The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) คนละชั้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://unsplash.com
บรรยากาศในตอนนั้นดูอึมครึม เพราะดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า เมื่อนำความพ่ายแพ้ของพระเอกหนุ่มมาประกอบ ยิ่งทำให้รู้สึกหม่นหมองเป็นเท่าทวี
“ พวกเจ้าแพ้ไปหนึ่งยกแล้ว ใครจะมาสู้ในยกที่สอง ” โกสเอ่ยถาม ท่าทางหยิ่งผยอง
เหล่าชาวบ้านต่างมองหน้ากันเอง ถึงแม้ไม่มีคำพูดใดๆ ทุกคนก็รู้ดีว่า…….ไม่มีใครกล้าออกไปสู้ศึกอย่างแน่นอน และในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านจะกล่าวยอมแพ้ เหมยลี่ก็ก้าวออกมา แล้วชิงประกาศด้วยกระแสเสียงที่ห้าวหาญ
“ ตัวแทนคนที่สองคือ….ชั้น ”
“ โอ้ว…..วิ้ด……วิ้ว…. คู่ต่อสู้คนที่สองคือสาวสวย น่าอิจฉาจังเลย ” เมื่อเห็นว่าท่านผู้นำจะได้สู้กับสาวงาม เสียงเป่าปากเจี๊ยวจ๊าวจากเหล่าลูกสมุนก็ดังขึ้น
โกสยืนสงบนิ่ง แววตาที่มองมายังเด็กสาวร่างสูงดูกรุ้มกริ่มยังไงชอบกล ส่วนผู้ใหญ่บ้านถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ปากก็ร้องทัดทาน
“ อย่าไปสู้กับเนโครมันเซอร์คนนี้เลย แม่หนูก็เห็นความน่ากลัวของมันแล้วนี่ ”
เหมยลี่ยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นเหมือนจะแฝงบางอย่างที่ทำให้ผู้คนเกิดความเชื่อมั่น ครู่หนึ่ง เธอก็ตอบกลับมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน
“ ไม่เป็นไรหรอก ลุง ชั้นจะจัดการเจ้านี่เอง ”
หัวหน้าหมู่บ้านเกิดความรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด เขาเผลอพยักหน้ารับคำและปล่อยให้เด็กสาวออกไปต่อสู้
เหมยลี่ก้าวมาประจันหน้า ทันทีที่อยู่ห่างจากโกสประมาณ 10 ก้าว เนโครมันเซอร์หนุ่มก็กล่าวทักทายด้วยเสียงที่พยายามจะดัดให้หวาน
“ สาวน้อยอย่าสู้กับพี่เลย มาอยู่ด้วยกันดีกว่า พี่จะเลี้ยงดูอย่างดี เหอ เหอ เหอ….. ”
เหมยลี่ไม่ตอบคำ ดวงตาแน่วนิ่งและไร้อารมณ์ ร่างสูงเพรียวหยัดยืนไม่ไหวติง คล้ายว่าเธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสายลมไปแล้ว
คิ้วของโกสเริ่มขมวดนิดๆ เพราะไม่ชอบท่าทีแบบนี้ มันทำให้เขาดูเหมือนตัวตลก เป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง เนโครมันเซอร์หนุ่มจึงตวาดใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน
“ นิ่งแบบนั้นทำไม นังหนู หรือว่ากลัวจนพูดไม่ออก ”
เหมยลี่ยิ้มนิดๆ จากนั้นก็กล่าวท้าทาย
“ เข้ามาเลย ”
โกสเกิดอาการของขึ้นจนเส้นเลือดขึ้นหน้า ที่ผ่านมา เนโครมันเซอร์หนุ่มได้รับแต่ความยำเกรง ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาแบบนี้
“ หึ อวดดีนักนะ แค่โดนอัดทีเดียว เธอก็หมอบแล้ว ” โกสข่มขวัญ ก่อนย่างสามขุมเข้าหา เมื่อถึงระยะสี่ก้าว ก็พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วที่คนธรรมดาแทบมองไม่ทัน เพียงพริบตา ก็หยุดตรงหน้าของเด็กสาว ทว่า ผู้วิเศษกลับไม่โจมตี เขากระโดดทแยงมุมไปอยู่ด้านหลัง แล้วสับต้นคอด้วยสันมือ
“ เสร็จข้าล่ะ สาวน้อย ”
ทันทีที่สันมือสัมผัสต้นคอ โกสดันหวดเข้าไปยังอากาศที่ว่างเปล่า ด้วยความที่ทุ่มสุดแรง จึงส่งผลให้เซถลาจนเกือบล้ม
“ เฮ้ย นังเด็กนั่นหายไปไหนฟะ ” โกสเหลียวซ้ายแลขวา เขารู้สึกตื่นตระหนก เพราะอยู่ดีๆ ร่างของเหมยลี่ก็หายไปราวกับกลายเป็นอากาศธาตุ ทันใดนั้นเอง เสียงใสๆของเด็กสาวก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง
“ หาชั้นอยู่เหรอ ”
โกสหันกลับมาดู จึงพบกับเหมยลี่ที่ยืนกอดอกอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าผ่อนคลาย แถมยังคล้ายจะยิ้มออกมานิดๆ
“ เหวอ….. ” โกสรีบกระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลัก ดวงตาเบิกโพลง เมื่อปรับอารมณ์ได้ เขาก็เอ่ยถามด้วยเสียงที่สั่นเทา
“ เธอทำได้ไง ”
การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเหนือมนุษย์ ส่งผลให้ชาวแก๊งผู้คึกคะนองถึงกับเงียบในบัดดล แม้แต่ฝั่งชาวบ้านก็ได้แต่อ้าปากค้าง ไม่มีใครคาดคิดว่า……เด็กสาวร่างสูงจะมีฝีมือการต่อสู้ที่สูงส่งขนาดนี้
“ ข้าถามว่า…..แกทำได้ยังไง ” โกสตะคอกใส่อย่างดุดัน
“ ก็หายตัวยังไงเล่า ” เหมยลี่ตอบกลับสั้นๆ
“ อ้อ…..อย่างนี้นี่เอง ใช้เวทมนตร์สิท่า เพราะในละแวกนี้ ไม่น่ามีใครเร็วไปกว่าข้า ” สีหน้าของโกสดูสบายใจขึ้น เพราะเขาค่อนข้างภูมิใจในความเร็วของตนเอง
เด็กสาวค่อยๆคลายมือที่กอดอก จากนั้นก็ปล่อยสองแขนลงข้างลำตัว นับว่าเป็นการตั้งท่าที่ดูชิวๆ ส่วนโกสตั้งกระบวนท่าแบบเต็มอัตราศึก เขาคิดว่าควรเอาจริงกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า
“ หึๆ คราวนี้ไม่พลาดแน่ เธอไม่ฟลุคถึงสองครั้งหรอกน่า ” โกสยิ้มเหี้ยมเกรียม ปากก็กล่าวคุกคาม ก่อนจะพุ่งเข้าไปซัดด้วยหมัดซ้าย ขวา
“ ย่า ย่า ย่า….. ” โกสตะโกนก้อง แต่เหมยลี่โยกร่างกายท่อนบนหลบหลีกเพียงเล็กน้อย ทำให้ทุกหมัดที่ปล่อยออกมา ล้วนจั่วลม
ยิ่งโกสโจมตีมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกถึงความห่างชั้นมากขึ้นเท่านั้น แต่เขายังมีไม้เด็ดซ่อนอยู่ จึงรวบรวมกำลัง เพื่อปลดปล่อยสิ่งนั้นในระยะประชิด
“ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ”
กรงเล็บนับสิบพุ่งเข้าใส่เหมยลี่ ส่งผลให้เด็กสาวต้องรีบยกสองแขนขึ้นมาปัดป้อง เสียงหมัดปะทะหมัดดังสะท้านกลางความเงียบ
“ ปึก ปึก ปึก…… ”
ฝ่ามือของพวกเขารัวใส่กันอย่างรวดเร็วราวกับปืนกล ไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้แก่กัน เวลาผ่านไปไม่นาน เหมยลี่ก็กุมความได้เปรียบ เธอสามารถกดดันจนทำให้โกสถอยหลังหนี
“ เฮ้ย…..นี่มันอะไรกัน เหวอ….. ” โกสเซเล็กน้อยจนเกือบล้ม แต่ในจังหวะสุดท้าย เขาก็พลันถีบตัวออกจากวงและกลับมาตั้งหลักได้สำเร็จ
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก….. ” โกสหอบจนตัวโยน เขาเหน็ดเหนื่อยจากการโหมโจมตีอย่างดุดัน ส่วนเด็กสาวร่างสูงยังนิ่งเฉย ไม่มีอาการเหนื่อยอ่อนออกมาให้เห็น
สีหน้าของโกสฉายแววเคร่งเครียด ตอนนี้เขารู้ชัดแล้วว่า…..ฝีมือของตนยังห่างไกลกับเด็กสาวอยู่พอสมควร ทันใดนั้นเอง คิ้วบางก็กระตุกเล็กน้อย เป็นนัยว่าได้คิด
“ เอ๊ะ เรายังมีทีเด็ดอยู่นี่นา ”
โกสเริ่มแสยะยิ้ม จากนั้นจึงย่างก้าวไปรอบกายของเด็กสาวที่กำลังยืนนิ่ง ท่าทางดูรัดกุมและไม่เร่งร้อนเหมือนเมื่อครู่
เหมยลี่ระวังตัวมากขึ้น เพราะในยามที่โกสกลับคืนสู่ความเยือกเย็น เขาจะน่ากลัวกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว และก็จริงตามคาด เนโครมันเซอร์หนุ่มยื่นฝ่ามือขวาไปยังจุดที่เด็กสาวยืน ก่อนร่ายคาถาเด็ด
“ ไบโอ ”
แสงสีเขียวอ่อนพุ่งใส่เหมยลี่ ด้วยระยะประชิด เลยทำให้เด็กสาวหลบได้แบบเฉียดฉิว แต่เนโครมันเซอร์หนุ่มไม่ยอมเสียโอกาส เขาพุ่งเข้าไปต่อยซ้าย ขวา สลับหมุนตัวศอกกลับ ทว่าแม่เสือสาวยังพริ้วหลบได้ทุกดอก จังหวะสุดท้าย ผู้วิเศษเล่นท่าโจมตีที่คาดไม่ถึงด้วยการก้มตัวลงไปเตะตัดขา อีกฝ่ายแก้ลำด้วยการกระโดดถอยหลัง
“ ปัดโธ่เว้ย น่าเสียดาย เกือบทำให้นังหนูคนสวยร่วงลงไปนอนได้แล้วแท้ๆ ” เหล่าลูกสมุนต่างพากันสบถ เพราะกระบวนท่าเด็ดของลูกพี่ใหญ่ทำได้แค่เกือบ
“ อืม…… ฝีมือดีขึ้นนี่ ใช้คาถาประยุกต์กับการโจมตีระยะประชิด ” เด็กสาวเอ่ยชม
“ หึๆ มันยังไม่จบแค่นี้หรอก สาวน้อย ” โกสแสยะยิ้ม ก่อนร่ายคาถาอีกครั้ง แสงสีเทาเปล่งประกายที่มือขวา
“ สต๊อป ”
แสงสีเทาพุ่งใส่เหมยลี่ แต่เธอก็ฉากหลบได้ง่ายๆ จังหวะนั้นเอง โกสพุ่งเข้ามาจับข้อมือของเด็กสาว
“ ทีนี้แกก็หลบไม่ได้แล้ว รับนี่ไป สต๊อป ”
แสงสีเทาปรากฏบนมือขวาอีกครั้ง แต่ก่อนจะยิงออกมา เหมยลี่ก็กระแทกศอกสั้นเข้าไปที่ใบหน้า
“ อั้ก ” โกสหน้าหงาย แต่เนโครมันเซอร์หนุ่มก็ข่มความเจ็บปวดและร่ายคาถาอีกครั้ง
“ สต๊อป ”
ไม่ทันที่โกสจะปล่อยคาถาเด็ด เด็กสาวร่างสูงก็แทงเข่าเข้าไปที่ท้องน้อยเต็มรัก ส่งผลให้ตัวงอเป็นกุ้ง ทว่ามันยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ วินาทีต่อมา เหมยลี่ก็กระทุ้งเข่าอัดท้องน้อยถี่รัวแบบไม่ยั้งมือ ทำให้เนโครมันเซอร์หนุ่มกระตุกกายแรง
“ อุ้ก อุ้ก อุ้ก….. ”
เมื่อโดนการโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็ว โกสก็หมดสิทธิ์ปล่อยคาถา เขาร่วงลงมานั่งชันเข่า สองมือกุมท้อง ท่าทางหมดสภาพ เนโครมันเซอร์หนุ่มหอบได้ไม่นาน ก็สำรอกอาหารออกมา
“ อ้วก....... ”
ดวงตาของเหมยลี่เรียบเฉยจนไร้ความรู้สึก อึดใจต่อมา เธอก็ชี้แนะชายหน้าซีด
“ จะต่อสู้ระยะประชิดกับใคร ขอให้ดูดีๆว่าฝีมือของเราพอสู้ได้มั้ย ถ้านายใช้วิธียิงคาถา แล้วดอดเข้ามาจู่โจม จากนั้นก็ถอยฉากออกไป แบบนั้นน่าจะเข้าท่ากว่า ”
“ หน็อย…. ” โกสกัดฟันกรอดใหญ่ เขาเคียดแค้นที่ไม่อาจทำอะไรเด็กสาวซึ่งอยู่ตรงหน้า
เหมยลี่ถอยหลังออกไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยถามเนโครมันเซอร์หนุ่ม
“ จะยอมแพ้ แล้วไปจากหมู่บ้านนี้มั้ย ”
กลุ่มคนร้ายต่างพากันเงียบกริบ ทั้งที่เมื่อครู่ เพิ่งส่งเสียงเชียร์ลูกพี่ใหญ่ ส่วนเหล่าชาวบ้านไม่ต้องพูดถึง ทุกคนล้วนแต่ยิ้มหน้าบาน พวกเขาดีใจเอามากๆ เพราะใกล้จะปลดเเอกจากแก๊งอันธพาลได้
“ ฮ่าๆ ข้าไม่มีวันยอมแพ้หรอก ” โกสทำท่าเหมือนจะมีไม้เด็ดอื่นซ่อนอยู่ ทั้งที่ความเป็นจริง หมดมุกที่จะต่อสู้แล้ว ฝีมือระหว่างเขากับเธอ มันห่างชั้นกันเกินไป
“ เฮ้อ……งั้นก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ” เหมยลี่ผายมือออก ท่าทางเบื่อหน่าย จากนั้นเธอก็หันมามองโกส แววตานิ่งเฉยดุจเดิม
“ เฮือก...... ” โกสผวา แต่แทนที่เด็กสาวจะพุ่งเข้าไปโจมตี เพื่อปิดฉากการต่อสู้ เธอกลับป่าวประกาศ ทำให้ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตก
“ ชั้นขอสละสิทธิ์การต่อสู้ในรอบที่สองให้กับ…..”
……………………….
มาวินสะลึมสะลือ อาการเหมือนอยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น หูได้ยินเสียงเรียก
“ มาวิน มาวิน มาวิน...... ”
“ อื้อ ใครกันนะ เสียงคุ้นๆแฮะ ” มาวินกะพริบตาถี่ เขาสะบัดศีรษะไปมา เพื่อขับไล่ความมึนงง อึดใจต่อมา ภาพเลือนรางตรงหน้าก็กระจ่างขึ้น ในที่สุด ก็เห็นใบหน้าเรียวยาวของบุคคลที่ขนานนาม
“ มาวิน ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว ” บุคคลผู้นั้นเริ่มเร่งเร้า กระแสเสียงคุ้นหูเอามากๆ ภาพใบหน้าเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รู้ว่าคนๆนี้ก็คือ……..เหมยลี่
“ เอ๋……เหมยลี่ ชั้นจำได้ว่าโดนไอ้หน้าซีดอัดซะยับ นี่ชั้นคงสลบไปใช่มั้ยเนี่ย ” มาวินพยุงกายลุกขึ้นนั่ง พร้อมเอ่ยถามเด็กสาว แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้างง
“ นายเป็นบ้าอะไร แล้วเหมยลี่คือใคร ชั้นชื่อจัน เป็นเพื่อนของนาย ”
“ เอ๊ะ อ้าว เอ๋ ” มาวินเริ่มสับสน เขาเหลียวมองไปรอบๆ จึงพบว่ากำลังนอนอยู่บนเสื่อสานสีเขียว มีสายลมพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่าง รอบห้องบุด้วยไม้แบบบ้านชนบท
“ ที่นี่คือ…….” สีหน้าของเด็กหนุ่มดูตื่นๆ
“ บ้านของแม่ชั้นที่ปทุมไงเล่า ” จันตอบกลับ สายตาจริงจังส่อแววเป็นห่วง
มาวินรู้สึกแคลงใจ ดวงตาเพ่งมองไปที่เด็กสาวอีกที จึงพบว่าร่างสูงเพรียวของเธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำที่ถกแขนเสื้อขึ้นมาจนเกือบถึงหัวไหล่ ท่อนล่างสวมกางเกงขาสามส่วน อันเป็นสไตค์การแต่งตัวตามปกติของจัน ทำให้แน่ใจว่า.....เขากำลังอยู่ในโลกแห่งความจริง
เด็กหนุ่มหัวเขียวเกิดความรู้สึกหลากหลาย มันดูสับสนปนเปไปหมด ทั้งที่ตอนนี้ เขาควรดีใจที่ได้กลับมา แต่ลึกๆ รู้สึกเสียดาย เพราะติดใจการผจญภัยที่โลก The Dark World
“ นายวิน นายวิน เฮ้ นายวิน ” จันร้องเรียกมาวินอยู่หลายครั้ง จนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง
“ เอ๊ะ มีอะไร ยัยโย่ง เฮ้ย ไม่ใช่ซิ จัน ” มาวินตอบตะกุกตะกัก
“ เมื่อกี้ชั้นพูดไปตั้งหลายคำ แต่นายกลับเอาแต่เหม่อ เป็นอะไร ท่าทางดูแปลกๆไปนะ ” เด็กสาวคาดคั้น
“ เอ่อ…ไม่มีอะไรหรอก ฮะๆ ” มาวินหัวเราะแห้งๆ
จันมองหน้ามาวินอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาคมเข้มเพ่งพินิจอย่างละเอียด ส่วนทางด้านเด็กหนุ่ม เขาได้แต่นั่งกระสับกระส่าย ภายในใจแอบขบคิด
“ ขืนเล่าเรื่องที่เจอมาให้ฟัง มีหวังต้องย้ายจากบ้านไปอยู่โรงพยาบาลเป็นแน่ ”
เมื่อเห็นว่าต่อให้คาดคั้นยังไง ก็ไม่ได้ความจริง เด็กสาวจึงคลายอิริยาบถ แล้วลุกขึ้นยืน เพื่อเดินจากไป แต่ก่อนสองเท้าจะก้าวพ้นธรณีประตู เธอก็ได้หันกลับมาบอกมาวิน
“ พ่อกับแม่เรียกนายไปกินข้าว ถ้าพร้อมแล้ว ก็ออกมา วันนี้มีน้าเดชมาร่วมวงด้วย ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ