The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
125) รุ่มร่ามเกินไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com
มุมปากของเทพศาสตราเหมือนจะเลิกสูงขึ้นมาเล็กน้อยเป็นเชิงยิ้มเยาะ ปากก็ย้อนถามเสียงต่ำ
“ อ้าว..... ไหนเมื่อกี้ เจ้าบอกว่าพร้อมสู้ทุกคน ยกเว้นข้าและอากิเนะไง ผิดคำพูดนี่นา ”
“ เหอๆ ไม่ได้ผิดคำพูดหรอก เอาล่ะ ยอมสู้กับเจ้ากุ้งแห้งนี้ก็ได้ แต่ขอเวลาทำใจก่อนได้ปะ ลุงแกนดัล์ฟ ” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ
“ หึๆ งั้นเจ้าก็ใช้เวลาทำใจซะให้พอ พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะ เจ้าหนู ” เทพศาสตราหัวเราะออกมานิดๆ ดูท่าทางจะพอใจเด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทว่าหลานสาวคนสวยกลับไม่นิยม จึงตอกย้ำแรงๆ เพื่อประณามความปอดแหกของเจ้าลิงจอมซน
“ หนูว่าสำหรับเจ้าหน้าลิง เอ๊ะ มาวิน เราน่าจะให้เวลาเขาทำใจซัก 100 ปี ก็น่าจะพอนะคะ ท่านปู่ ”
“ อืม......... ” เทพศาสตราแสร้งทำเป็นคิด ก่อนจะอนุมัติ
“ ตกลงตามนั้น ข้าไม่ขัดข้อง ”
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก๊ากๆ ขำโว๊ย ฮะๆ "
สิ้นคำของเทพศาสตรา ทุกคนก็หัวเราะก๊ากออกมาพร้อมกันจนโรงฝึกแทบถล่ม เพราะสะใจมากที่เด็กหนุ่มจอมยโสต้องประสบกับการเสียหน้าอย่างรุนแรง ซึ่งถ้ามองในมุมของผู้เขียน ก็เห็นว่าสาสมแล้ว
“ หน็อย........ ” มาวินกัดฟันกรอดใหญ่ ใบหน้าเรียวเล็กแดงจัดด้วยความโกรธ อันเป็นเหตุให้เขาบันดาลโทสะ ด้วยการรับคำท้าแบบไม่ต้องคิด
“ เอ้า สู้ก็สู้ ไม่ต้องรอให้ครบร้อยปีหรอก ลุยมันตอนนี้เลย ”
เทพศาสตราซ่อนยิ้มอยู่ภายใน จากนั้นก็กล่าวทัดทาน
“ เดี๋ยวก่อน ไอ้หนู เจ้าจะสู้ด้วยเสื้อผ้าแบบนั้นเหรอ ข้าว่ามันรุ่มร่ามไปหน่อยนะ ”
มาวินก้มลงมองตัวเอง จึงพบว่าเขากำลังสวมใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่เทอะทะ มันดูรุ่มร่ามจริงๆ จึงเงยหน้าขึ้นมา พร้อมส่งยิ้มแห้งๆให้ เป็นนัยจะบอกว่า……ชั้นมีแค่ชุดนี้เท่านั้น
เทพศาสตราส่ายหัวไปมาเล็กน้อย พร้อมหันหน้ามาทาง….อากิเนะ หลานสาวแสนสวย
“ อากิเนะ เจ้าพาไอ้หนูไปห้องเก็บของ แล้วหาชุดฝึกให้เขาใส่ ”
ทันทีที่อากิเนะได้ยินคำสั่ง สีหน้าก็ฉายแววไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เหมือนเธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับเด็กหนุ่มหน้าลิง ส่วนโอคุยาสุก็เกิดอารมณ์หึงหวงปนอิจฉา ด้วยมาวินได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหญิงสาวที่เขาหมายปอง
แม้อากิเนะจะไม่ชอบ แต่เธอก็ไม่ปริปากบ่นและปฏิบัติตาม ด้วยเกรงใจเทพศาสตรา ผู้เป็นปู่
“ ตามชั้นมา เจ้าหน้าลิง ” อากิเนะกล่าวห้วนๆ จากนั้น เธอก็เดินนำไปที่ท้ายห้อง โดยมีเด็กหนุ่มหัวเขียวเดินตามอย่างว่าง่าย ทว่าใบหน้าเรียวเล็กกลับออกอาการเซ็งเล็กน้อย
“ เชอะ ดันหลวมตัวรับคำท้าประลองไปซะได้ ท่าทางเจ้ากุ้งแห้งนั่นน่าจะมีฝีมืออยู่พอตัว จะสู้ยังไงดีนะ ” มาวินขบคิดอยู่ในใจ พร้อมเดินตามเด็กสาวไปยังห้องเก็บของ
…………………..
ภายในห้องเก็บของขนาด 10 คูณ 10 เมตร มีลังไม้เก่าๆนับสิบ ชุดเกราะโทรมๆวางรอบห้อง ตรงมุมในสุด ปรากฏแท่นเก็บอาวุธประดับอยู่ แต่จุดที่อากิเนะให้ความสนใจคือล็อคเกอร์ไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงยาวตามแนวกำแพง แต่ละตู้ล้วนมีชื่อติดเกือบทั้งหมด ยกเว้นตู้สุดท้าย
“ เอ้า ชุดที่เธอต้องใส่อยู่ในนั้น ” อากิเนะชี้ไปที่ตู้สุดท้าย
“ อืม...... ” มาวินรับคำด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดี แต่เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเด็กสาว เพราะมัวแต่คิดหาวิธีการต่อสู้กับเจ้ากุ้งแห้ง
มาวินดึงตู้ออกมาช้าๆ สิ่งที่อยู่ในนั้นคือชุดซามูไรสีขาวที่ค่อนข้างเก่า แต่ก็สะอาดพอจะสวมใส่ เด็กหนุ่มหยิบมันขึ้นมา แล้วมองอากิเนะ
“ เอ้า มองทำไม เธอก็ใส่มันเข้าไปซิ ชั้นจะได้หมดหน้าที่ไวๆ ” อากิเนะโวยดัง
“ เหอๆ ก็อยากใส่อยู่หรอกนะ แต่เธอเล่นจ้องชั้นตาแป๋วอยู่แบบนั้น แล้วจะใส่เข้าไปได้ยังไงเล่า ยัยกระต่ายน้อยหน้าโง่ ” มาวินตอกกลับ สีหน้าดูกระอักกระอ่วน
อากิเนะสะดุ้งเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกตัวว่า…ตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงหันหลังกลับและโวยวายกลบเกลื่อน
“ เอ้า ชั้นหันหลังให้แล้ว รีบแต่งตัวซะ เธอนี่มันเรื่องมากจริงๆ ”
“ เฮ้อ......ตัวเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ ยังมาพาลใส่คนอื่นอีก ถ้าถึงทีเราเมื่อไหร่ จะแกล้งให้ร้องไห้หนักๆชนิดสามวันไม่เลิกรากันเลยทีเดียว ฮึ่ม..... ” มาวินส่ายหัวไปมา พร้อมเก็บซ่อนความแค้นไว้ภายใน
มาวินใช้เวลาอยู่กับการแต่งกายพอสมควร แม้ชุดซามูไรจะทะมัดทะแมงในทัศนคติของผู้คนจากแดนลี้ลับ แต่สำหรับเด็กหนุ่ม ก็คิดว่ายังรุ่มร่ามอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นแขนเสื้อที่ยาวและกว้าง ขากางเกงที่บานออกมาเล็กน้อย ล้วนทำให้รู้สึกติดขัดในยามขยับ ถึงกระนั้น ก็ทำให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัวกว่าเสื้อคลุมยาวที่เคยสวมใส่
“ อืม...... ขยับได้ถนัดกว่าเดิม ” มาวินลองขยับแขน ขา พลางคิดว่าถ้าเขาชินกับมัน ก็คงจะไม่รู้สึกว่ารุ่มร่ามล่ะมั้ง
“ เสร็จรึยัง ” อากิเนะร้องถาม
“ เสร็จตั้งแต่ไก่โห่แล้ว หันกลับมาได้ ยัยกระต่ายน้อย ” มาวินตอบกลับแบบกวนๆ
อากิเนะหันหลังกลับมา ทันทีที่เธอได้เห็นเด็กหนุ่มหัวเขียวในชุดซามูไรสีขาว เธอก็อุทานออกมาเบาๆ
“ ว้าว...... มันเหมาะกับเธอมากกว่าที่คิดนะเนี่ย ”
“ อ้อ.....เหรอ คนมันหล่อ ใส่อะไรก็หล่อ ฮะๆ ” มาวินเริ่มหน้าแดง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา ใครบ้างจะไม่เขินเมื่อถูกสาวสวยเอ่ยชม
“ ว่าแต่เธอใส่ได้พอดีมั้ย ” อากิเนะถามต่อ สายตาคู่งามส่องสำรวจ
“ อืม....... ก็เกือบจะพอดีนะ ช่วงแขนกับช่วงขายาวไปนิด ” มาวินมองตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ
“ ก็เพราะเด็กคนนั้นตัวสูงน่ะซิ เธอเลยรู้สึกว่าแขนขามันยาวเกินไป ” อากิเนะพยักหน้ารับคำและกล่าวเนือยๆ สิ้นคำของเด็กสาว มาวินก็หันมาถามด้วยความสงสัย
“ เดี๋ยวนะ ที่ว่าเด็กคนนั้นน่ะ เด็กคนไหน ชั้นงงไปหมดแล้ว ”
อากิเนะถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเริ่มอธิบายอย่างใจเย็น
“ คืองี้ ชุดที่ใส่ในตอนนี้ มันเคยเป็นของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งมาจากโลกภายนอกเช่นเดียวกับเธอ เขาฝึกวิชาอยู่ที่นี่ได้ระยะหนึ่ง ก่อนจะจากไป ”
“ จากไป เธอหมายความว่าเด็กนั่นสามารถผ่านด่านอสูรจอมโหดที่ชื่อซวยเยอะซวยน้อยได้น่ะหรือ ” มาวินร้องถามเสียงหลง เขาเริ่มมีความหวังที่จะออกจากดินแดนลี้ลับแห่งนี้
“ อสูรตนนั้นชื่อ "ซวงเย่" ทำไมเธอถึงจำไม่ได้ซักกะที ” อากิเนะเริ่มเคือง
“ เออ.....เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มาเข้าเรื่องเด็กคนนั้นก่อน เขาใช้เวลาฝึกอยู่นานมั้ย กว่าจะออกจากที่นี่ได้ ” มาวินเร่งถาม ภายในใจรู้สึกร้อนรน
“ อืม...... ไม่รู้นะ ที่นี่ไม่นิยมนับวันเวลาซะด้วยสิ แต่ถ้าให้กะคร่าวๆ น่าจะใช้เวลาประมาณใบไม้ผลิซักสิบรอบล่ะมั้ง ” อากิเนะนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ
“ ในเวลาหนึ่งปี มีฤดูใบไม้ผลิหนึ่งครั้ง ถ้า 10 ครั้งก็เท่ากับ 10 ปีนี่หว่า นานบรรลัยเลย ชั้นรอนานขนาดนั้นไม่ได้ด้วย ” มาวินโวยดัง หลังรู้ความจริงว่า.....กว่าจะชนะซวงเย่ได้ เจ้าของชุดคนก่อนต้องใช้เวลาฝึกอยู่นานถึง 10 ปี
“ เอ...... แค่ 10 ฤดูใบไม้ผลินี่ถือว่าไม่นานนะ ตรงกันข้าม เด็กคนนั้นเรียนรู้ได้เร็วมากต่างหาก เพราะนักสู้บางคนฝึกมาตั้ง 100 ฤดูใบไม้ผลิ ก็ยังไม่อาจเอาชนะซวงเย่ได้เลย ” อากิเนะตอบเรื่อยๆ คล้ายสิ่งที่พูดเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ
“ อะไรกัน ตั้ง 100 ฤดูใบไม้ผลิ นั่นมันเป็นเวลายาวนานถึง 100 ปีเลยนะ เธอบ้าไปแล้ว ยัยกระต่ายติ๊งต๊อง คนอายุ 100 กว่าปี มันต้องนอนเตียงหรือไม่ก็ลงหลุมสถานเดียว เพราะแก่เกินกว่าจะสู้กับใคร เฮ้อ......ไม่น่าถามเลย ” มาวินกุมขมับ เขาเครียดกับคำตอบที่หลุดโลก ทางด้านอากิเนะ เธอก็รู้สึกงงๆอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อไม่ให้การสนทนายืดยาวเกินควร จึงต้องกล่าวตัดบท
“ เอาล่ะ ในเมื่อเธอพร้อม ก็ออกไปประลองกับเคนจิได้แล้ว เจ้าหน้าลิง ”
“ เชอะ ไม่ต้องรอให้คนติ๊งต๊องอย่างเธอมาบอกหรอก ยัยกระต่ายน้อยจอมเพี้ยน ” มาวินตอกกลับแบบแรงๆ ชนิดไม่มีใครยอมใคร
ทั้งสองจึงจบบทสนทนาด้วยการเชิดใส่กัน จากนั้นเด็กหนุ่มหัวเขียวก็ก้าวออกจากห้อง โดยมีเด็กสาวเดินตามมาติดๆ ใบหน้าสวยใสของเธอดูงองุ้มจนคล้ายม้าหมากรุก
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ