The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
149) เข้าสู่โลกแห่งจิตใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
ใบหน้าสวยใสของอากิเนะกลับมาราบเรียบอีกครั้ง ดวงตาเปล่งประกายจริงจัง ทำให้มารร้ายรู้ทันทีว่าเธอคิดจะทำอะไร แต่ถึงกระนั้น ก็มีสิ่งหนึ่งที่มันสงสัยมาตลอด
“ ว่าแต่ทำได้ยังไง ปกติ มารอย่างข้าสามารถล่วงรู้ในสิ่งที่มนุษย์คิด แต่กลับอ่านใจของเจ้าและไอ้แก่นั่นไม่ออก ” มารร้ายพูดจบ ก็กลอกตาไปยังเทพศาสตราที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
“ สำหรับท่านปู่ เดาว่าเขาคงใช้วิธีปล่อยจิตให้ไร้ความคิด แล้วปล่อยกายให้เคลื่อนไหวไปตามกระแส ซึ่งเป็นวิธีที่นักสู้ชั้นสูงใช้กัน ส่วนเรานั้น…..” อากิเนะพูดค้างไว้แค่นั้น ก่อนจะเฉลย
“ ไม่บอก แบร่…..”
มารร้ายถึงกับอึ้งกิมกี่ เพราะอีกฝ่ายโต้ตอบด้วยการแลบลิ้นใส่ ไม่เพียงอมนุษย์เท่านั้นที่มึน เทพศาสตราก็งงไม่ใช่น้อย เพราะตั้งแต่เล็กยันโต อากิเนะนั้นเรียบร้อยมาตลอด ดังนั้น กิริยาดังกล่าวจึงเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย ทว่าเด็กสาวกลับแอบขบคิด
“ หึ หึ หึ…ใครจะบอกว่าเราแอบใช้คาถาบิดเบือนความคิด เพื่อป้องกันมารร้ายอ่านใจ ต้องป่วนมันให้หนัก แบบเดียวกับที่นายลิงนั่นชอบใช้ ” ถึงนาทีนี้ อากิเนะรู้แล้วว่ามาวินมีอิทธิพลต่อเธอมากแค่ไหน เพราะแค่กลวิธีเล็กๆน้อยๆ เด็กสาวยังลอกเลียนมาใช้
พอปั่นประสาทของมารร้ายจนหนำใจ อากิเนะก็เริ่มต้นด้วยการยกสองแขนหมุนวนเป็นวงกลม ท่วงท่าไม่ผิดไปจากร่ายรำ ใบหน้างดงามสงบนิ่ง ดวงตาปิดพริ้ม ทว่าอมนุษย์ไม่ยอมให้เด็กสาวใช้คาถาโดยสะดวก มันป่วนกลับทันควัน
“ ต่อให้แกพยายามแค่ไหน ก็ไม่สำเร็จหรอก ปัจจัยที่จะดึงเจ้านั่นกลับมา ขึ้นอยู่กับตัวเองเท่านั้น และเชื่อเถอะว่า….เจ้าหนูหัวเขียวไม่อยากกลับมาหรอก เพราะมันได้สิ่งที่ต้องการไปแล้ว ”
อากิเนะกระตุกเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่มารร้ายพูดถึงคืออะไร แต่มั่นใจว่ามันน่าจะมุ่งหวังทำลายสมาธิ จะได้ร่ายคาถาไม่สำเร็จ แน่นอนว่าอมนุษย์ไม่ปล่อยโอกาสดีให้ลอยผ่าน จึงโจมตีด้วยสงครามประสาทต่อ
“ และทางเดียวที่จะกำจัดข้าได้คือ......สังหารร่างนี้เท่านั้น แต่ถ้าทำแบบนั้น เจ้าหนูหัวเขียวก็จะตายไปด้วย พวกแกทำไม่ได้หรอก ดังนั้นปล่อยข้าไปดีกว่า คึ คึ คึ…..”
ถึงตรงนี้ อากิเนะเริ่มเป๋ ในหัวประกอบไปด้วยความคิดที่วกวน ความไม่มั่นใจผุดขึ้นมาจนสมาธิแตกกระเจิง แต่เทพศาสตรา ผู้เป็นปู่กลับตะโกนเตือนสติ
“ อย่าไปฟังมารร้าย มันหวังป่วนประสาทให้เจ้าสับสน จะได้ร่ายคาถาล้มเหลว ตั้งสมาธิต่อไป เรามาถูกทางแล้ว วิธีนี้ต้องช่วยเจ้าหนูได้แน่ ไม่งั้น อมนุษย์คงไม่พยายามขัดขวางขนาดนี้ ”
เสียงของท่านปู่สร้างความหวังให้แก่อากิเนะเป็นอันมาก เพราะเป็นน้ำคำที่สมเหตุผล เธอจึงรวบรวมสมาธิต่อไป โดยไม่ฟังสิ่งที่มารร้ายพยายามพูดกรอกหู
“ เจ้าทำไม่สำเร็จหรอก ล้มเลิกเถอะ ทำไปก็เหนื่อยเปล่า ”
การร่ายคาถาคืบหน้าไปเรื่อยๆ แสงสว่างสีขาวเริ่มเปล่งประกายที่สองมือ แถมแสงนั้นยังค้างอยู่กลางอากาศเป็นรูปอักขระประหลาด คล้ายว่ามันถูกวาดด้วยปลายนิ้วของอากิเนะ ในที่สุด เธอก็เปลี่ยนมาพนมมือที่กลางอก ปากก็บริกรรมคาถาที่มุ่งหมาย
“ ห้วงวารีไม่เคยย้อนกลับ กาลเวลาไม่เคยหวนคืน ขอมวลหมู่เทพจงส่งข้าสู่สำนึกแห่งจิตวิญญาณ ”
ทันทีที่อากิเนะว่าคาถาจบ แสงสว่างสีขาวก็เปล่งประกายออกมาจากอักขระประหลาดอย่างรุนแรง ไม่นาน มันก็พุ่งไปกระทบศีรษะของมาวินด้านมืด ทำให้ใบหน้าของมารร้ายสะบัด
………………………..
อากิเนะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง มันเงียบสงบ ไม่ได้ยินเสียงปั่นประสาทของมารร้ายอีกต่อไป อันดูคล้ายตกอยู่ในโลกมืดที่ไร้ตัวตน เธอจึงลืมตาขึ้นมา และสิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือ…….
“ เฮ………”
“ เอ๊ะ! นี่มัน…..” อากิเนะตกใจ เพราะสถานที่ที่เธออยู่คืออัฒจันทร์ขนาดใหญ่ รอบกายปรากฏผู้คนมากหน้าหลายตา พวกเขาสวมชุดประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะเด็กสาวเป็นคนจากโลก The Dark World จึงไม่รู้ว่าชาวโลกแต่งตัวอย่างไร
แม้มาจากต่างโลก แถมยังอยู่แต่ในเขตแดนลี้ลับของเทพศาสตรา แต่ก็พอรู้ด้วยสัญชาตญาณว่านี่น่าจะเป็นงานแข่งขันบางอย่าง ด้วยมองไปที่ลานประลอง ซึ่งกว้างประมาณครึ่งสนามฟุตบอล จะพบกับเนินลาดชันขนาดใหญ่ที่ทำมาจากเหล็ก พวกมันมีสองอันและตั้งประจันหน้ากัน แต่ไม่ทันได้ทำสิ่งใด เด็กสาวก็ได้ยินเสียงประกาศจากโฆษก
“ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่การแข่งขันสเก็ตบอร์ดชิงแชมป์โลก ขอเชิญพบกับดาวเด่นประจำงาน นั่นก็คือ….มาวิน ชายหนุ่มหัวเขียวจากประเทศไทย ”
“ เอ๊ะ! นี่มันชื่อของนายลิงนี่นา หรือว่าจะเป็นเขา ” อากิเนะสะดุ้งโหยง เธอรีบหันไปมองประตูทางเข้าที่อยู่ตรงมุมอัฒจันทร์ ก็พบกับบุคคลที่ตามหา นั่นก็คือ…..มาวิน
“ เฮ……มาวิน มาวิน มาวิน…..”
เสียงขนานนามจากผู้คนนับหมื่นดังไม่ได้ศัพท์ บ่งบอกถึงความโด่งดังของผู้ปรากฏตัว แต่มาวินในเวลานี้ดูเปลี่ยนไปมาก เขาตัวสูงขึ้นจนใกล้เคียงกับมาตรฐานชายไทย ใบหน้าคมสันและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ดวงตาเรียวเล็กส่อแววจริงจังจนน่ากลัว ทั่วร่างอยู่ในชุดเก่งที่โปรดปราน นั่นก็คือเสื้อยืดขาวที่มีเสื้อฮาวายปกคลุม กางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีเทา มีสนับป้องกันเข่าและศอก สิ่งเดียวที่ไม่ต่างจากเดิมก็คือ……ผมตั้งเป็นกระบังที่ย้อมเขียว
“ คาถาเดินทางสู่โลกแห่งจิตใจใช้ได้ผล ตะ…แต่เราจะเข้าไปหานายลิงนั่นยังไง ” แม้อากิเนะจะดีใจที่ร่ายคาถาสำเร็จ แต่ก็ยังมีปัญหาให้จุกอก สุดท้ายก็ได้คิด
“ อืม….งั้นรอให้ปลอดคน แล้วค่อยเข้าหาตานั่นดีกว่า ระหว่างนี้ก็ดูความฝันของนายลิงไปก่อน ”
อากิเนะรู้สึกเพลิดเพลิน เพราะเธอไม่เคยประสบกับอะไรที่อลังการแบบนี้ มาวินดูยิ่งใหญ่และโด่งดัง ราวกับทุกคนในดินแดนจับจ้องไปที่เขา แถมเสียงดนตรีประกอบงานก็เป็นแนวร็อคที่ร้อนแรง อันผิดกับสภาพแวดล้อมที่จากมา
“ ที่นี่คือที่ไหนของ The Dark World นะ เราไม่เคยออกจากเขตแดนลี้ลับซะด้วย นายลิงใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนี้จริงเหรอ ” (อากิเนะยังไม่รู้ว่ามาวินมาจากโลกมนุษย์)
ถึงจะเรื่องให้ชวนคิดมากมาย แต่บรรยากาศที่เร้าใจ ก็ทำให้อากิเนะลืมเลือนทุกสิ่งและหันกลับมาสนใจการแข่ง ซึ่งมาวินกำลังโบกมือให้เหล่าผู้ชม ก่อนจะสวมหมวกกันน็อคสีเขียวสด ทันใดนั้นเอง โฆษกของงานก็ป่าวประกาศ
“ ขณะนี้ มาวิน ตัวเเทนจากประเทศไทย ยังมีคะแนนเป็นอันดับสอง เขาต้องได้สิบแต้มเต็มเท่านั้น จึงจะพลิกเกมกลับมาเป็นแชมป์โลก ชายผู้นี้จะทำได้มั้ย เรามาคอยดูไปด้วยกัน ”
“ สู้เขานะ นายลิง ” อากิเนะเริ่มอินตาม ดูเหมือนเธอจะหลงลืมไปว่านี่คือโลกแห่งจิตใจ
“ เอาล่ะ เรามาเริ่มนับถอยหลังกันได้แล้วครับ ” โฆษกยังประกาศอยู่ เสียงเพลงและผู้คนสงบลงไปแล้ว บ่งบอกว่าทุกชีวิตกำลังลุ้น
“ 10 9 8 7 6……..” โฆษกเริ่มลงมือนับ ส่วนมาวินก็ตั้งหลักที่จุดสตาร์ท เขาย่อตัวลงเล็กน้อย สายตามองตรงไปข้างหน้า ใต้เท้าเท้าเหยียบสเก็ตบอร์ดสีเขียวสลักลายเพลิง ”
“ 5 4 3 2…..” พอโฆษกนับถึงตรงนี้ อากิเนะเริ่มได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของตนเอง อันแสดงให้รู้ว่าเธอเองก็ลุ้นเช่นกัน
“ 1 0…..Begin……” สิ้นคำของโฆษก เสียงปืนก็ดังสนั่นเป็นสัญญาณให้เริ่มเกม น่าแปลกที่อากิเนะไม่ตกใจ อาจเป็นเพราะเสียงดังกล่าวไม่ดังไปกว่าเวทมนตร์ที่เธอเคยใช้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะมันวินกำลังพุ่งไปข้างหน้า พร้อมสเก็ตบอร์ดคู่ใจ
มาวินวิ่งตรงไปข้างหน้า เป้าหมายคือเนินลาดชันที่สูงประมาณตึกสามชั้น ความเร็วในการทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้นักกีฬาหัวเขียวไต่ขึ้นไปบนเนินลาดชั้นอย่างง่ายดาย ในจังหวะที่ถึงยอด เขาและสเก็ตบอร์ดคู่ใจก็ลอยตัวบนกลางอากาศแวบนึง
แม้อากิเนะจะไม่เคยเห็นเกมกีฬาแบบนี้มาก่อน แต่บอกได้เลยว่าท่วงท่าที่มาวินแสดงออกมานั้นดูสุดยอดมาก ทั้งการย่อและหมุนตัวเป็นอะไรที่เนียนตา อันดูไม่ผิดแผกไปจากใบไม้ที่ลู่ตามลม
“ ว้าว…..นะ…นี่มันคือนายลิงจริงๆเหรอ ทำไมสุดยอดแบบนี้ ” อากิเนะอุทานเบาๆด้วยอาการลืมตัว แต่ไม่ทันสิ้นคำ ร่างสันทัดของหนุ่มหัวเขียวก็ร่วงหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก ทว่าสองเท้ากลับย่ำลงไปบนสเก็ตบอร์ด เพื่อให้ล้อของมันกระแทกบนทางลาด
ความแรงที่หนุ่มนักกีฬาทิ้งตัวลงมา ประกอบกับล้อกลมที่ไหลไปตามทาง ช่วยเพิ่มความเร็วในการพุ่งทะยาน เป้าหมายคือเนินลาดฝั่งตรงข้าม
พอมาวินไปถึงยอดเนิน เขาก็ลอยตัวกลางอากาศเหมือนเมื่อครู่ แต่คราวนี้ หนุ่มร่างสันทัดได้หมุนตัวเป็นวงกลม อันเป็นท่วงท่าที่ซับซ้อนและเหลือเชื่อว่ามนุษย์จะทำได้
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ