The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
126) นักดาบร่างผอม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.wallpaperflare.com
บรรยากาศในโรงฝึกดูกดดันเล็กน้อย ไม่มีการพูดคุยใดๆ ด้วยทุกคนล้วนยำเกรงเทพศาสตราที่นั่งเป็นประธาน แต่มีอีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังร้อนรน เหมือนมีไฟสุมทรวง คนๆนั้นก็คือ……..โอคุยาสุ
“ เจ้าคนแปลกหน้าหัวเขียวกับน้องหญิงเข้าไปในห้องเก็บของนานเกินไปแล้ว ทำไมไม่ออกมาซักที อิจฉาเฟ้ย เฮ้ย ไม่ใช่สิ น่าเป็นห่วงต่างหาก ” โอคุยาสุกัดฟันกรอดใหญ่ ใบหน้าเนียนใสขมวดนิ่ว
โอคุยาสุหงุดหงิดได้ไม่นาน ประตูห้องเก็บของก็เปิดออกและผู้ที่ก้าวออกมาก็คือ.....เด็กหนุ่มหัวเขียว เขาซ่อนร่างเล็กบางในชุดยูกาตะสีขาว อันทำให้ดูสง่ามากกว่าเดิมเป็นเท่าทวี
แม้เด็กหนุ่มหัวเขียวจะปรากฏกายได้น่าดูชมปานใด แต่โอคุยาสุไม่สนใจ และมองไปยังบุคคลที่เดินตามมา จึงทำให้พบกับอากิเนะ ใบหน้าของเธอฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน เขาเลยรู้สึกโกรธ
“ หน็อย.... เจ้าหนูคนนี้ บังอาจทำให้น้องหญิงหน้ามุ่ย ซักวัน เราจะสั่งสอนมันให้ได้ ฮึ่ม....... ”
ทว่าโอคุยาสุก็ทำได้แค่เก็บความแค้นเอาไว้ภายใน เพราะเกรงใจเทพศาสตรา ผู้เป็นอาจารย์
“ เอาล่ะ พร้อมแล้วใช่มั้ย เจ้าหนู ” เทพศาสตราหันไปถามมาวิน
“ ฮะๆ เดี๋ยวก่อนนะ ขอเวลาทำใจอีกแวบหนึ่ง ” มาวินหัวเราะแห้งๆ เขาพยายามปลุกปลอบตัวเองให้กล้าหาญ ด้วยการสูดลมหายใจเข้าออกอยู่หลายที ทำให้ทุกคนในโรงฝึกอมยิ้มไปตามๆกัน
“ ฮะ แฮ่ม พร้อมปีไหน ก็บอกนะ เจ้าหนู ข้ารอได้ ” เทพศาสตรากระแอมดังและกล่าวแซว คำคมของอาจารย์เฒ่า ทำให้บางคนในที่นั้นหลุดปากหัวเราะ
“ ฮะๆ ”
เสียงหัวเราะที่แว่วเข้ามา ทำให้มาวินรู้สึกอาย ความปอดแหกที่มีเริ่มสลายไป เหลือไว้แต่หัวใจที่บ้าบิ่น
“ เอ้า พร้อมแล้ว เข้ามาได้เลย เจ้าแห้ง ” มาวินกระชากเสียงเหี้ยม พร้อมชี้นิ้วไปยังคู่ต่อสู้ร่างผอมที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า
เทพศาสตราแอบยิ้มนิดๆ วินาทีต่อมา ก็กลับมาเคร่งขรึมดังเดิม จากนั้นก็ประกาศเสียงดัง
“ เตรียมพร้อม เคนจิ ”
ชายร่างผอมผู้มีนามว่า "เคนจิ" ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว พร้อมรับคำสั่งด้วยท่าทางที่ดูองอาจ
“ ขอรับ ท่านอาจารย์ ”
ท่วงท่าของเคนจิ ทำให้มาวินกลับมาผวาอีกครั้ง ปากก็ร้องครวญเสียงอ่อย
“ แฮะๆ ไม่ต้องเอาจริงก็ได้มั้ง นี่แค่ซ้อมมือเอง ”
ทั้งมาวินและเคนจิ ก้าวมาหยัดยืนอยู่กลางลานประลอง โดยมีลูกศิษย์หนุ่มนับสิบนั่งชม ส่วนเทพศาสตรายังคงนั่งเป็นประธานอยู่ด้านในสุด ข้างกายปรากฏหลานสาวแสนสวยนั่งประกบ
เคนจิอยู่ในท่ายืนตรง ส่วนเด็กหนุ่มหัวเขียวก็อยู่ในท่าเตรียมพร้อมเช่นกัน แต่น่าจะเป็นการเตรียมยอมแพ้หรือไม่ก็วิ่งหนีซะมากกว่า เพราะเขากำลังยืนสั่นเป็นเจ้าเข้า ทำให้เชื่อว่า.....การต่อสู้ในครั้งนี้ น่าจะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มประลองเสียด้วยซ้ำ
“ เอ้า ไอ้หนูปากกล้า เจ้าจะใช้อาวุธอะไร ” เทพศาสตราเอ่ยถาม โดยไม่สนด้วยซ้ำว่าเด็กหนุ่มจะอยู่ในสภาพพร้อมสู้หรือไม่
“ อะ.......เอ่อ ชั้นใช้อาวุธไม่เป็น ” เด็กหนุ่มตอบเสียงสั่น
เทพศาสตรามองเด็กหนุ่มด้วยอาการพินิจ ส่วนทุกคนในที่นั้นล้วนส่ายหัวด้วยความระอา ครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสก็กล่าวต่อ
“ เอาอย่างนี้แล้วกัน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ข้าจะให้ดาบไม้เล่มนึง อันเป็นอาวุธแบบเดียวกับเคนจิ เจ้าจะขัดข้องหรือไม่ ”
“ เหอๆ ไม่กล้าขัดข้องหรอก ” มาวินหัวเราะแห้งๆ
“ ดี งุยโฮ เจ้าไปหยิบดาบไม้มาแจกให้กับเคนจิและเจ้าหนูปากกล้าคนนี้ ” เทพศาสตราสั่งชายร่างล่ำที่นั่งอยู่แถวหน้า นายคนนั้นจึงวิ่งไปหยิบดาบไม้ที่แขวนอยู่บนข้างฝาให้กับคู่ประลองทั้งสอง
ทันทีที่เคนจิได้ดาบไม้ เขาก็ตั้งท่าต่อสู้ที่ดูรัดกุม ราวกับยอดนักดาบผู้ชำนาญเพลงศึก ส่วนมาวินได้แต่ยืนถือดาบทื่อๆ พร้อมแข้งขาที่สั่นไม่หยุด ทำให้ทุกคนในโรงฝึกขบขำไปตามๆกัน จะมีก็แต่เพียงเทพศาสตราและอากิเนะที่ยังนั่งสงบ แต่ในใจของหลานสาวแสนสวยกลับรู้สึกกลัดกลุ้ม เพราะห่วงใยในสวัสดิภาพของเด็กหนุ่มหัวเขียว
“ จะไหวมั้ยเนี่ย ตานั่นยิ่งดูไม่เอาไหนซะด้วย น่ากลัวจะสาหัสอีกรอบซะล่ะมั้ง ”
บรรยากาศก่อนการต่อสู้ค่อนข้างตึงเครียด เทพศาสตราทิ้งเวลาให้ผ่านไปครู่หนึ่ง ก่อนให้สัญญาณด้วยเสียงที่ดังกังวาน
“ เริ่มได้ ”
สิ้นเสียงสัญญาณ เคนจิก็พุ่งเข้ามาฟาดฟันมาวินอย่างรวดเร็ว ราวกับสายฟ้าแลบ ทำให้เด็กหนุ่มหัวเขียวถอยหนีไม่เป็นกระบวน
“ เหวอ....... เร็วชะมัด ช้าๆหน่อย พรรคพวก ” มาวินหลบดาบไม้ของเคนจิ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังเสียขวัญ
“ อุ้บๆ คิกๆ คักๆ ไม่ได้เรื่องเลย เก่งแต่หนีอย่างเดียว ” เกือบทุกคนในโรงฝึกล้วนนินทาและหัวเราะคิกคัก เว้นแต่เทพศาสตราที่ยังนั่งดูการต่อสู้ด้วยอาการสงบ ส่วนอากิเนะ เธอกำลังกัดฟันกรอดใหญ่ เพราะไม่อยากให้มาวินบาดเจ็บ
“ ย่ะๆ ” เคนจิตะโกนดัง เขาฟาดฟันสุดกำลัง เพลงดาบที่ปล่อยออกมานั้นรวดเร็วจนมองตามแทบไม่ทัน แต่ไม่ว่าว่องไวปานใด ก็ไม่อาจสัมผัสผิวกายของมาวิน เนื่องจากเด็กหนุ่มมีสเต็ปการหลบหลีกที่เหนือกว่า สิ่งนั้นทำให้ทุกคนหยุดหัวเราะและจ้องมองการต่อสู้เบื้องหน้าด้วยท่าทางที่ดูอึ้งๆ
“ เจ้าหมอนี่เร็วใช้ได้ ขนาดนักดาบที่ว่องไวอย่างเคนจิยังตามไม่ทัน ” โอคุยาสุขบคิดอยู่ในใจ ท่าทางหมูสมันจะกลายเป็นหมูป่าเขี้ยวตันไปซะแล้ว
เคนจิพยายามโจมตีมาวินอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไล่ไม่จนซักที ทันทีที่รุกอีกฝ่ายจนติดกำแพง เด็กหนุ่มหัวเขียวก็ฉากออกข้าง เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที นักดาบร่างผอมก็เริ่มเหนื่อยหอบ
“ แฮ่กๆ โจมตีมันไม่โดน อย่างกะไล่ฟันเงาผีเลย ” เคนจิบ่นพึมพำ
มาวินนึกฉงนเล็กน้อย ทั้งที่การโจมตีของเคนจิทั้งดุดันและรวดเร็ว แต่พอตั้งใจหลบขึ้นมาจริงๆ กลับดูไม่ยากเย็น ที่น่าแปลกสุดก็คือ……...หมอนี่รุกไล่ได้ไม่นาน ก็เหนื่อยอ่อนจนแทบล้มทั้งยืน นั่นทำให้เด็กหนุ่มได้คิด
“ รุกไล่เพียงแค่นี้ ก็ถึงกับหอบหนัก รึว่ามันจะอ่อนกว่าที่เราคิด ”
เมื่อเด็กหนุ่มคิดได้ดังนี้ กำลังใจก็พุ่งพรวดจนหายจากอาการสั่น พร้อมปลดปล่อยสกิลปากเก่งให้กลับมาหลอกหลอนผู้คนอีกครั้ง
“ เอ้า เหนื่อยแล้วเหรอ พี่แห้ง ชั้นว่านายคงเป็นโรคขาดสารอาหารนะ เพราะไล่ฟันแผล็บเดียว ก็หอบซะขนาดนั้น เลิกสู้ แล้วกลับไปกินข้าวให้มากกว่านี้ดีกว่ามั้ง เหอๆ ”
แน่นอนไม่ว่าใคร ถ้าเจอท่าทางยียวนกวนประสาทขนาดนี้ ย่อมจะทานทนไม่ได้ เคนจิจึงคำรามใส่ พร้อมรุกหนักแบบลืมตาย
“ ฮึ่ม........แก ”
ทว่าการเคลื่อนไหวของเคนจิกลับเชื่องช้าลง เนื่องจากพละกำลังที่เริ่มเสื่อมถอย เลยทำให้เด็กหนุ่มหลีกคมดาบได้ง่ายขึ้น บางครั้งก็โชว์เหนือด้วยการโยกหลบโดยไม่ขยับปลายเท้า ทำให้ทุกคนในโรงฝึกถึงกับอึ้งไปตามๆกัน
“ ผิดคาดแฮะ ตาหน้าลิงนี่เก่งขนาดนี้เลยเหรอ นึกว่าจะไม่เอาไหนไปซะทุกเรื่อง ” อากิเนะรู้สึกทึ่ง ใบหน้างามดูผ่อนคลายจนกลับมาเป็นปกติ
“ หน็อย.....ฟันไม่โดนเลย นี่แน่ะ รับไป ” นักดาบร่างผอมเริ่มฟาดฟันสะเปะสะปะ เลยทำให้มาวินโยกหลบได้ง่ายกว่าเดิมจนดูเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังหยอกเย้าเด็ก อึดใจต่อมา เด็กหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก พร้อมตะโกนดัง
“ เอาล่ะ เปิดโอกาสให้ไล่ฟันมาตั้งนานแล้ว ทีนี้ตาชั้นบ้าง ”
มาวินพูดจบ ก็พุ่งสวนเข้าไป จังหวะที่ปลายดาบไม้กำลังจะกระทบหน้าอก เขาก็เบี่ยงหลบนิดนึง พร้อมกระแทกศอกไปที่ลิ้นปี่
“ ปั้ก ”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น คู่ประลองทั้งสองต่างพากันนิ่งสงบ ไม่นาน ดวงตาของเคนจิก็แปรเปลี่ยนเป็นเหลือกขาว พร้อมร่วงหล่นลงไปนอนกองกับพื้นอย่างง่ายดาย เหลือไว้แต่มาวินที่ยืนยิ้มกริ่ม ปากก็กล่าวเย้ยหยันด้วยกิริยาที่ดูยิ้มเยาะ
“ ฮะๆ ไปรักษาโรคขาดสารอาหารก่อน แล้วค่อยกลับมาสู้ต่อนะ พี่แห้ง ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ