The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
174 LV
22 วิจารณ์
165.89K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) อย่าแหย่มาวิน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
ณ. โซนเล่นเกมแห่งหนึ่งใจกลางกรุง ที่แห่งนี้เป็นจุดรวมพลของเหล่าเกมเมอร์ทั่วเมือง เหตุเพราะมันเป็นเกมเซ็นเตอร์ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเกมให้เลือกเล่นมากมาย ตั้งแต่เกมจับตุ๊กตาจนกระทั่งเกมสามมิติกราฟิกสูง
สถานที่นี้อุดมไปด้วยคนเก่ง ดังนั้นการแข่งขันจึงสูงมาก มีการท้าประลอง พนันขันต่อที่รุนแรงอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ว่าการต่อสู้จะดุเดือดเพียงใด มันก็มีกฎอยู่ข้อหนึ่งที่เหล่าเกมเมอร์ทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด กฎนั้นก็คือ.......
“ อย่าแหย่มาวิน ”
ยามเย็นวันศุกร์ อันเป็นช่วงเวลาที่โซนเกมแห่งนี้คึกคักที่สุด คอเกมหลากหลายจะมาเยี่ยมเยียน มีการดวลเกมกันหลายครั้ง และในวันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
.........................
ที่ตู้เกมแนวดวลปืน มีเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งรุมล้อม ตู้เกมนั้นมีลักษณะเป็นตู้ใหญ่สองตัวติดกัน แต่ละตัวจะมีหน้าจอใหญ่ตั้งอยู่ บนจอปรากฏภาพร้านเหล้าตะวันตกยุคเถื่อน มีฉากหลังเป็นทะเลทราย ทำให้รู้ว่านี่คือ......เกมดวลปืนแนวคาวบอยอย่างแน่นอน
หน้าตู้เกมเจ้ากรรม มีเด็กหนุ่มนายหนึ่งยืนตัวตรงแน่ว วางท่าเหมือนจะสมาร์ทอยู่ในชุดคาวบอยตะวันตกแบบเต็มยศ เขาเป็นคนรูปร่างผอมสูง แก้มตอบ ดวงตาลึกโหล จมูกงองุ้ม ผิวกายซีดเผือดคล้ายไม่เคยโดนแดดมาซักสิบปี เมื่อทุกสิ่งพร้อมสรรพ เด็กหนุ่มก็กล่าวต่อผู้คนที่รุมล้อมด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ
“ ว่ายังไง พวกนายจะรับคำท้ามั้ย เราต่อให้ลุยเข้ามากี่คนหรือกี่ครั้งก็ได้ ”
“ โห..... มั่นใจอะไรขนาดนั้น เกมดวลปืนนับเป็นเกมยอดฮิตของพวกเรา นายมาหยามถึงถิ่น มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ พวกเราถอยไป เดี๋ยวชั้นจะจัดการไอ้แห้งขี้โม้เอง ” เด็กหนุ่มผมสั้นเกรียน ร่างสูงสมส่วนในชุด รด. ตอบกลับเสียงกร้าว พร้อมเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาอย่างดุดัน
“ อืม…..ห้าวจริงๆ นายคือใครมิทราบ ” หนุ่มแห้งแสร้งถาม น้ำเสียงแฝงแววเย้ยหยัน
“ ชั้นชื่อ....เอก ฉายาไอ้หนุ่มปืนไว จำชื่อชั้นไว้ให้ดี ” เด็กหนุ่มถอดเสื้อ รด. ตัวนอกออก เหลือแต่เสื้อกล้ามสีเขียวขี้ม้าของกองทัพ
“ หึ หึ หึ ” เด็กหนุ่มร่างสูงผอมหัวเราะเบาๆ ท่าทางดูไม่สนใจคู่ต่อกรนายนี้เท่าใดนัก
นายหัวเกรียนฉายา ไอ้หนุ่มปืนไว พาร่างสูงสมส่วนกระโดดขึ้นไปหยัดยืนบนแท่นทรงกลมหน้าตู้เกม ส่วนหนุ่มร่างผอมค่อยๆเยื้องย่างไปประจำตำแหน่งอีกตู้อย่างเชื่องช้า
เมื่อสองผู้แข่งขันประจำตำแหน่ง ก็ปรากฏกายของเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง เขามีรูปร่างอ้วนเตี้ย บนใบหน้าอวบอูมคล้ายแป๊ะยิ้มประดับไปด้วยแว่นตาหนาเตอะ ดวงตาเล็กหยีกลอกไปมาอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงแหลมเล็กที่ไม่สมตัว
“ ในฐานะที่ผมเป็นประธานสมาคมคนรักเกม ขออนุญาตประกาศกฎการแข่ง เกมที่ทั้งสองใช้ประลอง เป็นเกมที่ต้องใช้ทักษะในการดวลปืน โดยทั้งคู่ต้องยืนอยู่บนแท่นเซ็นเซอร์ จากนั้นภาพโฮโลแกรมตัวคุณก็จะไปปรากฏบนหน้าจอของคู่ต่อสู้ เช่นเดียวกันภาพคู่ต่อสู้ก็จะไปปรากฏบนหน้าจอของคุณ ”
หนุ่มอ้วนหน้าแป๊ะยิ้มหยุดอธิบาย พร้อมหันไปมองคู่ชิงชัย เป็นนัยจะถามว่า…..สงสัยอะไรมั้ย เมื่อเห็นว่าไม่มีคำถาม ประธานสมาคมก็สาธยายต่อ
“ หลังจากนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องใช้ปืนที่ติดมากับตู้เกม ยิงคู่ต่อสู้บนจอภาพ เกมการแข่งจะสมจริงมาก ถ้ายิงเข้าหัวไหล่ แขน ขา พลังชีวิตก็จะลดลง พอพลังชีวิตหมด คุณก็จะตาย แต่ถ้าบังเอิญกระสุนเข้าหัวหรือหน้าอก ซึ่งเป็นจุดตายที่สำคัญ ก็จะตายในนัดเดียว แน่นอนผู้เล่นสามารถหลบเข้าที่กำบังด้วยการก้มตัวลงต่ำ นอกจากนี้ยังสามารถวิ่งไปซ้ายขวาด้วยการเอียงกายไปในทิศทางที่ต้องการ ส่วนการรีโหลดกระสุน สามารถทำได้ด้วยการสะบัดปืนขึ้นลงหนึ่งครั้ง ใครชนะสามเกมก่อน ถือเป็นผู้ชนะในแมทย์นี้ ”
“ เดี๋ยวครับ ท่านประธาน ผมขอเปลี่ยนกติกาใหม่ ” หนุ่มร่างผอมเสนอ
“ เอ่อ......เปลี่ยนกติกายังไงครับ ” ประธานร่างอ้วนเริ่มงุนงง
“ กติกาที่เปลี่ยนคือ….ถ้าผมตายเพียงครั้งเดียว ให้ถือว่าแพ้ไปเลย แต่นายเอกปืนไวสามารถตายได้ถึงสามครั้ง จึงจะแพ้ในเกมนี้ ” หนุ่มผอมแจงเรียบๆ
“ เฮ้ย ไม่ดูถูกกันเกินไปหน่อยหรือ ” เอกปืนไวเริ่มฉุน
“ เอาน่า เกมจะได้สูสี ” หนุ่มแห้งตอบหน้าตาเฉย
“ ไอ้…… ” เอกปืนไวเริ่มสุดกลั้น เขาทำท่าทางจะด่าให้สมแค้น แต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก หนุ่มแว่นร่างอ้วนผู้เป็นประธานสมาคมก็ตัดบท
“ คุณเอกปืนไว พร้อมจะแข่งต่อมั้ยครับ ”
“ ฮึ่ม….. ได้ โอเค แล้วเรามาเจอกันในเกม ไอ้กุ้งแห้ง ” หนุ่ม รด. รับคำ แต่ก็ไม่วายข่มขู่
ฝ่ายคู่กรณีดูเหมือนจะไม่ใส่ใจอาการโกรธเกรี้ยวของผู้ท้าชิงหัวเกรียน เขาโบกมือไปมาเบาๆ พร้อมส่งรอยยิ้มที่กวนบาทา
ทั้งคู่กดปุ่มเริ่มเกมที่แผงบังคับ ทันใดนั้นเองภาพหนุ่ม รด. ก็ไปปรากฏบนหน้าจอของหนุ่มร่างแห้ง ส่วนภาพหนุ่มร่างแห้งก็ไปปรากฏบนหน้าจอของหนุ่ม รด. บรรยากาศในตอนนี้ดูคล้ายกับการดวลปืนแนวตะวันตกจนแทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือ……เกม
“ ผมจะให้สัญญาณ พอสิ้นเสียง ก็เริ่มต่อสู้กันได้ ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนแจงกติกาเป็นครั้งสุดท้าย
“ รับทราบ ” สองคู่ชิงชัยขานรับพร้อมกัน
บรรยากาศก่อนการแข่งเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทั้งคู่ตั้งท่าเตรียมชักปืน เด็กเรียนร่างอ้วนเตี้ยก็เตรียมให้สัญญาณ ทันใดนั้นเองเสียงแหลมเล็กก็พ่นออกมาจากปากของประธานสมาคม
“ เริ่มได้ ”
นายเอกชักปืนที่เหน็บตรงซอกเอวขึ้นมา เพื่อเตรียมซัลโว ปากก็กู่ร้องตะโกนดัง
“ แกตาย ”
“ ปัง ”
“ โอ๊ย ”
เสียงปืนลั่นหนึ่งนัด พร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่ตามมาติดๆ ร่างตัวละครในจอภาพล้มลงไปนอนกองกับพื้น กลางจอปรากฏตัวอักษรภาษาอังกฤษสีแดงระบุว่า “Head Shoot” ทว่าคนที่ถูกยิงกระบาลแตก กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มหัวเกรียนในชุด รด.
“ โห……ทำได้ไง ” ผู้คนที่รายล้อมเริ่มโห่ฮา เสียงเหล่านั้นเซ็งแซ่ไปด้วยอารมณ์ที่สะท้อนถึงความตื่นเต้น ตกใจ
“ หึ หึ หึ ” เสียงหัวเราะแหบๆจากหนุ่มแห้งดังออกมา
เด็กหนุ่มในชุด รด. เหลียวมองคู่อริร่างแห้งแน่วนิ่ง สีหน้าและแววตาดูตื่นตระหนกถึงขีดสุด อึดใจต่อมาเขาก็เอ่ยถามเสียงเครียด
“ แก……แกทำได้ไง ”
“ ไม่รู้ซิ สงสัยจะฟลุคล่ะมั้ง ” หนุ่มแห้งในชุดคาวบอยตอบกลับ ท่าทีดูเฉยเมย
“ เก่งจริง เอาอีกทีดิ ไอ้ขี้ฟลุค ” หนุ่ม รด. ร้องท้า พร้อมหยอดเหรียญ 10 เข้าตู้ เพื่อเริ่มเกมใหม่อีกครั้ง
“ ก็เอาสิ ถึงยังไงนายก็มีโอกาสอีกตั้ง 2 ครั้งนี่นา ” หนุ่มแห้งกล่าวเนือยๆ
ทันทีที่เริ่มเกมใหม่ เอกปืนไวก็ตั้งสติ ดวงตาจับจ้องหนุ่มแห้งคาวบอยบนหน้าจอแน่วนิ่งชนิดไม่ยอมให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว
“ เมื่อกี้มันฟลุค มันไม่มีทางทำได้อีกครั้ง ” หนุ่ม รด. ปลุกปลอบใจตัวเอง
เมื่อคู่แข่งทั้งสองพร้อมประจัญบาน เด็กเรียนร่างอ้วนเตี้ยก็ส่งสัญญาณด้วยเสียงแหลมเล็ก
“ เริ่มได้ ”
สิ้นเสียงสัญญาณ นายเอกรีบชักปืนออกมา เพื่อหวังซัลโวเต็มสตรีม เขาสาบานกับตัวเองว่าสามารถชักปืนได้เร็วกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“ ปัง ปัง ปัง…… ”
นายเอกเน้นไวและเน้นรัว เขาลั่นจนหมดแม็ก แต่เมื่อควันจากกระสุนปืนจางลง ดวงตาของหนุ่ม รด. ก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะหนุ่มแห้งได้หายไปจากหน้าจอ
“ เฮ้ย มันหายไปได้ไง พลังชีวิตของมันก็ยังเต็มอยู่นี่นา แปลว่าที่รัวปืนไปเมื่อครู่ ไม่เข้าเป้าเลย แล้วมันหายไปไหน หรือว่า……. ” เด็กหนุ่ม รด. คิด พลางเหลือบมองไปยังคู่ต่อสู้ที่ตู้เกมข้างๆ เขาจึงพบว่า…..หนุ่มแห้งกำลังหลบเข้าที่กำบังด้วยการก้มตัวลงต่ำ
“ ซวยแล้ว ” เด็กหนุ่ม รด. สบถ เขารีบสะบัดปืนในมือ เพื่อทำการรีโหลดกระสุน แต่ก็สายไปเสียแล้ว หนุ่มแห้งที่ตู้เกมข้างๆ ลุกขึ้นมาโจมตีด้วยการยิงเพียงนัดเดียว
“ ปัง ”
“ โอ๊ย…… อ้าก….. ” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมตัวละครของเด็กหนุ่มผมสั้นที่ล้มลงไปนอนอีกคำรบ ชั่วครู่คำว่า “Head Shoot” ก็ปรากฏ
“ ฮ้า…..อะไรกันเนี่ย ” เด็กหนุ่ม รด.ทรุดกายลงนั่งคุกเข่า สีหน้าดูผิดหวังสุดๆราวกับพ่ายแพ้ในศึกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
“ ว่าไง ยอมแพ้หรือยัง แต่ เอ…..ดูเหมือนนายจะเหลือการแข่งอยู่อีกยกหนึ่งนี่นะ ” หนุ่มแห้งถามเรื่อยๆ น้ำเสียงส่อแววเย้ยหยัน
“ ยังๆ คราวนี้เป็นฝ่ายแกที่ต้องล้มลงไปนอนมั่ง ” เด็กหนุ่ม รด. ยังไม่ยอมแพ้ เขากัดฟันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพื่อเตรียมต่อสู้ในยกสุดท้าย
ในเกมที่สาม หนุ่ม รด.พยายามต่อสู้อย่างประณีต เพราะคู่ต่อสู้ทั้งยิงได้แม่นยำและชักปืนได้ว่องไวกว่า มิหนำซ้ำยังมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงที่แพรวพราว ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนแนวทางด้วยการหลบเข้าที่กำบังสลับกับออกมาจู่โจม
“ โอ้โห เก่งขึ้นนะนี่ แบบนี้เล่นยากมิใช่น้อย ” หนุ่มแห้งถึงกลับกล่าวชมคู่ต่อสู้ด้วยความจริงใจ
“ เชอะ ครั้งนี้ชั้นไม่ยอมแพ้นายแน่ ” หนุ่มเอกปืนไวขยับเข้าที่กำบังสลับกับลุกขึ้นไปยิง สายตาจับจ้องภาพบนจอไม่วางวาย
“ หึ หึ หึ อย่างงั้นต้องเจอท่านี้ ” หนุ่มแห้งพูดกับตัวเองเบาๆ แววตาเริ่มเปล่งประกายเอาจริง
สิ้นคำกล่าว หนุ่มแห้งก็ลุกขึ้นยืน พร้อมเอียงซ้ายทีขวาทีแบบไม่เป็นจังหวะ เพื่อบังคับตัวละครให้วิ่งไปมา เป็นการยั่วยุให้คู่ต่อสู้ออกมารุกไล่ และก็ได้ผล หนุ่ม รด.เกิดสติแตกจนเผลอสบถ
“ หน็อย..... ไอ้แห้งขี้กลาก ”
เด็กหนุ่ม รด. ลุกขึ้นมาซัลโวกระสุนปืนใส่หนุ่มแห้ง แม้การระดมยิงจะรวดเร็วและแม่นยำปานใด แต่ก็แทบไม่ถูกกายของคู่ต่อสู้เลย มีเพียงนัดเดียวที่ฟลุคไปโดนหัวไหล่ นั่นทำให้พลังชีวิตลดลงเล็กน้อย
“ ปัง ”
กระสุนปืนของหนุ่มแห้งลั่นออกมาเพียงนัดเดียว ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม นั่นคือหนุ่มเอกล้มลงไปนอน พร้อมการปรากฏข้อความสีแดงบนหน้าจอ อ่านได้สั้นๆว่า......“Head Shoot”
“ พะ…..แพ้แล้ว ” หนุ่มเอกล้มลงคุกเข่า สีหน้าบ่งบอกถึงความผิดหวังแบบสุดๆ
“ จบแล้ว มีใครคิดจะลองของกับ "แห้งปืนเทพ" อีกมั้ย ” เกมเมอร์หนุ่มผู้มีฉายานามว่า “แห้งปืนเทพ” ป่าวประกาศ ท่าทางดูหยิ่งผยองถึงขีดสุด
เหล่าเกมเมอร์หลายสิบต่างพูดคุย ปรึกษากันเองจนก่อให้เกิดเสียงเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ บางคนรำพึงรำพันด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่มีฝีมือจะไปต่อกร บางคนเริ่มด่าทอ เพราะไม่พอใจท่าทียโสโอหังของศัตรู บางคนตื่นตะลึงฝีมือยิงปืนขั้นเทพที่ปรากฏตรงหน้า กระนั้นก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะออกไปดวลปืน
“ เชอะ นี่น่ะหรือเกมเมอร์เมืองกรุง ไอ้เราก็นึกว่าจะเจ๋ง มีเกมให้เล่นเยอะซะเปล่า แต่หายอดฝีมือไม่ได้เลย ถุย กระจอก ” หนุ่มแห้งสบถด่า พร้อมถ่มน้ำลายลงพื้น อันส่อท่าทางเหยียดหยามอย่างชัดเจน
หลายคนในกลุ่มเกิดอาการขัดเคือง บางคนถึงกลับหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าประลองอยู่ดี ด้วยรู้แก่ใจถึงความห่างชั้นของฝีมือ ทันใดนั้นเองนายเอกปืนไวก็ลุกขึ้นยืน พร้อมเค้นคำเสียงกร้าว
“ ชั้นยอมรับว่านายเก่ง แต่ถ้าคิดจะดูถูกเกมเมอร์เมืองกรุง มันก็เกินไป นายยังไม่เจอกับมาวิน ถ้าได้เจอ ต้องอึ้งจนพูดไม่ออกแน่ คอยดูซิ ”
“ เฮอะ แล้วเจ้ามาวินอยู่ที่ไหนซะล่ะ หรือมันเห็นฝีมือของแห้งปืนเทพ แล้วเกิดกลัวจนหนีกลับบ้านไปฟ้องแม่ เป็นแบบนี้ชั้นก็แย่น่ะซิ เพราะอาจถูกแม่นายมาวินตามมาสั่งสอนก็ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…… ” นายแห้งปืนเทพ เกมเมอร์จากต่างเมืองตอบหยามๆ พร้อมหัวเราะเย้ยหยัน
ทันใดนั้นเองก็มีเหรียญเงินพุ่งเข้าใส่นายแห้งปืนเทพ ทว่าเขาก็รับเอาไว้ได้ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีเยี่ยม
“ ใคร….ใครขว้างเหรียญเงินใส่ชั้น ” หนุ่มแห้งตวาด ท่าทีเอาเรื่อง
“ ชั้นเอง ” เสียงห้าวๆที่ฟังดูกวนประสาทผสมระคายหูดังแทรกเข้ามา
ทุกคนในกลุ่มหันหน้าไปยังทิศทางที่เกิดเสียง เมื่อประจักษ์ว่าใครคือผู้ที่ขว้างเหรียญ สีหน้าก็ฉายแววปิติดีใจออกมาอย่างชัดเจน
“ ปรากฏตัวออกมา ” หนุ่มแห้งตวาดลั่นด้วยอาการโกรธเกรี้ยว สายตาพยายามมองหาเจ้าของเหรียญ แต่ก็ไม่เห็น เพราะมีกลุ่มคนนับสิบบดบังอยู่
สิ้นเสียงตวาด กลุ่มคนที่รายล้อมก็พร้อมใจกันขนานนามบุคคลผู้มาเยือนอย่างพร้อมเพรียง
“ มาวิน มาวิน มาวิน……”
ทุกคนดูศรัทธาบุคคลผู้นี้เป็นอันมาก เสียงขนานนามดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้หนุ่มแห้งปืนเทพเริ่มหน้าซีด ทันใดนั้นเองก็มีเด็กหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งเดินแหวกกลุ่มคนออกมา
เด็กหนุ่มนายนี้มีใบหน้าแหลมเล็ก ดวงตาเรียวยาวและส่อแววเจ้าเล่ห์คล้ายนัยน์ตาหมาป่า จมูกโด่งพอประมาณ ริมฝีปากค่อนข้างบาง บนศีรษะประดับผมทรงรากไทรที่ย้อมสีเขียวสดใส หน้าม้าตั้งเป็นกะบังด้วยฤทธิ์เยลใส่ผม เขาซ่อนร่างเล็กบางในชุดเสื้อกล้ามแขนกุดสีขาวซึ่งมีเสื้อฮาวายสีเขียวคลุมทับ ส่วนช่วงล่างสวมกางเกงยีนส์สีซีด ฝ่าเท้าประดับรองเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้
ผู้คนกว่าครึ่งร้อยยังขนานนามอย่างไม่หยุดยั้ง สายตาทุกคู่ส่อแววชื่นชม เมื่อเด็กหนุ่มยกมือขึ้นปราม เสียงก็ค่อยๆซาลง จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเงียบสงบ
“ กะ…..แกเป็นใคร ” หนุ่มแห้งถามเสียงสั่น
เด็กหนุ่มมาดกวนเหล่มองมาที่หนุ่มแห้งแวบหนึ่ง ก่อนหันมาประจันหน้าแบบเต็มสองตา เสียงห้าวที่ดูเกรียนๆดังออกมาจากปากเล็กบาง
“ ชั้นชื่อ "มาวิน" ส่วนเหรียญที่ขว้างไป ชั้นให้แกเพื่อหยอดลงตู้เกม เรามาดวลกัน ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ