The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
50) แทงค์ปีศาจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpapermemory.com
………………………
แม็กซ์ยืนสงบนิ่งอยู่กลางลานกว้าง แม้จะได้เปรียบในการแข่ง เพราะเพิ่งล้มไฟท์เตอร์มือดีมาหมาดๆ แต่เขาก็ไม่บุกไปตีป้อมของคู่ต่อสู้
“ ลูกพี่ เราจะทำยังไงกันดี ” สมาชิกร่างสูง ผู้มีผิวดำปานถ่านเอ่ยถามลูกพี่ใหญ่
ใบหน้าแข็งปานหินของอินอสต้ากระตุกเล็กน้อย เป็นเชิงใช้ความคิด ครู่หนึ่ง กัปตันทีมก็เปิดปาก
“ เราลองรุมโจมตีทั้งสามทาง ถึงจะเป็นแม็กซ์ ก็ยากรับมือ เพราะแทงค์ส่วนใหญ่จะพลิกกายหรือกลับตัวได้ช้ากว่าตำแหน่งอื่น ”
ทันทีที่ลูกทีมได้ฟังแผนการอันแยบคาย ทุกคนก็มีสีหน้าที่แช่มชื่นขึ้น กำลังใจเริ่มกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง คล้ายมีแสงสว่างรอคอยที่ปากอุโมงค์ นักสู้ทั้งสามกระชับสามง่ามในมือ แล้วก้าวไปข้างหน้า เพื่อต่อสู้ โดยมี อินอสต้า ยืนบัญชาการอยู่แนวหลัง
ใบหน้าของแม็กซ์ไม่ปรากฏร่องรอยแห่งความหวาดกลัวออกมาเลยซักนิด แม้ว่ามีชายฉกรรจ์ร่างสูงกำยำถึงสามคนรายล้อม
เมื่อทุกคนในทีมพร้อม อินอสต้าที่ยืนคุมเกมอยู่แนวหลัง ก็ตะโกนสั่งลูกทีมด้วยเสียงอันดัง
“ แยกออกเป็นสามทาง คนที่หนึ่งอยู่ด้านหน้า คนที่สองฉากไปซ้าย คนสุดท้ายย้ายไปอยู่มุมขวา ”
สิ้นคำบัญชา สามไฟท์เตอร์ก็เริ่มกระจายกำลัง เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็เข้าประจำตำแหน่ง ทว่าแทงค์มือหนึ่งก็ยังไม่แสดงอาการใดๆ เขายังคงยืนนิ่ง ราวกับถูกเสกให้กลายเป็นรูปปั้น
อินอสต้า ดูการกระจายกำลังของลูกทีม ท่าทางพอใจ เขาออกคำสั่งต่อไปด้วยเสียงที่เด็ดขาด
“ แผนรบฉาบฉวย สลับกันตี ปฏิบัติ ”
ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ชายฉกรรจ์ที่ประจำด้านหน้า ก็พุ่งเข้าไปเสียบแมกซ์ด้วยสามง่าม แทงค์ร่างยักษ์จึงยกขวานหินขึ้นปัดป้อง
" เคร้ง "
เสียงอาวุธสองชิ้นปะทะกันดังสนั่น ด้วยความแรงในการปัด ทำให้ชายฉกรรจ์เซถลาจนเกือบล้ม
เมื่อแม็กซ์เห็นชายฉกรรจ์เสียหลัก เขาก็เหวี่ยงขวานหินไปที่ศีรษะ หวังปิดเกม ทว่าชายฉกรรจ์ทางด้านซ้ายได้พุ่งเข้ามาจู่โจมอย่างรวดเร็ว แทงค์ร่างยักษ์จึงหยุดการโจมตี แล้วหันมาป้องกัน
" เคร้ง "
แม็กซ์เริ่มรับรู้ถึงความยากลำบากในการต่อสู้กับสองยอดฝีมือ จนหลงลืมนักสู้คนสุดท้าย
“ ฉึก ”
เสียงของมีคมพุ่งทะลุเนื้อดังขึ้น พร้อมเลือดแดงฉานที่สาดกระเด็น เมื่อแม็กซ์หันกลับมาดู ก็พบว่าที่หัวไหล่มีสามง่ามเสียบอยู่ มันเป็นของชายฉกรรจ์คนที่สามซึ่งประจำอยู่ทางด้านขวา
“ ฮึ่ม ”
แม็กซ์คำรามในลำคอ พร้อมยกขวานหินขึ้นสูง เพื่อเตรียมฟาดชายฉกรรจ์คนที่สาม แต่นักสู้คนนั้นกลับถอยฉากจากระยะของอาวุธ ส่วนไฟท์เตอร์อีกสองนายก็ล่าถอยเช่นกัน
อินอสต้ายิ้มเล็กน้อย เพราะการต่อสู้เบื้องหน้าเป็นไปตามที่คาด ถึงแม็กซ์จะเก่งยังไง แต่ถ้าโดนล้อมทั้งสามด้าน แล้วรุมตี ก็ยากจะต้านทาน กัปตันทีมหน้าตายเริ่มนึกถึงชื่อเสียงที่กำลังเข้ามา พวกเขาอาจเป็นทีมแรกในรอบแปดปีที่ล้มราสได้
“ หึๆ ขอโทษทีนะ พวกนายดันประมาทเอง ”
เหล่าชายฉกรรจ์กำสามง่ามในมือ สายตาจับจ้องไปที่แม็กซ์ซึ่งยืนอยู่กลางวงล้อม สถานการณ์ของแทงค์มือหนึ่งดูไม่ดีเอาซะเลย
“ ย่ะ ”
ไฟท์เตอร์ทางด้านซ้ายเปิดฉากด้วยการพุ่งเข้าใส่ แต่พอแม็กซ์หันไปรับศึก นักสู้ผู้นั้นก็หยุดโจมตี กลับกลายเป็นฝ่ายชายที่อยู่ด้านหน้าจู่โจมแทน
“ เคร้ง ”
แม้ว่าแม็กซ์จะถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ยกขวานหินขึ้นมากันได้ทัน ทว่าไม่อาจหนีสามง่ามของไพท์เตอร์ที่ประจำทางด้านขวา
“ ฉั้ว ”
เหล็กคมพุ่งถากเนื้อ พร้อมเลือดสดที่กระฉูดจากท่อนแขนล่ำสัน แม็กซ์โดนไปสองแผลแล้ว
“ เฮ้อ....อีกนิดเดียว ก็โดนเต็มๆแล้ว ” อินอสต้านึกเสียดายที่การโจมตีฉาบฉวยโดนเป้าหมายแค่เฉียดๆ ด้วยแม็กซ์อาศัยสัญชาตญาณดิบ เบี่ยงแขนหลบสามง่ามได้อย่างหวุดหวิด
ทันใดนั้นเอง ชายฉกรรจ์ทางด้านซ้ายที่เคยหยุดชะงัก ก็สานต่อการโจมตี ด้วยการสืบเท้าเข้าไปเสียบ เป้าหมายคือแผ่นหลังที่กว้างใหญ่
“ ฉึก ”
เสียงเหล็กเสียบเนื้อดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเลือดแดงที่พุ่งกระฉูดออกมา ราวกับน้ำพุที่ผุดจากบ่อน้ำ
“ เยส อย่างนั้นแหละ ” อินอสต้าแสยะยิ้ม เขาดีใจที่เห็นสามง่ามปักเข้าไปที่กลางหลังของแม็กซ์ โอกาสชนะในเกมนี้มีมากกว่าครึ่งแล้ว
แม็กซ์ผงะหนึ่งจังหวะ ก่อนถอยหลังไปสามก้าว นับว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยาก เพราะที่ผ่านมา แทงค์มือดีไม่เคยเสียท่าให้ใคร ทั่วทั้งอัฒจันทร์เงียบกริบในบัดดล
“ ดีมาก บุกเข้าไป ใช้แผนเดิมไล่ตอดไปเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็จะล้มมันได้แล้ว ” อินอสต้าสั่งการ สีหน้าฉายแววลิงโลดอย่างชัดเจน
เหล่าลูกทีมต่างพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พวกเขาดีใจที่แผนการได้ผลเกินคาด แทงค์ร่างยักษ์ได้รับไปถึงสามแผล จึงพร้อมใจกันรุกคืบเข้าหาศัตรู
แม็กซ์หยัดกายยืนตรงอีกครั้ง ดวงตาแข็งกร้าวกวาดมองมวลหมู่ศัตรู ใบหน้ายาวใหญ่ยังนิ่งขึงและไร้ซึ่งความเจ็บปวด คล้ายว่าสามแผลที่ได้รับ เป็นเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย ด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม ทำให้ไฟท์เตอร์ทั้งสามเริ่มลังเลใจ
สามนักสู้หันมามองหน้ากันเอง ไฟท์เตอร์ร่างผอมสูงกล่าวกับเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนด้วยเสียงกระซิบ
“ เฮ้ ดูท่าทางมันไม่เป็นอะไรเลย ทั้งที่น่าจะเจ็บหนักจากการโจมตีของพวกเรา ”
ไฟท์เตอร์อีกสองคนไม่ตอบคำ แต่ภายในนึกแย้งเล็กน้อย……อาการน่ะไม่ใช่แค่บาดเจ็บหนักหรอก แต่น่าจะเข้าขั้นสาหัสเลยต่างหาก ไม่รู้ว่ามันยังยืนได้ยังไง
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงัน ไม่มีใครกล้ารุกเข้าไปจู่โจม ทุกคนได้แต่ยืนคุมเชิงตามตำแหน่งของตนเอง ทำให้อินอสต้าเริ่มร้อนใจ เขาเลยปลุกขวัญลูกทีมด้วยการตะโกน
“ ไม่ต้องกลัว มันบาดเจ็บจนแทบขยับตัวไม่ได้แล้ว ตั้งสติให้ดี แล้วรุมโจมตีพร้อมกัน ต้องชนะแน่ ”
เมื่อลูกพี่ใหญ่พูดจบ เหล่าลูกทีมก็มีสีหน้าที่ดีขึ้น พวกเขากำสามง่ามเอาไว้แน่น เพื่อเตรียมเผด็จศึกครั้งสุดท้าย ฝ่ายแม็กซ์ เขาเริ่มขยับกายช้าๆด้วยการก้มตัวเล็กน้อย
“ ลุยเลย ” อินอสต้าให้สัญญาณ
เหล่าไฟท์เตอร์บุกจู่โจมทั้งสามทาง สามง่ามในมือพุ่งเข้าใส่แทงค์มือดีอย่างไม่ลังเล เพื่อหวังเผด็จศึกในคราวเดียว แต่ก่อนคมเหล็กจะเข้าถึงตัว ชายร่างยักษ์ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย พร้อมพึมพำเบาๆ
“ เสร็จข้าล่ะ ”
ทันใดนั้นเอง ร่างมหึมาของแทงค์มือหนึ่งก็เปล่งประกายสีแดง เขากางสองแขนกำยำออกมา แล้วหมุนตัวเป็นวงกลม มันเร็วจัดจนดูคล้ายลูกข่างขนาดใหญ่
“ เฮ้ย..... อะไรกันเนี่ย ” สามลูกทีมตกใจ แต่พวกเขาไม่อาจถอยหลัง ด้วยโถมกายเข้าใส่ศัตรูทั้งตัว เมื่อเหล่านักสู้ปะทะกับลูกข่างยักษ์ ก็เกิดประกายไฟสีส้ม พร้อมเสียงระเบิดที่ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
“ ตูม..... ”
สิ้นเสียงระเบิด ร่างของสามไฟท์เตอร์ได้ลอยละลิ่วกลางอากาศ จากนั้นก็ร่วงลงไปนอนกองกับพื้นตามทิศเดิมที่เคยประจำ เรียกได้ว่า....มาจากทางไหน ก็กลับไปทางนั้น ทุกนายล้วนตาเบิกโพลง อันบ่งบอกว่า…….สลบล้านเปอร์เซ็นต์
ลูกข่างยักษ์สีแดงค่อยๆลดความเร็วลง ในที่สุด มันก็หยุดหมุน เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่กำยำของแม็กซ์ คิ้วดกบนใบหน้าขรึมดูจะกระตุกนิดๆ เป็นเชิงสงสัยว่า.......จบแล้วรึยัง
จังหวะที่แม็กซ์หยุดหมุนตัว ร่างของเหล่าไฟท์เตอร์เริ่มเปล่งแสงสีฟ้า พริบตาต่อมา แสงนั้นก็พลันหายไป พร้อมสามนักสู้
แม็กซ์หันหน้ามาทางอินอสต้า พร้อมส่งสายตากร้าว ปากก็ประกาศชื่อกระบวนท่าที่ใช้เมื่อครู่
“ วงล้อมรณะ ”
ทั้งสนามเงียบไปชั่วขณะ การต่อสู้ที่รุนแรงและเหนือจินตนาการ สามารถสะกดให้ผู้คนตกตะลึง แต่พอตั้งหลักได้ พวกเขาก็เริ่มส่งเสียงเฮ มันทวีความรุนแรงจนดังกึกก้องไปทั่วโคลอสเซียม
“ เฮ...... สุดยอด แม็กซ์โคตรจะเก่งเลย นายคือยอดฝีมืออันดับหนึ่ง เฮ..... ”
อินอสต้าถึงกับนิ่งอึ้ง เหงื่อไหลโชกโทรมกาย กัปตันทีมเจ้าถิ่นไม่คิดไม่ฝันเลยว่าแทงค์ชื่อดังจะมีกระบวนท่าที่น่ากลัวแบบนี้ สมองอันแหลมคมใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุด เขาก็คิดแผนการใหม่ออก
“ อืม.....ลองเปลี่ยนมาใช้การโจมตีระยะไกลดีกว่า ”
………………………….
มาวินยืนอ้าปากค้าง ราวลิงหกกะล้ม เด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงความห่างชั้นของฝีมือ ว่ากันตามจริง ต่อให้ร่วมมือกับเหมยลี่ พวกเขาก็ยังแพ้ปีศาจตนนี้อยู่ดี กายเล็กเพรียวจึงเริ่มสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
เหมยลี่สังเกตเห็นอาการของมาวิน เธอจึงยิ้มเล็กน้อย แววตาเปล่งประกายเห็นใจ ไม่ว่าใครที่ได้เห็นการต่อสู้ของแม็กซ์ ย่อมต้องขลาดกลัวด้วยกันทั้งนั้น
“ ยัยโย่ง ไอ้ถึกนี่ทำไมโคตะระเก่งขนาดนี้ ” มาวินเอ่ยถามเสียงสั่น
“ อืม..... ถ้าได้ดูการต่อสู้ของทีมราสในนัดก่อนๆ ก็จะรู้ว่าผิวกายของแม็กซ์นั้นแกร่งปานเหล็ก นอกจากนี้ ยังไม่รู้จักเจ็บปวด พละกำลังเท่ากับชายฉกรรจ์สิบคน เพราะอย่างนี้ เขาถึงได้รับฉายาว่า.....แทงค์ปีศาจไง ” เหมยลี่ตอบรัวเร็วจนผิดวิสัยของตนเอง ถ้าให้เดา น่าจะเป็นเพราะความตื่นเต้น
“ เหอๆ.... แล้วไอ้หน้าแหลมนั่นจะเอาอะไรไปสู้ล่ะเนี่ย ” มาวินหัวเราะแห้งๆ พลางชี้ไปที่อินอสต้า
เหมยลี่ก็คิดตรงกับมาวิน ถ้าสู้กันตัวต่อตัว แม็กซ์น่าจะชนะได้ไม่ยาก เพราะถึงอินอสต้าจะเป็นไฟท์เตอร์ระดับสูง แต่เขาก็เด่นด้านการวางแผนและสั่งการเท่านั้น ระหว่างที่วัยรุ่นทั้งสองจมดิ่งกับภวังค์ เสียงประกาศจากโฆษกสนามก็ดังขึ้นมา
“ ทีมมัฟฟินขอเปลี่ยนตัวสี่คน ผู้เล่นที่เข้ามาใหม่คือแครี่สาม แทงค์อีกหนึ่ง ”
สิ้นเสียงประกาศ คิ้วของเหมยลี่ก็กระตุกเล็กน้อย เพราะกะไว้แล้วว่ากัปตันทีมหน้าตายต้องใช้แผนนี้
“ อืม.....เป็นการแก้เกมที่น่าสนใจ แม็กซ์จะรับมือได้มั้ย รอดูกันต่อไป ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ