The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  168.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

125) รุ่มร่ามเกินไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wallpaperaccess.com

 

       มุมปากของเทพศาสตราเหมือนจะเลิกสูงขึ้นมาเล็กน้อยเป็นเชิงยิ้มเยาะ ปากก็ย้อนถามเสียงต่ำ 

 

“ อ้าว..... ไหนเมื่อกี้ เจ้าบอกว่าพร้อมสู้ทุกคน ยกเว้นข้าและอากิเนะไง ผิดคำพูดนี่นา ” 

 

“ เหอๆ ไม่ได้ผิดคำพูดหรอก เอาล่ะ ยอมสู้กับเจ้ากุ้งแห้งนี้ก็ได้ แต่ขอเวลาทำใจก่อนได้ปะ ลุงแกนดัล์ฟ ” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ

 

“ หึๆ งั้นเจ้าก็ใช้เวลาทำใจซะให้พอ พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะ เจ้าหนู ” เทพศาสตราหัวเราะออกมานิดๆ ดูท่าทางจะพอใจเด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทว่าหลานสาวคนสวยกลับไม่นิยม จึงตอกย้ำแรงๆ เพื่อประณามความปอดแหกของเจ้าลิงจอมซน

 

“ หนูว่าสำหรับเจ้าหน้าลิง เอ๊ะ มาวิน เราน่าจะให้เวลาเขาทำใจซัก 100 ปี ก็น่าจะพอนะคะ ท่านปู่ ” 

 

“ อืม......... ” เทพศาสตราแสร้งทำเป็นคิด ก่อนจะอนุมัติ 

 

“ ตกลงตามนั้น ข้าไม่ขัดข้อง ”

 

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก๊ากๆ ขำโว๊ย ฮะๆ " 

          

 

         สิ้นคำของเทพศาสตรา ทุกคนก็หัวเราะก๊ากออกมาพร้อมกันจนโรงฝึกแทบถล่ม เพราะสะใจมากที่เด็กหนุ่มจอมยโสต้องประสบกับการเสียหน้าอย่างรุนแรง ซึ่งถ้ามองในมุมของผู้เขียน ก็เห็นว่าสาสมแล้ว

 

“ หน็อย........ ” มาวินกัดฟันกรอดใหญ่ ใบหน้าเรียวเล็กแดงจัดด้วยความโกรธ อันเป็นเหตุให้เขาบันดาลโทสะ ด้วยการรับคำท้าแบบไม่ต้องคิด 

 

“ เอ้า สู้ก็สู้ ไม่ต้องรอให้ครบร้อยปีหรอก ลุยมันตอนนี้เลย ” 

         

 

         เทพศาสตราซ่อนยิ้มอยู่ภายใน จากนั้นก็กล่าวทัดทาน 

 

“ เดี๋ยวก่อน ไอ้หนู เจ้าจะสู้ด้วยเสื้อผ้าแบบนั้นเหรอ ข้าว่ามันรุ่มร่ามไปหน่อยนะ ” 

         

 

        มาวินก้มลงมองตัวเอง จึงพบว่าเขากำลังสวมใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่เทอะทะ มันดูรุ่มร่ามจริงๆ จึงเงยหน้าขึ้นมา พร้อมส่งยิ้มแห้งๆให้ เป็นนัยจะบอกว่า……ชั้นมีแค่ชุดนี้เท่านั้น 

        

 

        เทพศาสตราส่ายหัวไปมาเล็กน้อย พร้อมหันหน้ามาทาง….อากิเนะ หลานสาวแสนสวย 

 

“ อากิเนะ เจ้าพาไอ้หนูไปห้องเก็บของ แล้วหาชุดฝึกให้เขาใส่ ” 

        

 

        ทันทีที่อากิเนะได้ยินคำสั่ง สีหน้าก็ฉายแววไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เหมือนเธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับเด็กหนุ่มหน้าลิง ส่วนโอคุยาสุก็เกิดอารมณ์หึงหวงปนอิจฉา ด้วยมาวินได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหญิงสาวที่เขาหมายปอง

        

 

        แม้อากิเนะจะไม่ชอบ แต่เธอก็ไม่ปริปากบ่นและปฏิบัติตาม ด้วยเกรงใจเทพศาสตรา ผู้เป็นปู่

 

“ ตามชั้นมา เจ้าหน้าลิง ” อากิเนะกล่าวห้วนๆ จากนั้น เธอก็เดินนำไปที่ท้ายห้อง โดยมีเด็กหนุ่มหัวเขียวเดินตามอย่างว่าง่าย ทว่าใบหน้าเรียวเล็กกลับออกอาการเซ็งเล็กน้อย 

 

“ เชอะ ดันหลวมตัวรับคำท้าประลองไปซะได้ ท่าทางเจ้ากุ้งแห้งนั่นน่าจะมีฝีมืออยู่พอตัว จะสู้ยังไงดีนะ ” มาวินขบคิดอยู่ในใจ พร้อมเดินตามเด็กสาวไปยังห้องเก็บของ 

 

…………………..

           

        ภายในห้องเก็บของขนาด 10 คูณ 10 เมตร มีลังไม้เก่าๆนับสิบ ชุดเกราะโทรมๆวางรอบห้อง ตรงมุมในสุด ปรากฏแท่นเก็บอาวุธประดับอยู่ แต่จุดที่อากิเนะให้ความสนใจคือล็อคเกอร์ไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงยาวตามแนวกำแพง แต่ละตู้ล้วนมีชื่อติดเกือบทั้งหมด ยกเว้นตู้สุดท้าย

 

“ เอ้า ชุดที่เธอต้องใส่อยู่ในนั้น ” อากิเนะชี้ไปที่ตู้สุดท้าย 

 

“ อืม...... ” มาวินรับคำด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดี แต่เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเด็กสาว เพราะมัวแต่คิดหาวิธีการต่อสู้กับเจ้ากุ้งแห้ง 

         

 

       มาวินดึงตู้ออกมาช้าๆ สิ่งที่อยู่ในนั้นคือชุดซามูไรสีขาวที่ค่อนข้างเก่า แต่ก็สะอาดพอจะสวมใส่ เด็กหนุ่มหยิบมันขึ้นมา แล้วมองอากิเนะ

 

“ เอ้า มองทำไม เธอก็ใส่มันเข้าไปซิ ชั้นจะได้หมดหน้าที่ไวๆ ” อากิเนะโวยดัง 

 

“ เหอๆ ก็อยากใส่อยู่หรอกนะ แต่เธอเล่นจ้องชั้นตาแป๋วอยู่แบบนั้น แล้วจะใส่เข้าไปได้ยังไงเล่า ยัยกระต่ายน้อยหน้าโง่ ” มาวินตอกกลับ สีหน้าดูกระอักกระอ่วน

          

 

       อากิเนะสะดุ้งเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกตัวว่า…ตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงหันหลังกลับและโวยวายกลบเกลื่อน

 

“ เอ้า ชั้นหันหลังให้แล้ว รีบแต่งตัวซะ เธอนี่มันเรื่องมากจริงๆ ” 

 

“ เฮ้อ......ตัวเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ ยังมาพาลใส่คนอื่นอีก ถ้าถึงทีเราเมื่อไหร่ จะแกล้งให้ร้องไห้หนักๆชนิดสามวันไม่เลิกรากันเลยทีเดียว ฮึ่ม..... ” มาวินส่ายหัวไปมา พร้อมเก็บซ่อนความแค้นไว้ภายใน 

         

 

       มาวินใช้เวลาอยู่กับการแต่งกายพอสมควร แม้ชุดซามูไรจะทะมัดทะแมงในทัศนคติของผู้คนจากแดนลี้ลับ แต่สำหรับเด็กหนุ่ม ก็คิดว่ายังรุ่มร่ามอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นแขนเสื้อที่ยาวและกว้าง ขากางเกงที่บานออกมาเล็กน้อย ล้วนทำให้รู้สึกติดขัดในยามขยับ ถึงกระนั้น ก็ทำให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัวกว่าเสื้อคลุมยาวที่เคยสวมใส่ 

 

“ อืม...... ขยับได้ถนัดกว่าเดิม ” มาวินลองขยับแขน ขา พลางคิดว่าถ้าเขาชินกับมัน ก็คงจะไม่รู้สึกว่ารุ่มร่ามล่ะมั้ง  

 

“ เสร็จรึยัง ” อากิเนะร้องถาม 

 

“ เสร็จตั้งแต่ไก่โห่แล้ว หันกลับมาได้ ยัยกระต่ายน้อย ” มาวินตอบกลับแบบกวนๆ

         

 

       อากิเนะหันหลังกลับมา ทันทีที่เธอได้เห็นเด็กหนุ่มหัวเขียวในชุดซามูไรสีขาว เธอก็อุทานออกมาเบาๆ 

 

“ ว้าว...... มันเหมาะกับเธอมากกว่าที่คิดนะเนี่ย ”

 

“ อ้อ.....เหรอ คนมันหล่อ ใส่อะไรก็หล่อ ฮะๆ ” มาวินเริ่มหน้าแดง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา ใครบ้างจะไม่เขินเมื่อถูกสาวสวยเอ่ยชม 

 

“ ว่าแต่เธอใส่ได้พอดีมั้ย ” อากิเนะถามต่อ สายตาคู่งามส่องสำรวจ

 

“ อืม....... ก็เกือบจะพอดีนะ ช่วงแขนกับช่วงขายาวไปนิด ” มาวินมองตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ 

 

“ ก็เพราะเด็กคนนั้นตัวสูงน่ะซิ เธอเลยรู้สึกว่าแขนขามันยาวเกินไป ” อากิเนะพยักหน้ารับคำและกล่าวเนือยๆ สิ้นคำของเด็กสาว มาวินก็หันมาถามด้วยความสงสัย 

 

“ เดี๋ยวนะ ที่ว่าเด็กคนนั้นน่ะ เด็กคนไหน ชั้นงงไปหมดแล้ว ” 

          

 

        อากิเนะถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเริ่มอธิบายอย่างใจเย็น 

 

“ คืองี้ ชุดที่ใส่ในตอนนี้ มันเคยเป็นของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งมาจากโลกภายนอกเช่นเดียวกับเธอ เขาฝึกวิชาอยู่ที่นี่ได้ระยะหนึ่ง ก่อนจะจากไป ” 

 

“ จากไป เธอหมายความว่าเด็กนั่นสามารถผ่านด่านอสูรจอมโหดที่ชื่อซวยเยอะซวยน้อยได้น่ะหรือ ” มาวินร้องถามเสียงหลง เขาเริ่มมีความหวังที่จะออกจากดินแดนลี้ลับแห่งนี้ 

 

“ อสูรตนนั้นชื่อ "ซวงเย่" ทำไมเธอถึงจำไม่ได้ซักกะที ” อากิเนะเริ่มเคือง

 

“ เออ.....เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มาเข้าเรื่องเด็กคนนั้นก่อน เขาใช้เวลาฝึกอยู่นานมั้ย กว่าจะออกจากที่นี่ได้ ” มาวินเร่งถาม ภายในใจรู้สึกร้อนรน 

 

“ อืม...... ไม่รู้นะ ที่นี่ไม่นิยมนับวันเวลาซะด้วยสิ แต่ถ้าให้กะคร่าวๆ น่าจะใช้เวลาประมาณใบไม้ผลิซักสิบรอบล่ะมั้ง ” อากิเนะนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ

 

“ ในเวลาหนึ่งปี มีฤดูใบไม้ผลิหนึ่งครั้ง ถ้า 10 ครั้งก็เท่ากับ 10 ปีนี่หว่า นานบรรลัยเลย ชั้นรอนานขนาดนั้นไม่ได้ด้วย ” มาวินโวยดัง หลังรู้ความจริงว่า.....กว่าจะชนะซวงเย่ได้ เจ้าของชุดคนก่อนต้องใช้เวลาฝึกอยู่นานถึง 10 ปี 

 

“ เอ...... แค่ 10 ฤดูใบไม้ผลินี่ถือว่าไม่นานนะ ตรงกันข้าม เด็กคนนั้นเรียนรู้ได้เร็วมากต่างหาก เพราะนักสู้บางคนฝึกมาตั้ง 100 ฤดูใบไม้ผลิ ก็ยังไม่อาจเอาชนะซวงเย่ได้เลย ” อากิเนะตอบเรื่อยๆ คล้ายสิ่งที่พูดเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ

 

“ อะไรกัน ตั้ง 100 ฤดูใบไม้ผลิ นั่นมันเป็นเวลายาวนานถึง 100 ปีเลยนะ เธอบ้าไปแล้ว ยัยกระต่ายติ๊งต๊อง คนอายุ 100 กว่าปี มันต้องนอนเตียงหรือไม่ก็ลงหลุมสถานเดียว เพราะแก่เกินกว่าจะสู้กับใคร เฮ้อ......ไม่น่าถามเลย ” มาวินกุมขมับ เขาเครียดกับคำตอบที่หลุดโลก ทางด้านอากิเนะ เธอก็รู้สึกงงๆอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อไม่ให้การสนทนายืดยาวเกินควร จึงต้องกล่าวตัดบท

 

“ เอาล่ะ ในเมื่อเธอพร้อม ก็ออกไปประลองกับเคนจิได้แล้ว เจ้าหน้าลิง ” 

 

“ เชอะ ไม่ต้องรอให้คนติ๊งต๊องอย่างเธอมาบอกหรอก ยัยกระต่ายน้อยจอมเพี้ยน ” มาวินตอกกลับแบบแรงๆ ชนิดไม่มีใครยอมใคร 

       

 

       ทั้งสองจึงจบบทสนทนาด้วยการเชิดใส่กัน จากนั้นเด็กหนุ่มหัวเขียวก็ก้าวออกจากห้อง โดยมีเด็กสาวเดินตามมาติดๆ ใบหน้าสวยใสของเธอดูงองุ้มจนคล้ายม้าหมากรุก 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา