The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
42) ออกเดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก http://streetwill.co
“ ขอบคุณมากนะ เจ้าหนู ” ชายร่างยักษ์ฉีกยิ้มกว้าง พร้อมถลาเข้ามากอด
“ โอ้….. อย่า ไม่….. ” มาวินรู้สึกอึดอัด ถึงเด็กหนุ่มจะบ้าบอยังไง แต่เขาก็ไม่ใช่สายเหลือง จึงไม่ค่อยพิสมัยที่จู่ๆ ถูกชายร่างใหญ่กอดรัด มิหนำซ้ำ ยังแนบชิดชนิดที่ไม่คำนึงว่าอีกฝ่ายกำลังบาดเจ็บ
มาวินโดนกอดรัดอยู่ครู่หนึ่ง ชายร่างใหญ่ก็คลายวงแขน หลังจากนั้นก็มีสาววัยรุ่นก้าวเข้ามา ใบหน้าของเธอสวยใส ผมทรงหางม้าสีทองพริ้วไสว ดวงตาหวานซึ้งเปล่งประกายจนเด็กหนุ่มนึกอาย เขาจึงก้มมองพื้น พลางแอบคิดอยู่ในใจ
“ เธอจะกอดชั้นด้วยมั้ยน้า..... ”
ขณะที่มาวินกำลังลุ้นอยู่นั้นเอง เด็กสาวก็ยื่นมือมาเกาะกุม พร้อมกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ
“ ขอบใจมากที่ช่วยพวกเรา ”
สิ้นคำ เด็กสาวน่ารักก็ถอยหลังและปล่อยให้คนอื่นผลัดกันเข้ามาแสดงความยินดี สิ่งที่เกิด ทำให้มาวินรู้สึกฉุนนิดๆ
“ แหม….ทีตอนอยากให้กอด ไม่ยักกะกอดแฮะ เชอะ ”
เด็กหนุ่มคิดสัปดนได้ไม่นาน ก็รู้สึกว่าร่างของตัวเองกำลังลอยสูง เมื่อก้มลงไปดู ก็พบว่าเขากำลังถูกยกขึ้นโดยเหล่าชาวบ้าน เวลาต่อมา ทุกคนก็โห่ร้องดีใจ
“ เฮ…… ”
“ เหอๆ คนที่นี่เขาแสดงความดีใจด้วยการจับคนเจ็บแห่แบบนี้เหรอ หยุดทีเถอะ ชั้นตาลายไปหมดแล้ว ” เด็กหนุ่มร้องห้าม แต่ไม่มีใครฟังในสิ่งที่เขาพูด เพราะมัวแต่ยินดีกับฮีโร่จำเป็น
……………………..
หลังการฝึกวรยุทธ์ช่วงเช้าจบลง ชาวบ้านก็แยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนมาวินนั้นว่าง จึงได้แต่นั่งเหม่อลอยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่แถวนั้น เด็กหนุ่มรับการทักทายจากผู้คนที่ผ่านไปมา ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นดาราประจำหมู่บ้านไปซะแล้ว
ระหว่างที่มาวินนั่งมองท้องฟ้าสีคราม ใจก็หวนคิดถึงบ้านเกิด ที่นั่นมีคุณป้าที่เคารพรัก คุณลุงร่างใหญ่ที่แสนดี น้าเดชจอมเพี้ยนและสุดท้าย…….จัน เพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเยาว์ เขาไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดว่ามีใครบางคนเข้ามานั่งเคียงข้าง ใครคนนั้นคือ……. เหมยลี่
เด็กสาวร่างสูงไม่ได้พูดอะไรออกมา ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังใบหน้าเรียวเล็กที่ดูเหม่อลอย เธอมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนออกปากทักแบบเนือยๆ
“ วันนี้อากาศดีนะ ”
“ เอ๊ะ เออ ก็ว่างั้น อ้าว จัน เฮ้ย....ไม่ใช่ ยัยโย่งนี่นา ” เด็กหนุ่มสะดุ้งตกใจ จากนั้นก็รับคำหลกๆ ถึงตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีคนมานั่งข้างๆ
เด็กสาวยิ้มเล็กน้อย มันทำให้หน้าคมดูอ่อนหวานและสดใส จากนั้นเธอก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะขบขัน
“ นายเรียกชื่อผิดอีกแล้ว ชั้นเหมือนเพื่อนของนายขนาดนั้นเลยเหรอ ”
เด็กหนุ่มหัวเขียวหันหน้าไปทางอื่น พร้อมตอบกลับด้วยท่าทางที่ดูเขินอาย
“ จะว่าอย่างงั้นก็ได้ ”
เหมยลี่แอบขำอยู่ในใจ เพราะรู้สึกว่ามาวินคล้ายเด็กน้อยคนหนึ่ง เลยทำให้เธอนึกเอ็นดู ปากก็ถามกลับแบบแหย่ๆ
“ แล้วที่ว่าคล้ายน่ะ คล้ายยังไง ”
“ อืม……. ” เด็กหนุ่มหัวเขียวเริ่มขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“ ฮะๆ มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ” เด็กสาวถามแกมหยอก
“ ก็ไม่ยากหรอก แค่กำลังคิดว่า.....ชั้นควรจะพูดยังไงมากกว่า ” เด็กหนุ่มหัวเขียวโต้กลับ
“ ไม่เห็นยากเลย ก็แค่เล่าความจริง ” เด็กสาวกล่าวยิ้มๆ
มาวินคิดว่าอีกฝ่ายดูผิดปกติไป เพราะที่ผ่านมา เหมยลี่มักจะเคร่งขรึมและไม่ยอมพูดอะไรที่ไม่จำเป็น ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเริ่มจ้องหน้าเด็กสาวและนึกสงสัย
“ จะมาไม้ไหนกันนะ ดูร่าเริงผิดปกติ หรือว่าคนนี้คือ…ยังโย่งตัวปลอม ”
“ เอ้า ว่ายังไงล่ะ ” พอมาวินเงียบไป เหมยลี่ก็ทวงคำตอบที่เฝ้ารอ เด็กหนุ่มเห็นว่าจวนตัว จึงนิ่งตรึกตรองอยู่อึดใจ ก่อนตอบกลับมาเบาๆ
“ อย่างแรกที่เหมือนกันก็คือ……”
เด็กสาวขยับกายเข้าหาเล็กน้อย คล้ายลุ้นว่าอีกฝ่ายจะตอบยังไง ทำให้มาวินเกิดกลัวขึ้นมานิดๆ แต่สุดท้าย เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจตอบ
“ หน้าเหมือนกัน ”
เหมยลี่ดูอึ้งไปชั่วขณะ พอเริ่มปรับอารมณ์ได้ เธอก็เจรจาความ
“ มันเหมือนกันขนาดนั้นเลยเหรอ ”
“ จริงๆไม่ใช่แค่เหมือนหรอก มันน่าจะเป็นคนเดียวกันด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ ชั้นยังแอบลุ้นอยู่นิดๆว่าเธอคือจัน ” มาวินร้องบอก ท่าทางตื่นเต้น แต่เหมยลี่กลับแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเงียบขรึมดุจเดิม
“ เอ๊ะ ยังไงกัน กลับมานิ่งอีกแล้ว ” เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกๆ ใบหน้าเรียวเล็กเริ่มเหยเกด้วยความสงสัย ผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กสาวร่างสูงได้ลุกขึ้นยืน ปากก็กล่าวสั้นๆว่า.....
“ ชั้นจะเข้าป่า ”
ก่อนที่เหมยลี่จะเดินจากไป มาวินก็โพล่งขึ้นมาหนึ่งคำด้วยอาการร้อนรน ราวกับนี่คือสิ่งที่เขาอยากพูดมานาน
“ มีอีกอย่างหนึ่งที่เหมือนกับจันจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ”
เด็กสาวร่างสูงหยุดชะงัก เธอยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ปากก็ขยับเบาๆ เพื่อตอบคู่สนทนา
“ อะไร ”
มาวินเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะแถลง ท่วงท่าดูเลื่อนลอย คล้ายตกอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำที่แสนสุข
“ หัวใจไง เธอและจันมีหัวใจที่อบอุ่นและอ่อนโยน ”
เหมยลี่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาช้าๆ ดวงตาคมแฝงแววเด็ดเดี่ยวอยู่ภายใน อึดใจต่อมา น้ำเสียงห้าวหาญก็ถูกเค้นออกจากปากของเด็กสาว
“ ไม่ว่าเป็นตายร้ายดียังไง ชั้นก็จะพานายไปส่งที่แคว้นเยอมาเนีย เพื่อให้นายได้กลับไปหาคนรัก ”
ทันทีที่เด็กสาวร่างสูงพูดจบ เธอก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่สนใจเสียงร้องเรียกของมาวิน
“ เฮ้….. ที่พูดเมื่อกี้ หมายความว่าไง หยุดก่อนสิ ”
เหมยลี่จากไปแล้ว แต่มาวินรู้สึกขัดเคือง เพราะยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แต่ก็จนใจจะติดตาม เนื่องจากเด็กสาวร่างสูงเดินไวมาก ไวซะจนคนที่กำลังบาดเจ็บไม่สามารถตามทัน
“ เลือดจะไป ลมจะมารึไง ถึงได้เดินหนีไปซะอย่างงั้น ” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำ
……………………….
เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ อาการของมาวินเกือบจะหายเป็นปกติ ส่วนทางด้านเหมยลี่ก็มุ่งมั่นอยู่กับการฝึกวิชาให้ชาวบ้าน ทำให้ฝีมือของทุกคนกล้าแข็งกว่าเดิม พวกเขาออกกระบวนท่าได้ทะมัดทะแมงและคล่องแคล่วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เด็กสาวยังใช้เวลาว่างในช่วงกลางคืน เขียนแบบแผนการฝึกขึ้นมา จะได้มอบสิ่งนี้ให้หัวหน้าหมู่บ้านใช้เทรนผู้คนต่อไป
เช้าตรู่ของวันใหม่ มาวินและเหมยลี่ได้มายืนอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน โดยมีเหล่าชาวบ้านกว่าครึ่งร้อยตามส่ง ทุกคนล้วนอาลัย โดยเฉพาะเหมยลี่ ถึงกับมีหนุ่มน้อยใหญ่เสียน้ำตาให้หลายคน แต่เธอก็ไม่ได้ปลอบโยนอย่างจริงจัง เพียงแต่ตบไหล่เหล่าชายผู้โศกเศร้าเบาๆเท่านั้น
เมื่อได้ฤกษ์ออกเดินทาง ชายกลางคนร่างผอมซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็ก้าวออกมายืนข้างหน้า พร้อมกล่าวอำลาด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“ ชั้นขอพูดแทนทุกคน ใจจริงไม่อยากให้จากไปเลย เพราะถ้าไม่มีเธอ พวกเราก็ยังลืมตาอ้าปากไม่ได้และต้องเป็นขี้ข้าของเหล่าวายร้าย ไม่มีอะไรจะตอบแทนบุญคุณ นอกเสียจาก..... ”
พอหัวหน้าหมู่บ้านพูดจบ ก็ยื่นห่อผ้าขาวขนาดใหญ่ให้มาวิน เมื่อเด็กหนุ่มรับมา เขาก็เอ่ยถามทันทีตามประสาคนปากเปราะ
“ อะไรน่ะ ลุง หนักเอาเรื่องเลยนะ ”
“ ฮะๆ ก็พวกเสบียง อาหารแห้งนั่นแหละ ” หัวหน้าหมู่บ้านหัวเราะเบาๆ
เมื่อได้ยินดังนี้ เด็กหนุ่มจอมซนจึงรีบแกะห่อผ้า จึงพบว่าของข้างในคืออาหารแห้งมากมาย ท่าทางน่ากิน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแห้งสีแดงเข้มที่คลุกพริกป่น ข้าวนิ่มๆเปียกแฉะเคลือบน้ำตาล ขนมแผ่นเล็กๆคล้ายคุกกี้ นอกจากนี้ ยังมีผลไม้สีแสบสันอีกหลายชนิด
" ว้าว….. น่ากินทั้งนั้นเลย ให้ชั้นจริงๆเหรอ " เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง อากัปกิริยาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี
" ฮ่าๆ ใช่แล้ว พ่อหนุ่มเอาไปเถอะ " หัวหน้าหมู่บ้านหัวเราะร่วน ชาวบ้านบางคนก็หัวเราะด้วย พวกเขานึกเอ็นดูมาวิน
" แท็งค์กิ้ว ลุง " มาวินรวบห่อผ้าขาว พร้อมกอดแนบอก ราวกับว่ามันคือยอดดวงใจ
" เอาล่ะ ยัยโย่ง รีบขึ้นม้าเถอะ " เด็กหนุ่มพูดจบ ก็กระโดดขึ้นม้าสีกระดำกระด่างของตนเอง
เหมยลี่ได้แต่ยิ้มน้อยๆให้เหล่าชาวบ้าน อึดใจต่อมา เด็กสาวร่างสูงก็ทะยานขึ้นม้าขาวด้วยท่าทางที่ดูองอาจ เมื่อทุกสิ่งพร้อมสรรพ เธอก็ให้สัญญาณ
" ไปได้ "
หลังจากนั้น วัยรุ่นทั้งสองก็ออกเดินทาง โดยมีชาวบ้านกว่าครึ่งร้อยโห่ร้อง อวยชัย
" โชคดี ขอเดินทางปลอดภัย ถ้าผ่านมา ก็แวะมาเยี่ยมกันมั่งนะ "
เด็กสาวร่างสูงบังคับม้าให้เดินตรงไปข้างหน้าด้วยอาการขรึม ส่วนมาวินกลับซุกซน ไม่ต่างจากลิง เขาหันกลับมาโบกไม้โบกมือ นั่นทำให้เรียกเสียงเฮได้อีกหนึ่งยกใหญ่
" เฮ…… "
พอเหล่าชาวบ้านลับสายตา มาวินก็กล่าวขึ้นมาลอยๆ ท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง
" ฮะๆ พวกเราดังใหญ่แล้ว อย่างกะดาราในโลกของชั้นเลย "
แม้เหมยลี่จะติดใจในคำพูดของมาวิน แต่เธอก็ไม่คิดจดจำ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา เด็กหนุ่มมักจะทำตัวประหลาด เจ้าลิงหัวเขียวเลยเบื่อหน่ายจนเลิกหัวเราะคิกคักไปโดยปริยาย ทันใดนั้นเอง เขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัว
" เฮ้ย ”
" คราวนี้เป็นอะไรไปอีกล่ะ " เหมยลี่ถาม น้ำเสียงเริ่มส่อแววหงุดหงิด
" แย่แล้ว ยัยโย่ง ชั้นลืมเรื่องสำคัญไปอย่างหนึ่ง " มาวินกล่าวกับเด็กสาวเร็วจี๋
" อะไร " เหมยลี่กระแทกเสียงกลับ ประมาณว่าถ้าพูดอะไรไม่มีสาระอีก เป็นเรื่องแน่
" ตลอดเวลาที่อยู่ในหมู่บ้าน ชั้นยังไม่เห็นคุณยายที่เราพาไปส่งเลย " มาวินตอบทันที ถึงกระนั้น เขาก็บังคับเจ้าสังกะสีให้ถอยห่าง เพื่อระวังภัยที่คาดไม่ถึง
เหมยลี่นิ่งอึ้งเช่นกัน เพราะเธอเองก็ไม่เคยพานพบคุณยายท่านนี้ แต่ไม่นาน เด็กสาวก็เลิกสนใจและตอบกลับมาว่า.......
" คุณยายน่าจะเข้าเมือง เพื่อไปหายาให้หลานของแก อย่าคิดมากเลย "
" อืม…… คงอย่างงั้นล่ะมั้ง " มาวินกอดอก เขาขมวดคิ้วนิ่วหน้า เพราะลึกๆ ยังหยุดคิดไม่ได้
เด็กสาวร่างสูงเห็นมาวินยังบ้าบอไม่เลิก เธอจึงวางเฉยและพุ่งสมาธิไปที่การเดินทาง จุดหมายก็คือ….แกรนด์ยารด์ เมืองท่าขนาดใหญ่ของเกาะแห่งการเริ่มต้น
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ