The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
127) สงสัยต้องกินลูกท้อแล้วมั้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com
ทุกชีวิตต่างพากันเงียบกริบ ด้วยผิดคาดกับผลการต่อสู้ การโจมตีของเด็กหนุ่มหัวเขียวทั้งรวดเร็วและรุนแรงจนถึงขั้นทำให้นักดาบมีฝีมือดีอย่างเคนจิล้มคว่ำในทีเดียว
“ โห......แค่ทีเดียว อัดเคนจิสลบไปเลย ตาหน้าลิงนี่ก็เก่งเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ ” อากิเนะอ้าปากเหวอ ดีที่ทุกคนตกตะลึงเช่นกัน เลยไม่มีใครเห็นท่าทางที่น่าอับอายของเธอ
มาวินยิ้มสดใสอยู่กลางลานประลอง เขาเท้าสะเอวแอ็คท่าให้ดูเท่ที่สุด พร้อมยืดอกนิดๆ เป็นนัยว่ากำลังภูมิใจกับชัยชนะเมื่อครู่ แต่เก๊กได้ไม่นาน เทพศาสตราก็กล่าวชมเชย
“ เยี่ยมมาก เจ้าสามารถเอาชนะนักดาบระดับเคนจิได้ นับว่าพอมีฝีมืออยู่เหมือนกัน ”
“ ฮะๆ ไม่ใช่แค่พอมีฝีมือหรอก ลุงแกนดัฟต์ แต่เข้าขั้นโคตรเก่งเลยต่างหาก ไม่เชื่อก็ขนมาลุยกับชั้นทั้งโรงฝึกเลย ” ดูเหมือนมาวินจะเหิมเกริม จึงยกยอตัวเองแบบไม่เกรงใจใคร แต่พอหลุดปากออกไป ก็นึกเหวอกับคำพูดที่ว่า “ให้ขนมาทั้งโรงฝึก”
“ ซวยแล้วดิ โม้มากจนได้เรื่อง ขอให้ลุงแกนดัฟต์ปล่อยผ่าน อย่าคิดจริงจังกับคำพูดพล่อยๆของชั้นเลย ”
แต่คำภาวนาของเด็กหนุ่มไม่เป็นผล เพราะเทพศาสตราได้ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
“ ในเมื่อเจ้ามั่นใจว่า….พร้อมจะสู้กับทุกคนในโรงฝึก ข้าก็จะสนองความต้องการ ”
มาวินยังคงแสร้งยิ้มด้วยท่าทางที่ดูมั่นใจ แต่ภายในกลับนึกกลัวและก่นด่าตัวเอง
“ นั่นไง ตาลุงแกนดัฟต์เล่นเราเข้าให้แล้ว ถ้ากลับโลกได้ จะรีบไปผ่าเอาหมาออกจากปากให้หมดเลย ไอ้งั่งเอย ”
คล้ายว่าเทพศาสตราจะอ่านใจของมาวินได้ ชายชราเคราขาวเลยเปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มมีสิทธิ์ชนะบ้าง
“ วางใจได้ เจ้าไม่ต้องเจอกับคนทั้งโรงฝึกหรอก ขอเพียงชนะคนที่ข้าเลือกอีกสามคน ก็เชิญไปสู้กับซวงเย่ตามสบาย ”
“ เชอะ นึกว่าจะส่งหมูทั้งโรงฝึกมาเข้าปากเสือซะอีก เอ้า ตกลงตามนี้ เพราะชั้นเองก็ไม่อยากรังแกเด็กน้อย ” มาวินรู้สึกโล่งอก แต่ภายนอกยังคงยืดอกโม้ต่อ ท่าทางยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด จนนักดาบหลายคนเริ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ เจ้าพร้อมรึยัง จะได้สู้ต่อในรอบที่สอง ” เทพศาสตราเอ่ยถาม
“ โอ๊ย..... ชั้นพร้อมมาตั้งแต่เกิด ลุงเอาเจ้าคนเคราะห์ร้ายเข้ามาได้แล้ว ” มาวินตอบแบบไม่คิด ทั้งที่ลมหายใจยังปั่นป่วนอยู่เล็กน้อย
“ ดี งั้นคนต่อไปก็คือ……อาเบะ ” เทพศาสตรารับคำ พร้อมประกาศนามคู่ต่อสู้คนต่อไป
สิ้นเสียงของเทพศาสตรา ชายผู้หนึ่งก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินมาถึงลานประลอง ทุกคนก็พบว่าเขาคือ.....ชายร่างอ้วนที่แอบนินทาโอคุยาสุ
“ ว้าว...... ไอ้หมอนี่ทั้งอ้วน ทั้งสูง ทั้งใหญ่เลยแฮะ น่าจะเกือบๆ 190 เซนติเมตรล่ะมั้ง ” มาวินอ้าปากเหวอ ดวงตาส่องสำรวจคู่ต่อสู้คนต่อไปอย่างละเอียด
อาเบะไม่ตอบคำใด ทว่าดวงตาเล็กหยีจับจ้องมาวินไม่วางวาย ด้วยนึกหมั่นไส้เหลือประมาณ และวาดหวังว่าจะได้กระทืบเด็กหนุ่มผู้นี้ให้สมแค้น
“ เอาล่ะ งุยโฮ เจ้าไปเอาอาวุธคู่ใจมาให้อาเบะ ” เทพศาสตราหันไปสั่งชายร่างล่ำสันคนเดิม ซึ่งลูกศิษย์หนุ่มนายนั้นก็ตอบสนองด้วยการห้อไปเอาอาวุธมาให้อาเบะ มันก็คือ………ค้อนไม้ขนาดใหญ่
“ ว้าว...... ขนาดอาวุธยังดูน่ากลัว อย่างกับทาร่า ในเกม ROV เลย ” มาวินโห่ร้องชมเชยอย่างสบายอารมณ์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกที่เด็กหนุ่มไม่นึกกลัวอาวุธร้ายชิ้นนี้
“ เอาล่ะ เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มต่อสู้ได้ ” เทพศาสตราให้สัญญาณ
การต่อสู้รอบที่สองเริ่มต้นขึ้น คราวนี้ทุกอย่างดูสงบนิ่ง ไม่มีการโจมตีใดๆ อาเบะเพียงยกค้อนขึ้นมาระดับอกและจับจ้องมาวินด้วยท่าทางที่รัดกุม ส่วนเด็กหนุ่มหัวเขียวเริ่มยิ้มเย้ยเล็กน้อย ภายในคิดวางแผนอย่างใจเย็น
“ ดูจากหน่วยก้าน หมอนี่คงถนัดใช้กำลัง แต่ด้วยขนาดของอาวุธ คาดว่าน่าจะโจมตีเชื่องช้าและขาดความต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าเราหลอกล่อให้หวดพลาดจนเสียหลัก ก็เข้าไปอัดมันให้ร่วงได้ไม่ยาก ”
เมื่อคิดแผนการเป็นที่เรียบร้อย มาวินก็แสร้งกวักมือท้าทาย ทำให้อาเบะฉุนขาดจนใบหน้าอวบอูมแดงซ่าน ลมออกหู ปิดท้ายด้วยการสติแตกและพุ่งเข้าใส่ ปากก็ร้องคำรามเสียงดัง
“ แก ไอ้หัวเขียวจอมยโส ”
อาเบะกระโจนเข้าใส่ด้วยสปีดที่เหลือเชื่อ แต่ไม่ไวพอ มาวินมองค้อนยักษ์ที่พุ่งเข้ามาแน่วนิ่งชนิดไม่วางตา และเมื่ออาวุธร้ายห่างจากเส้นผมเพียงปลายนิ้ว เด็กหนุ่มก็ฉากหลบไปทางซ้าย
“ โครม ”
เสียงค้อนยักษ์ดังสนั่น ความแรงนั้นทำให้พื้นโรงฝึกถึงกับโหว่เป็นรูใหญ่ แม้อาเบะจะมีพลังมากเพียงใด แต่ถ้าโจมตีไม่ถูก ก็ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เหตุผลนี้ทำให้มาวินเริ่มย่ามใจ พร้อมตวาดไปหนึ่งคำ
“ เสร็จชั้นล่ะ เจ้าอ้วน รับนี่ไป ”
สิ้นเสียงตวาด มาวินก็พุ่งเข้าไปอัดอาเบะด้วยหมัดขวา กำปั้นที่หนักหน่วงกระแทกใส่ระหว่างคิ้ว ส่งผลให้ร่างอ้วนใหญ่เซถอยหลังไปเล็กน้อย
“ ฮะๆ โดนชั้นต่อยเข้าไปเต็มแรงแบบนี้ น็อคในทีเดียวแน่ๆ ” มาวินกล่าวกับตัวเอง พร้อมเงยหน้าขึ้นชมผลงาน ทว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็คือ…ชายร่างอ้วนใหญ่ที่กำลังหมุนคอไปมา คล้ายคนที่กำลังสลัดอาการเมื่อยขบหลังนอนตกหมอนมาทั้งคืน
“ เฮ้ๆ นายโดนชั้นต่อยไปเต็มๆเลยนี่หว่า ไม่คิดจะล้มหน่อยเหรอ ” มาวินเอ่ยถามงงๆ พร้อมยกกำปั้นขึ้นเช็คดูว่ามันหมดอายุแล้วรึยัง เพราะไม่สามารถกล่อมชายอ้วนให้หลับได้ ทว่าอีกฝ่ายกลับตอบเรียบๆ
“ นั่นเขาเรียกว่าต่อยแล้วเหรอ ชั้นนึกว่านายสะกิดซะอีก ”
มาวินเริ่มตื่นกลัวและวิตกกังวล.... “หรือว่าหมัดของเขาจะหมดอายุ” แต่สุดท้ายก็กลับมาสำนึกถึงความเป็นจริง
“ จะบ้ารึไง หมัดมีวันหมดอายุด้วยเหรอ มันไม่ใช่อาหารกระป๋องนะเฟ้ย ”
“ บ้าน่า ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ไม่มีใครทนทรหดขนาดนั้นหรอก อย่างน้อย ต้องมีมึนงงบ้างล่ะน่า..... ” มาวินสบถเบาๆ พร้อมกำหมัดแน่น
“ ฮ่าๆ ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ลองโจมตีเข้ามาอีกที ชั้นไม่หลบนายหรอก เจ้าหัวเขียว ” อาเบะเริ่มยิ้มเยาะและร้องท้าทาย
“ ฮึ่ม...... เมื่อกี้มันฟลุ๊คโว๊ย หมัดของชั้นคงพลาดเป้า แต่คราวนี้ นายเจ็บแน่ ” มาวินรับคำท้าด้วยการพุ่งเข้าใส่อาเบะสุดกำลัง พร้อมปลดปล่อยกระบวนท่าถนัดออกมา
“ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ”
พายุกรงเล็บนับสิบสาดใส่อาเบะอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นลำคอ ปลายคาง หัวไหล่ หน้าอก ทุกสัดส่วนล้วนไม่พ้นการจู่โจมที่ดุดัน
“ ปึก ปึก ปึก........ ”
มาวินปลดปล่อยกระบวนท่าใส่อาเบะหลายสิบดอก จากนั้นก็ถอยฉากออกมาหอบเหนื่อย
“ แฮ่กๆ ได้ผลมั้ยนะ ”
ทว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า แทบทำให้เด็กหนุ่มล้มทั้งยืน ด้วยชายร่างอ้วนยังคงยิ้มแฉ่ง พร้อมยืดตัวตรงอย่างภาคภูมิ คล้ายกับว่าพายุกรงเล็บที่ประเคนเมื่อครู่ มีน้ำหนักเบายิ่งกว่ายุงกัด
“ ไอ่หย่า ตกลงนายไม่คิดจะเจ็บซักหน่อยเลยเหรอ เป็นแบบนี้ ชั้นเสียกำลังใจนะ ” มาวินถามเสียงอ่อย
“ ฮ่าๆ จะเจ็บได้ยังไงเล่า หมัดของนายเบาอย่างกับนุ่น ” อาเบะตบหน้าอกที่อุดมไปด้วยไขมัน นั่นยิ่งทำให้มาวินรู้สึกเสียขวัญยิ่งกว่าเดิม
ทั้งสองจดๆจ้องๆกันอยู่หลายอึดใจ ด้านอาเบะ เขาคิดหาทางฟาดศัตรูให้สลบคาค้อนใหญ่ ส่วนมาวินก็พยายามเค้นสมองหากระบวนท่าจู่โจมที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม สุดท้าย ก็เป็นฝ่ายเด็กหนุ่มที่คิดได้ก่อน
“ เฮ้ นายอ้วน ” มาวินร้องทัก แต่ดูเหมือนว่าผู้ถูกขนานนามจะไม่ชอบชื่อนี้ จึงตวาดกลับเสียงดัง
“ ชั้นไม่ได้ชื่ออ้วน ชั้นชื่ออาเบะ ”
“ เออ จะชื่ออะไรก็ช่าง นายมั่นใจในความแข็งแรงของตัวเองใช่มั้ย งั้นกล้าพอจะรับกระบวนท่าต่อไปหรือไม่ ” มาวินยั่วยุด้วยกระแสเสียงที่เร่งเร้า
“ ฮ่าๆ จัดมา น้ำหนักหมัดอย่างนายไม่อาจระคายผิวของชั้นหรอก ” อาเบะหัวเราะลั่น ดูเหมือนชายร่างอ้วนจะติดประมาทเข้าให้แล้ว
“ เหอๆ เดี๋ยวรู้กัน เตรียมรับมือให้ดี ใครผิดคำพูด ถือว่าไม่แน่จริง ” มาวินยังคงยั่วยุต่อไป
“ เข้ามาเลย ไอ้เด็กหัวเขียว ” อาเบะตอบทันควัน บ่งบอกว่าเนื้อแท้ของหนุ่มอวบระยะสุดท้าย น่าจะกวนบาทาอยู่ไม่น้อย
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ