The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
121) เทพศาสตรา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpapercave.com
บรรยากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยความตึงเครียด เพราะบทสนทนาที่ผ่านมาค่อนข้างจะหนักหน่วง แต่นั่นไม่ทำให้ชายชราผู้เงียบขรึมยอมถอย เขาเริ่มติดตามผลงาน
“ ตกลง เจ้าพอจะจำได้มั้ย ก่อนที่จะบาดเจ็บสาหัส ได้ทำความดีอะไร ”
“ อืม...... คำถามนี้ยากนะ การทำความดี มันคืออะไร ” มาวินนั่งงง ดูเหมือนว่าเขาจะเลิกสนใจอากิเนะไปแล้ว เพราะกำลังหมกมุ่นอยู่กับการขบคิดอย่างหนัก ส่วนเด็กสาวผู้ถูกขนานนามว่า "กระต่ายน้อย" เธอได้แต่ทำหน้ายู่ๆ พร้อมนึกดูแคลนเด็กหนุ่มอยู่ในใจ
“ เชอะ อย่างอีตาหน้าลิงน่ะเหรอจะทำความดี นอกจากยียวน กวนประสาทคนอื่น คงจะทำอะไรไม่เป็นแน่ๆ ”
มาวินไตร่ตรองอยู่นานสองนาน ทำให้คอเรียวเล็กเอียงขวาจนแทบหัก ใบหน้าขมวดนิ่วสลับยู่ยี่ อึดใจต่อมา ดวงตาก็เลิกสูงขึ้นเล็กน้อย เป็นนัยว่าน่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้
“ ว่าไง เด็กน้อย คิดออกรึยัง ” ชายชราผู้เงียบขรึมเอ่ยถาม
“ ใช่ คิดออกแล้ว จริงๆแล้ว ลุงก็คือ…..เจมส์ บอร์น 007 เวอร์ชั่นคนญี่ปุ่นใช่มั้ย เพราะลุงโคตรจะนิ่งเลย ส่วนยัยบ๋องแบ๋วที่อยู่ตรงนั้นนั่นน่าจะเป็น……ตุ๊กตาไขลานของญี่ปุ่น ชัวร์ ชั้นมั่นใจ ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ” มาวินฟันธง ท่าทางจริงจัง
อากิเนะถึงกับตัวสั่นด้วยความโกรธ แม้เธอไม่เข้าใจคำพูดเพ้อเจ้อของมาวิน แต่ก็เชื่อว่าทุกเรื่องที่กล่าวมาน่าจะไร้สาระร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงกระนั้น เธอก็ทำได้แค่ส่งสายตาอาฆาตระดับพรีเมี่ยมให้กับเด็กหนุ่ม
ชายชรายังคงนิ่งเงียบ สีหน้าเรียบเฉยดุจเดิม ไม่มีอารมณ์ใดๆปรากฏออกมา สิ่งนี้ทำให้มาวินถึงกับจ๋องลงไปถนัดตา ปากก็เอ่ยถามคู่สนทนาเสียงละห้อย
“ ถามจริงเถอะ มุกนี้ไม่ฮากันเลยเหรอ ”
ชายชราผมขาวดูไม่สนใจเรื่องไร้สาระของมาวิน เขาจึงเอ่ยถามเด็กหนุ่มหัวเขียวอีกครั้งด้วยท่าทางที่ดูจริงจัง
“ ตกลง เจ้าจะบอกข้าได้รึยังว่า…..ก่อนบาดเจ็บสาหัส ได้ทำความดีอะไร ”
“ เหอๆ ก็มันนึกไม่ออกนี่ ลุง เอ๊ะ แต่จะว่าไป…..” มาวินเอนกายไปข้างหลังนิดหนึ่ง จากนั้นก็เหยียดสองขาออกไปอย่างไร้มารยาท
“ ว่าอะไร ” ชายชราถามกลับทันที แม้สีหน้ายังคงนิ่งเฉย แต่ในใจน่าจะร้อนรนอยู่ไม่น้อย
“ ว่าไปแล้ว ลุงก็เหมือนก็อดฟาเธอร์ มาเฟียอิตาลี บุคลิกนี้ใช่เลย ฮ่าๆ ” มาวินหัวเราะร่า ใบหน้าฉายแววทะเล้นตามวิสัยของลิงซนๆ
ถึงจุดนี้ อากิเนะไม่ทนอีกต่อไป เพราะเด็กหนุ่มหน้าลิงได้ล่วงเกินท่านปู่ที่เธอเคารพรักถึงหลายครั้ง พอยกมือขวาที่เปล่งแสงขึ้นมา มาวินก็ลอยละลิ่วไปกระแทกกับฉากกั้นห้อง
“ โครม ”
อากิเนะได้แต่นั่งงง เพราะเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วเด็กหนุ่มปากเสียลอยไปได้ยังไง แต่เมื่อหันไปมองเทพศาสตรา เพื่อขอคำตอบ ก็พบว่านั่นคือฝีมือของ……ท่านปู่
“ ว้าว....... แม้กระทั่งท่านปู่ที่ใจเย็นยังทนไม่ได้เลย สมน้ำหน้า ดีมาก เอาอีก เอาให้หนัก หึๆ ” อากิเนะนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ แต่ภายนอก ยังแสร้งสงบ เพื่อรักษามารยาท
มาวินค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ปากก็ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“ อู้ย...... เจ็บชะมัด ทำไมจู่ๆเราถึงลอยมากระแทกฉากกั้นได้ แปลกมาก ”
เมื่อมาวินลุกขึ้นนั่งเป็นที่เรียบร้อย เขาก็สะบัดศีรษะไปมา เพื่อขับไล่ความมึนงง ขณะที่กำลังจัดการตัวเอง หูก็ได้ยินคำถามเรียบๆของชายชรา
“ ตกลง ก่อนบาดเจ็บสาหัส เจ้าได้ทำความดีอะไร รีบบอกมา ถ้าไม่อยากลอยแบบเมื่อกี้ ”
ทันทีที่ได้ยิน มาวินก็รู้สึกฉุนกึก เพราะแค่นี้ เขาก็รู้แล้วว่าเหตุประหลาดเมื่อครู่คือฝีมือของใคร เด็กหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมา เพื่อเตรียมตวาดด่าให้สมแค้น แต่ก่อนจะได้แผลงฤทธิ์ ก็ประสบกับประกายตาที่นิ่งขรึมและลึกล้ำของชายชรา สิ่งนั้นสะกดให้ลิงจอมซนนิ่งเงียบไปโดยปริยาย
“ อะไรน่ะ ประกายตานั่นดูน่ากลัวและลึกลับจนเราพูดไม่ออกเลยแฮะ ” มาวินนึกหวาดอยู่ในใจ มือเท้าเริ่มสั่นเทาอย่างไร้เหตุผล
“ พูดมา ถ้าชักช้า เจ้าได้ลอยอีกรอบแน่ ” ชายชราข่มขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ใจจริงแล้ว มาวินไม่อยากกวนประสาทสองปู่หลานหฤโหดคู่นี้เลย แต่ไม่ว่าพยายามยังไง เขาก็นึกไม่ออกจริงๆว่าได้ทำความดีอะไร จึงแกล้งบ้ากลบเกลื่อน แต่พอเค้นสมองอยู่ซักพัก ก็เริ่มเห็นคำตอบ
“ เดี๋ยวนะ เริ่มจำได้แล้ว….”
ชายชราผู้เงียบขรึมเลิกคิ้วสูงขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนอากิเนะก็เงี่ยหูฟังในสิ่งที่เด็กหนุ่มกำลังจะพูด
“ ก่อนที่ชั้นกับเจ้าคองจะตกเขา เราได้ต่อสู้กันตัวต่อตัว ”
ความเงียบกลับมาเกาะกินบรรยากาศโดยรวมอีกครั้ง แต่มันเป็นแบบนี้ได้ไม่นาน ชายชราก็เริ่มวิเคราะห์
“ ฟังจากที่เล่า ดูเหมือนว่ามอนสเตอร์ที่สู้ด้วยน่าจะเป็น…..คองโกล่า ลิงยักษ์หนังเหล็ก พิจารณาจากพลังและฝีมือ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวได้ มีพรรคพวกที่ร่วมสู้มั้ย ”
คำพูดของชายชรา สร้างความไม่พอใจให้กับมาวินอย่างมากมายจนใบหน้าเรียวเล็กเริ่มขมวดนิ่ว แต่ด้วยความหวาดกลัวในบุคลิกภาพและพลังประหลาด เด็กหนุ่มจึงไม่กล้าตอบโต้ อีกประการ เรื่องที่เขาสู้กับคองโกล่าด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ มันก็เป็นความจริง ลิงจอมซนจึงตอบคำถามนี้เบาๆ ท่าทางเกร็ง
“ ใช่ ชั้นมีเพื่อนร่วมต่อสู้อีกสองคน ”
“ แล้วทำไม…..เจ้าถึงออกมาดวลตัวต่อตัว เพื่อนอีกสองคนไปไหน ” ชายชราถามต่อ
มาวินนิ่งอึ้ง เขานึกตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ พวกเราทั้งสามคนร่วมมือกันต่อสู้ในยกแรก แต่เจ้าคองนั่น ร้ายกาจมากจนหมดหนทางจัดการกับมัน เพื่อนทั้งสองล้วนหมดเรี่ยวแรงและบาดเจ็บ ชั้นจึง…..ต้องทำอะไรบางอย่าง ”
“ ทำอะไร ” ดวงตาที่ล้ำลึกของชายชราจ้องมองมาที่มาวิน
ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับมาวิน เด็กหนุ่มจึงกล้าสบตา ประกายบนจักษุนั้นดูห้าวหาญและสุกใส ราวกับพยัคฆ์หนุ่ม มังกรเยาว์ จากนั้นก็ตอบกลับด้วยเสียงที่ดังกังวานจนทำให้อากิเนะตกตะลึงกับท่าทีที่เปลี่ยนไป
“ ชั้นหลอกล่อให้เจ้าคองตกเขา เลยทำให้ชั้นต้องตกเขาไปด้วย ”
“ เจ้าทำแบบนั้น เพื่ออะไร ” ชายชราซักต่อ
“ ชั้นไม่อยากให้พวกนั้นตาย มันต้องมีใครซักคนเสี่ยง เพื่อให้คนที่เหลือรอด ” มาวินตอบกลับแบบไม่ต้องคิด กิริยาท่าทางที่ห้าวหาญของเด็กหนุ่ม ทำให้อากิเนะรู้สึกทึ่ง
“ เจ้าหน้าลิงทำอะไรแบบนั้นได้ด้วยเหรอ เหลือเชื่อ ”
เทพศาสตรายังคงมองหน้าเด็กหนุ่ม สายตาคู่นั้นดูเคร่งขรึมและจริงจังอย่างยิ่งยวด ไม่ว่าผู้กล้าที่เหี้ยมหาญปานใดก็ไม่อาจทานทน แต่ไม่ใช่กับมาวิน เขายังคงประสานตาอย่างไม่กลัวเกรง ทันใดนั้นเอง สีหน้าของชายชราก็ผ่อนคลายลง
“ ข้าเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด และเข้าใจแล้วว่า.....ก่อนที่เจ้าจะบาดเจ็บสาหัส ได้ทำความดีอะไร ” ชายชราสรุปสั้นๆ ดูเหมือนจะมีรอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าอันเหี่ยวย่น
“ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ลุงรู้เรื่องอยู่คนเดียว ชั้นไม่เห็นเข้าใจอะไรเลย ” มาวินเริ่มกลับมาโวยวายเช่นกัน ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ที่ห้าวหาญแบบสิงห์หนุ่ม พยัคฆ์คะนองเมื่อครู่ จะเป็นเพียงเปลือกบางๆที่โผล่ให้เห็นเป็นครั้งคราว
ชายชราผู้เงียบขรึมไม่ตอบกลับแต่ประการใด เขาลุกขึ้นยืน พร้อมเดินไปที่ประตู ทว่าก่อนที่จะก้าวออกจากห้อง ได้หันกลับมากล่าวกับเด็กหนุ่มหัวเขียว
“ ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนลี้ลับ ข้ามีสมญานามว่า……เทพศาสตรา ตอนนี้เจ้าเป็นอาคันตุกะของข้าแล้ว ”
“ โห...... สมญานามของลุงโคตรเท่เลย ” มาวินร้องเหวอ ครู่หนึ่ง เขาก็สะดุ้งสุดตัว ดวงตาเบิกโพลงด้วยอาการตกใจอย่างรุนแรง
“ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ลุงบอกว่าตัวเองคือ….เทพศาสตรา ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานที่สำเร็จวิชาอาวุธขั้นสุดยอดทุกประเภท แบบนี้ ลุงก็เป็นอาจารย์ของเจ้าโจจี้น่ะสิ ”
ชายชราผู้มีสมญานามว่า…เทพศาสตราไม่สนใจคำพูดอันไร้แก่นสารของมาวิน เขาหันไปสั่งหลานสาวคนสวยที่นั่งอยู่ไม่ห่าง
“ ในระหว่างนี้ ข้าจะให้ อากิเนะ เป็นผู้ดูแลเจ้า ”
สิ้นคำสั่งของเทพศาสตรา สองหนุ่มสาวก็หน้าตื่นและร้องอุทานออกมาพร้อมกัน
“ ฮ้า.......... ไม่จริงน่า ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ