The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) จุดผกผัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://pixabay.com
ฝูงสไลม์กระโดดโลดเต้นไปมาด้วยความโกรธแค้น ดวงตาของพวกมันเปล่งประกายอำมหิต เด็กหนุ่มได้แต่ยืนนิ่ง หัวใจเต้นระทึกคึกโครมราวกับมีกลองเพลซ่อนอยู่ข้างใน
" เฮ้ ชั้นรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิด ชั้นไม่น่าไปเหยียบลูกพี่ของพวกนายจนเละเลย แต่คนเราต้องรู้จักปล่อยวาง เอางี้มั้ยชั้นจะสำนึกผิดด้วยการไม่กินเยลลี่เหลวเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม " มาวินขอสงบศึก ในใจนึกสงสัยว่าสไลม์พวกนี้จะเข้าใจภาษามนุษย์หรือเปล่า
สถานการณ์ไม่ดีขึ้นมาเลย เหล่าสไลม์คลั่งหนักกว่าเดิม พวกมันกระโดดไปกระโดดมา หลายตัวเริ่มกระโดดเข้ามาใกล้มาวิน เลยทำให้เด็กหนุ่มต้องถอยออกมาตั้งหลัก สองมือยกขึ้นตั้งการ์ด
" หน็อย....... มันจะดูถูก มาวิน เซียนเกมแห่งแบงค็อกเกินไปแล้ว ไอ้พวกขนมหวานอย่างพวกแกต้องเจอท่าไม้ตายสูงสุดของชั้น " มาวินตวาดลั่น เมื่อพิจารณาจากท่าทางขึงขัง บอกได้เลยว่างานนี้….นองเลือดแน่
" จี้ด จี้ด จี้ด…… " เหล่าสไลม์เริ่มถอยหลังไปเล็กน้อย เพราะเกรงท่าทีจริงจังของเด็กหนุ่ม
" เอาล่ะนะ 1 2 3 ท่าไม้ตายพิเศษ พยัคฆ์ร้ายทะยานดง " มาวินกู่ก้องร้องตะโกน ด้วยเสียงอันดัง ทำให้เหล่าสไลม์บางตัวที่กำลังใจไม่ดีถึงกลับเผ่นหนี บางตัวที่กล้าหน่อยก็แค่ถอยหลัง หรี่ตาลงด้วยความหวาดเสียว
สไลม์รองหัวหน้าที่หยัดยืนอยู่ไม่ห่าง ก็หรี่ตาลงเช่นกัน กายเหลวคล้ายเยลลี่ใสเกร็งเล็กน้อย เพื่อรอรับแรงโจมตีที่คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดกัมปนาทหรือไม่ก็แสงทำลายล้าง ทว่าในความเป็นจริงกลับปรากฏแต่ความเงียบงันและสายลมเย็น
สไลม์รองหัวหน้าตัดสินใจที่จะมองแบบเต็มตา สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือ..........หลังไวๆของมาวินซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 30 เมตร นั่นก็แปลว่าเด็กหนุ่มจอมกวนได้ทำการใส่ตีนหมาเผ่นหนีกลุ่มมอนสเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว
" จี้ด จี้ด จี้ด…… " สไลม์รองหัวหน้าถึงกับโกรธจัด การหลอกลวงด้วยอุบายง่าวๆแบบนี้ เป็นการหยามหมิ่นอย่างรุนแรง มันจึงตะโกนสั่งลูกน้องในสังกัด พร้อมวิ่งไล่ตามเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มหันกลับมามอง เขาตกใจสุดขีด เพราะกลุ่มสไลม์ได้ไล่จี้มาติดๆ
" เฮ้ย พวกมันวิ่งเร็วขนาดนี้เลยหรือ ไม่ได้การ ต้องเร่งสปีด " เด็กหนุ่มคิดในใจ พลางเร่งฝีเท้าของตน
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายได้พุ่งทะยานไปข้างหน้า กะความเร็วคร่าวๆ น่าจะใกล้เคียงกับตอนที่ใช้สเก็ตบอร์ด เขานึกแปลกใจ
" บ้าน่า นี่เราวิ่งเร็วขนาดนี้เลยหรือ เหลือเชื่อแฮะ " เด็กหนุ่มวิ่งไปยิ้มไป ในใจนึกปลาบปลื้มความสามารถของตัวเอง
ด้วยความเร็วที่แตกต่าง เลยทำให้เด็กหนุ่มสลัดหลุด หลังจากหนีรอดมาได้ เขาก็ล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้า ทรวงอกสะท้านขึ้นลง เพราะกำลังเหนื่อยหอบ
" แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…. ไอ้ตัวเล็กกลุ่มนั้น มันก็โหดไม่ใช่ย่อยนะ ตัวต่อตัวก็พอสู้ได้ แต่ถ้ามาเป็นฝูง เราไม่ไหวแน่ ทำยังไงดีนา ถึงจะชนะพวกมันได้ เรามีแผนที่จะเอาเงินไปเซ้งร้านบะหมี่ของอาแป๊ะนั่นซะด้วย " มาวินหอบไปคิดไป ดวงตาเล็กหยีแหงนมองท้องฟ้ายามบ่ายแก่ๆ
มาวินมองท้องฟ้า สมองพยายามขบคิด ไม่นาน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏบนใบหน้า
" ดีล่ะ ใช้วิธีนี้ดีกว่า "
………………………………………………
ที่ชายป่าอันเป็นแหล่งมั่วสุมของเหล่ามอนสเตอร์ซึ่งมีหน้าตาคล้ายเยลลี่ กลุ่มสไลม์จอมโหดยังเดินเพ่นพ่านไปมา ว่ากันตามจริง พวกมันมีจำนวนมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ นับคร่าวๆน่าจะถึง 30 ตัว สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะยามนี้ได้ล่วงเข้าสู่บ่ายแก่ๆ อันเป็นเวลาที่เหล่ามอนสเตอร์ออกมาหากิน
รอบนอกสุดได้มีสไลม์หนุ่มสาวคู่หนึ่งแอบมาจู๋จี๋กันสองต่อสอง ขณะที่ความรักเริ่มสุกงอมจนทั้งคู่กำลังจะมอบจุมพิตให้แก่กัน ทันใดนั้นเอง ก้อนหินหนักราวๆ 5 กิโลกรัม ได้ลอยเข้าหาคู่หนุ่มสาวมาแต่ไกล
" แป็ด "
ก้อนหินดังกล่าวทับสไลม์ที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวเมีย ด้วยความหนัก ส่งผลให้มันตายคาที่ พร้อมกลายสภาพเป็นเยลลี่เหลวตามระเบียบ
" จี้ด จี้ด จี้ด……. " สไลม์ตัวผู้ร้องคำราม ท่าทางเกรี้ยวกราด อารมณ์ของมันดูจะตกใจผสมเสียดาย
ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มร่างเล็กก็โผล่ออกมาจากหินก้อนใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่าง ไม่ต้องเดาก็รู้เขาคือ "มาวิน"
" ไฮ่...... หวาดดี พ่อสไลม์คาสโนว่า หินเมื่อครู่เป็นฝีมือของชั้นเอง ปาแม่นมั้ย " เด็กหนุ่มร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนกวนโมโห
" จี้ด จี้ด จี้ด…… " สไลม์ตัวนั้นโกรธจัด มันวิ่งไล่เด็กหนุ่มราววัวบ้า
มาวินใส่เกียร์หมา พร้อมวิ่งหนี แต่ครั้งนี้เขาผ่อนแรงลง จุดประสงค์เพื่อหลอกล่อให้สไลม์ไล่ทัน พอจ้ำได้ชั่วครู่ ก็หยุดฝีเท้า แล้วหันกลับมาประจันหน้า
" เอาล่ะ ล่อมาถึงลานกว้าง เพียงเท่านี้ก็เหลือแค่ชั้นกับนาย ตัวต่อตัว "
" จี้ด จี้ด จี้ด…… " สไลม์คาสโนว่าร้องดัง พร้อมเปิดฉากโจมตีด้วยการพุ่งชน
คราวนี้มาวินหลบการโจมตีได้ไม่ยาก เพราะรู้ซึ้งถึงสเต็ปการต่อสู้ที่เรียบง่ายของอีกฝั่ง พอเอี้ยวหลบการพุ่งชนครั้งที่ห้า เขาก็ใช้มือซ้ายจับเจ้าจิ๋วเอาไว้แน่น แล้วกดหัวมันลงไปที่พื้น จากนั้นก็กระหน่ำต่อยด้วยหมัดขวา อันเป็นวิธีเดียวกับที่เคยพิชิตสไลม์หัวหน้ากลุ่ม
การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว มอนสเตอร์จิ๋วกลายร่างเป็นเยลลี่เหลวและสลายไปในทันที ทิ้งลูกแก้วอีกลูกให้ดูต่างหน้า
" ฮะๆ ถ้าใช้สมองสู้แบบนี้ มันก็ง่ายอ่ะดิ คอยดูให้ดีเถอะ อาแป๊ะ ชั้นจะเซ้งร้านบะหมี่ของนายให้ได้ภายในวันนี้แหละ จากนั้นก็จะกินบะหมี่ในร้านให้พุงกางไปเลย " มาวินยืดอกภูมิใจกับแผนที่คิดขึ้นมา
………………………………………………
แผนการต่อสู้ของมาวินสำเร็จอย่างงดงาม เด็กหนุ่มจัดการสไลม์ได้อีกหลายตัว ในครั้งหลังๆเขาเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น บางครั้งหลอกล่อมาจัดการทีละสองตัว มากสุดคือสามตัว ซึ่งการดวล 3 ต่อ 1 รู้สึกจะกินแรงอยู่พอสมควร เพราะต้องคอยหลบการพุ่งชนของมอนสเตอร์เป็นพัลวัน จากนั้นก็หาจังหวะต่อยสวนให้เจ้าเยลลี่เหลวล้มลงกับพื้น แล้วตามไปปิดบัญชีด้วยฝ่าเท้า
ดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับ มาวินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู จึงพบว่าขณะนี้เป็นเวลา 6 โมงเย็น เด็กหนุ่มยิ้มแป้น พลางเขย่ากระเป๋ากางเกง มีเสียงกรุ้งกริ้งดังมาจากข้างใน เพราะในนั้นบรรจุลูกแก้วอยู่ประมาณ 20 ลูก
" เยี่ยมมาก แผนนี้ได้ผล วันนี้สามารถเก็บสไลม์ได้ถึง 30 กว่าตัว ก้าวหน้าจริงๆ เลเวลของเราน่าจะขยับไปถึงระดับสิบแล้วล่ะมั้ง ว่าแล้วต้องกดดูสถานะซักหน่อย " มาวินกดปุ่มบนนาฬิกาประจำตัว เพื่อตรวจเช็คสถานะของตัวเอง รายละเอียดมีดังต่อไปนี้
ชื่อ มาวิน เทพอัศดง เพศ ชาย อาชีพ ไร้อาชีพ
LV 1
พลังชีวิต 10/15 กำลัง 0 โชค 0
พลังกาย 2/2 ความเร็ว 10 ปัญญา 0
พลังเวท 0/0 ทนทาน 0 ทักษะ 0
ประสบการณ์ 39/300
" หา…… นี่มันอะไรกันเนี่ย ไล่ตื้บสไลม์แทบเป็นแทบตาย สุดท้ายได้ค่าประสบการณ์มาแค่ 39 แต้มเอง แล้วตัวเลข 300 นี่คืออะไร อย่าบอกนะ ต้องเก็บให้ได้ 300 แต้ม ถึงจะเลเวลอัพ บ้าชะมัดๆเลย " มาวินรู้สึกหงุดหงิดผสมผิดหวัง ทุกอย่างมันแย่กว่าที่คิด
มาวินเซ็งอยู่พักใหญ่ ก็คิดได้ว่า.....ถ้าจ้องเล่นแต่สไลม์ เลเวลคงไม่ขึ้นเป็นแน่ เห็นทีต้องขยับไปสู้กับมอนสเตอร์ที่ใหญ่กว่า แต่ก่อนจะทำอะไรต่อ เขาก็ลองกดนาฬิกาวิญญาณดูอีกที เพื่อเช็คค่าสถานะในหน้าที่ 2
ชื่อ มาวิน เทพอัศดง เพศ ชาย อาชีพ ไร้อาชีพ
LV 1
โจมตีกายภาพ 5 ร่างกาย 3
ป้องกันกายภาพ 3 อดทน 3
หลบหลีก 15 จุดตาย 1
แม่นยำ 6 ดวง 1
ความเร็วในการตี 14 โจมตีเวทมนตร์ 0
ความเร็วเคลื่อนที่ 17 ป้องกันเวทมนตร์ 0
" ค่าพลังบ้าบออะไร เยอะแยะไปหมด งงโว้ย..... " เนื่องจากมาวินไม่ชอบเล่นเกมแนวเก็บเลเวล จึงรู้สึกสับสนกับค่าสถานะของตัวเอง นั่นทำให้เขารีบกดปุ่มบนนาฬิกาต่อไป เพื่อดูค่าสถานะในหน้าที่สาม
ชื่อ มาวิน เทพอัศดง เพศ ชาย อาชีพ ไร้อาชีพ
LV 1
ทักษะ 0
ทักษะที่ใช้ได้ -ไม่มี-
ท่าไม้ตาย -ไม่มี-
" อะไรกัน ทำไมมันกากแบบนี้ฟะ ใช้ท่าไม้ตายไม่ได้เลย แถมยังไม่มีทักษะอะไร บ้าที่สุด ห่วยแตกมาก แล้วทีนี้จะซัดกับตัวเป้งๆได้ยังไง เฮ้อ…..อ้อ.....นึกออกแล้ว ลองกดดูสถานะที่หน้าต่างสุดท้ายดีกว่า เผื่อว่าจะมีอาวุธหรือไอเท็มที่พอใช้งานได้ " ว่าแล้วมาวินก็กดปุ่มบนนาฬิกาวิญญาณต่อ
ชื่อ มาวิน เทพอัศดง เพศ ชาย อาชีพ ไร้อาชีพ
LV 1
อุปกรณ์
หัว = ไม่มี มือซ้าย = ไม่มี เครื่องประดับ = ไม่มี
เสื้อผ้า = เสื้อนักสู้ฝึกหัด มือขวา = ไม่มี
เกราะ = ไม่มี
รองเท้า = รองเท้าผ้านักกังฟู
ไอเท็ม
- น้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตขนาดเล็ก จำนวน 5 หลอด
- น้ำยาฟื้นฟูพลังกายขนาดเล็ก จำนวน 3 หลอด
- ลูกแก้ว จำนวน 20 ลูก
- ถ้วยเก่ากระดำกระด่าง จำนวน 1 ใบ
เงิน = ไม่มี
" เหอ เหอ เหอ อะไรเนี่ย นี่มันห่วยแบบสุดๆไปเลย " มาวินหัวเราะให้กับความกระจอกของตัวเอง ไม่มีท่าไม้ตายและทักษะพิเศษให้ใช้ แถมยังไม่มีไอเท็มหรืออาวุธที่พอใช้งานได้ จะมีอะไรที่แย่กว่านี้มั้ย
ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มก็ได้ยินเสียงประหลาด มันดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบกับวัวตัวเมียขนาดกลาง ขนรอบตัวเป็นสีขาวสลับดำดูสวยงาม
" มอ……. "
มาวินคิดว่า…..วัวตัวนี้น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะมันดูเชื่อง ไม่ดุร้ายเหมือนกลุ่มสไลม์บ้าเลือด แต่พอมองไปมองมา ความคิดชั่วร้ายก็ก่อกำเนิด
" เหอ เหอ เหอ ดูไปแล้ว เจ้าตัวนี้น่าจะเข้าสเป็คนะ มอนสเตอร์ตัวใหญ่ ท่าทางแข็งแรงและน่าจะต่อสู้ได้ไม่ยาก เพราะมันเชื่อง ชนะทีเดียว คงจะได้ค่าประสบการณ์สูง " มาวินยิ้มชั่วร้าย นาทีนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามอนสเตอร์เบื้องหน้าจะมีเจ้าของหรือไม่
มาวินเดินวนรอบวัวตัวเมีย เพื่อสำรวจสถานการณ์ ใบหน้าอ่อนเยาว์ขมวดนิ่ว เพราะกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก โดยมีแม่วัวมองตามอยู่ตลอด แววตาของมันดูบ้องแบ๊วและใสซื่อโดยแท้ ไม่ฉายความเป็นศัตรูออกมาซักนิด
" ดีล่ะ ถึงจะไม่มีอาวุธให้ใช้ แต่เท่าที่คำนวณ สิ่งที่เรามีในตอนนี้คือความเร็ว ถ้าตั้งหลักจากระยะไกล แล้ววิ่งเต็มฝีเท้าเข้าไปต่อยที่หน้าผาก ความเร็วในการวิ่งน่าจะเสริมให้พลังหมัดมีกำลังมากพอจะล้มมัน อืม…..โอเค แผนนี้แหละ LET GO " เด็กหนุ่มปรึกษากับตัวเอง ก่อนลงมือตามแผนการ
เด็กหนุ่มทิ้งระยะห่างจากวัวตัวเมียไปประมาณ 30 เมตร เขาพยายามอยู่ด้านหน้า เพื่อจะได้ทิ่มหมัดไปที่หน้าผากได้ถนัด แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงที่ใสซื่อไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า มันจะโดนหมัดมหากาฬของมาวิน
" เอาล่ะนะ โหสิเถอะ แม่วัวเอ๋ย ว้าก…… " มาวินกล่าวอโหสิในใจ จากนั้นก็ออกตัวจากจุดสตาร์ทอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของมาวินนับว่าไม่ธรรมดา พอเกือบถึงตัวของแม่วัว เด็กหนุ่มก็กระโดดเข้าใส่เป้าหมายสุดกำลัง หมัดคู่พุ่งกระแทกเข้าไปที่หน้าผากเต็มเปาจนบังเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสะท้านไปทั่วบริเวณ
" ตูม "
" โอ๊ย…. " เด็กหนุ่มล้มกลิ้งบนพื้นหญ้า แรงปะทะที่ได้รับ มันมากกว่าคนร่างเล็กอย่างเขาจะทนไหว
มาวินกุมขมับ เขาไม่คิดว่าเนื้อตัวของแม่วัวจะแข็งปานนี้ พอเด็กหนุ่มคลายความมึนงง ก็เงยหน้าขึ้นชมผลงาน ในใจจินตนาการว่าสัตว์เลี้ยงผู้เคราะห์ร้ายน่าจะร่วงลงไปนอนกองกับพื้น
แต่ในความเป็นจริง แม่วัวตัวนั้นยังคงยืนเฉย คล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวมัน หนำซ้ำยังส่งประกายอาฆาตมายังเด็กหนุ่ม มันชัดเจนจนไม่ต้องคาดเดาถึงอารมณ์
" ฮะๆ เอ่อ….เมื่อกี้เขาล้อเล่นน่ะ...อุ้บ " มาวินขอโทษคู่อาฆาต ท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่ไม่ทันพูดจบ เขาก็โดนสัตว์เลี้ยงร่างยักษ์พุ่งชนอย่างรุนแรง ภาพสุดท้ายที่ได้เห็นก็คือ "ใบหน้าถมึงทึงของแม่วัว" หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบ
………………………………………………
มาวินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ที่ไหนซักแห่ง มันคล้ายว่าเขากำลังว่ายอยู่บนกลีบเมฆที่แสนบางเบา ทันใดนั้นเองโสตประสาทก็แว่วเสียงบางอย่างมาแต่ไกล
" ไอ้หนู มานอนตรงนี้ ทำไมฟะ "
" เสียงคน ฟังดูคล้ายเสียงผู้ชาย มันเกิดอะไรขึ้น " เด็กหนุ่มคิดในใจ สติยังคงเลือนราง
" ไอ้หนู ตื่นๆ เป็นไงบ้าง " เสียงผู้ชายคนนั้นยังคงดังก้องอยู่ดุจเดิม แต่ในครั้งนี้เด็กหนุ่มรู้สึกว่ามีแรงเขย่าตรงหัวไหล่
" ไอ้หนู…… " เสียงชายหนุ่มผู้นั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด.........
มาวินลืมตาขึ้นมา อาการเลื่อนลอยหายไปในพริบตา เพราะภาพแรกที่ได้เห็น แทบทำให้ลมจับ ภาพนั้นก็คือ............ชายผู้หนึ่ง ใบหน้าอวบอูมดำมะเมื่อม คิ้วดก ดวงตาขาว ปากหนาแบะสีชมพูตัดกับสีผิวอย่างรุนแรง
" เหวอ…… " เด็กหนุ่มร้องลั่น พร้อมถอยหลังหนี
" อ้าว ตื่นแล้วหรือ ไอ้หนู ว่าแต่แกมานอนแถวนี้ทำไม ที่นี่เป็นฟาร์มของชั้นนะ " ชายวัยกลางคนเอ่ยถาม สีหน้าเคร่งขรึม
เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติ เขามองชายแปลกหน้าผู้มาใหม่ จึงพบว่าหมอนี่เป็นชายร่างใหญ่ที่สวมชุดเอี๊ยมยีนส์ ข้างในใส่เสื้อยืดสีแดง ส่วนที่เท้าสวมรองเท้าบูต ท่าทางคล้ายชาวนา หรือไม่ก็คนเลี้ยงวัว
เมื่อหันไปมองสภาวะรอบด้าน ก็พบว่าอากาศในยามนี้เริ่มขมุกขมัว ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า เด็กหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู จึงรู้ว่าขณะนี้คือเวลา 18.55 น.
" ตกลง นายเป็นใคร แล้วมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง " ชายหน้าดำคาดคั้น
" เอ่อ….. " เด็กหนุ่มยังคงอึ้ง เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก
" อ้อ..... รู้แล้ว นายเป็นนักสู้ฝึกหัดล่ะสิ คงเป็นพวกขี้เกียจสันหลังยาวที่แอบหนีมานอน ไม่ยอมออกไปตีมอนสเตอร์ เพื่อฝึกฝนวิชา ใช่มั้ย ฮ่าๆ " ชายหน้าดำพูดเองเออเอง พลางหัวเราะชอบใจ
" อืม…..คงจะใช่ล่ะมั้ง " มาวินตอบตามน้ำไปก่อน พร้อมส่งยิ้มแหยๆให้คู่สนทนา
" แล้วนอนพอหรือยังล่ะ เจ้าหนูจอมขี้เกียจ ไปได้แล้ว ชั้นไม่อยากให้คนแปลกหน้ามาเตร็ดเตร่แถวฟาร์มในตอนกลางคืน " ชายหน้าดำร่างใหญ่ออกปากไล่ สีหน้ากลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง
" อ้อ ชั้นจะไปเดี๋ยวนี้แหละ โทษทีนะ ฮะๆ " เด็กหนุ่มค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืน ในใจคิดว่าน่าจะได้เวลาออกจากเกมแล้ว แต่ก่อนจะทำตามประสงค์ เขากะว่าจะเข้าไปในเมือง เพื่อลองขายลูกแก้วที่หามาได้
พอมาวินยืนเต็มสองเท้า ก็ได้ยินเสียงวัวตัวหนึ่งจากทางด้านหลัง เด็กหนุ่มถึงกลับสะดุ้งเฮือก เพราะเพิ่งโดนสัตว์ประเภทนี้อัดจนสลบไปเมื่อครู่ เขากลั้นใจอยู่นานหลายวินาที ก่อนหันหลังกลับไปมอง สัตว์เจ้าของเสียงนั้นก็คือ........วัวตัวเมียคู่อาฆาต
" ฮ่าๆ เป็นไง น่ารักมั้ย ตัวนั้นชื่อ "ลูซี่" มันเชื่องมากนะ ไม่เคยทำร้ายใครเลย " ชายหน้าดำบอกยิ้มๆ
" มอ….. " วัวตัวเมียที่ชื่อ "ลูซี่" ร้องทักเสียงดัง ปากยื่นยาวแสยะนิดๆ ท่วงท่าคล้ายจะยิ้มเยาะ นั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหมั่นไส้จนอยากโดดเตะแม่วัวตัวนี้ซักที แต่ก็กลัวจะโดนชนสลบไปอีกรอบ อีกอย่างชายผู้เป็นเจ้าของก็ยืนอยู่ข้างๆ เขาจึงสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้
อึดใจต่อมาเด็กหนุ่มก็นึกอะไรขึ้นมาได้ สิ่งนั้นทำให้ดวงตาเหลือกโพลงด้วยความตกใจ
" เฮ้ย ซวยแล้ว นี่มันเลยเวลานัดรวมตัวกับพรรคพวกแล้วนี่หว่า ยัยจันเล่นเราเละแน่ "
มาวินรีบกดดูเมนูบนนาฬิกา แต่ค้นแล้วค้นเล่า ก็ไม่เจอปุ่มกดออกจากเกม เด็กหนุ่มเริ่มหน้าดำคร่ำเครียด เขาเช็คอีกหลายรอบ ไม่ว่าดูละเอียดแค่ไหน ก็พบแต่ค่าพลังกากๆของตนเอง
" เฮ้ย แล้วเมนูออกจากเกม มันอยู่ตรงไหนฟะ " เด็กหนุ่มโวยวาย
" ไอ้หนู ทำอะไร ชั้นเห็นแกกดนาฬิกาวิญญาณดูค่าสถานะของตัวเองตั้งหลายรอบแล้ว " ชายหน้าดำเอ่ยถาม หลังยืนมองการกระทำแปลกๆของเด็กหนุ่มอยู่ระยะหนึ่ง
" เออ ดีเลย พี่ชาย พอดีชั้นมีนัดรวมตัวกับพรรคพวกที่โลกมนุษย์ แต่ชั้นหาเมนูออกจากเกมไม่เจอ ไม่รู้มันอยู่ที่ไหน พี่ชายช่วยบอกหน่อยเถอะ " มาวินหันไปอ้อนวอนชายวัยกลางคน
แทนที่จะได้รับคำตอบ กลับได้มาแต่แววตาหวาดระแวง วินาทีต่อมาชายหน้าดำก็เอ่ยถามช้าๆ น้ำเสียงส่อความกังวลใจ
" ไอ้หนู เมนูออกจากเกมคืออะไร โลกมนุษย์คืออะไร ชั้นงงไปหมดแล้ว นายเมายามาหรือเปล่าฟะ "
" พี่ชายอย่าล้อเล่นดิ ที่พูดมาไม่จริงใช่มั้ย ชั้นเริ่มหลอนแล้วนะ " มาวินเริ่มใจเสีย น้ำเสียงที่ร้องขอส่อสำเนียงวิงวอนจนน่าเวทนา
" เหอๆ ไม่มีโลกนี้และโลกไหน มีแต่โลก The Dark World เท่านั้น ไปล่ะ ไอ้หนู โชคดีนะ " ชายหน้าดำรีบพูดตัดบท พลางจูงวัวเดินหนีในทันที ดูเหมือนเขาจะเริ่มกลัวมาวินเข้าให้แล้ว
ชายหน้าดำจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้มาวินยืนหน้าเหงาราวหมาหงอย ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกกดดันถึงขีดสุด เขาจึงแหงนหน้าขึ้นฟ้าและแหกปากร้องจนสุดเสียง เพื่อระบายความเครียดที่อัดแน่นอยู่ข้างใน
" อ้า……. ช้าน……กลับโลกไม่ได้ "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ