The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
116) ภูตอาคม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://wallpapersafari.com
พออากิเนะปลอบงูเขียวเสร็จ เธอก็ปล่อยมันลงสู่พื้น แต่เจ้าสัตว์ไร้ขากลับตรงเข้ามาหาโอคุยาสุที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ส่งผลให้หนุ่มหล่อขั้นเทพเกิดอาการสาวแตก
“ วี้ด…… ไปๆ อย่าเข้ามานะ เจ้างูบ้า วี้ด…… ”
โอคุยาสุกรีดร้อง พร้อมกระโดดหนีขึ้นไปบนคาคบไม้ ทุกสิ่งที่เกิด มันแปลกประหลาดซะจนทำให้เด็กสาวหน้าใสถึงกับตกตะลึงและเริ่มขบขันในเวลาต่อมา
“ ฮะๆ ทำไมต้องกลัวขนาดนั้น มันแค่บังเอิญเลื้อยไปทางที่พี่ยืนเท่านั้นเอง ” เด็กสาวปิดปากหัวเราะ
“ เอ่อ……. ถึงน้องหญิงจะพูดอย่างงั้น แต่พี่ก็กลัวอยู่ดี วะ…..ว่าแต่ เจ้างูตัวนั้น มันไปแล้วรึยัง ” โอคุยาสุตอบตะกุกตะกัก ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีดราวกับไข่ต้ม
“ ค่ะ เจ้างูเขียวเลื้อยหายไปแล้ว ฮิๆ ” อากิเนะเอามือปิดปากหัวเราะต่อ กิริยาของเธอช่างน่ารัก น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน
“ นะ…… แน่ใจนะ น้องหญิง ” โอคุยาสุถามย้ำอีกครั้ง แววตาดูเลิ่กลั่ก ท่าทางหวาดระแวง
เมื่อโอคุยาสุแน่ใจแล้วว่าปลอดภัยจากงูเขียว เขาก็ค่อยๆไต่ลงมาช้าๆ แต่ก่อนที่เท้าสัมผัสพื้น สายตาเรียวเล็กก็เหลือบแลไปรอบๆอีกครั้ง เพื่อมองหาอริไร้ขาที่ชวนขนลุก
“ มันไปแน่แล้ว ใช่มั้ย น้องหญิง ” โอคุยาสุไม่แน่ใจ น้ำเสียงดูหวาดวิตก
“ จ้า….. ไปแล้วจ้า ” อากิเนะยิ้มสดใส
“ เฮ้อ……. ค่อยยังชั่ว ” โอคุยาสุยกมือขึ้นปาดเหงื่อ พร้อมถอนหายใจยาว โดยมีอากิเนะยืนยิ้มอยู่ไม่ห่าง
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง โอคุยาสุก็เริ่มได้คิดว่าตนเสียฟอร์มมากแค่ไหน จึงหันไปวิงวอนอากิเนะ ท่าทางน่าสงสารเป็นที่สุด
“ น้องหญิง รับปากได้มั้ยว่าจะไม่บอกใครในเรื่องที่พี่กลัวงู อ่า เอ่อ……พี่อายเขาน่ะ ”
“ ได้ค่ะ อากิเนะรับปากว่าจะไม่บอกใคร แต่เอ……เรื่องที่พี่กลัวงู อากิเนะคิดว่าแค่แปลกเท่านั้นเอง ไม่เห็นน่าอายตรงไหนเลย ” อากิเนะยังคงยิ้ม ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดีได้ทั้งวัน
“ ฮะๆ เอาเป็นว่าสัญญากับพี่ก็แล้วกันว่าน้องหญิงจะไม่บอกใคร ” โอคุยาสุหัวเราะแห้งๆ เขาคาดคั้นให้อากิเนะรักษาสัญญา
“ ได้ค่ะ อากิเนะให้สัญญา ”
เมื่ออากิเนะรับปาก โอคุยาสุก็รู้สึกโล่งอก เพราะในดินแดนลี้ลับแห่งนี้ ทุกคนล้วนยึดถือสัจจะ ไม่มีคนโกหก
หลังเหตุการณ์สงบลง ทั้งสองก็เดินเล่นที่ริมน้ำต่อไป คราวนี้โอคุยาสุดูเคร่งขรึมกว่าเดิม เนื่องจากเพิ่งประสบภาวะหน้าแหกขนานใหญ่ มันทำให้เขาต้องขบคิดอย่างหนักหน่วง เพื่อเผด็จศึกสาวงามนางนี้ให้ได้ แต่ปัญหาก็คือ…………จะใช้วิธีใด
โอคุยาสุคิดจนหัวแทบระเบิด ในที่สุด เขาก็รำลึกถึงคำพูดของเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยคบหาสมัยเยาว์วัย
“ จำไว้ โอคุยาสุ ผู้หญิงมักกลัวภูตผีปีศาจ มันจะทำให้พวกหล่อนขวัญผวาจนทำอะไรไม่ถูก ”
“ อืม……หรือจะใช้วิธีนี้ แต่ไม่อยากทำเลย เพราะข้าเองก็ไม่ชอบตัวประหลาดพวกนั้นเหมือนกัน ” โอคุยาสุรู้สึกกดดัน คิ้วเรียวขมวดนิ่วจนคล้ายจะผูกโบว์
ถึงกระนั้น ซามูไรหนุ่มรูปงามก็ไม่มีทางเลือก เขาจึงล้วงเข้าไปในอกเสื้อ เพื่อดึงแผ่นยันต์ขนาดฝ่ามือออกมา
โอคุยาสุรอจังหวะ ทันทีที่อากิเนะเผลอ เขาก็ขว้างยันต์ไปข้างทาง พอกระดาษลงอักขระแดงหายลับเข้าไปในพุ่มไม้ดำทะมึน ซามูไรหนุ่มก็เริ่มร่ายมนตร์ด้วยการพึมพำในลำคอเบาๆ เพราะกลัวสาวเจ้าจะได้ยิน
“ จงปรากฏตัวออกมา เจ้าภูตอาคม ” สิ้นคำของโอคุยาสุ ก็เกิดเสียงระเบิดตรงจุดที่ซามูไรหนุ่มขว้างยันต์
“ ตูม ”
ควันขาวและเศษดินปลิวกระจายไปทั่วบริเวณ อากิเนะหันไปมองด้วยอาการปกติ ครู่หนึ่งก็ปรากฏสิ่งมีชีวิตประหลาด
เจ้าสิ่งนั้นมีร่างกายที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวขาวโพลน ดวงตาลึกโบ๋และเปล่งประกายแดงก่ำประดุจโลหิต โครงจมูกแฟบ ปากหนาๆแสยะกว้าง เพื่อโชว์เขี้ยวคมวาวที่เรียงรายตลอดแนว
ปีศาจยักษ์ผมยาวรุงรังมองมาที่อากิเนะอยู่ครู่หนึ่ง มันก็ยกมือขึ้นสูง พร้อมส่งเสียงคำราม
“ แฮ่…….. ”
อากิเนะมองตัวประหลาด แววตานิ่งเฉย ครู่หนึ่งเธอก็แย้มยิ้ม พร้อมปลอบประโลมด้วยกระแสเสียงที่อ่อนโยน
“ ภูตผี วิญญาณหลงทาง ขอให้เจ้าจงไปสู่สุคติเถิด อย่าได้หลงวนเวียนอยู่ในความทุกข์ทรมานเช่นนี้เลย ”
เมื่อภูตอาคมเจอแบบนี้เข้าไป มันก็ถึงกับสะอึกและตีหน้ามึนให้โอคุยาสุเป็นเชิงถามไถ่ ทำนองว่า…….จะเอายังไงต่อ ลูกพี่
โอคุยาสุดูแปลกใจไม่ใช่น้อย เพราะในจินตนาการ อากิเนะควรจะหวาดกลัวจนโผเข้ามากอดเขา แต่ทุกสิ่งที่เกิด กลับตรงกันข้าม ซามูไรหนุ่มจึงพยักหน้าให้ภูตอาคม เป็นเชิงอนุมัติให้หลอกหลอนแรงขึ้น แต่อย่าให้ล่วงเลยถึงขั้นเจ็บตัว
โอคุยาสุไม่แน่ใจว่า….ภูตอาคมเข้าใจคำสั่งหรือไม่ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะรับทราบ เพราะมันได้ยืดตัวขึ้นเต็มสัดส่วน กะคร่าวๆน่าจะประมาณสามเมตรเศษ ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวเหยเก ก่อนจะแยกเขี้ยว คำรามดังด้วยกิริยาที่น่าสะพรึงกลัว
“ แฮ่……… ”
เด็กสาวยังคงนิ่งสงบ มุมปากประดับรอยยิ้มน้อยๆ อึดใจต่อมา เธอก็กล่าวตักเตือน
“ หยุดก่อกรรมทำเข็ญเถอะ ถ้าเจ้ายังไม่ยอมรับฟัง เราจะส่งวิญญาณให้ไปสู่สุคติ ”
ภูตอาคมไม่เข้าใจในสิ่งที่อากิเนะพูด กระนั้น กายของมันก็กระตุกแรง ด้วยรับรู้ถึงพลังอำนาจบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวของเด็กสาว นั่นยิ่งทำให้ปีศาจร่างยักษ์ดุร้ายมากขึ้น วินาทีต่อมา อมนุษย์ก็พุ่งเข้าใส่อริร่างเล็กอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ย แบบนี้น้องหญิงมีหวังเจ็บตัวแน่ๆ ” โอคุยาสุอุทานดัง เพราะสิ่งที่ภูตอาคมกระทำ มันนอกเหนือคำสั่งของเขา จึงรีบชักดาบคาตานะออกมา เพื่อฟันปีศาจจำแลง แต่ไม่ทันได้ลงมือ อากิเนะก็พูดออกมาคำหนึ่ง
“ จงไปสู่สุคติ ”
สิ้นคำของอากิเนะ แสงประกายรุ้งก็แผ่ออกมาจากกายบอบบาง พอรังสีกระทบร่างล่ำสันของภูตอาคม มันก็หยุดชะงักอย่างฉับพลัน สีหน้าแสดงออกว่าทุกข์ทรมาน ปากก็ร้องครวญครางด้วยความหวาดกลัว
“ แฮ่…….. อ้าก…… ”
ภูตอาคมร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอยู่ไม่นาน ร่างของมันก็สลายไป เหลือไว้เพียงเศษยันต์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ
แสงประกายรุ้งเริ่มจางลง ในที่สุด ก็พลันหายไป พอทุกสิ่งกลับคืนสู่ความสงบ อากิเนะก็รู้สึกงง พร้อมอุทานดังด้วยความตกใจ
“ เอ๊ะ วิญญาณร้ายเมื่อครู่ เป็นเพียงภูตอาคมหรอกเหรอเนี่ย ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ