The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
170) สู้กันแบบแฟร์ๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpapercave.com
แม้ถูกชมซึ่งหน้า ทว่าเทพศาสตราไม่ยินดีเลยซักนิด เพราะเมื่อครู่ เขาฟาดไม้ไปสุดแรง แต่มารร้ายกลับเซถอยหลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงเริ่มขบคิดตามประสานักสู้เจนศึก เพื่อหาทางแก้ไข
“ นอกจากมารร้ายตนนี้จะมีพลังเวทที่ร้ายกาจ ยังมีพลังกายและความเร็วที่ยอดเยี่ยม เราจะเอาชนะมันด้วยวิธีใด ” ระหว่างที่เทพศาสตราคิดหาแผนการ จิตส่วนหนึ่งก็สำรวม เพื่ออำพรางไม่ให้มารร้ายล้วงลึกถึงจิตใจ
มารร้ายยืนมองหน้านิ่งๆ ดูเหมือนว่ามันจะรู้ตัวว่าเทพศาสตราหันมาสำรวมจิต เพื่อซ่อนความคิดของตนเอง จึงลองกล่าวหยั่งเชิง
“ เก็บงำประกายเอาไว้ซะลึกเชียวนะ เจ้ามนุษย์เฒ่า คิดแผนอะไรอยู่เหรอ ”
ทว่าปากของเทพศาสตรากลับเงียบสนิท ชวนให้มารร้ายรู้สึกอึดอัดจนเหงื่อตก เพราะมันเป็นนักสู้ที่ชำนาญการอ่านใจของอีกฝ่าย ก่อนวางแผนมาดักทาง แต่พอสิ้นไม้เด็ดไป การสัประยุทธ์ก็ยากยิ่งขึ้น ถึงกระนั้น อมนุษย์ยังมีทางเลือก
“ หึ หึ หึ จะว่าไป ต่อให้มีแผนเลิศล้ำเพียงใด ก็ไม่อาจต้านทานมนตร์ดำ ขอแค่ข้ายิงเวทใส่เรื่อยๆ ไม่เข้าไปปะทะตรงๆ ก็ชนะได้ง่ายๆ เพราะเจ้าเป็นเพียงผู้ใช้อาวุธที่มีระยะจู่โจมเพียงไม่กี่เมตร ”
สิ่งที่มารร้ายวิเคราะห์ไม่ผิดไปจากความจริง ถ้ามันใช้วิธีนี้ รับประกันว่าผู้อาวุโสต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ดังนั้น เทพศาสตราจึงวางเดิมพันชิ้นสุดท้ายด้วยการท้าทาย
“ ที่พูดมาไม่ผิดหรอก แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยวิธียิงเวทใส่ จะรู้สึกภาคภูมิใจได้ยังไง ตัวเจ้าเองก็นับว่าเป็นมารร้ายที่มีชื่อ ใครได้ยินเรื่องนี้เข้า จะไม่เสื่อมเกียรติสิ้นลายหรือ ”
มารร้ายชะงักงันไปอึดใจ ดูเหมือนมันจะลังเลไม่ใช่น้อย และนั่นก็เป็นช่องให้เทพศาสตราโจมตีด้วยวาจา
“ แต่ถ้าเจ้าเอาชนะด้วยการต่อสู้ระยะประชิดที่ข้าชำนาญ เกียรติยศก็จะเป็นของเจ้า เพราะได้ชื่อว่ากำราบยอดยุทธ์ของโลกมนุษย์ทางด้านเพลงอาวุธ ”
มารร้ายดูครุ่นคิดมากขึ้น มันยืนกอดอก และเอียงคอไปมา ไม่นาน อมนุษย์ก็ให้คำตอบ พร้อมตั้งกระบวนท่าต่อสู้
“ ตกลง ข้าเล่นกับเจ้าซักยกก็ได้ เพราะข้าเองก็ชื่นชอบการต่อสู้ระยะประชิดเหมือนกัน ”
“ หึ หึ หึ มีโอกาสชนะบ้างแล้ว ” เทพศาสตรายิ้มเล็กน้อย ภายในนึกลิงโลดที่สามารถเจรจาจนอริร้ายยอมลงมาเล่นในเวทีที่เขาถนัด
มารร้ายย่อตัวลงต่ำ พร้อมยกการ์ดสูง สองเท้าขยับออกจากกัน พอเทพศาสตราเห็นท่วงท่าดังกล่าว เขาก็รู้ทันทีว่าศัตรูรายนี้มีชั้นเชิงในการต่อสู้มือเปล่าที่สูงส่ง จึงยกไม้ท่อนยาวขึ้นมาตั้งระดับศีรษะ เพื่อรับมือการจู่โจม
“ อืม….ดูเชิงข้าก่อนเหรอ ใจเย็นสมกับเป็นยอดยุทธ์ของโลกมนุษย์ ” มารร้ายประเมินสถานการณ์ ก่อนพุ่งเข้าไปทางขวาด้วยความเร็วสูง เพื่อต่อยใบหน้า แต่เทพศาสตราโต้กลับด้วยการยกไม้ท่อนยาวขึ้นปัด ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่น ราวลูกระเบิด
“ เปรี้ยง…”
“ อึก ” มารร้ายถอยหลังเล็กน้อย ก่อนจะตามมาปล่อยหมัดซ้ายขวาใส่อีกหลายชุด ทว่าเทพศาสตราก็ยกไม้ท่อนยาวขึ้นปัดทุกครั้งไป ทำให้อมนุษย์รู้สึกหนักใจ
“ ทำไมเจ้าแก่คนนี้ป้องกันได้ทุกหมัด มนุษย์ธรรมดาจับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไง ”
การเคลื่อนไหวของอมนุษย์นั้นรวดเร็วเกินกว่าสายตาของคนธรรมดาจะมองทัน มิหนำซ้ำยังหนักหน่วงไม่ต่างจากจรวดต่อสู้รถถัง ดังนั้นจึงบังเกิดเสียงปะทะที่รุนแรงถึงหลายสิบครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พอมารร้ายเริ่มตัน เขาก็หันไปใช้เพลงเท้า
“ รับนี่ไป ย่ะ ย่ะ ย่ะ ”
ลูกถีบนับร้อยวิ่งเข้าใส่เทพศาสตรา แต่ก็พลาดเกือบหมด เพราะเทพศาสตราสามารถยกไม้ดาบยาวขึ้นปัดป้องสลับหลบเลี่ยง มีเพียงไม่กี่บาทาที่ต้องกาย แต่ก็ทำได้แค่ถากเสื้อจนเนื้อผ้าขาดไปบางส่วน และเมื่อทุกกระบวนท่าไม่ได้ผล มารร้ายก็เล่นแผนสูงด้วยการก้มลงเตะตัดขา
“ ฟุบ……” บังเกิดเสียงแหวกอากาศที่หนักหน่วง เสมือนมีลมพายุสลาตันพุ่งเข้าใส่ แต่เทพศาสตราก็แก้ลำด้วยการกระโดดหลบ ทำให้พ้นเพลงเท้าได้อย่างหวุดหวิด ทว่ามารร้ายก็คาดคิดเอาไว้แล้ว
“ เสร็จแน่ เพราะแกลอยตัวอยู่กลางอากาศ จึงหลบไม่ถนัด ”
ในเสี้ยววินาทีที่เท้าของเทพศาสตราไม่ติดพื้น มารร้ายก็รวบรวมออร่ามารทั้งหมดไว้ที่มือขวา จากนั้นก็ปล่อยหมัดตรงสุดกำลัง
“ ตาย…..”
“ ตูม…….” หมัดขวาของมารร้ายถูกเป้าเข้าอย่างจัง เกิดประกายแสงแลบออกมาแวบนึง พร้อมเสียงระเบิดกัมปนาทที่ดังกว่าครั้งไหนๆ พื้นดินสะเทือนจนเหมือนจะยุบตัวลง จากนั้นก็มีร่างสูงเพรียวลอยละลิ่วไปยังหมู่แมกไม้ที่ยืนตระหง่านนับร้อยต้น
“ โครม……”
อากิเนะถึงกับเอียงหน้าหลบ เพราะรู้ชัดว่าร่างที่ลอยไกลน่าจะเป็นท่านปู่ของตน และเมื่อควันจางลง ก็พบว่าสิ่งที่คาดนั้นเป็นจริง ด้วยบุคคลเดียวที่ยืนอยู่กลางลานก็คือมารร้ายผมขาว
“ แก…..แกฆ่าท่านปู่ ” เด็กสาวกัดฟันกรอดใหญ่ ดวงตากลมโตฉายแววโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง แต่พอมารร้ายหันมา เธอก็เปลี่ยนความรู้สึกเป็นสงสัย เพราะใบหน้าของมันอุดมไปด้วยความตึงเครียด ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ของผู้ชนะ
“ ทำไมเจ้ามารร้ายถึงทำหน้าแบบนั้น มันชนะท่านปู่แล้วไม่ใช่เหรอ ”
แต่พอสิ้นความคิดของอากิเนะ มารร้ายก็หันกลับมาตอบทันควัน เพราะเด็กสาวยังไม่ได้ใช้คาถาปิดบังมโนทวารเหมือนที่ผ่านมา
“ สาเหตุที่ข้าไม่ดีใจ เพราะเจ้าแก่นั่นดันยกท่อนไม้ขึ้นมากันหมัดเด็ดไว้ได้ อีกซักเดี๋ยว มันคงออกมาสู้อีก ”
อากิเนะรู้สึกดีใจที่รู้ว่าท่านปู่ยังไม่ตาย แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจเต็มร้อย เพราะข้อมูลนี้มาจากปากของมารร้ายจอมเจ้าเล่ห์ ทว่าในวินาทีถัดมา เด็กสาวก็พบว่าน้ำคำนี้คือความจริง ด้วยมีใครบางคนเดินออกมาจากป่าไผ่ เขาคนนั้นคือ….เทพศาสตรา ผู้ยิ่งยง
“ ท่านปู่ปลอดภัยดีหรือคะ ดีจังเลย ” อากิเนะร้องถามสุดเสียง ใบหน้าสวยใสยิ้มกว้างจนสุดหล้า ส่วนเทพศาสตราก็พยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงรับคำ ดวงตาจับจ้องมารผมขาว ผู้เป็นอริร้ายอยู่ตลอด
“ หึ หึ หึ ก็ยังรอดมาได้อีกเนอะ หนังเหนียวไม่ใช่เล่นนี่ ตาแก่ ” มารร้ายยิ้มเหยียดๆ ก่อนกล่าวถากถางด้วยคำเจ็บๆ แต่เทพศาสตรากลับโต้ตอบด้วยการตั้งกระบวนท่ารัดกุม พร้อมประกาศเสียงเข้ม
“ ข้าจับทิศทางการจู่โจมของเจ้าออกหมดแล้ว ต่อไปเป็นทีข้าบุกบ้าง ”
มารร้ายแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เพราะเท่าที่สู้ศึกมานับพันปี ไม่เคยพบใครที่จะจับจังหวะของคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมดด้วยการประมือเพียงไม่กี่กระบวน จึงแยกเขี้ยวใส่อย่างดุดัน เป็นการตอบแทน
“ อย่ามาโกหกกันดีกว่า เจ้าจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง มันดูเกินมนุษย์ไปหน่อย ”
“ ถ้าไม่เชื่อ ก็เข้ามาสิ ” เทพศาสตรากวักมือเรียก ดวงตาคมดูแน่วนิ่ง ส่วนมารร้ายก็เริ่มตัวสั่นเทาด้วยความโกรธเคือง ดวงตาแดงจัดเปล่งประกายสังหารออกมาไม่หยุดหย่อน ก่อนจะตะโกนใส่จนสุดหลอด
“ ฮึ่ม…..มันจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว ไอ้มนุษย์ จงตายไปซะ ”
พอสิ้นคำ อมนุษย์ก็พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงอีกครั้ง เพียงพริบตา มันก็ปรากฏตัวตรงหน้า พร้อมหมัดขวาที่ยิงตรงเข้ามา หวังต่อยศีรษะให้แหลกในทีเดียว แต่ก่อนกำปั้นจะถึงเป้าหมาย มารผมขาวก็เลือนหาย จากนั้นก็โผล่มาที่ด้านหลังของเทพศาสตรา
“ เสร็จข้าล่ะ ” มารร้ายสบถลั่น ก่อนจะทิ่มฝ่ามือขวาใส่กลางแผ่นหลัง เพื่อเสียบให้ทะลุถึงหน้าอก แต่เทพศาสตราแก้ลำด้วยการเบี่ยงตัวหลบเพียงนิดเดียว ทำให้อมนุษย์จั่วลม
“ เอ๊ะ! ” อมนุษย์ถลำไปข้างหน้า เพราะทิ้งตัวเข้ามาจู่โจมเต็มแรง แต่พอตั้งหลักได้ มันก็พบกับ……กระบวนท่าเด็ด
“ พันเข็มทิ่มแทง ”
ปลายท่อนไม้ยาวพุ่งเข้าใส่มารร้ายนับร้อยครั้ง แต่ละดอกล้วนแฝงไปด้วยออร่าที่แข็งแกร่ง แต่อมนุษย์ก็สมกับเป็นยอดนักสู้ที่ผ่านศึกมามากมาย จึงยกสองแขนขึ้นปัดป้องทัน กระนั้น ก็ต้องออกแรงเป็นพัลวัน เนื่องอีกฝ่ายได้ปล่อยกระบวนท่าเด็ดอย่างต่อเนื่อง
“ หน็อย….ไอ้แก่ ” มารร้ายกัดฟันกรอดใหญ่ เพราะการถูกเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแออย่างมนุษย์กดดัน เป็นอะไรที่เสื่อมเกียรติเอามากๆ มันจึงกระโดดถอยหลัง เพื่อให้มีเวลาโต้กลับด้วยหมัดลุ่นๆ ทว่านั่นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้เทพศาสตราได้ปล่อยอีกท่าเด็ด
“ ดาบผ่าพสุธา ”
“ เฮ้ย! ” มารร้ายตะโกนดัง ด้วยเห็นเทพศาสตราพุ่งเข้าเหวี่ยงท่อนไม้ยาวใส่อย่างดุดัน จึงยกสองแขนขึ้นมากัน หวังให้ตนรอดพ้นจากแรงปะทะ
“ ตูม…….”
เสียงระเบิดดังสนั่นอีกครั้ง กระแสของมันกังวานไกลไม่ต่างจากกระสุนปืนใหญ่ พร้อมบังเกิดประกายไฟสีทองแลบออกมาแวบนึง พลังปะทะของกระบวนท่ามากพอจะส่งให้มารร้ายลอยละลิ่วไปข้างหลังหลายสิบเมตร ก่อนจะทิ้งสองขาลงมาเหยียบพื้น
“ แก……” มารร้ายพ่นคำอาฆาต พร้อมก้มลงไปมองสองแขนที่เริ่มห้อเลือด แต่ไม่ทันไร ก็มีคลื่นแสงสีทองรูปจันทร์เสี้ยววิ่งตรงเข้ามา
“ ฮึ่ม…..” มารร้ายรีบเอี้ยวตัวหลบ เพราะรู้ชัดว่าคลื่นแสงนั้นร้ายกาจแค่ไหน แต่ก็ยังแอบถากแก้มเล็กน้อยจนโลหิตสีดำไหลออกมาเป็นทาง ราวกับถูกกรีดด้วยมีดคมๆ
มารร้ายรีบหันไปมองเทพศาสตรา เพื่อเช็คดูว่าคู่ประลองจะจู่โจมด้วยวิธีใด และก็ไม่ผิดหวัง ด้วยเห็นผู้อาวุโสง้างไม้ท่อนยาวไปข้างหลัง แล้วเหวี่ยงอาวุธจำเป็นออกมาสุดแรง ส่งผลให้บังเกิดเกลียวคลื่นแสงสีทองรูปจันทร์เสี้ยววิ่งตรงเข้ามา ปากก็ประกาศชื่อกระบวนท่า
“ เพลงดาบผ่าวารี ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ