The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
64) ชายหรือหญิง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com
“ อะไรกันเนี่ย พี่ชาย หน้าตาก็หล่อ แต่ดันชื่อ….โจจี้ ก๊าก..... ” หลังรู้ชื่อเสียงเรียงนามของหนุ่มผมทอง มาวินก็หัวเราะแบบไม่เกรงใจใคร ส่วนเหมยลี่ยังตีหน้านิ่งดุจเดิม
การที่มาวินหัวเราะลั่นอย่างไร้มารยาท ทำให้โจจี้รู้สึกอายมากขึ้น หน้าขาวเริ่มแดงซ่านจนคล้ายสีของมะเขือเทศ
“ นายขำอะไรนักหนา ชื่อของชั้นมันตลกตรงไหน ” โจจี้กระเถิบเข้ามาใกล้ๆ พร้อมสะกิดหัวไหล่ของเด็กหนุ่ม สีหน้าดูเคร่งเครียด
“ โถ...... ก็ชื่อของนาย มันดูตลกมากในโลกของชั้นนี่ ก็เลยขำ เฮ้อ.....เสียแรงที่เกิดมาหล่อ ” มาวินเลิกคิ้วสูง พลางถอนหายใจเบาๆ ทำนองว่าปลงสังเวช
“ เอ๋......เดี๋ยวนะ โลกของนาย หมายความว่าไง งง ” โจจี้เริ่มสับสนกับคำพูดของเด็กหนุ่ม
“ เอ่อ.....หมายถึงบ้านของชั้นซึ่งอยู่ในแดนชนบทที่ห่างไกลน่ะ ” มาวินอึกอักกับคำถาม สุดท้ายก็ตัดสินใจ ไม่บอกความจริง เพราะถ้าเล่าหมดเปลือก รังแต่จะทำให้คู่สนทนางงหนักยิ่งกว่าเดิม
“ อ้อ....อย่างงี้นี่เอง รู้มั้ย ชื่อของชั้นน่ะเป็นที่นิยมกันมากในโลก The Dark World เลยนะ ตกลงบ้านเกิดของนายอยู่ที่ไหนกันแน่ รสนิยมถึงได้พิลึกแบบนี้ ” หนุ่มผมทองถามกลับ ส่วนเหมยลี่เงี่ยหูฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ อ่อ เอ่อ อ่า…” เด็กหนุ่มหัวเขียวอึกอักอยู่หลายอึดใจ แต่แล้วเขาก็เลี่ยงมาแนะนำตัวเอง
“ ยัยผู้หญิงตัวสูงโย่งชื่อ…เหมยลี่ ส่วนชั้นชื่อ….มาวิน ”
“ ว้าว..... หน้าตาก็สวยคม แถมชื่อก็เพราะเสียอีก น้องเหมยลี่นี่น่าจะมาจากแคว้นฉานแน่ๆ ” พอแนะนำตัวเสร็จ หนุ่มหล่อขี้หลีก็วิ่งแจ้นไปจับไม้จับมือเหมยลี่เขย่าเป็นการใหญ่ คล้ายยินดีอย่างยิ่งยวดที่ได้รู้จัก โดยไม่สนมาวินเลยแม้แต่น้อย
" ฟู่.....รอดไปที "
มาวินถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาโล่งอกที่เบี่ยงเบนความสนใจของโจจี้ได้ แน่นอนว่าเหมยลี่ยังคงสงสัย สายตาคมเข้มจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มไม่วางวาย
“ เอาล่ะ เราได้สมาชิกครบทีมแล้ว พรุ่งนี้จะได้เริ่มงานกันซักที ” เมื่อทุกสิ่งเริ่มเข้าที่เข้าทาง มาวินก็ยืดอก ท่าทางร่าเริง
“ เฮ้ เดี๋ยว เรื่องสมาชิกครบนั้น ชั้นว่ายังนา..... ” หนุ่มผมทองร้องค้าน เขายกมือขึ้นจุ๊ปากเบาๆแบบกวนๆ
“ ฮ้า..... ไม่ครบ นายหมายความว่าเราต้องหาสมาชิกเพิ่มอีกเหรอ ” มาวินงง ส่วนเหมยลี่ก็เงยหน้าขึ้นมอง แววตาดูฉงนเล็กน้อย
“ เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น การล่ามอนสเตอร์ระดับคองโกล่า ใช้แค่สามคนตามแผนของเหมยลี่ก็น่าจะพอแล้ว ” หนุ่มผมทองส่ายหน้าช้าๆ พลางหย่อนกายลงบนม้านั่งยาวอย่างสบายอารมณ์
“ อ้อ เข้าใจแล้ว ที่พูดแบบนี้หมายความว่าฝีมือของยัยโย่งไม่เข้าขั้น นายอย่าดูถูกไป แม้จะเป็นหญิง แต่เชื่อมั้ย คุณเธอสามารถซัดกับยอดฝีมือที่เป็นชายได้อย่างสนุกมือ มิหนำซ้ำยังสามารถเอาชนะได้อีกด้วย ” มาวินออกตัวปกป้องเพื่อนสาวเต็มที่ ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างที่พูด
“ ฮะๆ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก น้องชาย ” หนุ่มผมทองหัวเราะเบาๆ ทำให้มาวินเริ่มงง ส่วนเหมยลี่ทนความซื่อบื้อของเด็กหนุ่มไม่ไหว จึงกล่าวออกมาตรงๆ
“ เขาหมายถึงนายต่างหากที่ไม่มีฝีมือพอจะรับงานนี้ ”
“ หา..... ” มาวินอ้าปากค้าง
“ ใช่แล้ว อย่าหาว่าหมิ่นกันเลยนะ ดูจากน้ำหนักเท้าที่เคยถีบชั้น ก็พอคำนวณออกแล้วว่าฝีมือของนายอยู่ระดับไหน มันอันตรายเกินไปที่จะรับงาน ถอนตัวแล้วปล่อยให้พวกเราหาคนที่เหมาะสมเถอะ ส่วนเรื่องเงินไม่ต้องเป็นห่วง จะแบ่งให้อย่างเหมาะสม ” หนุ่มผมทองแจงอย่างใจเย็น ใบหน้ายิ้มละไม
ความเงียบเข้าครอบคลุมวงสนทนา เหมยลี่ได้แต่ยืนนิ่ง สายตาจับจ้องมาที่มาวิน เพื่อดูปฏิกิริยา ส่วนหนุ่มผมทองก็มองเด็กหนุ่มเช่นกัน ท่าทีสุขุม คล้ายคนที่ผ่านโลกมามาก
พอมาวินได้ฟังความเห็นของโจจี้ ก็เริ่มคอตกเป็นเชิงท้อแท้ ทำให้หนุ่มผมทองยิ้มออกมา เพราะรู้สึกโล่งอกที่อีกฝ่ายถอนตัว
“ นายคิดถูกแล้ว น้องชาย ” โจจี้กล่าว แต่ก่อนจะจบประโยค มาวินก็เงยหน้าขึ้นสบตา พร้อมตะโกนใส่จนสุดเสียง
“ ขอปฏิเสธ ชั้นจะร่วมทีมนี้ เพื่อให้ได้กลับบ้าน ยอมแลกทุกอย่าง แม้จะต้องเดินไปหาความตาย ”
โจจี้ตะลึงกับความบ้าดีเดือดของมาวิน ส่วนเหมยลี่ เธอแอบอมยิ้มเล็กน้อย
“ นายคิดดีแล้วเหรอ น้องชาย ” โจจี้พยายามค้าน แต่พอมองเข้าไปในแววตาของเด็กหนุ่ม จะพบกับความมุ่งมั่น บากบั่นและจิตใจที่แรงกล้า สิ่งนี้ทำให้เขาแอบทึ่งเล็กน้อย ขณะที่เจรจาความ เหมยลี่ก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงที่เรียบเฉยตามแบบฉบับของตนเอง
“ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ลองให้เจ้าลิงหัวเขียวลงดันเจี้ยนเลเวล 10 ดูก่อน จากนั้นค่อยตัดสินอีกที ”
“ เอ๋ ดันอะไรหว่า ” เด็กหนุ่มหันไปทางเหมยลี่ เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เด็กสาวร่างสูงพูด
……………………
รุ่งอรุณของวันใหม่เริ่มต้นขึ้น มาวินลุกขึ้นนั่ง ดวงตาเล็กเรียวที่ดูเหม่อลอยเหลียวมองรอบกาย จึงพบว่าตนกำลังนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ใต้ตัวคือเตียงขนาดหนึ่งคน ทางซ้ายมือปรากฏเตียงไซส์เดียวกัน ทว่าบนนั้นกลับว่างเปล่า
มาวินขยุ้มหัวตัวเองเบาๆ สมองพยายามนึกทบทวน ไม่นานก็เริ่มจำได้ เมื่อคืนนี้ เขากับเหมยลี่ตัดสินใจมาพักโรงแรมที่โจจี้จับจอง สองชายอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนหนึ่งสาวนอนที่ห้องข้างๆ
พอทบทวนความทรงจำเสร็จ เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมนำร่างเล็กบางที่มีกางเกงขาสั้นตัวเดียวปกคลุม วิ่งห้อออกจากห้องในทันที
หลังจากมาวินออกมาข้างนอก เขาก็ถลาไปที่ห้องของเหมยลี่ พลางระดมเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง ปากร้องเรียกเด็กสาว ท่าทางร้อนรน
“ ยัยโย่ง ไอ้ผมทองแอบทำอะไรเธอรึเปล่า ท่าทางมันดูชีกอซะด้วย เปิดหน่อย ”
มาวินเคาะประตูอยู่หลายที หูก็แว่วเสียงเรียกอ่อยๆจากทางด้านหลัง
“ ไม่ต้องเคาะหรอก น้องชาย เหมยลี่ไม่เป็นไรแน่ ”
มาวินรีบหันกลับมา เด็กหนุ่มเลยสะดุ้งสุดตัว เพราะเจ้าของเสียงคือโจจี้ แต่ที่น่าประหลาดก็คือ.....นักดาบขี้หลีถูกพันธนาการด้วยเชือกขนาดหนึ่งนิ้วอย่างแน่นหนา จนต้องหดตัวมานั่งกับพื้นในท่างอเง่าอย่างน่าอนาถ
“ เหวอ..... ทำไมนายถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ” มาวินร้องถามเสียงหลง
“ เหอๆ เรื่องมันยาว บอกได้คำเดียวว่านี่คือฝีมือของคนที่นายเป็นห่วง ว่าแต่ว่ามีมีดหรือกรรไกรมารึเปล่า ชั้นนั่งขดตัวอยู่ในท่านี้มาครึ่งคืนแล้ว เมื่อยบรรลัยเลย ” โจจี้หัวเราะแห้งๆ
“ ฮะๆ ก็เตือนไว้แล้วว่าอย่าไปยุ่งกับเธอ ” มาวินเริ่มเดาเหตุการณ์ออก เขาไม่รู้ว่าควรจะสมน้ำหน้าหรือสงสารหนุ่มหล่อ
หลังจากมาวินแก้มัดให้ ก็รับทราบจากคำบอกเล่าของโจจี้ สาเหตุที่ตกอยู่ในสภาพนี้ เพราะเมื่อคืน เขาดันแอบย่องเข้าไปหาเหมยลี่ หวังเผด็จศึกสวาท ทว่าแม่เสือสาวกลับรู้สึกตัว แล้วเล่นงานนักดาบขี้หลีซะงอม จากนั้นก็จับมัดด้วยเชือกหนา
“ เฮ้อ..... ก็บอกแล้วไงว่ายัยโย่งไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ต่อไปพี่ชายอย่าไปตอแยยัยนั่นอีกเลย จะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ ” มาวินถอนหายใจ พลางเตือนโจจี้อีกครั้ง
“ ไม่มีทางที่เสือผู้หญิงยอดนักรักสะท้านโลกาอย่างชั้นจะยอมแพ้ คืนต่อไปก็จะทำอีก จะทำเรื่อยๆจนกว่าสำเร็จ ยังไงก็ไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน ” โจจี้กำมือแน่น พร้อมยืดอกพูด ท่าทางมุ่งมั่น นับได้ว่าความลามกของชายผู้นี้อยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
มาวินส่ายหัวไปมาด้วยความเอือมระอา ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มก็คิดแผนพิลึกกึกกือขึ้นมาได้ จึงแสร้งตีหน้าเข้ม พร้อมกล่าวกับโจจี้อย่างจริงจัง
“ ที่ชั้นเตือน เพราะหวังดี พี่ชายคงไม่รู้หรอก แท้จริงแล้ว เหมยลี่เขาเป็น……ผู้ชาย ”
สิ้นคำของมาวิน หนุ่มหล่อผมทองถึงกับนิ่งอยู่นาน ก่อนจะเริ่มตะโกนดัง
“ ฮ้า..... ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไงที่สาวสวยขนาดนี้จะเป็นผู้ชาย ”
“ ชู่..... เบาๆดิ นี่คือความลับสุดยอดนะ ขืนยัยโย่งได้ยินเข้า มีหวังโดนกระทืบ ดังนั้น ถ้าไม่หยุดตะโกน ชั้นจะไม่เล่าให้ฟังต่อ ” มาวินจุ๊ปากทำนองว่าให้เงียบเสียง ก่อนจะล็อกคอหนุ่มผมทองเข้ามาใกล้ๆ เพื่อจะได้กระซิบง่ายๆ
“ ตกลงนายอำชั้นรึป่าว เหมยลี่เหมือนผู้หญิงมากเลยนะ แถมยังสวยอีกด้วย ” โจจี้พยายามสงบใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถาม
“ ใครที่ไม่รู้ความจริง ก็พูดแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เอางี้นะ ชั้นจะแจงให้ฟังก็แล้วกัน ตั้งใจให้ดีๆ ” มาวินกล่าวด้วยเสียงกระซิบ ก่อนวางท่าให้ดูจริงจังที่สุดเท่าที่ลิงอย่างเขาจะทำได้
“ เฮือก....ว่ามาเลย ” โจจี้กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ พร้อมนั่งลุ้นอยู่ข้างๆ
“ พิรุธข้อแรกที่ว่ายัยโย่งนั้นน่าจะเป็นผู้ชายก็คือ……ความสูง ” มาวินเริ่มอธิบายต่อ
โจจี้นิ่งคิดอยู่ชั่วขณะ แต่ไม่ค่อยเชื่อนัก ถึงแม้เหมยลี่จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วไป แต่หนุ่มผมทองก็เคยเห็นสาวที่สูงขนาดนี้มาบ้าง
มาวินทิ้งระยะออกไปครู่หนึ่ง เขารู้ว่าโจจี้ยังไม่หลงเชื่อ จึงเริ่มใส่ไฟระลอกสอง
“ พิรุธข้อที่สองก็คือ.....กำลัง นายเคยเห็นผู้หญิงคนไหนบ้างมีพละกำลังมหาศาลขนาดนี้ ” พอมาวินพูดจบ ก็แสร้งส่งเสียงขู่นิดๆ หวังให้หนุ่มหล่อนึกกลัว
“ เฮือก.....” คราวนี้โจจี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เขาเริ่มจะเชื่อคำพูดของเด็กหนุ่มบ้างเเล้ว
มาวินแสร้งตีหน้าขรึม ในใจนึกกระหยิ่มยิ้มย่อง เพราะการใส่ไข่เติมสีเริ่มจะเกิดผล แต่เพื่อความชัวร์ เด็กหนุ่มจึงอัดหนักๆอีกหนึ่งดอก
“ พิรุธข้อสุดท้าย ลองคิดดูให้ดี นายโคตรจะหล่อขนาดนี้ มีหรือสาวที่ไหนจะไม่หวั่นไหว แต่นี่อะไร คุณเธอสุดแสนจะเฉยชา แบบนี้ถ้าไม่ใช่ผู้ชาย แล้วเรียกว่าอะไร ”
" บ้าน่า ผู้หญิงย่อมมีหลายรูปแบบ บางทีเหมยลี่อาจไม่ชอบคนหล่อ จะเหมารวมว่าสาวทุกคนหลงใหลในรูปโฉม ก็คงเป็นความคิดที่ตื้นเขิน " พอโจจี้ตั้งสติได้ เขาก็เริ่มถกเถียงด้วยเหตุผล
มาวินเกาหัวแกรกๆ ในใจนึกเซ็งเล็กน้อยที่เหยื่อรายนี้ต้มยากกว่าที่คิด ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ยอมล้มเลิก
" นายนั่นแหละที่ยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง รู้มั้ยว่าโลกของผู้ชายที่มีหน้าตาเหมือนผู้หญิง มันลึกล้ำขนาดไหน "
" นายตั้งใจจะพูดอะไร ก็พูดออกมาเลย ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าแล้ว " โจจี้ยกมือขึ้นกอดอก พร้อมตีหน้าเคร่งใส่ ประมาณจะบอกว่า......เอ็งจะมาไม้ไหน
มาวินยังคงสวมบทลิงน้อยจอมลีลาต่อไป เขาแสร้งทำเป็นมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางหวาดระแวง จากนั้นก็กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา
" ที่ชั้นอยากจะบอกก็คือ.....เหมยลี่เป็นผู้ชายเต็มร้อย ดังนั้นเธอจึงสนแต่ผู้หญิง นายถึงได้ตกกระป๋อง "
แม้คำพูดของมาวินจะฟังดูแหม่งๆ แต่ก็ใช่ว่าไร้เหตุผล โจจี้จึงเชื่อไปก่อนครึ่งหนึ่ง แต่แผนเขียนเสือให้วัวกลัวยังไม่จบเพียงเท่านั้น เขายังแสร้งขู่หนุ่มหล่ออีกครั้ง
" จะว่าไป ถ้าคิดจะลุยต่อ ด้วยเสน่ห์อันเหลือร้ายของนาย อาจทำให้จิตใจของเหมยลี่เบี่ยงเบน และเมื่อถึงเวลานั้น บรื้อ.....ชั้นไม่อยากจะคิดเลย "
ถึงตรงนี้ มาวินแสร้งทำเป็นกลัวจนตัวสั่น มันดูแนบเนียนจนโจจี้เริ่มอินและร้องถามโดยเร็ว
" อะไร พอถึงเวลานั้น แล้วจะเกิดอะไรขึ้น "
มาวินหลับตาปี๋ จากนั้นก็ตอบกลับมา ท่าทางกระอักกระอ่วน
" ก็จะ.....เอ่อ.....ดะ....โดนตุ๋ยอ่ะดิ รับรองว่านายได้กินถั่วดำจนเอียนแน่ เพราะเหมยลี่เป็นคนจริงจัง ถ้ารักใครชอบใคร ต่อให้ใช้กำลัง เขาก็จะทำ บรื้อ....."
คำพูดและท่าทางของมาวินดูสมจริงจนโจจี้นึกกลัว ไม่นาน หนุ่มหล่อก็เริ่มกังวลใจและหันมาปรึกษา
“ แฮะๆ ก็จริงของนาย แล้วชั้นควรทำไงดี ”
ระหว่างสองหนุ่มกำลังคุยกัน เหมยลี่ก็เดินมาข้างหลัง พร้อมเอ่ยถาม
“ พวกนายทำอะไร ”
เหมือนเสียงของเหมยลี่จะเป็นสัญญาณเตือนภัย สองหนุ่มจึงโดดตัวลอย พร้อมหนีหายเข้าไปห้องพักอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เด็กสาวร่างสูงยืนเอ๋อรับประทาน
เหมยลี่ยืนงงอยู่พักใหญ่ ก่อนพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ อะไรกัน สงสัยชั้นจะเล่นงานเจ้าพวกนี้มากเกินไปล่ะมั้ง ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ