The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) เสือสาวปะทะหมีดำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://pixabay.com
ขณะที่เจ้าอ้วนเตรียมออกแรงหักกระดูกคอ หางตาก็เหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่ง อึดใจต่อมา มาเฟียร่างสมบูรณ์ก็สัมผัสถึงฝ่าเท้าอันหนักหน่วงที่พุ่งปะทะใบหน้า
“ ตูม ”
บังเกิดเสียงดังสนั่น บ่งบอกถึงพลังทำลายที่รุนแรง ร่างหนักกว่า 120 กิโลกกรัมของเจ้าอ้วนกระเด็นไกล ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า
“ อู้ย..... ” เจ้าอ้วนยืนโงนเงน ประสาทรับรู้ถึงความเจ็บปวดและมึนงงอย่างชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้สึกเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมา เขาได้ชื่อว่าเป็นคนอึดเกินพิกัด
คนอื่นๆก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เพราะจู่ๆมีนักสู้ผู้กล้าปรากฏกายมาช่วยชีวิตมาวินเอาไว้ คนผู้นั้นก็คือเด็กสาวร่างสูงผู้มีใบหน้าคล้าย “จัน”
“ เฮ้ย นั่นมัน เด็กสาวที่ลูกพี่ตามหานี่นา ” ลิ่วล้อบางคนร้องอุทาน
“ เออ ใช่ หน้าดุไปนิด แต่ก็สวยใช้ได้เลยว่ะ ” ชาวแก๊งชีกอบางคนเริ่มออกอาการเคลิบเคลิ้ม เมื่อเห็นรูปโฉมของเด็กสาวร่างสูง
“ ฉุดเลยมั้ย ลูกพี่ ” สมาชิกโจรบางคนที่ดูห่ามๆร้องถามเสียงกระเส่า แต่ก็มีสมุนบางคนหันมาสะกิด พร้อมร้องเตือนด้วยความหวังดี
“ อย่าห้าวเป้งนักเลย ไอ้น้อง เอ็งกล้าฉุดนังหนูคนนี้จริงหรือ ไม่เห็นเหรอไง ยัยเด็กนั่นสามารถกระโดดเตะลูกพี่รองให้กระเด็นในเท้าเดียว ”
“ เออ ว่ะ น่ากลัว งั้นเปลี่ยนใจแหละ ไม่เอาดีกว่า ” ลิ่วล้อชีกอเริ่มเห็นด้วย เด็กสาวผู้อยู่เบื้องหน้านับเป็นบุคคลที่ไม่ควรตอแยเป็นอย่างยิ่ง
กาสเซ่รู้สึกตกใจพอสมควร ที่จู่ๆบุคคลที่หมายหัวปรากฏตัวตรงหน้า เขารับรู้ถึงความน่ากลัวของเด็กสาวได้เป็นอย่างดี จึงต้องคิดให้หนัก ถ้าจะลงมือจู่โจม
เจ้าอ้วนเริ่มฟื้นตัว เขาสะบัดศีรษะแรงๆอยู่หลายที เพื่อขับไล่อาการมึนงง ก่อนจะคำรามดัง ดวงตาแดงก่ำด้วยอารมณ์โกรธ
“ แกบังอาจเตะอ้วนเลยหรือ รู้มั้ยว่า.......มันเจ็บ ”
เด็กสาวร่างสูงไม่ตอบคำ เธอเดินไปหามาวินที่นอนสลบไสล ดวงตาคมเข้มจับไปยังร่างผอมบางที่ยับเยินอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองสมุนร่างอ้วนแบบตรงๆ
“ เฮื้อก..... ” ทันทีที่สบตา เจ้าอ้วนดูจะผวานิดหนึ่ง เพราะประกายตาที่เปล่งออกมา ฉายรังสีฆ่าฟันอย่างชัดเจน ส่วนลิ่วล้อที่เหลือ ไม่กล้ามองหน้า พวกนั้นล้วนแต่หดหัวไปตั้งเเต่เห็นการเตะที่รุนแรงของเด็กสาวแล้ว
อึดใจต่อมา เด็กสาวก็ตั้งกระบวนท่าต่อสู้ที่ดูรัดกุมและทรงพลัง กรงเล็บจากมือขวาถูกยื่นออกไปข้างหน้า ส่วนหมัดซ้ายถูกง้างมาที่ด้านหลัง ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกันจนได้สมดุล
“ กระบวนท่าเสือดาว ” พอเห็นกระบวนท่าที่เด็กสาวใช้ กาสเซ่ก็ดูออกในทันที ทำให้รู้ว่าเขาน่าจะเป็นผู้ชำนาญยุทธ์คนหนึ่ง
“ ฮึ่ม..... หน็อยแน่ นังหนูคนนี้ ” เจ้าอ้วน เปรุสซี่สบถดัง พร้อมพุ่งเข้าใส่โดยพลัน
เด็กสาวไม่เกรงกลัว เธอพุ่งสวนในทันที จังหวะที่ปะทะกัน กังฟูสาวได้กระแทกหมัดคู่เข้าไปที่แผงอกอวบๆของอีกฝ่าย ทำให้ร่างอุดมไขมันเซไปข้างหลังเล็กน้อย
“ อุ้ก..... ” เจ้าอ้วนร้องโอย แต่อาการบาดเจ็บไม่หนักเกินกว่าจุกเสียด
เด็กสาวร่างสูงนึกฉงน เพราะกระบวนท่า “หมัดคู่เสือดาว” ที่ใช้เมื่อครู่ เคยล้มศัตรูมามากมาย ทว่าคราวนี้ กลับทำได้เพียงผลักคู่ต่อสู้ให้เสียหลักเล็กน้อย แต่คิดได้ไม่นาน ฝ่ามืออวบใหญ่ของเจ้าอ้วนก็ลอยตรงมาที่ใบหน้า
“ เฮ้ย ” เด็กสาวร่างสูงร้องอุทานด้วยความตกใจ ก่อนก้มหลบได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นก็ถอยฉากออกมาตั้งหลัก เหงื่อในกายเริ่มหลั่งไหล แม้สีหน้าจะยังเยือกเย็นอยู่ก็ตาม
“ เจ้าอ้วนคนนี้ ท่าจะหินกว่าที่คิดไว้ซะแล้ว ”
เจ้าอ้วนหวดฝ่ามือมารใส่อีกหลายชุด ถึงกระนั้นเด็กสาวร่างสูงก็อ่านทิศทางการจู่โจมได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เธอจึงพลิ้วหลบได้ทุกดอก ระหว่างนั้นเอง หัวสมองก็คิดไตร่ตรอง เพื่อหาทางชิงชัย
“ ดีล่ะ ใช้วิธีนี้ดีกว่า ” ทันทีที่เด็กสาวร่างสูงคิดได้ เธอก็ถอยฉากออกไปหลายก้าว ด้วยความเร็วที่ต่างกันมาก เลยทำให้เจ้าอ้วนไล่ตามไม่ทัน
“ เฮ้ย นังหนู อย่าเอาแต่หนีสิฟะ มาสู้กันซึ่งๆหน้าดิ ” เจ้าอ้วนเริ่มโวยวาย เพราะ 20 กว่าฝ่ามือที่ฟาดลงไป ล้วนแต่จั่วลม หาได้ต้องกายของเด็กสาวแม้เพียงขุมขน
เด็กสาวร่างสูงนิ่งเงียบ แต่ถ้าสังเกตให้ดี ก็จะเห็นรอยยิ้มอยู่จางๆ เวลาต่อมาเธอก็ก้มตัวลงต่ำจนแทบจะคุกเข่า มือซ้ายยื่นไปข้างหน้า ส่วนมือขวากำแน่นและรั้งไว้ด้านหลัง
“ อ้าว..... ยอมแพ้แล้วหรือ ” เจ้าอ้วน งง กับท่าทางที่เปลี่ยนไปของเด็กสาว
ใบหน้าของเด็กสาวร่างสูงดูนิ่งเฉย แววตาจับจ้องมาที่คู่ต่อสู้ไม่วางวาย ปากเริ่มขยับช้าๆ พร้อมเสียงเรียบๆที่ถูกเปล่งออกมา
“ เข้ามาเลย เจ้าหมูตอน ”
“ หน็อย...... ว่าข้าเป็นหมูอีกแล้ว โกรธแล้วนะโว้ย ” เจ้าอ้วนเกิดอาการฉุนขาด เขาพุ่งทะยานเข้าใส่เด็กสาวอย่างดุดัน
เด็กสาวร่างสูงยิ้มนิดๆ ก่อนประกาศชื่อกระบวนท่าที่ใช้พิชิตชัย
“ สามพิฆาตสุดยอด ”
สิ้นเสียงของเด็กสาว เธอก็พุ่งเข้าใส่เจ้าอ้วนอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนูที่แล่นออกจากคันศร พริบตาที่ทั้งสองปะทะกัน ก็บังเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
“ เปรี้ยง....... ”
เกิดเหตุที่สุดแสนจะเหลือเชื่อ เพราะฝ่ายที่กระเด็นกลับกลายเป็นเจ้าอ้วนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ สมุนจอมเอ๋อลอยไกลหลายเมตร ก่อนร่วงล้มลงไปนอนกับพื้นอย่างว่าง่ายและแน่นิ่งจนไม่รู้แน่ชัดว่ายังอยู่หรือตาย
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก....... ” เด็กสาวร่างสูงหอบหนักจนตัวโยน มือและศอกขวาดูจะช้ำเล็กน้อย กระบวนท่าเมื่อครู่รุนแรงจนส่งผลเสียต่อร่างกาย
“ เหวอ...... ขนาดลูกพี่อ้วนยังเสร็จ ” ลิ่วล้อนับสิบเริ่มหวาดผวาไปตามๆกัน เพราะขนาดเจ้าอ้วนที่ทนทรหดจนเกือบจะเรียกได้ว่าเหนือมนุษย์ ยังร่วงล้มด้วยน้ำมือของเด็กสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
“ เฮ้ย อย่ามัวแต่กลัว คอยตั้งรับให้ดีๆ นังเด็กนั่น มันก็แค่คนธรรมดาเท่านั้นเอง พวกเราชนะได้แน่ ” กาสเซ่ปลุกใจ เมื่อเห็นเหล่าลูกน้องเริ่มเสียขวัญ
เหล่าสมุนตั้งไม้พลองขึ้นเตรียมรับศึกที่น่าจะเกินตัวแบบไม่เต็มใจ มือไม้ล้วนสั่นเทา บางคนกลัวจัดจนถึงขั้นเยี่ยวรดกางเกง ไม่มีใครพร้อมสู้เลยซักคน
เด็กสาวร่างสูงเห็นอาการของคู่ต่อสู้ เธอไม่อยากเสียเวลากับลิ่วล้อพวกนี้ จึงแกล้งตะโกนข่มขวัญ
“ ว้าก........ ”
เสียงห้าวแหลมดังกังวาน กระแสพุ่งไกลกว่าเสียงที่สมุนร่างอ้วนเคยกู่อยู่หลายเท่า อันบ่งบอกถึงระดับวรยุทธ์ที่ดีเยี่ยม
“ เหวอ........ ไม่เอาแล้ว กลัวเหลือเกิน ” สมุนเกือบทั้งหมดแตกตื่น พร้อมเผ่นหนีไปคนละทิศคนละทางราวกับผึ้งแตกรัง เหลือโจรที่ไม่พร้อมสู้เพียงคนเดียว เขากำลังนั่งคุกเข่า เยี่ยวแตกรดกางเกง แถมน้ำลายฟูมปากอีกต่างหาก
เด็กสาวร่างสูงมองสมุนผู้นั้นแวบหนึ่ง ก่อนประเมินว่าไร้พิษสง เธอหันมาประจันหน้ากับกาสเซ่ ทว่าดวงตาของมาเฟียร่างยักษ์ไม่ได้ฉายแววหวาดกลัวออกมาซักนิด
“ นังหนู กระบวนท่าที่ล้มเจ้าอ้วนเป็นของสำนักไหน ” กาสเซ่ร้องถามเรียบๆ แต่ภายในใจน่าจะร้อนรน เขาไม่รู้เลยจริงๆว่ากระบวนท่านี้เป็นของสำนักมวยไหน ทั้งที่ตัวเองก็รอบรู้ในด้านวิทยายุทธ์อยู่ไม่น้อย
เด็กสาวไม่ตอบคำถาม อึดใจต่อมาเธอก็กล่าวช้าๆ แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจะเรียบเฉย แต่กระแสกลับแฝงแววคุกคามที่ชวนขนลุก
“ แต่เดิม ตั้งใจจะเลี่ยง ไม่ปะทะกับใคร แต่ในเมื่อพวกแกทำเละซะขนาดนี้ ชั้นก็จะอัดพวกแกให้ปางตาย ”
“ หึๆ แบบนี้ก็สวยเซ่ อยากรู้เหมือนกันว่าแกมีดีอะไร ” กาสเซ่หาญกล้าสมกับเป็นหัวหน้าโจร เขากระชากเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ให้ขาดในทีเดียว เผยให้เห็นช่วงบนที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม เมื่อนำมาประกอบกับผิวที่ดำปานหมึก ยิ่งทำให้ดูน่าเกรงขามราวกับนักรบยักษ์ในเกราะเหล็ก
ทั้งคู่ตั้งท่าต่อสู้ ทันใดนั้นเอง ผิวกายของกาสเซ่ก็เริ่มคล้ำลง ทำให้เด็กสาวร่างสูงอุทานดัง เพราะดูออกว่าอีกฝ่ายใช้วิชาอะไร
“ ร่างเหล็กนี่ ”
“ รู้จักวิชาร่างเหล็กด้วย นับว่ารอบรู้ไม่เบา ” กาสเซ่กล่าวชม เด็กสาวไม่ตอบ ทว่าสีหน้ากลับดูเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
กาสเซ่ยิ้มนิดๆ พลางข่มขวัญเสียงกร้าว
“ ในเมื่อรู้จักวิชาร่างเหล็กแล้ว ก็คงรู้สินะว่าวิชานี้ทำให้ร่างกายของผู้ใช้แข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้า ฝ่ามือหรือเพลงหมัดใดๆไม่อาจระคายเคือง ”
“ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ฝ่ามือหรือเพลงหมัดนั้นๆจะมีฝีมือระดับไหน ” เด็กสาวตอบสั้นๆอย่างมีนัยยะ ก่อนขยับเข้าหากาสเซ่หนึ่งก้าว
“ ดี งั้นมาลองดูกัน ว่าแกแน่แค่ไหน นังหนู ” กาสเซ่กางแขนทั้งสองข้างออก ส่วนสองขาถ่างกว้าง เมื่อนำมาประกอบกับร่างใหญ่โต ทำให้ดูไม่ต่างจากหมีดำขนาดยักษ์
“ กระบวนท่าหมีดำ วรยุทธ์สายกำลังระดับกลาง ” นี่คือคำตอบในใจของเด็กสาวร่างสูง หลังประเมินกระบวนท่าที่กาสเซ่ใช้
ทั้งคู่จ้องตากันอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เป็นฝ่ายกาสเซ่ที่ร้องคำราม
“ รับมือ ”
สิ้นเสียงตะโกน ฝ่ามือทั้งซ้ายขวาก็ฟาดเข้ามาอย่างดุดัน อันดูไม่ต่างจากการตบของหมีป่า แต่หาได้ถูกกายของเด็กสาวร่างสูง เพราะเธอมีทั้งความพริ้วและมันสมองในการอ่านจังหวะ แต่หลบได้ไม่นาน ก็ถูกกาสเซ่ขัดขาด้วยกระบวนท่าเตะต่ำ ทำให้เสียจังหวะไปนิดหนึ่ง
“ เสร็จล่ะ ” กาสเซ่เห็นได้ที จึงกระแทกฝ่ามือคู่ใส่กลางลำตัว แต่เด็กสาวร่างสูงก็แก้ไขด้วยการยกสองเท้าขึ้นยัน
" ตูม "
พลังฝ่ามือคู่ทำให้ร่างสูงเพรียวของเด็กสาวลอยละลิ่ว ถึงกระนั้นเธอก็ยังตีลังกากลับหลังลงมาหยุดยืนอย่างนิ่มนวล
“ ยอดเยี่ยม ทั้งท่าร่าง ทั้งความเร็วและกระบวนท่า ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ ท่าทางแกคงได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ” กาสเซ่กล่าวชม แต่เด็กสาวร่างสูงไม่ตอบอันใด เธอได้แต่ยืนนิ่งเงียบ แววตาจับจ้องมาเฟียร่างยักษ์ประดุจดังพยัคฆ์คุมเหยื่อ
ทันใดนั้นเอง กาสเซ่ก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเลิกตั้งกระบวนท่าต่อสู้และพยายามยิ้มให้ดูเป็นมิตรมากที่สุด (แต่ก็ดูน่ากลัวอยู่ดี) เพื่อเกลี้ยกล่อมเด็กสาวยอดกังฟู
“ เอางี้ นังหนู เห็นแก่ฝีไม้ลายมือของแก มาร่วมแก๊งกันมั้ย ชั้นจะตั้งให้เป็นรองหัวหน้าเลย พวกเราจะร่วมกันคุมเมืองแห่งการเริ่มต้น จะมีคนนับหน้าถือตามากมาย ได้เสพสุขไม่เลิกรา ”
เด็กสาวยังคงนิ่งเงียบ เรือนร่างสูงเพรียวค้างอยู่ในกระบวนท่าต่อสู้ดุจเดิม ดวงตาที่จับมายังกาสเซ่ดูแน่วนิ่ง ครู่หนึ่งเธอก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ ไม่เอา ชั้นไม่อยากเป็นโจร ”
“ เฮ้ย นังหนูคนนี้นี่ เอ๊ะ ไม่สิ อันที่จริงแกไม่ต้องมาเป็นโจรก็ได้ เพียงแค่คอยช่วยเหลือในเวลาที่แก๊งของเราประสบเหตุร้าย เท่านั้นก็พอ ” ทันทีที่ถูกปฏิเสธ กาสเซ่ก็โมโหอย่างรุนแรง แต่เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์ เพื่อเกลี้ยกล่อมต่อไป
เด็กสาวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับหน้าตาย
“ ไม่เอา ไม่ต้องการ ชั้นแค่อยากกระทืบแก ”
หน้าดำของกาสเซ่แปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในทันที ดูเหมือนว่าการเจรจาครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะจิตเจตนาของเด็กสาวแน่วแน่มาก เธอต้องการเพียงสิ่งเดียวนั่นก็คือ.....กระทืบหัวหน้าโจรให้จมธรณี มันทำให้มาเฟียร่างยักษ์เกิดอาการฉุนขาด ทางเดียวที่จะขจัดความขัดแย้งได้ก็คือ……
“ ตายกันไปข้าง ”
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ คู่กรณีก็กลับคืนสู่โหมดประจัญบาน กาสเซ่ตั้งกระบวนท่าหมีดำ ส่วนเด็กสาวหันไปใช้กระบวนท่าแมวป่า
" เฮ้ย ทำไมมันถึงใช้ท่าพื้นฐานอย่างกระบวนท่าแมวป่าล่ะ ” กาสเซ่นึกสงสัย
ทั้งสองรอจังหวะอยู่ครู่ใหญ่ เพราะยอดฝีมือระดับสูง มักมีการโจมตีที่รุนแรง เรียกได้ว่าโดนเข้าไปหมัดเดียว อาจถึงแก่ชีวิตได้เลย ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมเสียท่าแบบโง่ๆ
หลังนิ่งรออยู่พักใหญ่ กาสเซ่ก็หมดความอดทนก่อน เขาพุ่งเข้าใส่เด็กสาวร่างสูง โดยหวังจะใช้ร่างเหล็กกระแทกให้กระเด็น ทว่าก็ได้แต่จั่วลม ด้วยอีกฝ่ายฉากหลบออกข้าง
“ ดีล่ะ ” เด็กสาวร่างสูงเห็นกาสเซ่ถลำ เธอจึงศอกกลับเข้าไปที่ท้ายทอย ในจังหวะที่ศอกแหลมคมกำลังจะเข้าเป้า ฝ่าเท้าขนาดใหญ่ของอีกฝ่ายก็พุ่งตรงมาที่ยอดอก
“ อุ้บ ” ด้วยปฏิกิริยาที่ว่องไวของเด็กสาว เธอจึงยกแขนขวาขึ้นป้องกัน แรงถีบมหาศาลส่งให้ร่างสูงเพรียวเซถลาไปข้างหลัง พร้อมอาการชาตรงบริเวณที่ถูกปะทะ
“ อืม..... ฝีมือของหมอนี่ร้ายกาจมาก ผิดกับพวกลูกน้องลิบลับ สมกับเป็นหัวหน้าโจรจริงๆ ” เด็กสาวคิดในใจ เธอระวังตัวมากขึ้น
“ ฮ่าๆ ปฏิกิริยาไวมาก เจอท่านกนางนวลหวนกลับรังเข้าไป ยังป้องกันไว้ได้อีก ” กาสเซ่หัวเราะก้องป่า เขารู้สึกถูกใจไม่ใช่น้อย เพราะนานๆที จะได้พบกับคู่ต่อสู้ที่กล้าแข็งขนาดนี้
“ นี่มันใช้ได้แม้กระทั่งกระบวนท่าสายพลิกแพลงอย่างนกนางนวลหวนกลับรังเลยหรือนี่ ” เด็กสาวนึกประหวั่นพรั่นพรึง
“ เอาล่ะ มาสู้กันต่อ ย่า..... ” กาสเซ่เห็นได้เปรียบ จึงตรงเข้าจู่โจมอีกระลอกใหญ่ เขาเตะต่ำอีกสี่ตลบ แต่เด็กสาวก็ไวพอจะยกเท้าหลบ พริบตานั้นเอง เท้าอันหนักหน่วงของมาเฟียร่างยักษ์ก็ยกสูงไปที่ใบหน้า
การเปลี่ยนจากเตะต่ำมาเป็นเตะสูง ทำให้คู่ต่อสู้ส่วนใหญ่รับมือไม่ทัน ถึงเด็กสาวร่างสูงจะมีปฏิกิริยาที่ว่องไว ก็ไม่อาจหลบพ้นอย่างสมบูรณ์ เลยทำให้ปลายเท้าถากเเก้มไปเล็กน้อย
เด็กสาวถอยฉากออกมาสามก้าว เลือดสดตรงบริเวณแก้มไหลย้อยจนหล่นลงไปบนพื้น บ่งบอกถึงความเฉียบคมของเพลงเท้า
“ ฮึ่ม.... หลบได้อีกแล้วนะ แม้กระทั่งพยุหะบาทาปีศาจก็ยังใช้ไม่ได้ผล ” กาสเซ่รู้สึกหัวเสีย เพราะท่าเด็ดกินแห้วไปอีกคำรบ ถึงกระนั้น เขาก็นึกชื่นชมฝีมือของเด็กสาว
เด็กสาวร่างสูงไม่ปล่อยให้มาเฟียร่างยักษ์โจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เธอจึงพุ่งไปซ้ายทีขวาทีอย่างรวดเร็ว พอเข้าประชิดตัว ก็ต่อยขวาเข้าไปสามหมัดติดๆ เป้าหมายคือใบหน้า ลำคอและหน้าอก ทว่ากาสเซ่ก็ยกแขนขึ้นปัดป้องได้หมด พร้อมสวนกลับด้วยหมัดซ้าย แต่เสือสาวก็โยกหลบอย่างง่ายดาย
ทั้งคู่ประมือกันอยู่หลายกระบวนท่า พวกเขาเท่าทันกันทุกฝีก้าว กาสเซ่ได้เปรียบตรงที่มีพละกำลังมากกว่า แถมยังมีร่างเหล็กที่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด ส่วนเด็กสาวร่างสูงเหนือกว่าตรงความสามารถในการอ่านจังหวะ ทั้งมีความไวในการหลบหลีก นับเป็นการดวลระหว่างวรยุทธ์สายพลังและวรยุทธ์สายความเร็วอย่างแท้จริง
ทั้งคู่ประมือกันหลายสิบกระบวนท่า โดยผลัดกันรุกรับ ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำให้แก่กัน เพราะต่างมีฝีมือที่ทัดเทียม หลังจากสู้อยู่เกือบชั่วโมง เด็กสาวร่างสูงเริ่มถอยฉากบ่อยขึ้น กาสเซ่จึงหัวเราะร่า พร้อมกล่าววิเคราะห์
“ ฮ่าๆ รู้เลยว่าแกถอยออกไปทำไม จริงอยู่ที่ฝีมือและเหลี่ยมมวยอาจใกล้เคียงกัน แต่เรื่องความอึด ดูเหมือนว่าข้าจะกินขาด ”
“ หึ...... สมกับเป็นผู้ชำนาญยุทธ์เลย เพียงประมือไม่นาน ก็สามารถมองออกจนทะลุปรุโปร่ง ” เด็กสาวคิดในใจ ซึ่งก็ตรงตามที่กาสเซ่คาดไว้ เธอใกล้จะหมดแรงแล้ว
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ