The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
107) ถึงจุดเกิดเหตุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.dreamstime.com
ความเฉียบคมของฮันเตอร์หนุ่มทำให้มาวินไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงด้วย อึดใจต่อมา โจจี้ก็ยกไฟแช็คขึ้นเหนือหัว พร้อมกดปุ่มจุดไฟสามทีติด
“ แช็ก แช็ก แช็ก ”
แทนที่เปลวไฟจะพวยพุ่งออกมา กลับเกิดแสงสว่างเปล่งประกาย มันเจิดจ้าจนถึงขั้นที่มาวินต้องยกมือขึ้นปิดตา
“ โอ้…….. ”
เมื่อแสงนั้นจางลง ก็มีท่อนใหญ่ยาวพุ่งออกมาจากส่วนบนของไฟแช็ค ส่วนอื่นก็เริ่มผลิแตกจนดูคล้ายหุ่นยนต์ที่กำลังประกอบร่างในหนังการ์ตูนหลอกเด็ก
ผ่านไปไม่นาน ส่วนที่คล้ายไกปืนก็เลื่อนลงมาหยุดอยู่ตรงส่วนล่าง ใกล้ๆกันนั้นปรากฏโลหะโค้งงอนที่ดูคล้ายนกสับ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้มาวินอึ้งกิมกี่ เขายืนตาค้างและพูดไม่ออก เป็นเรื่องเหลือเชื่อเอามากๆที่ไฟแช็คเล็กๆจะกลายเป็นไรเฟิลสีเงิน
โจจี้ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายกไรเฟิลขึ้นประทับบ่า พร้อมเล็งไปที่นกประหลาด หลังจากนั้นก็เงียบไปราวๆ 3 วินาที ประกายไฟตรงปากกระบอกจึงแลบออกมา พร้อมเสียงกัมปนาทที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
“ เปรี้ยง...... ”
“ อะ……จึ้ย ” มาวินสะดุ้งเฮือกเป็นเชิงตกใจ เนื่องจากเสียงดังกล่าว ไม่ต่างจากเสียงปืนในโลกของเขา
พอเสร็จสิ้นการลั่นไก โจจี้ก็คลายจากท่าเตรียมยิงมาเป็นถือปืนพาดบ่า พร้อมหันกลับมายิ้มให้มาวิน
“ เป็นไง ไฟแช็คของชั้นพอจะใช้ล่าสัตว์ได้มั้ย ”
มาวินนิ่งไปชั่วขณะ แต่ด้วยความดื้อรั้นของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาไม่ยอมแพ้
“ เชอะ ก็แค่ปืนยาวที่พ่นไฟและส่งเสียงดังได้เท่านั้น ใช้ล่าอะไรไม่ได้หรอก เพราะนายมันไร้ฝีมือ กะอีแค่นกตัวเดียวในระยะไม่กี่เมตร ยังยิงไม่ถูกเลย ”
โจจี้ส่ายหัวไปมาด้วยความระอา พร้อมบ่นพึมพำเบาๆ ท่าทางจะเซ็งในอารมณ์
“ เฮ้อ……. นอกจากงี่เง่า บ้าบอ ดันทุรัง นายยังมีสายตาที่แย่เอามากๆ ไหนลองบอกชั้นหน่อยซิว่า……นกตัวนั้นหายไปไหนแล้ว ”
มาวินเพ่งมองไปที่ต้นไม้ใหญ่อีกครั้ง ไม่นาน ก็พบว่านกประหลาดตัวนั้นได้หายไปจากจุดที่มันเคยยืน
“ อีโธ่ ก็แค่นกหาย สุดท้าย มันก็คงบินหนีไปด้วยความตกใจ ไม่ได้หมายความว่านายจะยิงแม่นจนถูกในนัดเดียวซะเมื่อไหร่ ” มาวินยังคงเถียงต่อ แต่ในใจกลับนึกสังหรณ์ว่านกตัวนั้นน่าจะไม่พ้นคมกระสุน
“ เฮ้อ…… นายน่ะมันบ้าเกินเยียวยาแล้วจริงๆ ” โจจี้ส่ายหัว พร้อมตอบเรียบๆ จากนั้นก็เดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ อันเป็นจุดที่นกประหลาดเคยประจำอยู่
เด็กหนุ่มหัวเขียวรู้สึกงง เพราะไม่รู้ว่าโจจี้จะเดินไปทำไม เขาหันหน้ากลับมามองเหมยลี่ เพื่อขอคำตอบ แต่สาวเจ้ากลับเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเก็บสัมภาระ เพื่อเตรียมออกเดินทาง ทิ้งให้มาวินยืนเอ๋ออยู่เดียวดาย
“ แล้วชั้นจะรู้มั้ยเนี่ยว่าเจ้าโจจี้เดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ทำไม ” มาวินบ่นพึมพำ
โจจี้จากไปแผล็บเดียว เขาก็กลับมาพร้อมกับซากนกที่เพิ่งยิง พอได้เห็นในระยะใกล้ ก็พบว่ามันมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ อันใกล้เคียงกับไก่ป่าตัวเขื่อง
“ ว่าไง ไฟแช็กจิ๋วอันนี้ พอจะใช้หากินได้มั้ย ” โจจี้ยักคิ้วหลิ่วตาให้อีกครั้ง ส่วนปืนไรเฟิลสีเงินได้หายไป คาดว่ามันน่าจะถูกทำให้กลายเป็นไฟแช็คดังเดิม
“ เหอๆ นายเก่ง ยอมแพ้ก็ได้ แต่ยอมแค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ ” มาวินหัวเราะแห้งๆ พร้อมเอ่ยปากยอมแพ้แบบขอไปที จากนั้นก็แยกไปเก็บข้าวของ โดยไม่ได้แสดงอาการชื่นชมโจจี้แต่อย่างใด
“ หึๆ ” โจจี้หัวเราะเบาๆในลำคอ ดูเหมือนว่าเขาจะมองท่าทีอวดดีของมาวินเป็นเรื่องชวนขำ มากกว่าจะยึดถือเป็นจริงเป็นจัง
……………………..
การเดินป่าในช่วงครึ่งวันหลัง ไม่ดุเดือดเหมือนช่วงเช้า เพราะชาวคณะเดินทางกันบนพื้นที่ราบ อุปสรรคมีแค่กิ่งไม้เล็กๆและพงหญ้าสูง แน่นอนว่ามันถูกทำให้หายไปด้วยคมดาบของโจจี้ สุดท้าย พวกเขาก็มาถึงจุดที่เป็นเบาะแส
สถานที่ๆโจจี้พามานั้นเป็นลานกว้างที่ไร้ไม้ยืนต้น ด้านหน้าเป็นถ้ำใหญ่ ด้านข้างปรากฏเหวลึกที่พื้นด้านล่างเป็นลำธารยาว
“ ว้าว….. สูงเป็นบ้าเลย น่าจะประมาณตึกเจ็ดชั้นเห็นจะได้ ถ้าตกลงไป กระดูกออกนอกเนื้อแน่ๆ ถึงจะมีธารน้ำอยู่ด้านล่าง ก็ไม่น่ารอด ” มาวินก้มลงไปมองก้นเหว สีหน้าแสดงออกถึงอาการเสียวไส้อย่างชัดเจน
“ เอ้า มัวแต่มองอะไรอยู่ รีบมาตรงนี้ สถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่คองโกล่าสังหารเหยื่อรายสุดท้าย ” โจจี้ร้องเรียกพรรคพวก
ไม่นานนัก สามสหายก็ได้มารวมตัวกัน ลิงหัวเขียวประจำคณะอดไม่ได้ที่จะปากปีจอ
“ ไหน ตรงไหนที่เจ้าคองอะไรซักอย่างก่ออาชญากรรม ชั้นคิดว่ามันคงฆ่าได้แต่คนแก่ขาพิการ ท่าทางเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้จะไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เหอๆ…… ”
ทั้งเหมยลี่และโจจี้ส่ายหัวไปมา พวกเขารู้สึกเซ็งกับความไม่รู้จักกาลเทศะของมาวิน ซึ่งทีแรก หนุ่มผมทองว่าจะไม่โต้ตอบ แต่สุดท้าย ก็ไม่อาจอดกลั้น จึงกล่าวเรียบๆด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและน่ากลัว
“ คนที่คองโกล่าฆ่าไปเป็น…..ฮันเตอร์ระดับสองที่มีอาวุธครบมือ แถมมีด้วยกันถึงสามคน ทั้งหมดตายในอาการเดียวกัน นั่นก็คือ…..หัวขาด ”
ทันทีที่มาวินรับฟัง เขาก็ถึงกับเงียบในบัดดล เพราะเกิดอาการช็อกอย่างรุนแรง แต่พอปรับอารมณ์ให้สงบได้บางส่วน เด็กหนุ่มจึงเอ่ยถามอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่ดูเหยๆ
“ เดี๋ยวนะพวก เมื่อกี้นายบอกว่าคนที่บาดเจ็บคือฮันเตอร์ที่ไม่มีอาวุธติดมือ และนิ้วหัวแม่เท้าของพวกเขาขาด ใช่มั้ย ”
โจจี้รู้สึกเซ็งในความพยายามหลอกหลอนตัวเองของมาวิน เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมตอกย้ำถึงความจริงที่ชวนผวา
“ คนตายทั้งสามคือฮันเตอร์ที่พกอาวุธมาเต็มกระเป๋า แถมทุกคนยังมีฝีมือสูงกว่านาย พวกเขาตายเพราะหัวขาด ”
ทั้งสามนิ่งไปชั่วขณะ อึดใจต่อมา เด็กหนุ่มหัวเขียวก็เริ่มกล่าวตะกุกตะกัก ดวงตาเล็กเรียวสั่นไหวเล็กน้อย อาการคล้ายคนที่ใกล้จะร้องไห้
“ ฮั่นแน่ นายอำชั้นเล่นอ่ะดิ เจ้าคองอะไรซักอย่างนั่นคงไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก เจ้าสามคนที่ตายไปน่าจะเป็นแค่ฮันเตอร์ฝึกหัดอายุซักสิบขวบ ใช่ม้า.... ”
“ เฮ้อ…… จะเข้าใจยังไง ก็เรื่องของนายแล้วกัน แต่สุดท้าย นายต้องรับหน้าที่เป็นตัวก่อกวน เพื่อเปิดช่องว่างให้ชั้นกับเหมยลี่เผด็จศึก เข้าใจมั้ย ” แม้โจจี้จะเบื่อหน่ายกับการหลอกตัวเองไม่เลิกราของมาวิน แต่เขาก็ไม่ว่างพอ จึงรีบตัดบท
“ เหอๆ ก็แค่ไอ้ตัวที่ทำได้แต่ไล่เตะเด็กสิบขวบ ชั้นคนเดียวก็เอาอยู่ ” มาวินเริ่มคุยโวอีกครั้ง แต่ท่าทางกลับเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ
“ เฮ้อ…… ” ทั้งเหมยลี่และโจจี้มองตากันเป็นเชิงเข้าใจ พวกเขารู้สึกสมเพชเวทนา ระหว่างที่ทั้งสามกำลังปรึกษาหารือ ก็บังเกิดเสียงประหลาด
“ คร่อก……. ”
โจจี้ชักดาบคาตานะออกมากระชับไว้ในมือ ส่วนเหมยลี่ตั้งการ์ดต่อสู้ มีเพียงมาวินเท่านั้นที่ยืนเอ๋อ
“ เอ๊ะ เสียงอะไร ใครมาทำเสียงแปลกๆแถวนี้ มันดูเหมือนเสียงขึ้นจมูกของคนตัวใหญ่ๆเลย ” มาวินร้องละล่ำละลัก สีหน้าแสดงออกว่าตกใจ
“ เจ้าบ้า นั่นมันไม่ใช่คน เตรียมตั้งกระบวนท่าต่อสู้เดี๋ยวนี้ ” โจจี้ร้องบอกเสียงแข็ง ใบหน้าเหลียวมองไปยังทิศทางที่เกิดเสียง
“ เดี๋ยวนะ ถ้าไม่ใช่คน แล้วมันเป็นตัวอะไร ชั้นงงไปหมดแล้ว ” มาวินร้องถามเสียงสั่น พลางตั้งท่าสู้ เพื่อเตรียมรับมือเจ้าของเสียงประหลาด กระนั้นก็ยังแอบผวาอยู่นิดๆ
คราวนี้โจจี้ไม่กล่าวคำใดออกมา แต่กลับเป็นเด็กสาวมาดขรึมที่ตอบเสียเอง
“ มันคือคองโกล่า มอนสเตอร์ที่นายบอกว่าดีแต่ไล่เตะเด็กสิบขวบยังไงล่ะ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ