The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
174 LV
22 วิจารณ์
165.83K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
92) เพลงดาบเทพศาสตรา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.1zoom.me
……………………….
สองหนุ่มยืนประจันกันที่ลานประลอง คราวนี้มาวินถือไม้ยาวขนาดเท่าแขนที่มือขวา ส่วนโจจี้ถือดาบคันตานะที่ยังเก็บอยู่ในฝัก ท่าทางเคร่งขรึม อึดใจต่อมา เขาก็เค้นคำเสียงกร้าว
“ ก่อนจะเริ่มฝึกเพลงดาบ นายต้องสัญญากับชั้นก่อน ”
“ อืม...ว่ามาเลย ” มาวินรับคำสั้นๆ พร้อมกลืนน้ำลายลงคอ
“ ข้อที่หนึ่ง นายห้ามเอาวิชาที่ฝึก ไปใช้รังแกผู้อื่นโดยเด็ดขาด ” โจจี้กล่าวเสียงแข็ง มาวินจึงนิ่งคิดนิดนึง ก่อนถามกลับแบบกวนๆ
“ แล้วถ้าเอาไปใช้หยอกล้อ กลั่นแกล้งขำๆ เพื่อความสนุกสนานล่ะ ทำได้มั้ย ”
“ ไม่ได้โว้ย ” โจจี้ตวาดกลับ เขาเริ่มหัวเสีย
“ โธ่เอ๊ย วัยรุ่นเซ็งเลย นึกว่าจะเอาวิชาพวกนี้มาเล่นสนุกได้ซะอีก ” มาวินแอบบ่น เขาดูผิดหวังไม่น้อย
“ เอ้า ตกลงนายจะรับปากรึป่าว ถ้าไม่ ก็เลิกฟงเลิกฝึกเลยแล้วกัน ” โจจี้โวยวาย พร้อมทำท่าจะหนีไปนอน ร้อนถึงมาวินที่วิ่งเข้ามารั้งแขนเสื้อและร้องบอกละล่ำละลัก
“ โอเค รับปากจ้า...... ”
หลังเหตุวุ่นวายเล็กๆจบลง ทั้งสองก็กลับมาประจันหน้ากันใหม่ด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ไม่นาน โจจี้ก็กล่าวถึงกฎข้อที่สอง
“ ข้อที่สอง นายต้องใช้วิชานี้ช่วยเหลือผู้อ่อนแอและผดุงคุณธรรม ”
พอโจจี้พูดจบ มาวินยกมือขึ้นสูง ปากก็ร้องถาม
" มีคำถาม "
“ อ้าว..... มีอะไรอีก ว่ามาเร็วๆ ” โจจี้เริ่มหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ
“ เอ่อ..... ถ้าผู้อ่อนแอถูกคนจำนวนมากรุมกระทืบอยู่ล่ะ เราต้องเข้าไปช่วยมั้ย ” มาวินถามได้น่าคิดมาก (สำหรับสัญญาข้อนี้ ผู้เขียนขอผ่าน)
“ ก็ต้องช่วยซิฟะ ไอ้ขี้ขลาด ตกลงนายจะสัญญามั้ย ถ้าไม่รับปาก ก็เลิกฝึก แล้วกลับไปนอนต่อ ” โจจี้โวยวาย พร้อมทำท่าจะกลับไปนอนจริงๆ
“ เอ้า ตกลงก็ตกลง ยังไงก็ดีกว่าติดแหง็กอยู่ที่นี่ โดยไม่ได้กลับบ้านล่ะน่า ” มาวินยอมตกลงแบบเสียไม่ได้
โจจี้พ่นลมหายใจแรงอยู่หลายที คล้ายจะระบายความอัดอั้นที่อยู่ภายใน ครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวเสียงเข้ม
“ เอาล่ะ ต่อไปคือสัญญาข้อสุดท้าย มันสำคัญที่สุด นายพร้อมจะรับฟังแล้วรึยัง ”
“ อืม...... ว่ามาเลย ” มาวินรับคำ เขาลุ้นจนเกร็งไปทั้งตัว
โจจี้สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆอยู่หลายที ก่อนร้องบอกเสียงขึงขัง
“ สัญญาข้อสาม นายต้องเที่ยวจีบสาวทุกคนที่ชอบใจ และต้องพิชิตหัวใจของพวกเธอมาให้ได้ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ”
พอได้รับฟัง มาวินถึงกับอึ้งไปหลายอึดใจ เพราะสิ่งที่โจจี้กล่าวมา สร้างความงุนงงแก่เด็กหนุ่มอย่างมากมาย เขาไม่เข้าใจเลยซักนิดว่าการจีบสาว จะไปเกี่ยวข้องกับการฝึกเพลงดาบตรงไหน มันไม่เมคเซ้นส์เอาซะเลย
“ แน่ใจนะว่าวิชาดาบของสำนักนาย เอ่อ.....มันมีสัญญาแบบนี้อยู่จริงๆ ” มาวินถามกลับ สีหน้าดูเคลือบแคลง
“ เอ้า ก็จริงซิฟะ ชั้นจะหลอกนายทำไมเล่า หึๆ ” โจจี้กลั้นหัวเราะ
มาวินเหล่มองคู่สนทนาด้วยอาการหวาดระแวง ครู่หนึ่ง เขาก็รับปากส่งเดช
“ รับก็ได้ ”
“ หึๆ ตกลงตามนั้น ชั้นจะสอนเพลงดาบให้นายเอง เหอๆ ” กายของโจจี้สั่นเทา คล้ายว่าเขาพยายามสะกดกลั้นตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา ทุกท่วงท่าของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้ความไว้วางใจของมาวินลดน้อยลง
เวลาผ่านไปไม่นาน โจจี้ก็กลับมาจริงจังดังเดิม เขาบรรยายหลักวิชาให้มาวินฟังด้วยน้ำเสียงที่นุ่มทุ้มลึก
“ วิชาที่นายกำลังฝึกนั้นเป็นเพลงดาบโบราณที่ยอดยุทธ์ในตำนานเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา มันมีชื่อว่า…..เพลงดาบเทพศาสตรา ”
“ ว้าว....แค่ชื่อก็เท่ซะไม่มีแล้ว ” มาวินซึ้งจนดวงตาเป็นประกาย โจจี้จึงทิ้งช่วงไปชั่วขณะ ก่อนจะอธิบายต่อ
“ เพลงดาบเทพศาสตราเป็นวิชาลึกลับ ซับซ้อนและมีมากมายหลายแขนง ถึงชั้นจะเป็นอัจฉริยะที่รูปหล่อจนสาวรักสาวหลงไปทั่วปฐพี แต่ก็ยังฝึกเพลงดาบนี้ได้บางส่วน ” โจจี้ยกยอตัวเองแบบสุดโต่งจนทำให้มาวินถึงกลับหรี่ตามองด้วยอาการเสื่อมจิต พร้อมนึกด่าหนุ่มผมทองอยู่ในใจ
“ เชอะ ไอ้ขี้หลีหลงตัวเอง ”
เหมือนโจจี้จะอ่านความคิดจากสายตาของมาวินออก เขาจึงรีบถามกลับ ท่าทางดูเอาเรื่อง
“ นายแอบด่าอะไรชั้นฟะ ไอ้น้องชายหัวเขียว ”
“ เอ๊ะ เปล่านี่ ชั้นแค่นึกในใจว่าชื่อเพลงดาบนี้ มันช่างเท่เหมือนตัวนายจริงๆ ” มาวินรีบร้องปฏิเสธเสียงสูง พร้อมส่งลูกยอไปให้อีกหนึ่งเข่งใหญ่
“ ฮะๆ ใครก็ว่าอย่างนั้นแหละ ดีมาก ศิษย์รัก เรามาเริ่มฝึกกันเลยดีกว่า ” ดูเหมือนลูกยอของมาวินจะได้ผล โจจี้ลืมความขัดเคืองและยืดอกรับคำด้วยความภาคภูมิ
“ ฮะๆ ได้เลย ลูกพี่ ” มาวินร้องตอบ เขารู้สึกดีใจที่ไม่ต้องทนฟังเรื่องราวที่ชวนอ้วกอีก
“ ฮะ แฮ่ม เอาล่ะ ท่าแรกที่เราจะฝึกในวันนี้ก็คือ.....พันเข็มทิ่มแทง ” โจจี้เริ่มต้นด้วยการกระแอมเบาๆ พร้อมประกาศชื่อกระบวนท่าที่มาวินจะได้ฝึก
“ อืม...... ท่านี้แรงโคตร ชั้นโดนเข้าไปทีเดียว ถึงกลับน็อคเลย สุดยอดมาก ” มาวินอุทานดัง แต่โจจี้ส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวแย้ง
“ ผิดแล้ว น้องชายหัวเขียว เพลงดาบพันเข็มทิ่มแทงเป็นกระบวนท่าพื้นฐานเท่านั้น ถึงกระนั้น ชั้นเองก็ยังต้องใช้เวลาฝึกอยู่หนึ่งเดือนเต็ม ”
“ หา...... ท่าที่ดูง่ายขนาดนั้น แต่นายกลับใช้เวลาฝึกตั้งเดือนนึง ” มาวินอ้าปากค้าง เขาควรจะเดินหน้าต่อดีหรือไม่ ดูท่าทางเพลงดาบชื่อเท่นี้จะฝึกยากกว่าที่คิด
“ นี่ถือว่าเร็วแล้วนะ บางคนใช้เวลาเป็นปีกว่าจะฝึกท่านี้ได้ เพลงดาบเทพศาสตราเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และฝึกได้ยากยิ่ง ดังนั้นระหว่างเดินทาง ถ้านายฝึกได้ซักหนึ่งถึงสองกระบวน น่าจะเก่งพอจนเอาตัวรอดได้ ” โจจี้อธิบายถึงความซับซ้อนและอานุภาพของเพลงดาบ มาวินจึงนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนตอบตกลง
“ โอเค เอาก็เอา มาลองฝึกกันเลย ”
โจจี้ยิ้มให้นิดหนึ่งเป็นเชิงให้กำลังใจ พร้อมบรรยายต่อ
“ พันเข็มทิ่มแทงเน้นความเร็วและความแม่นยำ จังหวะการออกกระบวนท่านั้นน่าจะเร็วที่สุดในเพลงดาบเทพศาสตรา หลักการคล้ายกรงเล็บแมวป่าที่นายถนัด แต่จุดที่ต่างก็คือ…..ต้องเข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าทำไม่ได้ จะไม่เกิดประสิทธิผล ”
“ มีคำถาม ” มาวินยกมือขึ้นถามอีกครั้ง
“ ว่ามาเลย ไอ้น้อง ” โจจี้พยักหน้ารับ
“ คืองี้......นายบอกว่ากระบวนท่านี้ต่างกับกรงเล็บแมวป่าตรงความแม่นยำใช่มั้ย แต่ขอค้านว่าท่าของชั้นก็แม่นยำเหมือนกันนะ ทุกกรงเล็บที่ปล่อยออกมา ล้วนหวังผลได้เกือบหมด ” มาวินกล่าวค้าน ซึ่งเมื่อโจจี้รับฟังจนจบ เขาก็ตอบกลับ
“ จริงอยู่ กระบวนท่าของนายมีความแม่นยำสูง แต่สำหรับพันเข็มทิ่มแทง จำเป็นต้องละเอียดอ่อนยิ่งกว่านั้น เพราะทุกจุดที่คมดาบทิ่มใส่ ต้องเข้าเส้นประสาทชนิดไม่ให้พลาดเลยซักจุด ”
“ หา...... หมายความว่า….จุดที่ชั้นโดนถูกแทงก็คือ….” มาวินร้องเหวอ
“ ใช่แล้ว ตรงนั้นคือ….จุดชีวิตของนาย ” โจจี้ตอบยิ้มๆ
“ เหวอ..... อย่างนี้ชั้นก็ต้องตายแล้วอ่ะดิ ” มาวินอ้าปากกว้าง สองมือปัดป่ายไปทั่วทุกจุดที่เพิ่งโดนโจมตี
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ