The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  166.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

57) มาเฟียจงอางดำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เครดิตภาพจาก  https://wallpapernovan.id

 

       มาวินรู้สึกหัวเสีย ด้วยไม่อาจทนต่อกิริยาดูแคลนของเพื่อนสาว จึงคำรามในลำคอ ดวงตาจ้องมองตังลู่ไม่วางวาย 

 

“ ได้เลย พวก ” 

        

 

       สิ้นคำ มาวินได้ทะยานใส่ศัตรู พอเข้าประชิด เด็กหนุ่มก็พบกับฝ่ามือขวาที่สวนกลับมาช้าๆ เป้าหมายคือยอดอก 

 

“ อะไรกัน ฝ่ามือที่พุ่งมาเอื่อยๆแบบนี้ ขนาดเต่ายังหลบได้เลย ที่ว่าเป็นยอดยุทธ์ สงสัยจะแค่ราคาคุย ” มาวินนึกดูแคลน ก่อนฉากหลบไปทางขวา จากนั้นก็ง้างหมัด เพื่อเสยไปที่กรามใหญ่ๆ          

      

 

       ทันใดนั้นเอง ฝ่ามือที่คิดว่าหนีพ้น ก็เปลี่ยนทิศทางเป็นวิ่งใส่มาวินอย่างฉับพลัน เป้าหมายคือนัยน์ตา ด้วยความไวขนาดนี้ ย่อมยากจะหลบหลีก

 

“ ฉั้ว ” 

        

 

        เสียงฝ่ามือฉีกเนื้อดังสะท้าน พร้อมเลือดแดงฉานที่สาดเป็นสาย เหตุเพราะมาวินมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่ว่องไว จึงถอยหนีได้ทันท่วงที ทำให้ฝ่ามืออสรพิษทำได้แค่ถากแก้ม ก่อให้เกิดแผลสด คล้ายโดนมีดคมกรีดใส่ เด็กหนุ่มถึงกับหน้าถอดสีในบัดดล สมองประเมินความสามารถของคู่ประลอง 

 

“ หึๆ ไม่เลวนี่ ท่าทางจะมีฝีมืออยู่พอตัว ” ตังลู่กล่าวชม 

        

 

         มาวินไม่ตอบคำ ดวงตาเล็กเรียวกลอกไปมา ราวกับกำลังคำนวณบางอย่าง ระหว่างนั้นเอง เสียงห้าวๆของเหมยลี่ก็ดังแทรกเข้ามา

 

“ เปลี่ยนตัวกันมั้ย เจ้าลิงหัวเขียว ” 

 

“ หุบปากน่า ยัยโย่ง ” มาวินหันกลับไปตะคอก แต่ในจังหวะที่ละสายตาจากคู่ต่อสู้ หัวหน้ามาเฟียก็พุ่งเข้ามาประชิด

 

“ รับนี่ไป งูเห่าดำฉกคอหอย ” ตังลู่ประกาศชื่อกระบวนท่า พร้อมเสียบฝ่ามือขวาไปที่คอหอย 

 

“ เฮ้ย..... ” มาวินร้องเสียงหลง เขายกแขนขึ้นมาปัด แต่กระบวนท่าของเจ้าพ่อร่างสูงไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีฝ่ามือที่สอง สาม สี่ตามมาติดๆ 

          

 

        มาวินปัดป้องด้วยอาการร้อนรน เพราะฝ่ามือที่พุ่งเข้ามา ล้วนมุ่งไปที่จุดตาย อาทิเช่น คอหอย ลิ้นปี่ สีข้าง มิหนำซ้ำ การจู่โจมยังสลับช้า เร็ว จนคล้ายการฉกกัดของอสรพิษ

        

 

        มาวินถอยหนีอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าพ่อร่างสูงก็หยุดโจมตี ทำให้เขามีโอกาสโต้ตอบด้วยท่าถนัด 

 

“ นี่แน่ะ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ” 

         

 

         พายุกรงเล็บจำนวนหลายสิบพุ่งเข้าใส่ แต่ก่อนที่กระบวนท่าเด็ดจะปะทะกาย ตังลู่ได้โยกหลบด้วยสเต็ปที่พริ้วไหว

 

“ ย่าๆ......เอาไปอีก นี่แน่ะ ” มาวินยังไม่ยอมแพ้ เขาปล่อยกรงเล็บใส่อย่างต่อเนื่อง แต่ทำได้แค่หวดสายลม ไม่มีการโจมตีใดสัมผัสถูกตังลู่

      

 

        ครั้นจะบอกว่าที่ตังลู่หลบได้ เพราะความเร็วก็ไม่ใช่ ด้วยทุกท่วงท่าล้วนแต่หมุนกายเป็นวงกลม คล้ายการเคลื่อนไหวของงูในยามเคลื่อนตัว

        

 

         มาวินรัวหมัดใส่กว่ายี่สิบชุด พอหมดกำลัง เขาก็กระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลัก ใบหน้าเล็กเรียวดูเคร่งเครียดจนผิดปกติ

 

“ นี่มันอะไรกัน เราปล่อยกรงเล็บออกไปตั้งหลายสิบดอก แต่ไม่โดนเลย จะว่าไป หมอนั่นไม่เร็วกว่าเรา น่าจะช้ากว่าด้วยซ้ำ แต่ยังหลบได้ทุกครั้ง เหมือนกับว่ามัน….” มาวินกำลังขบคิด แต่ไม่ทันนึกออก เหมยลี่ก็ชิงตอบ

 

“ เหมือนกับว่ามันไม่มีกระดูกใช่มั้ย เจ้าลิงหัวเขียว ” 

         

 

         มาวินหันกลับมามองเหมยลี่ สีหน้าเหลอหลาทำนองจะถามว่า……เธอรู้ในสิ่งที่ชั้นคิดได้ยังไง ซึ่งอีกฝ่ายได้แต่ยิ้มเล็กน้อย พร้อมตอบกลับมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา

 

“ ใบ้ให้หน่อยแล้วกัน….ถ้านายจะสู้กับงู ก็ต้องจับคอมันให้ได้ก่อน ” 

 

“ จับคองู วิธีบ้าบออะไร พูดตรงๆไม่ได้รึไง ยัยโย่ง ” มาวินบ่นพึมพำ เพราะหงุดหงิดที่เหมยลี่ไม่ยอมบอกวิธีเอาชนะมาเฟียหมัดงูแบบตรงๆ 

          

 

        แต่มาวินบ่นได้ไม่นาน ตังลู่ก็ย่างเข้ามาอีกครั้ง ฝ่ามือซ้ายขวาจู่โจมทุกทิศทาง เด็กหนุ่มจึงได้แต่ถอยหนี ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า ทำให้เจ้าพ่อร่างสูงไม่อาจประชิดกาย

 

“ เฮ้......นี่ชั้นมองผิดไป เจ้าหนู แท้จริงแล้ว นายเก่งแต่หนีนี่หว่า ” ตังลู่เริ่มท้าทาย ซึ่งมาวินได้ยินทุกถ้อยกระบวนความ แต่ไม่ได้ตอบคำ สมองขบคิดถึงคำใบ้ของเหมยลี่ เพื่อหาทางชนะศึก

 

“ โห่...... ไอ้หนู ไอ้เด็กหัวเขียวจอมขี้ขลาด ไอ้เด็กไม่เจียมตัว ” เหล่าลิ่วล้อนับสิบเริ่มตะโกนด่าทออย่างดุดัน เนื่องจากเด็กหนุ่มโชว์ความขลาดด้วยการถอยหนีลูกเดียว 

         

 

        มาวินถอยหนีไปก็ขบคิดไป วินาทีต่อมา เด็กหนุ่มก็พบหนทางคว้าชัย รอยยิ้มน้อยๆเริ่มปรากฏที่มุมปาก ท่าทีที่เปลี่ยนไปไม่รอดพ้นสายตาของตังลู่  หัวหน้ามาเฟียจึงหยุดจู่โจม พร้อมเอ่ยถาม ท่าทางสุขุม 

 

“ นายยิ้มอะไร ไอ้หนู หรือคิดจะยอมแพ้ แล้วส่งตัวเด็กมาให้ชั้น ” 

 

“ หึๆ คิดอย่างงั้นรึ น้างูหน้าตี๋ ชั้นอาจไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้นะ ” มาวินกล่าวยียวน ใบหน้าเล็กเรียวดูทะเล้น

      

 

        ตังลู่ยิ้มเยือกเย็น ส่วนตัวแล้ว เขาค่อนข้างวางใจ เพราะเท่าที่ประมือ รู้เลยว่าสามารถเอาชนะเด็กหนุ่มได้ไม่ยาก แม้ว่าคู่ต่อสู้วัยเยาว์จะว่องไว แต่ขาดประสบการณ์และความชำนาญ น้ำหนักในการออกกระบวนท่าก็ค่อนข้างเบา บ่งบอกว่าขาดพื้นฐานการฝึกที่ดี 

       

 

        มาวินยืนยิ้มพิมพ์ใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กลับมาตีหน้าเครียด พร้อมตะโกนออกมาดังๆ

 

“ เอาล่ะ ยัยโย่ง ชั้นจะใช้วิธีของเธอแล้ว กระบวนท่าจับคองู ย้าก..... ” สิ้นเสียงตะโกน มาวินก็พุ่งเข้าใส่ตังลู่สุดกำลัง

        

 

        ทันทีที่ตังลู่ได้ยินชื่อกระบวนท่า ใบหน้าก็เริ่มถอดสี แต่พอเห็นลักษณะการจู่โจมของเด็กหนุ่ม เขาก็กลับมาสงบใจอีกครั้ง 

 

“ หึๆ เล่นเอาตกใจเลยนะ เจ้าเด็กบ้า ”        

       

 

         มาวินพุ่งเข้าประชิดกาย พร้อมยื่นสองมือไปคว้าคอ แต่ก่อนจะทำสำเร็จ ตังลู่ก็พริ้วหลบได้อีก

 

“ อ้าว เอ๋ ไหนบอกให้จับคองูไง ” มาวินทำหน้าเหลอหลา แต่เอ๋อรับประทานได้เดี๋ยวเดียว ฝ่ามือคมที่คล้ายปากอสรพิษก็พุ่งฉกตามจุดต่างๆของร่างกาย

 

“ อุ้ก อั้ก เอ๋ง โอ๊ย ” 

     

 

        มาวินถึงกับครวญครางเป็นเสียงต่างๆอย่างรื่นเริง ทุกจุดที่ถูกฉก แม้ไม่จุก แต่ก็เจ็บจี๊ดๆ คล้ายโดนเข็มแหลมทิ่มใส่ เขาไม่สามารถหลบได้เลย เนื่องจากตอนที่พุ่งเข้ามาคว้าคอ เด็กหนุ่มได้โถมจนสุดกำลัง

        

 

       มาวินโดนพายุฝ่ามือพุ่งฉกหลายสิบดอกจนต้องถอยร่นไปข้างหลัง จังหวะสุดท้าย เขาถูกตังลู่กระโดดถีบสูงด้วยท่าไซด์คิกตรงยอดอก ส่งผลให้ลอยไปนอนหมอบใกล้จุดที่เหมยลี่ยืนอยู่

 

" พลั๊ก " 

 

“ อู้ย.... แสบมากนะ เจ้าน้างูหน้าตี๋ ” มาวินยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก แต่ไม่ทันไร เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากเพื่อนสาวที่ยืนไม่ห่าง 

 

“ ฮะๆ อย่างที่นายพูดเลย ไม่กี่กระบวนท่าก็จบจริงๆ ” 

         

 

        มาวินเงยหน้าขึ้นมองเหมยลี่ แววตาดูขุ่นเคือง ครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็ตวาดกลับ 

 

“ เงียบเถอะน่า ยัยโย่ง ชั้นแค่ประมาทเท่านั้น เดี๋ยวจะลุกขึ้นไปสู้กับมันใหม่ คราวนี้ชนะแน่ ”  

        

 

       เหมยลี่ไม่ตอบประการใด เธอเพียงผายมือกว้าง ทำนองจะบอกว่า……เอาที่สบายใจก็แล้วกัน ท่าทีแบบนี้ ยิ่งทำให้ไฟแค้นของมาวินลุกโชน เขารีบรวบรวมกำลัง เพื่อลุกขึ้นยืน แต่ไม่ว่าพยายามยังไง ก็ไม่อาจขยับกาย ราวกับถูกเหล็กพันชั่งกดทับอยู่

 

“ นะ....นี่มันอะ....อะไรกัน ทำไมถึงขยับไม่ได้ หน็อย..... ” มาวินนึกแปลกใจ ทั้งที่เขาไม่ได้บาดเจ็บมากมาย แต่ร่างกายกลับไม่ยอมขยับตามคำสั่ง

        

 

       เหมยลี่ดูมาวินตลอด เธอนึกแปลกใจเหมือนกัน ทำไมเด็กหนุ่มถึงหมดกำลัง ทันใดนั้นเอง สาวกังฟูก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงหันไปมองตังลู่ที่ยิ้มเย้ยหยันอยู่เบื้องหน้า

 

“ อ้อ อย่างนี้นี่เอง ” เหมยลี่ยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ลงไปนั่งข้างๆมาวินที่พยายามลุกขึ้นยืน

 

“ นี่เจ้าลิงหัวเขียว อยู่เฉยๆ ไม่ต้องลุกขึ้นแล้ว ” เหมยลี่ร้องสั่ง จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้จิ้มเข้าไปตามจุดต่างๆ อาทิเช่นเอว หน้าอก หน้าท้อง ซอกคอ แต่ละครั้งล้วนรุนแรง ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวด

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา