The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
141) เพลงดาบพายุกรรโชก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://4kwallpapers.com
อากิเนะถึงกับตะลึงจนตาค้าง ก่อนจะถามกลับอย่างยากลำบาก น้ำเสียงสั่นเทาอยู่ตลอด
“ ขนาดพี่โอคุยาสุที่ถือดาบภูตพรายก็ยังไม่แน่ว่าจะชนะตาหน้าลิงเลยเหรอ ท่านปู่ ”
“ อืม….” เทพศาสตราพยักหน้ารับคำ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังคู่ประลอง
โอคุยาสุตั้งท่าต่อสู้อย่างแข็งขัน คาตานะเล่มยาวกระชับอยู่ในสองมือ คมดาบชี้ไปยังทิศทางที่เด็กหนุ่มหัวเขียวยืนอยู่ สีหน้าปรากฏร่องรอยของความตึงเครียด
ทว่าฝ่ายมาวินกลับอยู่ในสภาพตรงกันข้าม เด็กหนุ่มหัวเขียวไม่ได้ตั้งท่าต่อสู้ เขาเอาแต่ยืนโงนเงนไปมา ใบหน้าขาวซีดและเปื้อนเลือดเริ่มแสยะยิ้ม พร้อมเหลือกตาไปมาจนดูคล้ายคนวิกลจริต ครู่หนึ่ง ก็เอื้อนเอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
“ ลุกขึ้นมาแล้วรึ พี่ชายหน้าขาว คราวนี้ข้าจะฆ่าแกให้ได้เลย เหอๆ ”
โอคุยาสุไม่ตอบคำ เขาตะโกนสั่งศิษย์รุ่นน้อง โดยไม่ยอมละสายตาจากมาวิน
“ พวกเจ้ารีบพาคนเจ็บไปจากที่นี่ ออกไปให้หมด เข้าใจมั้ย ”
“ แล้ว….อาจารย์น้อยรับมืออะ…ไอ้ปีศาจตนนี้ได้เหรอครับ ” ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวคนหนึ่งร้องถามด้วยความเป็นห่วง
สีหน้าของโอคุยาสุดูเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม เพราะตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน จึงได้แค่ตอบกลับอย่างยากลำบาก
“ ตอนนี้ข้ากำลังจะใช้ดาบภูตพราย พอลงมือ มันจะเกิดความเสียหายขึ้นโดยรอบ ถ้าพวกเจ้าอยู่ รับรองว่าโดนลูกหลงแน่ ดังนั้น ถอยไปเถอะ ”
พอได้ฟังคำตอบ หนุ่มร่างสูงก็พยักหน้ารับคำ เป็นเชิงเข้าใจ จากนั้นก็หันไปบอกลูกศิษย์คนอื่น
“ เฮ้ย ใครที่ยังยืนไหว ช่วยแบกคนเจ็บที่นอนอยู่ แล้วถอยออกจากที่นี่โดยด่วน ”
ลูกศิษย์น้อยใหญ่พากันทยอยออกจากโรงฝึกตามคำสั่งของอาจารย์น้อย (โอคุยาสุ) เพราะรู้ดีว่า….…ถึงร่วมต่อสู้ด้วย ก็ไม่อาจต้านทานเด็กหนุ่มผู้บ้าคลั่ง แถมยังคอยฉุดรั้งไม่ให้นักดาบหน้าขาวได้ใช้พลังอย่างเต็มที่
มาวินเอียงคอมอง ริมฝีปากแบะกว้างเป็นเชิงเย้ยหยัน ครู่หนึ่งก็กล่าวเบาๆ กระแสเสียงแหบแห้งและยานคาง
“ พร้อมจะตายแล้วใช่มั้ย พี่ชายหน้าขาว ”
โอคุยาสุไม่กล่าวคำใด เขาย่อตัวลงต่ำ และจับจ้องมาวินอยู่ตลอด สองมือจับดาบภูตพราย วินาทีต่อมา ดวงตาเรียวก็พลันเบิกโพลง พร้อมรุกคืบไปข้างหน้า เมื่อเข้าถึงตัว หนุ่มหล่อก็แทงดาบไปที่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว ราวกับปืนกล ทว่ากลับไม่โดนร่างเพรียวของอริเลย
“ ย่า ย่า ย่า ” แม้การโจมตีชุดแรกจะพลาดเป้า แต่โอคุยาสุยังไม่ยอมแพ้ เขาโยกซ้ายทีขวาทีด้วยความเร็วสูง หลังจากนั้นก็ตวัดดาบฟันทุกทิศทาง ถึงกระนั้น มาวินก็ยังหลบหลีกได้ทุกคราว
โอคุยาสุโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว มาวินจึงทิ้งตัวลงต่ำ พร้อมเตะตัดขา ด้วยสัญชาตญาณที่ว่องไวพอกัน นักดาบรูปหล่อจึงกระโดดถอยหลัง เพื่อหลบเลี่ยงเพลงเท้า แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เด็กหนุ่มยังตามติดด้วยการเข้าประชิดตัว
“ เฮ้ย! นี่มัน…..” โอคุยาสุตกใจ วินาทีต่อมา เงาของกรงเล็บนับสิบก็ถาโถมเข้าใส่
“ อุ้บ ” โอคุยาสุกระโดดถอยหลังสุดกำลัง ทว่าพยุหะกรงเล็บแมวป่าของมาวินก็รวดเร็วเกินไป เขาจึงโดนบางดอกแบบเฉี่ยวๆ
พอโอคุยาสุถอยหลังไปหลายก้าว ชายหนุ่มก็กลับมาตั้งท่าต่อสู้แบบรัดกุม ส่วนมาวินไม่ได้ตามจู่โจม เขาเพียงแต่เอียงคอมอง แล้วยิ้มมุมปาก
“ ไหวมั้ย คนเก่ง แค่ชุดแรก แกก็เกือบม่อยซะแล้ว เหอๆ ”
โอคุยาสุรู้สึกเจ็บตรงจุดที่โดนกรงเล็บเฉี่ยว บางบาดแผลเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา หนุ่มหน้าขาวจึงกัดฟันกรอดใหญ่ พร้อมเค้นคำเสียงกร้าว
“ เห็นที ต้องใช้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ซะแล้ว ”
ทันทีที่โอคุยาสุพูดจบ ออร่าสีม่วงที่คล้ายเปลวเพลิงก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย ดวงตาเปล่งประกายร้อนแรง จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าใส่มาวินด้วยความเร็วที่สูงกว่าเมื่อครู่นับร้อยเท่าพันทวีจนไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า
คมดาบนับสิบประเคนเข้าใส่ มันรวดเร็วจนดูคล้ายแสงเลเซอร์ แม้ว่ามาวินจะหลบได้ยอดเยี่ยมปานใด ก็ไม่อาจหลีกการจู่โจมที่เฉียบขาดได้ทั้งหมด จึงเฉือนเนื้อหนังของเด็กหนุ่มได้หลายจุด
“ ฉั้ว ฉั้ว ฉั้ว ”
คราวนี้เป็นทีของมาวินที่ต้องถอยหลังบ้าง เลือดแดงสดเริ่มหลั่งไหลออกจากบาดแผลที่ถูกเชือดเฉือน และในจังหวะสุดท้าย โอคุยาสุก็กระทืบเท้าขวา พร้อมตวัดดาบใส่กลางลำตัวของเด็กหนุ่ม
“ เพลงดาบพายุกรรโชก ”
ทันใดนั้นเอง ก็บังเกิดลมสลาตันพุ่งเข้าใส่มาวิน แม้เด็กหนุ่มจะยกสองแขนขึ้นมาป้องกัน ก็ต้องลอยถลาไปด้านหลัง ความแรงของกระบวนท่านั้นมากมายจนพัดร่างเล็กบางให้ลอยไปกระแทกผนัง
“ โครม ”
พายุพัดกระพือจนทำให้กำแพงพังเป็นแถบๆ มิหนำซ้ำ มันยังลอยไปปะทะต้นไม้ใหญ่รอบโรงฝึกจนพฤกษาเหล่านั้นสั่นไหวไปมา
“ แฮ่กๆ ” หนุ่มหล่อหน้าขาวหอบเหนื่อย ออร่าสีม่วงพลันดับลง
หลังได้เห็นกระบวนท่าที่รุนแรงของโอคุยาสุ อากิเนะก็ถึงกับหน้าถอดสี เธอรีบลุกขึ้นยืนและเตรียมวิ่งไปยังจุดที่เด็กหนุ่มลอยหายไป
“ เจ้าหน้าลิง เธออย่าเป็นอะไรนะ ”
แต่ไม่ทันที่อากิเนะจะได้ขยับ เทพศาสตราก็ดึงข้อมือของหลานสาว พร้อมทัดทานด้วยเสียงที่หนักแน่น
“ อย่าไป อากิเนะ เจ้าไม่ควรเข้าไปหาไอ้หนูหัวเขียวในตอนนี้ ”
“ ตะ….แต่ ท่านปู่ ลองเจ้าหน้าลิงโดนท่าไม้ตายของพี่โอคุยาสุเข้าไป เขาคงต้องตายอย่างแน่นอน ” อากิเนะเสียขวัญ น้ำน้อยๆเริ่มคลอที่ขอบตา
“ เรื่องนั้น เจ้าไม่ต้องห่วง จากสัมผัสที่ปู่ได้รับ พบว่า…..เจ้าหนูนั่นยังไม่ตาย อันที่จริง ดูเหมือนว่าเพลงดาบพายุกรรโชกจะทำอะไรมันไม่ได้ด้วยซ้ำ ” เทพศาสตราส่ายหัวไปมา สีหน้าในยามนี้ดูเคร่งเครียด บ่งบอกถึงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดี
“ เอ๊ะ ตะ…แต่ว่า ” อากิเนะเตรียมเถียง แต่ไม่ทันที่เด็กสาวจะได้เอ่ยวาจา เสียงหัวเราะที่แหบแห้งก็ดังแว่วเข้ามา พร้อมสายลมที่แผ่วเบา
“ เหอ เหอ เหอ ”
ทุกคนในที่นั้นพากันเหลียวมองตามเสียง สิ่งที่เห็นผ่านช่องว่างของกำแพงที่พังทลายก็คือ…….มาวิน ซึ่งบัดนี้ เขากำลังยืนโงนเงนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
“ หน็อย.....โดนเพลงดาบพายุกรรโชกเข้าไปขนาดนี้แล้ว ยังไม่สลบอีก บ้าชะมัด ” โอคุยาสุสบถดัง เขารู้สึกหัวเสียผสมผิดหวัง ชายหนุ่มจึงก้าวเข้าไปหาอริร่างเล็ก เพื่อทำการสัประยุทธ์อีกครั้ง
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ