The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
169) ยังไหวอยู่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.peakpx.com
แต่ไม่ทันที่เทพศาสตราจะตกลงใจ มารร้ายก็พุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้ง พร้อมเสียงหัวเราะร่าที่ดังสนั่น ราวอสุนีบาต
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า………”
“ บ้าชะมัด มันมาอีกแล้ว ” เทพศาสตราไหวทัน จึงเหวี่ยงท่อนไม้ยาวใส่มารร้ายที่พุ่งเข้ามา ทว่าอาวุธจำเป็นกลับทะลุร่างที่เสมือนอากาศธาตุ ทำให้เฒ่าชำนาญศึกรู้ทันทีว่า……ตนกำลังตกหลุมพราง
“ เอ๊ะ! นี่มันเงาจำแลงนี่นา แล้วตัวมันล่ะ ”
เหมือนเทพศาสตราจะไหวตัวช้าเกินไป แต่สัญชาตญาณนักสู้สั่งให้เขาเหลียวมองไปทางซ้าย ทำให้พบกับมารร้ายที่ยืนกางสองฝ่ามืออยู่ไม่ห่าง ใบหน้าเรียวยาวแลบ้าคลั่ง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสร็จแน่ เจ้าแก่ ” สิ้นเสียงของมารร้าย แสงเลเซอร์แบบเมื่อครู่ก็พุ่งออกมาจากสิบนิ้วของอมนุษย์ ทุกเส้นวิ่งตรงไปที่จุดต่างๆบนร่างของเทพศาสตรา ทำให้เขาต้องเร่งหลบสุดกำลัง
“ อึบ……”
“ ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว……..”
แสงสีอำพันพุ่งผ่านร่างของเทพศาสตราครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะยอดยุทธ์อาวุโสพลิกหลบได้อย่างเฉียดฉิว เว้นแต่…..ลำแสงเส้นสุดท้าย
“ ปึก…..อึก…..” เทพศาสตราผงะไปข้างหลัง เพราะถูกแสงมารพุ่งปะทะที่หัวไหล่ขวา ความเจ็บปวดวิ่งแล่นไปทั่วร่างกาย พร้อมอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงที่คืบคลานเข้ามา แต่ด้วยหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็ง จึงทำให้นักสู้อาวุโสยันกายอยู่ได้ พร้อมเหลียวมองไปที่บาดแผล ทำให้พบว่า…ฉกรรจ์ไม่น้อย
“ ฮึ่ม…..โดนเข้าจนได้ แม้ไม่ทะลุ แต่เนื้อหนังก็เกิดรอยไหม้ แทบยังรุนแรงจนแทบจะทำให้กระดูกหัก เราจะใช้แขนข้างนี้ไหวมั้ย ” เทพศาสตราพยายามประเมินความเสียหาย แต่ก่อนจะได้ข้อสรุป มารร้ายก็แทรกเข้ามาด้วยคำชม
“ เยี่ยมมาก เจ้าแก่ ทีแรกข้าคิดว่าเจ้าน่าจะโดนซัก 3-4 ที ที่ไหนได้ กลับหลบหลีกจนเกือบหมด โดนไปแค่ทีเดียวเท่านั้นเอง สุดยอดจริงๆ ” มารร้ายสรรเสริญจบ ก็ปรบมือให้หลายที ทว่าเทพศาสตราไม่นึกภูมิใจ แต่กลับรู้สึกหนักในทรวง
“ ฮึ่ม……หรือว่าเราจะต้องใช้เจ้านั่นจริงๆ ”
แม้มารร้ายจะได้เปรียบ แต่อมนุษย์ก็ไม่ได้บุกต่อ กลับเอาแต่จ้องหน้านิ่ง จากนั้นก็เอ่ยถามดื้อๆ
“ เฮ้ย…..ในเมื่อมีของดี ทำไมไม่ใช้ออกมา จะกลัวว่าสิ่งนั้นทำลายล้างโลกไปทำไม คิดเล็กคิดน้อยเหมือนหลานบุญธรรมของเจ้าเลย ” มารร้ายพูดจบ ก็หันหน้าไปมองอากิเนะ เป็นนัยจะบอกว่าเด็กสาวคือหลานบุญธรรมที่กล่าวถึง
เหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมากลางใจ โลกที่แสนสวยงามของอากิเนะแทบจะพังทลาย เพราะเชื่อมาตลอดว่าเทพศาสตราคือปู่โดยสายเลือด แต่อยู่มาวันนึง ก็มีมารร้ายมาเปิดเผยความจริงว่าเธอเป็นแค่….เด็กที่เก็บมาเลี้ยง ดังนั้น รีแอคชั่นแรกที่บังเกิดก็คือ……..ไม่เชื่อ
“ ที่เจ้าพูดมาหมายความว่าไง มันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ย ท่านปู่ ” เริ่มมีน้ำใสคลอบนขอบตากลมโตของอากิเนะ เธอหันมาถามเทพศาสตรา หวังได้ยินคำปลอบประโลมจากท่านปู่ ผู้เป็นญาติเพียงหนึ่งเดียว แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา เป็นเพียงประกายตาที่หมองเศร้าและความจริงที่ถูกปิดบังมาอย่างยาวนาน
“ มันคือความจริง มารตนนี้ไม่ได้พูดโกหก ”
อากิเนะถึงกับเคว้งไปหลายอึดใจ ช่วงเวลานั้นเอง เธอหวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นความสุขในยามที่ถูกท่านปู่โอบกอด ตุ๊กตาผ้าที่ญาติเพียงหนึ่งเดียวทำให้ แต่แล้ว ทุกความอ่อนโยนที่แล้วมา ถูกคำว่า…..หลานบุญธรรมเกลื่อนกลืนไป ทว่ามารร้ายกลับไม่อินด้วย
“ เฮ้อ…..ทำไมพวกมนุษย์ถึงดราม่ากันนัก กะอีกแค่ถูกเก็บมาเลี้ยง ไม่น่าแยแสขนาดนั้น เราจะโตมายังไง มีพ่อแม่มั้ย ไม่เห็นมีความสำคัญเลย ”
พอได้ฟังน้ำคำที่ไร้ความเป็นคน อากิเนะก็ถึงกับฉุนขาด พร้อมตอกกลับอย่างดุเดือด
“ แล้วเจ้าจะสนใจไปทำไม เหล่ามารก็ดีแต่รบราฆ่าฟันกันเอง ในหัวใจมีความมืดมน ไม่มีผู้ใดให้ห่วงใย ”
“ ก็ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ท่านก็ควรเลิกละเมอเพ้อพกได้แล้ว เพราะท่านเองก็มาจากเผ่ามารเช่นข้า ถอดความเป็นมนุษย์ออก แล้วปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงซะ ” มารร้ายตอบกลับทันควัน น้ำเสียงและสีหน้าแลจริงจัง ทำให้อากิเนะสะอึกแรง ในใจเริ่มลังเล
“ เอ๊ะ! หรือว่าเราควรจะ……ทำอย่างที่มารตนนี้บอก ”
ก่อนที่อากิเนะจะเริ่มคล้อยตามไปมากกว่านี้ เทพศาสตราก็เหมือนจะรู้ใจของหลานสาว จึงแจงถึงความจริงที่เก็บซ่อนมาอย่างยาวนาน ทำให้สองชีวิตที่อยู่บริเวณนั้น หันมามองเป็นตาเดียว
“ แม้อากิเนะจะเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง แต่ข้าก็รักและทะนุถนอม ราวกับสายเลือดแท้ๆ ดังนั้น หลานข้าไม่ต้องปล่อยตัวตนออกมา ถ้าจะมีใครกลายเป็นปีศาจ ปู่ก็ขอรับบทบาทนั้นเอง ” พอพูดจบ ดวงตาของเทพศาสตราก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น ออร่าสีทองหดหายไป พร้อมปล่อยบรรยากาศที่ชวนอึดอัดออกมา แต่ไม่ทันได้คืบหน้า มารร้ายก็ตรงเข้าไปสกัดดาวรุ่งด้วยการพุ่งเข้าไปสับศอกใส่
“ ปึก ”
เทพศาสตรากระเด็นไกลไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ มันเป็นการโจมตีที่หนักหน่วง ไม่ต่างจากลูกกระสุนปืนใหญ่ ทำให้พฤกษาขนาดสามคนโอบ หักกลางในทีเดียว ลำต้นมหึมาล้มลงบนพื้นจนก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
“ โครม…..”
“ หึ หึ หึ ข้าไม่ให้ใช้สิ่งนั้นหรอก แม้จะรู้ว่าศาสตรานั่นจะสร้างความสนุกไม่ใช่น้อย ทว่าเวลานี้ ข้าอยากวัดฝีมือกับท่านมากกว่า ดังนั้น ปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ” มารร้ายเย้ยหยันเทพศาสตรา จากนั้นก็เหลือบแลไปที่อากิเนะ
ความสิ้นหวัง กดดันและโกรธเกรี้ยวผุดขึ้นมาในใจของอากิเนะอย่างมากมาย เพราะได้เห็นท่านปู่ผู้เป็นที่รักถูกทำร้าย เธอจึงตะโกนดัง ใบหน้าสวยใสแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง
“ แก………”
“ ซูม……..” ออร่าสีรุ้งพวยพุ่งรุนแรงอีกครั้ง กระแสของมันเข้มข้นขึ้นมากจนเกือบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วง ดวงตากลมโตเปล่งประกายแวววาวและอุดมไปด้วยไฟแค้น แต่ก่อนที่ทุกสิ่งจะเตลิดไกล เทพศาสตราก็รีบลุกขึ้นยืน พร้อมร้องห้ามเสียงดัง
“ อากิเนะอย่าปล่อยมันออกมา ปู่ยังไหวอยู่ ”
ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องห้าม อากิเนะก็พลันได้สติ ออร่ากลับมาเป็นสีรุ้งสดใสอีกครั้ง ใบหน้างามคลายอาการตึง พร้อมปล่อยประกายห่วงใยออกมา
“ ทะ…ท่านปู่ มะ…ไม่เป็นไรนะคะ ”
“ อืม…แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ยังสู้ต่อได้ ” เทพศาสตราว่าอย่างนั้น แต่รอยแผลลึกตรงหน้าผากจนเลือดโชกไม่ได้เห็นด้วย แถมกายสูงโปร่งก็เริ่มยืนโงนเงน
อากิเนะอยากเข้าไปรักษาบาดแผลให้เทพศาสตราใจจะขาด เพราะเธอรู้ดีว่าท่านปู่ใกล้ถึงขีดจำกัด แต่สองแขนกลับถูกมัดติดกับโซ่เวทมนตร์ จึงทำได้แค่ร้องบอก
“ ท่านปู่เอาตัวรอดไปก่อน อากิเนะรับมือเจ้ามารร้ายตนนี้ได้ อีกประการ มันไม่สังหารหลานแน่ ”
ทว่าสิ่งเทพศาสตราตอบกลับมามีเพียงรอยยิ้มจางๆ ซึ่งแลอบอุ่นเหมือนเคย พร้อมน้ำคำที่นิ่มนวล
“ หลานไม่ต้องกลัว ปู่จะไปช่วยหลานและไม่หนีไปไหน ”
“ ไม่ ไม่นะ ปู่อย่าทำแบบนั้น ” น้ำตาสีใสหลั่งไหลจากดวงตาคู่งามของอากิเนะอีกครั้ง แต่ไม่ทันจะเกิดบทซึ้งระหว่างสองปู่หลาน เจ้ามารร้ายก็ขัดจังหวะด้วยการหายตัวไปอยู่ข้างหลังเทพศาสตรา จากนั้นก็ง้างหมัดขวา กะเสียบให้ทะลุแผ่นหลัง
“ ยังไม่ถึงเวลาเล่นบทโศกโว้ย ไอ้มนุษย์ ตายไปซะ ”
แต่เทพศาสตราก็ไม่ใช่หมูให้ใครเชือดง่ายๆ เขาจึงเหวี่ยงท่อนไม้ในมือขวาออกไปจนปะทะขมับของมารร้ายเข้าอย่างจัง ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่น ราวภูผาหินถล่ม
“ เปรี้ยง……”
ร่างเล็กบางของมารร้ายเซถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะยืนนิ่งอยู่อึดใจ จากนั้นก็หันกลับมายิ้มให้
“ หึ หึ หึ สมกับเป็นเทพศาสตราจริงๆ ขนาดย่ำแย่แบบนี้ ยังโต้กลับได้รุนแรงถึงใจ นี่ถ้าข้าเป็นมารทั่วไป หัวคงแหลกคาไม้ของเจ้าไปแล้ว ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ