The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
168) หรือจะถึงจุดสิ้นสุด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://unsplash.com
อากิเนะเองก็อยากใช้พลังที่ว่าเหมือนกัน แต่มีหลายเหตุผลที่ไม่อาจปลดปล่อยมันออกมา หลักๆก็คือ.....ไม่อยากให้ท่านปู่หรือใครเห็นสิ่งนั้น เพราะเธอเองก็จะมีสภาพไม่ต่างจากปีศาจ
มารร้ายยังคงยิ้มมุมปาก เพราะล่วงรู้ถึงความคิดของอากิเนะ ด้วยเจ้าตัวมัวแต่กังวลจนลืมใช้คาถาปิดบังมโนทวาร ถึงกระนั้น มันก็ไม่เห็นใจในความจำเป็น พร้อมทั้งหาทางบีบบังคับต่อไป
" ถ้าท่านยังกลัวที่จะปลดปล่อยพลังของตัวเอง มันก็ต้องกระตุ้นกันหน่อย "
" กะ.....แกหมายความว่า...." อากิเนะเริ่มเห็นแววแห่งหายนะ เพราะสิ่งใดที่มารร้ายตนนี้คิดจะทำ ย่อมไม่ใช่เรื่องดี ส่วนมารร้ายนั้นได้แต่หุบยิ้ม แล้วกระชากเสียงเหี้ยม
" ก็หมายความว่า....ข้าจะทำให้ท่านโกรธ "
" เอ๊ะ.....หรือว่า " อากิเนะเริ่มเดาเจตนาของมารร้ายออก แต่ไม่ทันได้ร้องห้าม มันก็พุ่งเข้าใส่เทพศาสตราอีกคำรบ
" ฮึ่ม....." แม้ยังเจ็บแขนข้างที่รับเพลงเตะอยู่หน่อยๆ ทว่าผู้ชาญยุทธ์อย่างเทพศาสตราก็ไม่ยอมให้ใครเคี้ยวกินง่ายๆ เขาจึงหยิบไม้ด้ามยาวที่เหลืออยู่ขึ้นรับศึก แต่ก่อนคู่ประลองจะได้ปะทะกัน มารร้ายก็พลันหายตัว
" ไอ้บ้านั่นเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงอีกแล้ว " เทพศาสตราฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงหลับตาลง แล้วสำรวมจิตใจ เพื่อจับทุกกระแสที่พุ่งเข้ามา ไม่ถึงเสี้ยววินาที เขาก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่พุ่งมาทางขวา
" ตรงนั้น เพลงดาบผ่าวารี " เทพศาสตราหมุนกายมายังทิศทางนั้น แล้วตวัดไม้ด้ามยาวอย่างรวดเร็วชนิดที่แทบมองไม่ทัน คลื่นพลังที่แผ่ออกมาสามารถตัดบอลเพลิงทมิฬขนาดเท่าตัวคนออกเป็นสองส่วน
" ตูม ตูม ตูม....."
เกิดเสียงดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง เพราะบอลเพลิงดำที่ถูกแบ่งแยกได้ระเบิดอยู่หลายวาระ ทำให้คลื่นความร้อนบางส่วนแผดเผาเทพศาสตรา แต่ด้วยออร่าหนาแน่นที่ห่อหุ้มกาย ผู้อาวุโสจึงยังทนทานอยู่ได้
" หึ หึ หึ คิดถูกแล้วที่เปลี่ยนมายิงเวทใส่ เพราะถ้าบุกสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวังถูกเจ้าฟันขาดกลางเป็นแน่ " มารร้ายซึ่งยืนห่างออกไปราวๆ 20 เมตร เริ่มหัวเราะเบาๆ ดูท่าทางมันจะเจ้าแผนการเลยทีเดียว
เทพศาสตราไม่กล่าวคำใด แต่กลับเร่งพลังออร่าให้เข้มข้นดุจเดิม เพราะถ้าละสายตาหรือเสียสมาธิไปเพียงแวบเดียว อาจถึงแก่ชีวิต ด้วยรับรู้ถึงความร้ายกาจของมารตนนี้เป็นอย่างดี
ถึงแผนยิงเวทระยะไกลจะถูกหยุดด้วยเพลงดาบผ่าวารีที่ว่องไวของเทพศาสตรา แต่มารร้ายก็ดูไม่ยี่หระ เพราะมันมีไม้เด็ดที่ซ่อนอยู่
" หึ หึ หึ ยอมรับว่าแกว่องไวจนตามการโจมตีของข้าทัน แถมยังใช้ เอ่อ.....ไม้เล็กๆทำลายเวทเพลิงทมิฬได้อีก แต่ถ้าโดนยิงเวทใส่อย่างต่อเนื่องล่ะ จะป้องกันได้อีกมั้ย " พออมนุษย์พูดจบ กายบางก็หายแวบไปอีก ทำให้เทพศาสตราต้องรีบสำรวมจิต เพื่อใช้เป็นเรดาร์หาทิศทางการจู่โจม แน่นอนว่าคราวนี้มาจากด้านหลัง
" ดาบผ่าวารี " เทพศาสตราปล่อยเพลงดาบที่ว่องไวอีกครั้ง แน่นอนว่ามันยังผ่าบอลเพลิงดำขนาดยักษ์ได้ดุจเดิม ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่แตกต่าง
" เอ๊ะ มาอีกแล้ว คราวนี้ทางขวาถึงสองลูก " เทพศาสตรายังไหวทัน จึงพลิกกายไปยังทิศทางที่บอลเพลิงพุ่งเข้ามา พร้อมตวัดดาบต่อเนื่อง กระนั้น การจู่โจมที่บ้าคลั่งก็ยังไม่จบ เวทไฟที่ร้อนแรงกำลังวิ่งมาจากทุกทิศทาง
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยิงรัวแบบนี้ แกยังจะรับมือไหวมั้ย " มารร้ายหัวเราะร่า พร้อมแวบไปแวบมาตามจุดต่างๆ แล้วยิงเวทไฟสีดำใส่อย่างต่อเนื่องจนเกิดเสียงระเบิดติดกัน ดูไม่ต่างจากระเบิดลงในสมรภูมิดิบ
" ตูม ตูม ตูม......."
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตาย ตาย ตาย แกต้องตาย ไปลงนรกซะ ไอ้เฒ่า " มารร้ายหัวเราะไม่หยุด สีหน้าฉายแววคลุ้มคลั่งอย่างชัดเจน ชนิดที่บอกว่า....หมอนี่เพิ่งหลุดจากโรงพยาบาลบ้า ก็น่าจะมีคนเชื่อ
" หยุด.....หยุดนะ " อากิเนะกัดฟันกรอดใหญ่ แต่ก็ไม่อาจช่วยท่านปู่ เพราะมารร้ายตนนี้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนมองตามไม่ทัน ทำให้ยิงเวทไม่โดน จึงได้แต่ภาวนาให้ความโหดร้ายที่อยู่เบื้องหน้าจบลงโดยไว
เหมือนสวรรค์จะเห็นใจสาวงาม จึงบันดาลให้มารร้ายหยุดยิงเวทเพลิงทมิฬ แล้วรอชมผลงาน
" หึ หึ หึ โดนพายุบอลเพลิงของข้าเข้าไปแบบนี้ ท่าจะเละเป็นมันบดอย่างไม่ต้องสงสัย หรือไม่ก็ไร้ซากให้เก็บ เพราะถูกไฟเผาจนไม่เหลือกระดูก "
ควันไฟที่ลอยคลุ้งเริ่มกระจายตัวด้วยแรงลมที่พัดกระพือ พอม่านบังตาคลายตัว ทั้งมารร้ายและอากิเนะก็ได้เห็นสภาพของลานประหารที่กลายสภาพเป็นหลุมลึกขนาดเท่าตัวคนนับสิบจุด ต้นไม้น้อยใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นถ่านดำๆ ถึงกระนั้น ก็ยังปรากฏเงาร่างของชายร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงกลาง เขาคนนั้นคือ....เทพศาสตรา
" ทะ....ท่านปู่ยะ...ยังไม่ตาย " อากิเนะถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี สองมือยกขึ้นปิดปาก น้ำตาไหลพรากไม่หยุด ส่วนมารร้ายได้แต่สะอึก เพราะหมายมั่นปั้นมือจะได้เห็นมรณกรรมของเฒ่าชรา ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ยอมคืนตั๋ว
" บัดซบ ไอ้แก่นี่มันหนังเหนียวจริงๆ "
แม้เทพศาสตราจะรอดจากพายุเพลิงมหาโหด แต่เขาก็ยับไม่ใช่น้อย ทั่วกายอุดมไปด้วยเถ้าถ่านสีดำ เสื้อผ้าบางส่วนขาดวิ่น แถมยังปรากฏรอยแผลไฟไหม้อยู่หลายจุด อันชวนให้สงสัยว่าผู้อาวุโสจะล้มลงเมื่อไหร่ แต่เฒ่าชำนาญศึกก็ยังกัดฟันอยู่
" เราจะล้มไม่ได้ ต้องสู้ต่อ แต่กระนั้นก็นับว่าบาดเจ็บไม่น้อย ดีที่มีเพลงดาบผ่าวารีคอยป้องกัน ไม่งั้นคงได้ถูกเผาไม่เหลือซากอย่างที่มันกล่าวไปแล้ว " เทพศาสตราขบคิด ดวงตาเรียวเหล่มาทางอากิเนะ หวังให้หลานสาวใช้เวทรักษา ทว่า......
" อย่าคิดนะว่าจะเข้าไปช่วยเจ้าแก่ได้ โซ่แห่งความมืดจงออกมามัดอริของข้า " มารร้ายอ่านแผนออก มันจึงร่ายเวทพันธนาการ ทำให้มีโซ่ขนาดขาช้างโผล่มาจากกลางอากาศ แล้วตรงเข้ามามัดแขนขาของอากิเนะเอาไว้แน่น เด็กสาวเลยหมดสิทธิ์ขยับ
" บ้าที่สุด ปล่อยชั้นนะ " อากิเนะโวยดัง พลางเร่งพลังเวทให้สูงขึ้นจนออร่าสีรุ้งพวยพุ่งอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่อาจสลัดโซ่เวทมนตร์ของมารร้าย
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เปล่าประโยชน์ เวทพันธนาการของข้าสามารถมัดได้แม้แต่ราชาแห่งเผ่ามาร ถ้าท่านจะทำลายมัน มีแต่ต้องปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา แต่จะทำได้มั้ยล่ะ หรือจะรอให้เจ้าแก่นั่นตายก่อน " มารร้ายเริ่มถากถาง อันเป็นการกดดันให้อากิเนะปล่อยของ
อากิเนะรู้สึกเหมือนเป็นหนูที่กำลังติดกับ ไร้ซึ่งทางออกและความหวัง เพราะถ้าปลดปล่อยพลังที่แท้จริง เธอจะกลายเป็นปีศาจที่คุมตัวเองไม่อยู่ แต่ถ้าไม่ทำ ท่านปู่ก็คงไม่พ้นความตาย
“ จะทำยังไงดีนะ คิดไม่ตก ไม่ว่าทางไหน ก็ไม่พ้นความพินาศ ”
แม้เด็กสาวไม่พูดออกมา แต่มารร้ายก็ล่วงรู้ถึงสิ่งที่เธอคิด มันจึงแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะกดดันต่อ
“ หึ หึ หึ ถ้าท่านกลัวที่จะปล่อยพลังออกมา เห็นที เจ้าแก่นั่นคงต้องตายอย่างแน่นอน ” พอมารร้ายพูดจบ มันก็ชี้ไปที่เทพศาสตราที่กำลังยืนอิดโรย ไม่ถึงอึดใจ แสงสีอำพันก็พุ่งออกมาจากนิ้วเรียวยาว ไม่ต่างกับเลเซอร์บีมจากปืนกระบอกโต
“ ชิ้ว……..”
“ เอ๊ะ! ” เทพศาสตราอุทานออกมาคำนึง ก่อนจะพลิกหลบแสงประหลาดได้อย่างหวุดหวิด แต่มันก็แอบถากอกเสื้อบางส่วน ส่งผลให้เนื้อผ้าหนานุ่มถึงกับไหม้และขาดยุ่ย
“ หึ หึ หึ หลบได้เฉียบนี่ สมกับเป็นยอดยุทธ์ของโลกมนุษย์ ” มารร้ายผมขาวหัวเราะเบาๆ มันดูสะใจที่เทพศาสตราหลบการจู่โจมได้ ด้วยไม่ประสงค์ให้เหยื่ออารมณ์ตัวโปรดต้องตายก่อนเวลาอันควร
เทพศาสตราถึงกับตะลึง มือขวายกขึ้นปาดเหงื่อ เพราะมารร้ายระดมปล่อยคาถาไฟดำมาหลายสิบลูก แต่มันดูไม่อ่อนแรงลงเลย แถมยังปล่อยท่าประหลาดที่รุนแรงได้อีก ราวกับอมนุษย์เบื้องหน้ามีพลังที่ไร้ขีดจำกัด
“ นี่มันพลังอะไรกัน ถ้าเมื่อกี้หลบไม่ทัน มีหวังพุ่งทะลุร่างเป็นแน่ แม้แต่จิตวิญญาณต่อสู้ที่ห่อหุ้มตัวเราก็น่าจะกันไม่อยู่ ”
มันเป็นการต่อสู้ที่ทำให้เทพศาสตราหนักใจที่สุด มีไม่กี่ครั้งที่ยอดยุทธ์อาวุโสรู้สึกแบบนี้ ทำให้เขาแอบลังเล
“ หรือว่าจะใช้ไอ้นั่น แต่เราไม่เคยจับมันมาหลายร้อยปี ครั้งสุดท้ายที่ได้สัมผัสก็เมื่อตอนผจญศึกใหญ่ที่เกือบจะล้างโลกนี้ ” ผู้อาวุโสหวนนึกถึงสงครามหฤโหดในอดีต ในยุคนั้นมีแต่ศัตรูที่ฉกาจฉกรรจ์แบบมารตนนี้
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ