The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
92) เพลงดาบเทพศาสตรา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.1zoom.me
……………………….
สองหนุ่มยืนประจันกันที่ลานประลอง คราวนี้มาวินถือไม้ยาวขนาดเท่าแขนที่มือขวา ส่วนโจจี้ถือดาบคันตานะที่ยังเก็บอยู่ในฝัก ท่าทางเคร่งขรึม อึดใจต่อมา เขาก็เค้นคำเสียงกร้าว
“ ก่อนจะเริ่มฝึกเพลงดาบ นายต้องสัญญากับชั้นก่อน ”
“ อืม...ว่ามาเลย ” มาวินรับคำสั้นๆ พร้อมกลืนน้ำลายลงคอ
“ ข้อที่หนึ่ง นายห้ามเอาวิชาที่ฝึก ไปใช้รังแกผู้อื่นโดยเด็ดขาด ” โจจี้กล่าวเสียงแข็ง มาวินจึงนิ่งคิดนิดนึง ก่อนถามกลับแบบกวนๆ
“ แล้วถ้าเอาไปใช้หยอกล้อ กลั่นแกล้งขำๆ เพื่อความสนุกสนานล่ะ ทำได้มั้ย ”
“ ไม่ได้โว้ย ” โจจี้ตวาดกลับ เขาเริ่มหัวเสีย
“ โธ่เอ๊ย วัยรุ่นเซ็งเลย นึกว่าจะเอาวิชาพวกนี้มาเล่นสนุกได้ซะอีก ” มาวินแอบบ่น เขาดูผิดหวังไม่น้อย
“ เอ้า ตกลงนายจะรับปากรึป่าว ถ้าไม่ ก็เลิกฟงเลิกฝึกเลยแล้วกัน ” โจจี้โวยวาย พร้อมทำท่าจะหนีไปนอน ร้อนถึงมาวินที่วิ่งเข้ามารั้งแขนเสื้อและร้องบอกละล่ำละลัก
“ โอเค รับปากจ้า...... ”
หลังเหตุวุ่นวายเล็กๆจบลง ทั้งสองก็กลับมาประจันหน้ากันใหม่ด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ไม่นาน โจจี้ก็กล่าวถึงกฎข้อที่สอง
“ ข้อที่สอง นายต้องใช้วิชานี้ช่วยเหลือผู้อ่อนแอและผดุงคุณธรรม ”
พอโจจี้พูดจบ มาวินยกมือขึ้นสูง ปากก็ร้องถาม
" มีคำถาม "
“ อ้าว..... มีอะไรอีก ว่ามาเร็วๆ ” โจจี้เริ่มหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ
“ เอ่อ..... ถ้าผู้อ่อนแอถูกคนจำนวนมากรุมกระทืบอยู่ล่ะ เราต้องเข้าไปช่วยมั้ย ” มาวินถามได้น่าคิดมาก (สำหรับสัญญาข้อนี้ ผู้เขียนขอผ่าน)
“ ก็ต้องช่วยซิฟะ ไอ้ขี้ขลาด ตกลงนายจะสัญญามั้ย ถ้าไม่รับปาก ก็เลิกฝึก แล้วกลับไปนอนต่อ ” โจจี้โวยวาย พร้อมทำท่าจะกลับไปนอนจริงๆ
“ เอ้า ตกลงก็ตกลง ยังไงก็ดีกว่าติดแหง็กอยู่ที่นี่ โดยไม่ได้กลับบ้านล่ะน่า ” มาวินยอมตกลงแบบเสียไม่ได้
โจจี้พ่นลมหายใจแรงอยู่หลายที คล้ายจะระบายความอัดอั้นที่อยู่ภายใน ครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวเสียงเข้ม
“ เอาล่ะ ต่อไปคือสัญญาข้อสุดท้าย มันสำคัญที่สุด นายพร้อมจะรับฟังแล้วรึยัง ”
“ อืม...... ว่ามาเลย ” มาวินรับคำ เขาลุ้นจนเกร็งไปทั้งตัว
โจจี้สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆอยู่หลายที ก่อนร้องบอกเสียงขึงขัง
“ สัญญาข้อสาม นายต้องเที่ยวจีบสาวทุกคนที่ชอบใจ และต้องพิชิตหัวใจของพวกเธอมาให้ได้ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ”
พอได้รับฟัง มาวินถึงกับอึ้งไปหลายอึดใจ เพราะสิ่งที่โจจี้กล่าวมา สร้างความงุนงงแก่เด็กหนุ่มอย่างมากมาย เขาไม่เข้าใจเลยซักนิดว่าการจีบสาว จะไปเกี่ยวข้องกับการฝึกเพลงดาบตรงไหน มันไม่เมคเซ้นส์เอาซะเลย
“ แน่ใจนะว่าวิชาดาบของสำนักนาย เอ่อ.....มันมีสัญญาแบบนี้อยู่จริงๆ ” มาวินถามกลับ สีหน้าดูเคลือบแคลง
“ เอ้า ก็จริงซิฟะ ชั้นจะหลอกนายทำไมเล่า หึๆ ” โจจี้กลั้นหัวเราะ
มาวินเหล่มองคู่สนทนาด้วยอาการหวาดระแวง ครู่หนึ่ง เขาก็รับปากส่งเดช
“ รับก็ได้ ”
“ หึๆ ตกลงตามนั้น ชั้นจะสอนเพลงดาบให้นายเอง เหอๆ ” กายของโจจี้สั่นเทา คล้ายว่าเขาพยายามสะกดกลั้นตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา ทุกท่วงท่าของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้ความไว้วางใจของมาวินลดน้อยลง
เวลาผ่านไปไม่นาน โจจี้ก็กลับมาจริงจังดังเดิม เขาบรรยายหลักวิชาให้มาวินฟังด้วยน้ำเสียงที่นุ่มทุ้มลึก
“ วิชาที่นายกำลังฝึกนั้นเป็นเพลงดาบโบราณที่ยอดยุทธ์ในตำนานเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา มันมีชื่อว่า…..เพลงดาบเทพศาสตรา ”
“ ว้าว....แค่ชื่อก็เท่ซะไม่มีแล้ว ” มาวินซึ้งจนดวงตาเป็นประกาย โจจี้จึงทิ้งช่วงไปชั่วขณะ ก่อนจะอธิบายต่อ
“ เพลงดาบเทพศาสตราเป็นวิชาลึกลับ ซับซ้อนและมีมากมายหลายแขนง ถึงชั้นจะเป็นอัจฉริยะที่รูปหล่อจนสาวรักสาวหลงไปทั่วปฐพี แต่ก็ยังฝึกเพลงดาบนี้ได้บางส่วน ” โจจี้ยกยอตัวเองแบบสุดโต่งจนทำให้มาวินถึงกลับหรี่ตามองด้วยอาการเสื่อมจิต พร้อมนึกด่าหนุ่มผมทองอยู่ในใจ
“ เชอะ ไอ้ขี้หลีหลงตัวเอง ”
เหมือนโจจี้จะอ่านความคิดจากสายตาของมาวินออก เขาจึงรีบถามกลับ ท่าทางดูเอาเรื่อง
“ นายแอบด่าอะไรชั้นฟะ ไอ้น้องชายหัวเขียว ”
“ เอ๊ะ เปล่านี่ ชั้นแค่นึกในใจว่าชื่อเพลงดาบนี้ มันช่างเท่เหมือนตัวนายจริงๆ ” มาวินรีบร้องปฏิเสธเสียงสูง พร้อมส่งลูกยอไปให้อีกหนึ่งเข่งใหญ่
“ ฮะๆ ใครก็ว่าอย่างนั้นแหละ ดีมาก ศิษย์รัก เรามาเริ่มฝึกกันเลยดีกว่า ” ดูเหมือนลูกยอของมาวินจะได้ผล โจจี้ลืมความขัดเคืองและยืดอกรับคำด้วยความภาคภูมิ
“ ฮะๆ ได้เลย ลูกพี่ ” มาวินร้องตอบ เขารู้สึกดีใจที่ไม่ต้องทนฟังเรื่องราวที่ชวนอ้วกอีก
“ ฮะ แฮ่ม เอาล่ะ ท่าแรกที่เราจะฝึกในวันนี้ก็คือ.....พันเข็มทิ่มแทง ” โจจี้เริ่มต้นด้วยการกระแอมเบาๆ พร้อมประกาศชื่อกระบวนท่าที่มาวินจะได้ฝึก
“ อืม...... ท่านี้แรงโคตร ชั้นโดนเข้าไปทีเดียว ถึงกลับน็อคเลย สุดยอดมาก ” มาวินอุทานดัง แต่โจจี้ส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวแย้ง
“ ผิดแล้ว น้องชายหัวเขียว เพลงดาบพันเข็มทิ่มแทงเป็นกระบวนท่าพื้นฐานเท่านั้น ถึงกระนั้น ชั้นเองก็ยังต้องใช้เวลาฝึกอยู่หนึ่งเดือนเต็ม ”
“ หา...... ท่าที่ดูง่ายขนาดนั้น แต่นายกลับใช้เวลาฝึกตั้งเดือนนึง ” มาวินอ้าปากค้าง เขาควรจะเดินหน้าต่อดีหรือไม่ ดูท่าทางเพลงดาบชื่อเท่นี้จะฝึกยากกว่าที่คิด
“ นี่ถือว่าเร็วแล้วนะ บางคนใช้เวลาเป็นปีกว่าจะฝึกท่านี้ได้ เพลงดาบเทพศาสตราเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และฝึกได้ยากยิ่ง ดังนั้นระหว่างเดินทาง ถ้านายฝึกได้ซักหนึ่งถึงสองกระบวน น่าจะเก่งพอจนเอาตัวรอดได้ ” โจจี้อธิบายถึงความซับซ้อนและอานุภาพของเพลงดาบ มาวินจึงนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนตอบตกลง
“ โอเค เอาก็เอา มาลองฝึกกันเลย ”
โจจี้ยิ้มให้นิดหนึ่งเป็นเชิงให้กำลังใจ พร้อมบรรยายต่อ
“ พันเข็มทิ่มแทงเน้นความเร็วและความแม่นยำ จังหวะการออกกระบวนท่านั้นน่าจะเร็วที่สุดในเพลงดาบเทพศาสตรา หลักการคล้ายกรงเล็บแมวป่าที่นายถนัด แต่จุดที่ต่างก็คือ…..ต้องเข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าทำไม่ได้ จะไม่เกิดประสิทธิผล ”
“ มีคำถาม ” มาวินยกมือขึ้นถามอีกครั้ง
“ ว่ามาเลย ไอ้น้อง ” โจจี้พยักหน้ารับ
“ คืองี้......นายบอกว่ากระบวนท่านี้ต่างกับกรงเล็บแมวป่าตรงความแม่นยำใช่มั้ย แต่ขอค้านว่าท่าของชั้นก็แม่นยำเหมือนกันนะ ทุกกรงเล็บที่ปล่อยออกมา ล้วนหวังผลได้เกือบหมด ” มาวินกล่าวค้าน ซึ่งเมื่อโจจี้รับฟังจนจบ เขาก็ตอบกลับ
“ จริงอยู่ กระบวนท่าของนายมีความแม่นยำสูง แต่สำหรับพันเข็มทิ่มแทง จำเป็นต้องละเอียดอ่อนยิ่งกว่านั้น เพราะทุกจุดที่คมดาบทิ่มใส่ ต้องเข้าเส้นประสาทชนิดไม่ให้พลาดเลยซักจุด ”
“ หา...... หมายความว่า….จุดที่ชั้นโดนถูกแทงก็คือ….” มาวินร้องเหวอ
“ ใช่แล้ว ตรงนั้นคือ….จุดชีวิตของนาย ” โจจี้ตอบยิ้มๆ
“ เหวอ..... อย่างนี้ชั้นก็ต้องตายแล้วอ่ะดิ ” มาวินอ้าปากกว้าง สองมือปัดป่ายไปทั่วทุกจุดที่เพิ่งโดนโจมตี
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ