The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

137) รวมเป็นหนึ่งเดียว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wallpapercave.com

 

“ เอ่อ….ชั้นทำร้ายคนพวกนั้นจริง แต่ทุกครั้งที่ทำลงไป ล้วนเป็นการป้องกันตัวและช่วยเหลือผู้อื่น ” มาวินตอบเสียงสั่น สีหน้าซีดเซียวด้วยรู้สึกสำนึกผิด

 

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า........” มาวินด้านมืดหัวเราะยาวนาน ทำเอามาวินตัวเก่าถึงกับสงสัยอย่างจริงจัง จวบจนเจ้าของรอยยิ้มวิปลาสหยุดหัวร่อ ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงแววขบขำ 

 

“ ฮะๆ ขอโทษที ชั้นขำที่นายยกเอาความชอบธรรมขึ้นมา เพื่ออ้างให้คนอื่นเข้าใจว่าสิ่งที่ทำลงไปไม่ใช่เรื่องชั่วช้า ” 

 

“ แล้วมันไม่จริงเหรอ ชั้นแค่ป้องกันตัวกับช่วยเหลือคนอื่น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองซักหน่อย ” มาวินตัวเก่าเถียงกลับ ทว่าด้านมืดก็ตอบทันควัน น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดูกร้าวแกร่งยิ่งกว่าเดิม 

 

“ แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปลงโทษคนอื่น ใครทำผิด ก็ควรให้เขารับผลกรรมไปสิ ”  

            

 

        คำตอบสั้นๆ ทำให้มาวินตัวเก่าถึงกับจนแต้ม เขาเริ่มสับสนในสิ่งที่เชื่อ การเที่ยวไปต่อสู้กับใครต่อใคร มันอาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องก็ได้

             

 

         มาวินตัวใหม่ถลึงตาใส่มาวินตัวเก่าอีกครั้ง สีหน้าท่าทางทั้งน่ากลัวและชวนขนลุก ครู่หนึ่ง ด้านมืดก็เริ่มสาธยายยืดยาว 

 

“ บ่อยครั้งไปที่หลายคนยกเรื่องความชอบธรรมขึ้นมา เพื่อประหัตประหารหรือทำอะไรที่ชั่วร้ายเลวทราม อาทิเช่น.....ประเทศหนึ่งยกกองทัพบุกโจมตีอีกประเทศหนึ่ง โดยอ้างว่าทำไปเพื่อช่วยเหลืออาณาประชาราษฎร์ที่ถูกกดขี่จากจอมทรราช แท้จริงแล้ว เขาทำไปเพื่อช่วงชิงทรัพยากรสำคัญบางอย่าง สุดท้ายประเทศที่บุกโจมตีก็ชนะสงครามและกลายเป็นฮีโร่ในสายตาของชาวโลก ” 

 

“ อะ….” มาวินตัวเก่าได้แต่ยืนสั่น เขาพูดไม่ออก เพราะถึงแม้ด้านมืดจะไม่พูดถึงชื่อ เขาก็รู้จักประเทศนั้นเป็นอย่างดี 

        

 

        ทว่ามาวินด้านมืดยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ท่วงท่าดูผ่อนคลายลง อันที่จริง น่าจะแปรเปลี่ยนเป็นหมองเศร้าเสียด้วยซ้ำ เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดมิด พร้อมกล่าวเบาๆด้วยความรันทด

 

“ ในทางกลับกัน ก็มีอีกประเทศหนึ่งซึ่งผู้นำต้องการผลักดันให้พ้นจากสภาวะยากจน เขาจึงเอาลัทธิชาตินิยมเข้ามาใช้และนำมาเป็นข้ออ้างในการรุกรานประเทศอื่น เพื่อยึดทุกสิ่งแบบหน้าด้านๆ แต่โชคไม่ดีที่ประเทศนั้นแพ้สงคราม สุดท้ายผู้นำก็กลายเป็นฆาตกรโฉดที่โลกไม่ลืม ” 

 

“ นะ…..นายหมายถึง….นาซีและฮิตเลอร์เหรอ ” มาวินตัวเก่าถามกลับ เสียงสั่นเทาจนหยุดไม่อยู่ 

           

 

         มาวินตัวใหม่ไม่ตอบคำถามนั้น เพราะรู้ดีว่ามาวินตัวเก่าเข้าใจในสิ่งที่พูดทั้งหมด ด้านมืดจึงเพียงหันกลับมามอง พร้อมเอื้อนเอ่ยวาจา 

 

“ ทุกสิ่งในโลกล้วนยากจะแยกแยะดีร้าย ทั้งสองสิ่งทาบทับจนเหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งที่จะขีดเส้นว่าชั่วหรือดีอยู่ที่......ผลแพ้ชนะเพียงเท่านั้น ” 

 

“ นะ…..นายหมายความว่า…..” ถึงตรงนี้ มาวินตัวเก่าเริ่มเข้าใจในสิ่งที่มาวินตัวใหม่พยายามอธิบาย ด้านมืดจึงส่งยิ้มชั่วช้าให้ พร้อมตอกย้ำอีกครั้ง 

 

“ ใช่แล้ว ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์และกำหนดว่าสิ่งใดดี สิ่งใดเลว ” 

 

“ เหอ เหอ เหอ ทุกสิ่งมันเป็นแบบนี้นี่เอง มิน่าชั้นจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มาตลอด สุดท้ายก็ถูกตีตราว่าชั่วร้ายสินะ ” ใบหน้าของมาวินตัวเก่าซีดเซียวและล้มตัวลงนั่ง ท่าทางไม่ต่างจากคนที่กำลังสิ้นหวังในชีวิต  

             

 

         มาวินด้านมืดยิ้มชั่วๆ ก่อนทรุดกายลงนั่งเคียงข้าง และเอื้อมมือไปตบไหล่ จากนั้นก็ปลอบประโลมแบบแปลกๆ 

 

“ ใช่แล้ว นายคือสิ่งชั่วร้าย เพราะผู้ชนะกำหนดให้เป็นแบบนั้น ทุกสิ่งที่ฝัน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลกสเก็ตบอร์ด การกลับคืนสู่โลก หรือแม้กระทั่ง.....จัน มันจะสูญสลายในทันที เพียงเพราะนายมันไร้พลัง ” 

 

“ ฮะๆ เข้าใจตอกย้ำจังเลยเนอะ หรือจะบอกว่านี่คือคำปลอบใจในสไตค์ของนาย ” มาวินตัวเก่ากล่าวประชด แม้สภาวะทางอารมณ์ในตอนนี้จะห่อเหี่ยวสุดๆ แต่เขาก็ยังพูดติดตลก จะมีใครบ้างที่ถูกด้านมืดของตัวเองปลอบโยนแบบนี้ 

 

“ เหอๆ ถึงแม้นายจะกระจอก ไร้ความสามารถและพ่ายแพ้จนสูญสิ้นทุกสิ่ง แต่ก็ยังประชดกลับได้ ลึกๆแล้ว นายมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่ สิ่งนั้นทั้งแข็งแกร่งและทรงพลังจนอาจทำให้นายเก่งกล้าถึงขั้นคว้าดาว ”  

 

“ หา! คนอย่างชั้นนี่นะ ” มาวินตัวเก่าอุทานดัง

 

“ ใช่แล้ว คนแบบพวกเรานี่แหละ ” มาวินด้านมืดตอบกลับ พร้อมท่าทางที่มีเลศนัย 

 

“ งั้นก็ช่วยดึงเจ้าสิ่งนั้นออกมาหน่อยสิ จะได้เก่งและชนะเป็นซักที หรือนายแค่คิดปั่นหัวชั้นเล่น ” มาวินตัวเก่าเริ่มยัวะ เขากระชากคอเสื้อของมาวินตัวใหม่ ซึ่งด้านมืดก็ไม่ได้แสดงอาการตกใจใดๆ แต่กลับสบตานิ่ง พร้อมตอบอย่างใจเย็น 

 

“ จริงๆแล้ว ถ้าจะให้ชั้นดึงสิ่งนั้นออกมา มันก็พอทำได้ แต่ตัวนายนั่นแหละที่ฉุดรั้งความสามารถนั้น ” 

 

“ เอ๊ะ! แล้วชั้นไปขวางเจ้าสิ่งนั้นได้ยังไง ที่ผ่านมา ชั้นเองก็อยากเก่งขึ้นและฝึกฝนอย่างหนักมาหลายเดือน เหนื่อยยากจนเลือดตาแทบกระเด็น ” มาวินตัวเก่าเริ่มเถียง 

 

“ ใช่ นายฝึกและเก่งขึ้น แต่ก็ยังไม่ละทิ้งสิ่งเหยาะแหยะที่เรียกว่าจิตใจ คุณธรรม ความดี สิ่งเหล่านี้ฉุดรั้งนาย ทำให้ดึงพลังส่วนใหญ่ซึ่งแฝงอยู่ในตัวออกมาใช้ไม่ได้ ” มาวินตัวใหม่ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ทำให้มาวินตัวเก่าถึงกับอึ้งไปถนัดตา เพราะสิ่งที่ด้านมืดพูดนั้นเป็นจริงทุกประการ ทุกครั้งที่ต่อสู้ เขามักจะยั้งมือและหลบเลี่ยงการสังหาร นั่นเลยทำให้พลังลดลงไปหลายส่วน บางครั้ง เด็กหนุ่มก็เคยคิดเล่นๆว่า.....ถ้าทิ้งความรู้สึกดังกล่าวไป ตนเองจะมีฝีมือขนาดไหน 

 

“ ใช่แล้ว ขอเพียงละทิ้งจิตใจที่อ่อนและยึดติดในเรื่องเล็กน้อย นายก็จะก้าวถึงจุดสุดยอด และจะได้ในสิ่งที่ฝันใฝ่ทั้งหมด ชั้นขอสัญญา….” มาวินด้านมืดกล่าวสนับสนุน น้ำเสียงดูเข้มแข็ง

             

 

         มาวินตัวเก่าเริ่มมีท่าทีอ่อนลง  เด็กหนุ่มนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้านมืดอีกครั้ง 

 

“ แล้วชั้นจะทิ้งสิ่งเหล่านี้ไปได้ยังไง ” 

 

“ ฮะๆ ไม่ยากเลย แค่พวกเรากลับมารวมร่างกันเท่านั้นเอง ” มาวินด้านมืดพูดจบ ก็ยื่นมือมาให้มาวินตัวเก่าที่กำลังนั่งแผ่หลาอยู่บนพื้น แน่นอนว่าเด็กหนุ่มดูตื่นกลัว เพราะใครก็ตามที่เจออีกตัวตนของเรามาบอกให้รวมร่างกัน ถ้าไม่อึ้ง ก็แปลกแล้ว 

 

“ จะตกใจอะไรกันเล่า จริงๆแล้ว พวกเราก็คือคนๆเดียวกัน เพียงแต่ไม่ได้รวมร่างกันอย่างสมบูรณ์ นายถึงมีจิตใจที่อ่อนแอจนพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ ” มาวินด้านมืดตอกย้ำปมด้อยของมาวินตัวเก่าอีกครั้ง 

 

“ เอ่อ….มะ…มันก็มีส่วนจริงนะ ” มาวินตัวเก่าเริ่มลังเล 

 

“ หรือถ้าอยากพ่ายแพ้ตลอดไป นายก็ไม่ต้องรวมร่างกับชั้น สุดท้ายก็ตายอยู่ในโลกนี้อย่างโดดเดี่ยว สิ่งที่ฝันไว้ก็จะสูญสลาย รวมถึงไม่ได้พบกับจัน ” มาวินด้านมืดคาดคะเน ทำให้กายของมาวินตัวเก่ากระตุกแรง เพราะคำพูดสุดท้ายที่ได้ยิน มันช่างเสียดแทงหัวใจเสียเหลือเกิน และนี่เองคือสาเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มตอบกลับอย่างเด็ดเดี่ยว 

 

“ ตกลง ชั้นจะรวมร่างกับนาย ” 

 

“ เยี่ยม นายคิดถูกแล้ว ” มาวินด้านมืดพยักหน้ารับ พร้อมยิ้มชั่วๆที่มุมปาก มือขวายื่นออกมา เพื่อส่งให้มาวินตัวเก่าจับ แต่ก่อนจะสัมผัส เด็กหนุ่มก็มีคำถาม 

 

“ เดี๋ยวก่อน ชั้นขอถามอีกสองข้อ….” 

 

“ ว่ามาเลย พวก ” มาวินด้านมืดยักคิ้วให้ 

 

“ ข้อหนึ่ง ถ้ารวมร่างกับนาย ชั้นจะเป็นคนเดิมอยู่มั้ย ” มาวินตัวเก่าถามกลับด้วยท่าทางที่ดูจริงจัง แม้ว่าเขาอยากชนะ แต่ก็ไม่อยากเปลี่ยนเป็นคนอื่นอยู่ดี 

 

“ จะให้บอกอีกกี่ครั้ง พวกเราเป็นคนๆเดียวกันอยู่แล้ว พอรวมกัน นายจะเป็นใครไปได้เล่านอกจากตัวเอง ” มาวินด้านมืดรู้สึกเซ็ง เพราะไม่คิดว่าอีกตัวตนจะโง่งมงายขนาดนี้ 

 

“ เออ…งั้นข้อแรกผ่าน ส่วนข้อสอง…..ถ้ารวมร่างกับนาย ชั้นจะชนะมั้ย ” มาวินถามเสร็จ เขาก็ทำหน้าลุ้นดุจดังนักเรียนที่กำลังลุ้นผลสอบปลายภาค ซึ่งแน่นอนว่าด้านมืดก็ตอบกลับแบบไม่ต้องคิด 

 

“ นายจะไร้คู่ต่อสู้ ” 

 

“ โอเค ชั้นรับข้อเสนอ ” มาวินตัวเก่าตอบกลับ พร้อมยื่นมือมาจับ

         

 

        ทันทีที่สองมือสัมผัสกัน สีหน้าของด้านมืดก็แปรเปลี่ยนเป็นสาแก่ใจเสียเต็มประดา คล้ายกับว่าแผนการบางอย่างได้สัมฤทธิผล แต่ไม่ทันที่มาวินตัวเก่าจะได้ทำอะไร ร่างของทั้งสองก็เปล่งแสงสว่างออกมาอย่างรุนแรงจนเจิดจ้าไปทั่วบริเวณ วินาทีต่อมา พวกเขาก็ถูกดูดเข้าหากัน 

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา