The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
56) คู่ต่อสู้ในตรอกมืด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://unsplash.com
เหมยลี่และมาวินวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุ ด้วยฝีเท้าที่ว่องไว ทำให้สองวัยรุ่นมาถึงปลายทาง อันเป็นตรอกซอยแคบๆในเวลาสั้นๆ
สิ่งแรกที่ประสบก็คือ……….ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง พวกเขาแต่งตัวด้วยชุดคลุมสีดำที่ยาวถึงข้อเท้า บนศีรษะสวมหมวกปีกกว้างสีเดียวกัน หน้าตาบ่งบอกว่ามีเชื้อสายมังกร ทว่าแววตากลับแฝงความน่าสะพรึงกลัว ทำให้ดูคล้ายนักเลงดังร่วมสมัย
“ โห...... นี่มันพวกลูกน้องติงลี่ มาเฟียใหญ่ในหนังฮ่องกงรึไง ” มาวินเผลออุทานตามประสาคนปากเปราะ ส่วนเหมยลี่ เธอได้แต่ยืนนิ่ง ดวงตาสำรวจสถานการณ์โดยละเอียด
กลุ่มชายฉกรรจ์หันมามองสองวัยรุ่นเป็นตาเดียว สีหน้าแสดงออกถึงความตึงเครียดจนแทบจะขยี้ใครก็ได้ให้ตายคาฝ่าเท้า
“ อะจึ้ย น้าพวกนี้เป็นใคร ท่าทางน่ากลัว ” มาวินสะดุ้งโหยงด้วยความเสียขวัญ
ทันใดนั้นเอง มาเฟียร่างสูงนายหนึ่ง ได้เดินออกมาจากกลุ่ม พอหยุดยืนเบื้องหน้า เขาก็ตวาดใส่
“ ข้าไม่สนว่าพวกแกเป็นใคร แต่มาทางไหน ให้กลับไปทางนั้นเลย พวกข้าจะสั่งสอนไอ้เด็กขี้ขโมยคนนี้ ”
สิ้นเสียงตวาด เด็กชายตัวน้อยอายุประมาณ 12-13 ปี วิ่งฝ่าวงล้อมของเหล่ามาเฟียวัยฉกรรจ์ ผู้เยาว์ได้มุ่งตรงมายังจุดที่ มาวินและเหมยลี่ยืน
“ เฮ้ย.... ปล่อยให้มันหลุดได้ไง คุมให้ดี อย่าเผลอสิฟะ ” เหล่ามาเฟียนับสิบเริ่มโหวกเหวกโวยวายด้วยความตกใจ เด็กชายตัวน้อยหนีไปได้แบบไม่น่าเชื่อ
เด็กน้อยร่างเล็กวิ่งมาหลบหลังมาวิน ทำให้เจ้าลิงหัวเขียวถึงกับร้องเสียงหลง
“ เฮ้..... นี่มันเกิดอะไรขึ้น นายเป็นใคร ทำไมถึงมาหลบอยู่ข้างหลังชั้น ”
พอเด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นสบตา มาวินจึงพบว่าหนูน้อยมีดวงตาสีน้ำตาลที่กลมโตและบ้องแบ๊ว เมื่อนำมาประกอบกับปากนิด จมูกหน่อย ส่งเสริมให้จิ้มลิ้ม น่ารักจนคล้ายเด็กผู้หญิงอยู่หลายส่วน แต่เพราะฮู้ดเก่าๆ กับใบหน้าที่เปื้อนฝุ่น เลยทำให้ลดทอนความน่าดูไปมากกว่าครึ่ง
“ พวกนี้เป็นคนชั่วครับ มันรังแกผม ช่วยผมด้วย พี่ชาย ” เด็กน้อยอ้อนวอน ท่าทางน่าสงสาร
“ เหอๆ ก็อยากช่วยนายอยู่ แต่....ชั้นเกรงว่าตัวเองจะถูกกระทืบเละซะก่อนน่ะสิ ” มาวินชำเลืองไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์ ท่าทีครั่นคร้าม
“ ดีมากที่แกไม่คิดขวางทาง ส่งตัวเจ้าเด็กขี้ขโมยนั่นมา จากนั้นก็ไสหัวไป ” ชายชุดดำร่างสูงออกคำสั่งด้วยเสียงตะคอก
“ นี่ตกลง พี่ชายจะใจดำ ปล่อยให้ผมไปตายจริงๆเหรอครับ ” เด็กน้อยเกาะแขนมาวิน ดวงตาเริ่มสั่นไหวและมีน้ำใสๆฉ่ำเยิ้มอยู่นิดๆ
พอมาวินสบตา เขาก็หวั่นไหวในทันที สีหน้าดูยุ่งยาก ระหว่างที่ใคร่ครวญ มาเฟียร่างสูงได้ก้าวเข้ามา เพื่อหวังจะกระชากแขนของเด็กน้อย ปากก็แผดเสียงขู่
“ เมื่อแกกลัว ก็ถอยไป ปล่อยให้พวกข้าสั่งสอนเด็กน้อยคนนี้เอง ”
“ เหวอ......พี่ชาย ช่วยผมด้วย ” เด็กน้อยร้องลั่น ท่าทางหวาดกลัวสุดขีด ทว่ามาวินกลับยืนนิ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะปกป้อง
“ ดีมากที่ให้ความร่วมมือ ฉลาดแบบนี้ แกอายุยืนแน่ เจ้าหนู ” มาเฟียร่างสูงกล่าวชมด้วยน้ำเสียงหยามหยัน พร้อมคว้าข้อมือของเด็กน้อยที่หลบซ่อนอยู่ข้างหลัง
“ ช่วยผมด้วย ไม่นะ ไม่..... ” เด็กน้อยร้องขอความช่วยเหลือ แต่มาเฟียร่างสูงไม่สนใจ มันออกแรงดึง เพื่อลากเชลยร่างเล็กไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบที่รอสำเร็จโทษอยู่
จังหวะที่มาเฟียร่างสูงดึงเด็กน้อยไปได้ครึ่งทาง เขาก็รับรู้ถึงแรงลมหอบใหญ่ที่พุ่งปะทะต้นคอ ความรู้สึกต่อมาก็คือปวดแปล๊บอย่างรุนแรง จากนั้นทุกสิ่งก็พลันมืดลง
สิ่งที่เกิดกับมาเฟียร่างสูงนั้นก็คือ………เขาถูกฝ่าเท้าของมาวินฟาดเข้าไปที่ต้นคอแบบเต็มๆ
“ เฮ้ย..... ไอ้หนู แกทำบ้าอะไรฟะ ” ชายฉกรรจ์นับสิบตะโกนใส่ ท่าทางเกรี้ยวกราด เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีแข็งขืน
มาวินหัวเราะแห้งๆ จากนั้นก็หันกลับไปมองเหมยลี่ สีหน้าและแววตาเหมือนพยายามจะบอกเป็นนัยๆ………ซวยอีกแล้ว หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ
“ เอ๋..... พี่ชายยอมช่วยผมแล้ว เย้ เย้ เย้ ดีใจจังเลย ” ทันทีที่เด็กน้อยเห็นความช่วยเหลือ เขาก็รีบวิ่งมาเกาะแขน ท่าทางดีใจสุดขีด แต่มาวินกลับสะบัดหนี พร้อมโวยดัง
“ ไอ้หนู ปล่อยชั้นนะโว้ย ใจเย็น รู้แล้ว ช่วยก็ช่วย อยู่เฉยๆเถอะน่า ซนชะมัด ไอ้เด็กบ้านี่ ”
“ ครับผม ” เด็กน้อยพยักหน้ารับคำ พร้อมส่งตาหวานซึ้งให้ คล้ายสำนึกขอบคุณ
“ เฮ้อ..... ช่วยไม่ได้แฮะ ” มาวินถอนหายใจ พลางขยับกายตั้งท่าสู้ โดยมีเหมยลี่ยืนกำกับเกมอยู่ข้างหลัง
ท่าทางแข็งขืนของมาวิน ทำให้อารมณ์ของกลุ่มมาเฟียเดือดขึ้นเป็นเท่าทวี พวกเขาขู่คำรามเสียงดัง
“ ไอ้หนู กล้าสู้กับพวกข้ารึ แกต้องตาย ”
กลุ่มชายชุดดำพุ่งเข้าใส่ หมายกระทืบเด็กหนุ่มให้จมธรณี ส่วนมาวินตั้งท่าต่อสู้เต็มที่ แต่ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะปะทะกัน ก็ปรากฏเสียงชายคนหนึ่งดังกังวาน
“ หยุดก่อน เจ้าหนูนั่นตั้งกระบวนท่าแมวป่า มันมีวิชาติดตัว พวกแกอย่าเข้าไปเสี่ยง ”
ดูเหมือนเสียงนั้นจะมีอำนาจเหนือจิตใจของเหล่าวายร้าย ทำให้มาเฟียนับสิบหยุดชะงัก เมื่อชาวแก๊งสงบลง พวกเขาก็แหวกทางให้มาวินได้เห็นบุคคลที่เพิ่งร้องห้าม
บุคคลผู้นั้นเป็นชายร่างสูงในชุดกังฟูยาวสีดำ บนเสื้อปักลายงูเห่าสองตัวเกี่ยวกวัดกัน โครงหน้าเรียว มีกรามขึ้นเป็นสัน จมูกโด่ง ปากเล็กบาง ดวงตาภายใต้คิ้วดกฉายแววร้ายลึก คล้ายดวงตาอสรพิษ ผมสั้นสีดำขลับ แถมเรียบแปล้ดูเป็นทรง
“ เฮ้ย ในเกมนี้มีเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ด้วยเหรอ ” มาวินหลุดคำแรกที่คิดได้ ทำให้ทุกคนงงไปตามๆกัน
ดูเหมือนมาวินจะสังเกตเห็นอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไป จึงพยายามเถต่อ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เขาหลุดปาก
“ เอ่อ....อืม.... เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้หมายถึง เอ่อ.....คิดไม่ออกอ่ะ ”
มาวินกอดอกนิ่ง เขาพยายามหาคำอธิบายอยู่หลายอึดใจ โดยมีกลุ่มมาเฟียและเด็กน้อยคอยลุ้นจนตัวโก่ง แต่เหมยลี่ไม่บ้าจี้ด้วย เธอเกาหัวแกรกๆ เพราะระอากับความบ้าบอของเพื่อนร่วมทาง
เหมือนว่ามีอีกคนที่ไม่สนใจความเพี้ยนของมาวิน คนๆนั้นคือ....ชายชุดดำ เจ้าของฉายา เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ เขาหัวเราะเบาๆ ท่าทางเยือกเย็น พร้อมกล่าวช้าๆด้วยเสียงที่นุ่มนวล
“ น้องชาย พวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน เจ้าหนูที่นายปกป้อง ทำผิดด้วยการปลอมเป็นเด็กรับใช้ เพื่อขโมยตราประจำพรรค ปล่อยเด็กนั่นให้เราจัดการเถอะ เรื่องทำร้ายคน ทางพรรคจะยกโทษให้ ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ”
เมื่อเจอการเจรจาที่ละมุนละไม มาวินก็ถึงกับไปไม่เป็น เขาหันกลับมามองเด็กน้อย ทำให้ผู้เยาว์รีบกล่าวค้าน
“ ไม่จริงเลยครับ พี่ชาย เจ้าพวกนี้ มันพยายามบังคับให้ผมเป็นทาส พอไม่ยอม ก็หาทางแกล้งต่างๆนาๆ เลยต้องปลอมตัวเป็นขอทาน แล้วหนีออกมา ”
เมื่อเจอข้อเท็จจริงที่แตกต่าง มาวินถึงกับงี้ดรับประทาน เลยหันมาปรึกษาเหมยลี่ แต่ก็พบกับใบหน้าที่กลัดกลุ้ม เขาจึงต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ด้วยการตั้งท่าต่อสู้เต็มพิกัด พร้อมป่าวประกาศ
“ ในเมื่อไม่รู้ว่าใครพูดจริง ชั้นก็ขอปกป้องเจ้าหนูนี่ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ”
ชายชุดดำผู้เป็นหัวหน้ายิ้มเล็กน้อย เขาเอ่ยถามช้าๆ ท่าทางเยือกเย็น
“ ใจเด็ดมาก เจ้าหนู นายชื่ออะไร ”
“ ชั้นชื่อ.....มาวิน แล้วน้าล่ะ เป็นใคร ” มาวินเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนถามกลับ ภายในใจนึกเซ็งที่อยู่ๆต้องตกกระไดพลอยโจนจนมาประมือกับใครก็ไม่รู้
“ หึๆ ชั้นชื่อ…ตังลู่ เจ้าพ่อแห่งพรรคงูเห่าดำ ” ชายชุดดำตอบกลับเบาๆ เขาย่อตัวลงต่ำ มือขวายื่นนำมือซ้ายแล้วหักลงเป็นมุม 90 องศา จากนั้นก็จีบปลายนิ้วให้ห่อเป็นรูปทรงที่คล้ายปากอสรพิษ
“ เอ๊ะ ใช่เขาจริงด้วย ” เหมยลี่อุทานออกมาเบาๆ ใบหน้าดูตกใจเล็กน้อย สิ่งนั้นดึงความสนใจของมาวิน เพราะอะไรก็ตาม ที่ทำให้เด็กสาวเป็นไปได้ขนาดนี้ น่าจะไม่ธรรมดา
“ เอ่อ หมอนี่เป็นใคร ทำไมเธอถึงตกใจขนาดนี้ ” มาวินเอ่ยถาม แต่สายตายังไม่ละจากคู่ต่อสู้เบื้องหน้า เหมยลี่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับมาเบาๆแค่พอได้ยิน
“ คนผู้นี้นับเป็นยอดยุทธ์ที่มีฝีมือพอตัว เขาใช้เพลงมวยอสรพิษ อันเป็นวิชาประหลาดที่จับทางได้ยาก มิหนำซ้ำยังเป็นหัวหน้าพรรคงูเห่าดำ ซึ่งเป็นแก๊งมาเฟียใหญ่ประจำเมืองนี้ ”
“ โห..... ไม่รู้จะน่าสนุกหรือน่ากลัวดี เฮ้อ......ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ ” มาวินบ่นพึมพำด้วยความเซ็ง ที่จู่ๆต้องมาพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งขนาดนี้
“ แล้วนายจะยอมแพ้รึไง ปล่อยให้ชั้นสู้แทนก็ได้นะ ” เหมยลี่กอดอก พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ออกไปในทางดูแคลน แถมยังส่งสายตาหยามให้อีกชุดใหญ่ มาวินจึงโกรธจนควันออกหู
“ เชอะ ใครจะไปขอร้องทอมบอยแบบเธอเล่า อย่างน้าตี๋ชุดดำคนนี้ แค่สิบกระบวนท่าก็จอดแล้วมั้ง ”
“ หึ จะคอยดู ” เหมยลี่ตอบกลับสั้นๆ พร้อมส่งสายตาเย้ยนิดๆ ทำนองว่า…….นายจะทำได้เร้อ
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ