วยเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเรย์น่า
“แหม พูดได้ใจจริง ๆ เฮย์ลี่ นี่ถ้าเธอไม่ชิงตัดหน้าเสียก่อน คงเป็นฉันที่ผิดสัญญากับเอริ คนอะไรรู้แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ยังกล้าว่าคนอื่นปาว ๆ นิสัยเสีย แก้ไม่หายสักที นี่แหละนะ ที่เขาว่ากันว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก”
แอลลิสันทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ หมดปัญญาต่อปากต่อคำ
ในที่สุด... การประชุมครั้งที่สองก็พังไม่เป็นท่า ไม่ต่างจากครั้งแรกแม้แต่น้อย
สวัสดีค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะอัพอาทิตย์หน้า แต่เห็นว่าเป็นวันหยุดยาว เลยตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญช่วงวันหยุด อ่านให้สนุกนะคะ
Email: saruta.map@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/saruta.map/
E-book: https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM0MTg0OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg3NTYxIjt9
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ