The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
122) แฟรี่ตัวน้อยกับสองหนุ่มสาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com
เช้าวันใหม่ก่อกำเนิด พร้อมแสงอรุณรุ่งที่สาดส่องไปทั่วแดนดิน สถานที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยบ้านไม้ชั้นเดียวจำนวนหลายสิบหลัง พื้นที่ส่วนใหญ่อุดมไปด้วยหมู่พฤกษา ใจกลางเป็นที่ตั้งของเรือนขนาดใหญ่อันเป็นเคหสถานของ…..เทพศาสตรา ผู้ครองนครลี้ลับ
..........................
ณ.ห้องๆหนึ่งในเรือนไม้ขนาดใหญ่ ที่พื้นปูเสื่อสาน ส่วนกำแพงทั้งสี่ด้านถูกปิดล้อมด้วยฉากกั้น เครื่องเรือนออกแบบมาในสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งดูเรียบง่าย แต่ที่น่าจับตามองที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นฟูกนิ่มที่สถิตอยู่กลางห้อง บนนั้นปรากฏเด็กหนุ่มนายหนึ่ง เขานอนเอกเขนกอยู่ตรงขอบอย่างหมิ่นเหม่ ส่วนผ้าห่มและหมอนกระจัดกระจายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
หนุ่มผู้นี้มีรูปร่างเล็กบาง ใบหน้าอ่อนเยาว์คล้ายเด็กน้อย ผมสีเขียวสดบนหัวดูยุ่งเหยิง ดวงตาเรียวยังคงปิดพริ้ม ริมฝีปากบางอ้ากว้างและมีน้ำลายไหลย้อยออกมาเป็นระยะ แถมยังกรนค่อนข้างดัง แน่นอน หมอนี่ก็คือ.....มาวิน
“ คร่อก........ ”
ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังหลับอย่างสบายอารมณ์ ประตูห้องก็ถูกเลื่อนออก พร้อมการปรากฏกายของเด็กสาวนางหนึ่ง เธอมีนามว่า....อากิเนะ
ทันทีที่เด็กสาวเห็นการนอนที่ไร้มารยาทของมาวิน ร่างเพรียวบางในชุดกิโมโนสีชมพูก็เริ่มสั่นเล็กน้อย คิ้วดกดำขมวดนิ่ว ครู่หนึ่ง เธอก็เปิดปากบ่น เพื่อระบายความไม่พอใจ
“ นี่มันเจ็ดโมงเช้าแล้วนะ ทำไมตาหน้าลิงถึงยังไม่ตื่น เป็นแบบนี้มาสามวันติด ” สาวน้อยบ่นด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง เพื่อหวังให้เด็กหนุ่มหัวเขียวตกใจตื่น ทว่าสิ่งที่ทำ กลับไม่เกิดผล เขายังคงหลับอย่างสบายอารมณ์ อันที่จริงดูเหมือนจะกรนหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
“ คร่อก.......... ”
เด็กสาวยืนตัวสั่นเทา ใจรู้สึกหงุดหงิดที่โดนท่านปู่ใช้ให้มาปลุกมาวินถึงสามวันติด และทุกคราว ก็ต้องวนมาผจญกับเหตุการณ์เดิมๆ สิ่งนี้ทำให้เธอตัดสินใจใช้วิธีปลุกแบบพิเศษ
“ ไม่ยอมตื่นใช่มั้ย ตาหน้าลิง ” เด็กสาวกัดฟันกรอดใหญ่ ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมเอ่ยวาจา
“ อัญเชิญภูตในอาณัติของข้า ”
สิ้นเสียงของเด็กสาวหน้าสวย มือบางก็เริ่มเปล่งแสง เธอกางฝ่ามือลงบนพื้นห้อง ทันใดนั้นเอง ก็บังเกิดวงแหวนเวทย์สีขาว รอบนอกปรากฏอักขระที่อ่านไม่ออก พร้อมเสียงเล็กแหลมที่ดังสะท้านไปทั่วบริเวณ
“ วิ้ง........ ”
วงแหวนเวทย์เปล่งประกายแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด มันก็สาดสว่างไปทั่วห้องจนดูคล้ายพระอาทิตย์ดวงที่สอง
“ วิ้ง........ ”
หลังจากแสงนั้นจางหายไป สิ่งที่ปรากฏในกาลต่อมาก็คือ……สิ่งมีชีวิตขนาดเท่ากับฝ่ามือที่ลอยตัวอยู่เบื้องหน้า หรือเรียกอีกอย่างว่า.....แฟรี่
แฟรี่ตนนั้นมีรูปกายคล้ายเด็กสาวแรกรุ่น ใบหน้ากลม ดวงตาโต ผมดำขลับยาวสลวยถึงกลางหลัง ร่างเล็กบางสวมใส่อาภรณ์ที่ทำมาจากใบไม้ เมื่อหันมาเห็นอากิเนะ เธอก็ร้องทักด้วยเสียงที่หวานใส
“ สวัสดี อากิเนะ เรียกชั้นมา มีอะไรให้รับใช้หรือจ๊ะ ”
“ แหม อย่าเรียกว่ารับใช้เลยดีกว่าจ้ะ ใช้คำว่าไหว้วานดีกว่านะ มิกะ ” อากิเนะยิ้มสดใส
แฟรี่น้อยผู้มีนามว่า "มิกะ" ไม่เอ่ยคำใด เธอเหลียวมองรอบตัว ซักพักก็หันมาถาม
“ อากิเนะจะให้ชั้นปลุกเจ้าหนูคนนั้นอีกแล้วเหรอ ”
“ ใช่จ้ะ เอาให้หนักเลยนะ มิกะ ” อากิเนะตอบยิ้มๆ แต่คราวนี้ รอยยิ้มนั้นกลับออกแนวดุดัน ไม่หวานใสเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“ เฮ้อ....... ก็ได้ ” มิกะส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงระอา ดูเหมือนเธอไม่อยากยุ่งเรื่องเด็กทะเลาะกันซักเท่าไหร่
พอมิกะเริ่มทำใจได้ ภูตน้อยก็บินวนรอบตัวของเด็กหนุ่ม แรกเริ่มเธอลอยตัวอย่างเชื่องช้า ไม่นาน ก็เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนแทบมองไม่เห็น สุดท้ายก็กลายเป็นพายุหมุนขนาดจิ๋ว
ทันใดนั้นเอง ได้บังเกิดละอองแสงเล็กๆแผ่ซ่านออกมาจากพายุหมุนอย่างต่อเนื่อง ไม่กี่อึดใจ มันก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของมาวิน
ทันทีที่ละอองแสงกระทบผิวหนัง ตุ่มแดงเม็ดเล็กๆก็ผุดขึ้นมา พร้อมอาการแสบคันอย่างรุนแรงจนเด็กหนุ่มต้องยกมือขึ้นมาเกา
“ อู้ย......คันชะมัด มดกัดรึไงเนี่ย ” เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆ พร้อมเกาต่อไป แรกเริ่มก็คันแค่แห่งเดียว ต่อมา อาการดังกล่าวก็ขยายขอบเขตไปยังจุดอื่น สุดท้ายก็ลามไปทั่วทั้งตัว
“ โอ๊ย...... คัน มดร้อยฝูงมารุมกัดชั้นรึไงเนี่ย อู้ย....... ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นกระโดดโลดเต้น พร้อมเกาไปทั่วกายด้วยรู้สึกคันคะเยออย่างรุนแรง
“ เจ้าหนูหัวเขียวตื่นแล้วนะ อากิเนะ ” แฟรี่ร่างเล็กบินกลับมาบอกเด็กสาว
“ ขอบใจมากจ้ะ มิกะ แล้วเจอกันนะ ” อากิเนะยิ้มรับ เธอดูสะใจมาก
“ จ้ะ แล้วเจอกัน ลาล่ะนะ ” แฟรี่ตัวน้อยยกมือขึ้นบ๊ายบาย ครู่หนึ่งร่างนั้นก็ค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงละอองแสงเล็กๆที่ลอยอยู่กลางอากาศ
เมื่อทุกอย่างสงบลง อากิเนะก็หันไปมองมาวินที่บัดนี้ยืนหน้าบูดบึ้ง ทั่วทั้งกายล้วนเต็มไปด้วยตุ่มแดงเม็ดเล็กๆ
“ อ้าว......ตื่นได้แล้วเหรอ ตาหน้าลิง ฮิๆ ” อากิเนะร้องทักเสียงใส พร้อมปิดปากหัวเราะเบาๆด้วยความขบขัน
“ เออ.....ตื่นแล้วสิ ยัยกระต่ายน้อยจอมแสบ ใจคอ เธอจะปล่อยยัยจิ๋วมีปีกมาเล่นงานชั้นทุกเช้าเลยรึไง ” เด็กหนุ่มหัวเขียวเริ่มโวย
“ ก็เธอดันนอนขี้เซา ไม่ยอมตื่นเองนี่นา อีกอย่างชั้นชื่อ อากิเนะ ไม่ได้ชื่อ "ยัยกระต่ายน้อย" เข้าใจมั้ย ตาหน้าลิง ” อากิเนะเถียงกลับด้วยท่าทางที่ดูงอนเล็กน้อย
“ ก็แล้วทำไม เธอไม่เรียกชื่อชั้นให้ถูกก่อนเล่า ไหนลองดิ ท่านมาวินขา..... หนูผิดไปแล้วค่ะ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวไม่ยอมลดราวาศอก แถมยังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทำเอาอากิเนะเริ่มโกรธจัดจนยกมือขวาที่เปล่งแสงขึ้นมาขู่
“ เธออยากหัวเราะไม่หยุดอีกรอบรึไง ตาหน้าลิง ”
ทันทีที่ได้ยินคำนี้ ใบหน้าเรียวเล็กของมาวินก็เริ่มซีดเซียว ท่าทีดูอ่อนน้อมลง ทว่าปากยังแอบสบถ
“ ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงทีชั้นบ้าง จะแกล้งให้ร้องไห้โฮเลยทีเดียว ฮึ่ม...... ”
อากิเนะพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้สงบลง จากนั้น เธอก็สั่งห้วนๆ
“ นั่งลง ชั้นจะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เธอ ”
มาวินนั่งลงอย่างว่าง่าย แต่ก็แอบกระแทกกายนิดๆเป็นเชิงขัดเคือง ถึงกระนั้น อากิเนะก็ไม่มีท่าทีจะสนใจ เธอก้มลงนั่งพับเพียบ
อากิเนะเปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างละเมียดละไม ภายในใจของเด็กสาวจะเป็นยังไง ไม่อาจทราบได้ แต่ในใจของมาวินกลับเต้นระรัวเป็นกลองเพล เนื่องจากฝ่ามือที่ลูบไล้ร่างกายนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่น ที่ร้ายกาจสุดคือกลิ่นกายที่หอมหวน
“ เมื่อไหร่จะจบซักทีนะ ” มาวินนึกภาวนาอยู่ในใจ เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดไปทั่วใบหน้าและเรือนร่าง ทั้งที่อากาศในยามนี้กำลังเย็นสบาย
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ