The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
112) อวสานมาวิน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpaper-house.com
“ เอ๊ะ เหมยลี่ เธอเป็นอะไร ” โจจี้ร้องถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมรีบรุดเข้ามาประคอง
“ ไม่เป็นอะไร เจ้าลิงหัวเขียว นายห้ามทำอะไรบ้าๆนะ ชั้นจะสู้เอง ” เหมยลี่ผลักโจจี้ออกไปด้วยกำลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดและพยายามยันกายลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
มาวินแย้มยิ้มนิดหนึ่ง พร้อมกล่าวเบาๆ สีหน้าของเขาดูคล้ายเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา
“ ฮะๆ พอได้แล้ว ในหมู่พวกเรา มีแต่ชั้นที่เหลือกำลังมากที่สุด และตอนนี้ ก็คิดแผนการได้แล้ว ดังนั้นชั้นจะจัดการที่เหลือเอง พวกนายไม่ต้องห่วง ”
ถึงเวลานี้ เหมยลี่แน่ใจแล้วว่ามาวินคิดจะทำอะไร ด้วยเธอรู้ซึ้งถึงนิสัยที่แท้จริงของเด็กหนุ่มดี จึงพยายามลุกขึ้นยืน พร้อมร้องบอกเสียงดัง
“ เจ้าบ้า ชั้นสั่งให้นายถอยออกมา ห้ามทำอะไรบ้าๆเด็ดขาด เข้าใจมั้ย ”
“ ฮะๆ สายไปแล้วล่ะ ” มาวินหัวเราะเบาๆ พร้อมพยักพเยิดไปทางคองโกล่าที่ย่างสามขุมเข้าหา
“ หน็อยแน่ เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ต้องสู้ต่อด้วยพลังที่เหลืออยู่นี่แหละ ” โจจี้ยกดาบคาตานะขึ้นมาที่ระดับอก เพื่อเตรียมประจัญบาน แต่มาวินได้พุ่งเข้าใส่คองโกล่าไปก่อนแล้ว
“ หยุดนะ เจ้าลิงหัวเขียว ” เหมยลี่ตวาดลั่น แต่ไม่สามารถหยุดยั้งมาวินได้
การบุกจู่โจมของมาวินสร้างความแปลกใจให้แก่คองโกล่าไม่ใช่น้อย เพราะสัตว์ร้ายไม่คิดว่ามนุษย์ร่างเล็กจะกล้าพุ่งเข้าหา แต่พอปรับอารมณ์ได้ มันก็ยกมือซ้ายขึ้นมา หวังจะขย้ำลำคอของเด็กหนุ่ม
แม้มาวินจะบุกอย่างอุกอาจ แต่ก็ไม่โง่พอจะให้คองโกล่าขยี้เล่น ดังนั้นในจังหวะที่ใกล้ถึงตัว เขาก็ดีดกายไปทางขวา ซึ่งเป็นด้านที่สัตว์ร้ายยกแขนไม่ขึ้น เพราะบาดเจ็บที่หัวไหล่
“ กรร…… ” คองโกล่าคำรามในลำคอด้วยความหงุดหงิด เพราะเด็กหนุ่มร่างเล็กที่คาดว่าจะเป็นเหยื่อ กลับเผ่นหนีไปยังทิศทางที่ไม่อาจใช้แขนได้ เลยทำให้มันต้องขยับตัวตาม จังหวะนั้นเอง อริร่างเล็กก็อาศัยมุมอับ เพื่อกระโดดขึ้นไปเกาะแผ่นหลังอันใหญ่โต
“ มันคิดจะทำอะไรฟะ ทำไมไปเกาะหลังคองโกล่าแบบนั้น จะฆ่าตัวตายรึไง ” โจจี้พล่ามบ่นด้วยความหงุดหงิดที่เห็นมาวินทำเรื่องบ้าบิ่น หนุ่มผมทองจึงร้อนใจจนต้องพุ่งเข้าไป เพื่อช่วยสู้อีกแรง
คองโกล่ารู้สึกตกใจและหงุดหงิดที่ถูกมนุษย์ร่างเล็กเกาะหลัง แต่พอเหลือบไปเห็นโจจี้ที่พุ่งเข้ามา จึงเลิกสนใจมาวินชั่วคราว เพื่อหันไปรับศึกใหม่
“ เอ๊ะ แย่แล้วเจ้าคอง มันหันกลับไปเล่นงานพี่ชายผมทอง ” มาวินอุทานออกมาเบาๆ
ทางด้านโจจี้ เขายกดาบคาตานะขึ้นสูง เพื่อเตรียมฟันแสกหน้าของคองโกล่า ด้วยความรีบร้อน จึงไม่ทันเห็นฝ่าเท้ามหึมาที่พุ่งสวนเข้ามา รู้สึกตัวอีกที มันก็ลอยเข้ามาใกล้แล้ว
“ เฮ้ย แย่แล้ว เรารีบบุกไป เลยไม่ทันคิด ” โจจี้ผวา เขารีบหยุดเท้าอย่างฉับพลันและเอี้ยวตัวหลบสุดกำลัง กระนั้น ฝ่าเท้าบิ๊กไซส์ก็ยังเฉี่ยวเข้าไปที่ขมับซ้าย ส่งผลให้หนุ่มผมทองกระเด็นไปข้างหลัง พร้อมกลิ้งไปตามพื้นดินอีกหลายตลบ
ตามปกติ คองโกล่าควรจะดีใจที่สามารถเล่นงานฮันเตอร์หนุ่มได้ ทว่ามันกลับเลือกที่จะกรีดร้องจนสุดเสียง พร้อมสะบัดศีรษะไปมาอย่างรุนแรง เนื่องจากในตอนนี้ ดวงตาได้ถูกสองมือเล็กๆของมาวินปิดบัง
“ กรร……แฮ่……. ”
โจจี้นอนแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก บนศีรษะอาบเลือดสีแดงฉาน ดวงตาเริ่มพร่ามัว พร้อมสติที่ใกล้จะเลือนราง
“ อู้ย…… นี่เรารอดตายหรือนี่ ตามปกติเราควรจะคอหักตายด้วยแรงถีบไปแล้ว ทำไมมันถึงพลาด แปลกมาก ” โจจี้นึกสงสัยที่รอดตายมาได้แบบปาฏิหาริย์ แต่พอเงยหน้าขึ้นดู ก็เข้าใจในทันที
“ อ้อ อย่างนี้นี่เอง จังหวะที่คองโกล่าถีบเข้ามา น้องชายหัวเขียวได้เอื้อมมือไปปิดตาของมัน เลยทำให้โจมตีพลาด ถ้าช้าไปกว่านี้เพียงเสี้ยววินาที เราคงไม่รอด ไม่ได้การ ต้องรีบกลับไปช่วย ไม่งั้นหมอนั่นตายแน่ ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น โจจี้ก็ลุกขึ้นยืน แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ เลยทำให้เขาโงนเงนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะร่วงล้มลงไปนอนคว่ำหน้ากับพื้นอีกครั้ง
“ บ้าชะมัด ทำไมร่างกายถึงหนักขนาดนี้ นี่ขนาดโดนเฉี่ยวๆไปแค่ทีเดียวเท่านั้น ” โจจี้กัดฟัน เขารู้สึกเจ็บใจ ดวงตาเหลือบมองไปมาวินที่กำลังคอยป่วนคองโกล่า
มอนสเตอร์ร่างยักษ์พยายามสะบัดกายไปมา เพื่อสลัดมาวินให้หลุด และการที่ถูกปิดตา ทำให้มันบ้าเลือดยิ่งกว่าเดิม แต่ไม่ว่าจะออกแรงปานใด เด็กหนุ่มก็ยังเกาะกุมได้อย่างเหนียวแน่น
“ โว้ๆ เรี่ยวแรงมากเหลือเกิน สะบัดได้หนักกว่าวัวกระทิงที่เราเจอในดันเจี้ยนหลายเท่าตัว นี่ถ้าไม่มีสกิลอ่านจังหวะ คงถูกสลัดหลุดไปนานแล้ว ” มาวินนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายใน หัวสมองพยายามอ่านวิถีการเหวี่ยงสะบัด เพื่อจะโยกตัวตาม ส่งผลให้สามารถเกาะกุมได้นานเท่าที่ต้องการ และการที่เพ่งสมาธิอยู่กับการวิเคราะห์ เลยทำให้มองไม่เห็นมือซ้ายของคองโกล่าที่เอื้อมสูง
“ เอ๊ะ ”
แม้มาวินจะมองไม่เห็น แต่ประสาทสัมผัสและสัญชาตญาณระวังภัยก็จัดอยู่ในขั้นดีเยี่ยม ทันทีที่เด็กหนุ่มรู้สึกถึงแรงลมวูบหนึ่งที่กำลังพุ่งปะทะกาย เขาก็ตัดสินใจปล่อยมือออกจากดวงตา เพื่อเลื่อนตัวลงมาเกาะกุมที่แผ่นหลังดุจเดิม
“ เปรี้ยง ”
มืออันใหญ่โตถูกฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของตัวเองเต็มแรง จนทำให้คองโกล่ารู้สึกชาไปทั้งแถบ มันโกรธแค้นมนุษย์ร่างเล็กยิ่งขึ้นและพยายามเหวี่ยงสะบัดด้วยพละกำลังที่มากกว่าเดิม
“ กรร…….คร่อก ”
ขณะที่หนึ่งมอนสเตอร์กับหนึ่งมนุษย์กำลังวุ่นวาย โจจี้และเหมยลี่ก็นึกประหลาดใจที่เห็นมาวินสามารถพัวพันอยู่กับคองโกล่าได้นานขนาดนี้
“ มันทำได้ยังไง ” โจจี้พึมพำเบาๆ
มาวินจำเป็นต้องใช้สมาธิเป็นอันมาก บางครั้งก็ต้องกระโจนไปอีกจุดหนึ่ง เพื่อหลบฝ่ามือมารที่พยายามคว้าตัว เด็กหนุ่มรู้ดีว่าถ้าโดนคองโกล่าสะบัดหลุดหรือจับได้ ความตายย่อมมาเยือนทุกคนอย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจึงอยู่ในฐานะที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
ส่วนทางฝ่ายคองโกล่า มันโมโหร้ายและบ้าเลือดมากขึ้น กายสูงใหญ่เหวี่ยงไปมาอย่างต่อเนื่อง หวังให้มนุษย์ร่างเล็กหลุดออกไป ทว่าสัตว์ร้ายกลับไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดว่า…….สองเท้าได้เข้าใกล้ขอบเหวลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะในจังหวะที่เคลื่อนตัว เด็กหนุ่มพยายามโน้มกายไปยังทิศทางที่เป็นเหวลึก เลยทำให้คองโกล่าค่อยๆขยับไปตามทิศทางนั้นอย่างช้าๆ
ถึงเวลานี้ ทั้งโจจี้และเหมยลี่รู้แล้วว่ามาวินคิดจะทำอะไร แต่ทั้งคู่ก็เข้าไปขัดขวางไม่ได้ เพราะต่างก็บาดเจ็บหนักจนยากจะขยับตัว
เมื่อถึงจุดสุดท้ายของแผนการ ใบหน้าเรียวเล็กของมาวินก็ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมความรู้สึกปลอดโปร่งที่แพร่กระจายไปทั่วหัวใจ
“ ดีจริงๆ ถึงตรงนี้ ยัยโย่งกับพี่ชายผมทองน่าจะรอดแล้ว เสียดายจังที่ไม่ได้กลับบ้าน ฮะๆ ”
หลังจากเด็กหนุ่มปลงตก เขาก็พุ่งขึ้นมาปิดดวงตาของคองโกล่าอีกครั้ง และโน้มตัวไปข้างหน้าสุดกำลัง เพื่อผลักดันให้มอนสเตอร์ร่างยักษ์หลุดร่วงลงไปในเหวลึก
“ กรร…….. ”
คองโกล่าร้องดัง พร้อมถลำไปข้างหน้า และในช่วงเวลานั้นเอง ร่างอันใหญ่โตก็หลุดพ้นจากพื้นดินไปยังความว่างเปล่าของอากาศ จากนั้นก็ร่วงหล่นลงสู่ก้นเหว โดยมีมาวินเกาะติดอยู่กลางหลัง
สองนักสู้นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ พวกเขาไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะลงเอยแบบนี้ โจจี้ค่อยๆรวบรวมกำลังลุกขึ้นยืน ส่วนเหมยลีก็ก้าวไปที่ขอบเหวลึกอย่างช้าๆ
เหมยลี่มองลงไปยังก้นเหว แม้ด้านล่างจะมีลำธารใสรองรับ แต่ก็สูงเกินกว่าคนธรรมดาจะรอดชีวิต เธอไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกยังไง ที่บอกได้ มีเพียงอย่างเดียวก็คือ…….ความว่างเปล่า
โจจี้เดินมาสมทบ เขาเองก็บาดเจ็บไม่ใช่น้อย เมื่อหนุ่มผมทองหยุดยืนอยู่ข้างเหมยลี่ เขาก็ก้มหน้าลงมองไปมองก้นเหว จากนั้นก็ส่ายหัวเบาๆ สีหน้าดูท้อแท้
ทั้งสองอยู่ที่ขอบเหวได้พักหนึ่ง โจจี้ก็หันกลับมาเก็บดาบคาตานะที่ตกพื้นเข้าฝัก ทิ้งให้เหมยลี่ยืนโดดเดี่ยว เวลานั้นมีสายลมพัดแรงจนทำให้เส้นผมของเด็กสาวปลิวไสว สีหน้าที่เคยเคร่งขรึมเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากนั้นเธอก็แหงนหน้าขึ้นสู่เบื้องบน แล้วตะโกนดัง เพื่อระบายอารมณ์
“ ชั้นสั่งแล้วไงว่าไม่ให้นายเข้ามายุ่ง ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย นายวิน ”
แน่นอนว่าโจจี้ที่ยืนอยู่ไม่ห่างย่อมต้องรู้สึกเจ็บปวด เขากัดฟันแน่น เพื่อข่มอารมณ์ร้ายทั้งมวลให้หยุดอยู่แค่ในใจ
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ