The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
111) ตัดสินแพ้ชนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://qhd-wallpaper.blogspot.com
“ ฮ้า...... ” เหมยลี่กู่ก้องร้องตะโกน เสียงของเธอกังวานไปทั่วทุกสารทิศ รอบกายปรากฏคลื่นออร่าสีทองแผ่ออกมาอย่างรุนแรงจนดูคล้ายเปลวเพลิงที่ร้อนแรง
“ คร่อก...... ” คองโกล่าตกใจ เพราะไม่คิดว่ามนุษย์ร่างเล็กจะต้านทานการโจมตีของมันได้ วินาทีต่อมา เหมยลี่ก็ดีดสองมืออันใหญ่โตออก ส่งผลให้มอนสเตอร์ร่างยักษ์ถอยหลังถึงสามก้าว
“ กรร.... ” มอนสเตอร์ร่างยักษ์ยืดอกขึ้น พร้อมแยกเขี้ยวรับ ท่าทางโกรธแค้น ทว่าเหมยลี่กลับพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วด้วยกระบวนท่าที่ดุดัน
“ เสือดาวไล่เหยื่อ ”
หมัดขวาของเหมยลี่อัดเข้าไปที่ลิ้นปี่ของคองโกล่าเต็มแรง ทำให้กำปั้นลุ่นๆผลุบหายเข้าไปในหน้าท้องที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ
“ คร่อก..... ” คองโกล่าคำรามยาวด้วยความจุกเสียด ร่างอันใหญ่โตถอยหลังไปอีกก้าว ทว่าท่าไม้ตายที่ร้ายกาจยังไม่สิ้นสุด เหมยลี่ตามเข้าไปต่อยซ้ายที่จุดเดิม พร้อมสืบเท้าเข้าหาสัตว์ร้าย
“ คร่อก ” คองโกล่าร้องดังและถอยหลังไปอีกครั้ง
ด้วยความที่ "เสือดาวไล่เหยื่อ" เป็นกระบวนท่าต่อเนื่อง เหมยลี่จึงสืบเท้าเข้าหาสัตว์ร้ายไม่หยุดหย่อน พร้อมประเคนกำปั้นใส่ในจุดเดิมด้วยความแรงที่ใกล้เคียงกัน เธอต่อยขวาสลับซ้ายอยู่ 7 ที ก็ปิดบัญชีด้วยการกระโดดเข้าใส่คองโกล่าที่กำลังเมาหมัด
“ เตรียมรับท่าไม้ตายสูงสุด ” เหมยลี่ร้องตะโกน
ตามปกติ กระบวนท่าเสือดาวไล่เหยื่อจะปิดท้ายด้วยหมัดคู่ที่กระแทกลงมาจากกลางอากาศ ทว่าเหมยลี่กลับไม่ใช้มัน แต่เปลี่ยนมาใช้ฝ่ามือขวาแทน
“ ฝ่ามือมังกรทอง ”
เหมยลี่ร่ำร้องชื่อกระบวนท่า พร้อมทาบฝ่ามือลงไปที่กลางกระบาลของคองโกล่า จังหวะที่สัมผัสถูก ฝ่ามือก็พลันเปล่งประกายสีทองออกมาจนก่อให้เกิดแสงแรงกล้าที่คล้ายคลึงกับอัศดงยามตกดิน
“ เหวอ..... ” มาวินอุทานดัง พร้อมยกมือขึ้นปิดตา
เมื่อแสงนั้นจางหายไป สองเท้าของเด็กสาวก็ลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล ออร่าสีทองที่เคยแผ่ออกมาก็พลันดับวูบไป พร้อมกับการทรุดตัวลงนั่งชันเข่า ท่าทางอ่อนล้าถึงขีดสุด ส่วนทางฝ่ายคองโกล่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงยืนนิ่งด้วยท่าทางที่ดูเหม่อลอย คล้ายสมองของมันถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
“ เฮ้ เหมยลี่ เธอเป็นอะไรไป ” มาวินร้องเสียงหลง เขาสงสัยว่าทำไมเหมยลี่ถึงดูหมดสภาพแบบนั้น ทั้งที่ผ่านมา เด็กสาวจู่โจมใส่คองโกล่าอยู่ฝ่ายเดียว
เหมยลี่ได้ยินเสียงร้องเรียกของมาวินทุกถ้อยกระบวนคำ แต่เธอกลับทำได้แค่ก้มหน้านิ่ง เหงื่อมากมายเริ่มหลั่งไหลออกมาจนชุ่มโชกไปทั่วทั้งตัว
“ แย่แล้ว อาการของยัยโย่งท่าจะหนักกว่าที่คิด ขืนเป็นแบบนี้ ยัยนั่นมีหวังเละด้วยพลังทำลายจากท่าไม้ตายของพี่ชายผมทองแน่ ” หลังจากมาวินเห็นสภาพของเพื่อนร่วมทาง เขาก็ฉุกคิดว่าควรจะทำอะไร แต่ก่อนจะได้ดำเนินการ เหมยลี่ก็ตะโกนกลับมา
“ อย่าเข้ามา เจ้าลิงหัวเขียว มันอันตราย ส่วนโจจี้ นายโจมตีได้แล้ว ”
โจจี้รู้สึกลังเลและพะว้าพะวังจนไม่กล้าปล่อยท่าไม้ตาย เพราะพลังทำลายจากกระบวนท่านี้มีความรุนแรงมาก ถ้าเหมยลี่ยังอยู่ในรัศมีจู่โจม เธอก็เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงตะโกนสั่งมาวินที่กำลังยืนเซ่ออยู่ไม่ไกล
“ น้องชายหัวเขียวรีบพาเหมยลี่ออกจากจุดนั้นโดยด่วน ไม่งั้น เธอได้แหลกด้วยพลังทำลายจากท่าไม้ตายของชั้นแน่ ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มาวินจึงพุ่งเข้ามาโอบเอวของเด็กสาวร่างสูงจากทางด้านหลัง จากนั้นก็รีบฉากหนี ปากก็ร้องบอกโจจี้จนสุดเสียง
“ จัดการได้เลย พี่ชายผมทอง ”
เมื่อทุกอย่างเป็นใจถึงขนาดนี้ โจจี้ก็ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไม่โจมตีด้วยท่าไม้ตายสูงสุดของตัวเอง
“ ดาบผ่าหินผา ”
สิ้นเสียงร่ำร้อง โจจี้ก็พุ่งทะยานออกจากจุดที่ยืนด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ เมื่อนำมันมาประกอบกับออร่าสีขาวที่ห่อหุ้มกาย ทำให้เขาดูคล้ายลูกศรพลังงานอย่างไม่มีผิดเพี้ยน จวบจนลำแสงนั้นเข้าถึงตัวสัตว์ร้าย หนุ่มหล่อผมทองก็ชักดาบคาตานะออกมา พร้อมฟันไปที่ลำคอ
“ คร่อก........ ” คองโกล่าร้องดังยาว ดวงตาของมันเบิกโพลงออกมาด้วยอากัปกิริยาที่ดูหวาดกลัว
“ เปรี้ยง......... ”
เสียงปะทะดังกึกก้อง แสงสว่างสีขาวเปล่งประกายออกมาจนปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้เหมยลี่และมาวินต้องปิดตาหนีโดยพลัน และทันทีที่แสงนั้นจางหายไป ทั้งคู่ก็เห็นโจจี้ยืนอยู่ที่ด้านหลังของคองโกล่า มือขวาค้างคาในท่าตวัดดาบ
คองโกล่ายืนจังก้าอยู่กับที่ เลือดตรงหัวไหล่หลั่งทะลักออกมา ความเจ็บปวดจากบาดแผลฉกรรจ์ ทำให้มันทรุดกายลงนั่งคุกเข่า ปากก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
“ กรร......... ”
โจจี้รีบหันกลับมาประจันหน้ากับคองโกล่าด้วยท่าพร้อมสู้ ทว่าฮันเตอร์หนุ่มกลับดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เนื่องจากเขาทุ่มพลังให้กับท่าไม้ตายจนหมดตัว
“ บ้าชะมัด ชั่วพริบตาที่ดาบกำลังจะฟันคอ ไอ้คองโกล่าดันขยับหลบนิดหนึ่ง เลยโดนแค่หัวไหล่ เจ็บใจนัก ” โจจี้สบถบ่น เขารู้สึกเดือดดาลที่ท่าเด็ดต้องพลาดเป้าไป ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มขาวซีด เนื่องจากหมดสิ้นทั้งแรงกายและแรงใจ
มาวินและเหมยลี่ถึงกับหน้าถอดสีด้วยความรู้สึกเสียขวัญ พวกเขารู้ดีว่าแผนที่วางไว้ในตอนแรกนั้นล้มเหลว สิ่งที่ทุ่มเทลงไป ทำได้เพียงแค่สร้างอาการบาดเจ็บให้กับมอนสเตอร์ร่างยักษ์เท่านั้น ในตอนนี้ ทั้งสามไม่เหลือสิ่งใดที่จะใช้ปลิดชีวิตของอริร้าย
ทางฝ่ายคองโกล่านั้น แม้ว่าจะเกิดบาดแผลฉกรรจ์ตรงหัวไหล่ แต่ก็ไม่ทำให้มันหมดสภาพ สัตว์ร้ายค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืน ดวงตาเล็กดำเปล่งประกายอาฆาต ปากแสยะกว้าง เพื่อโชว์เขี้ยวแหลมนับสิบที่ซ่อนอยู่ภายใน
“ แฮ่......... ”
แม้ทุกคนจะพยายามฮึดสู้ แต่ภายในเริ่มถอดใจกันหมดแล้ว เพราะไม่มีแผนสำรองที่จะรับมือเหตุฉุกเฉินแบบนี้ ขณะที่สามวัยรุ่นกำลังเข้าตาจน ใบหน้าเรียวเล็กและสกปรกมอมแมมของมาวินก็แย้มยิ้มออกมา สิ่งนั้นทำให้ทั้งโจจี้และเหมยลี่ตกตะลึง
“ เจ้าบ้า ทำไมนายยิ้มแบบนั้นฟะ นี่เป็นช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานนะเฟ้ย ” โจจี้ตวาดด่า ส่วนเหมยลี่ได้แต่จับจ้องมาที่มาวินนิ่งๆ ดวงตาแฝงแววกังวล
มาวินมองเพื่อนร่วมทางทั้งสอง ใบหน้าเรียวเล็กยังคงยิ้ม ซักพัก เขาก็กล่าวออกมาเบาๆ
“ ขอบใจพวกนายมากนะที่อุตส่าห์ช่วยชั้นถึงขนาดนี้ ”
ทั้งเหมยลี่และโจจี้ถึงกับสะอึก เพราะความหมายของมาวิน ไม่น่าจะสื่อไปในทางที่เป็นมงคล มิหนำซ้ำ น้ำเสียงที่พูดยังดูราบเรียบ อันที่จริง มันออกจะระรื่นเสียด้วยซ้ำ
“ เฮ้ นายเป็นอะไรมากรึเปล่า ที่ชั้นทำลงไป ก็แค่อยากได้เงินรางวัลก้อนโตเท่านั้นเอง ” โจจี้ตอบกลับ สีหน้าดูห่วงใย
“ เออ.....ชั้นรู้ ” มาวินกล่าวยิ้มๆ พลางหันกลับไปประจันหน้ากับคองโกล่าที่ยืนจังก้า
ในช่วงเวลานั้นเอง เหมยลี่รับรู้ได้ถึงเค้าลางบางอย่างที่กำลังจะเกิด เธอเริ่มอ่านออกว่ามาวินคิดจะทำอะไร จึงกัดฟันข่มความเจ็บปวด เพื่อก้าวออกไปประจัญบานกับคองโกล่า แต่ในจังหวะที่ลุกขึ้นยืน ความจุกเสียดก็วิ่งแล่นมาที่ทรวงอกจนทำให้ทรุดกายลงไปกระอักเลือดกองโต
“ อั้ก........ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ