The Phoenix of Andromeda
-
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.23 น.
19 ตอน
36 วิจารณ์
18.14K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) อินทรีอสูรหิมะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"พ... พี่ใหญ่ ข้าขอโทษ..." หมาป่ายมราชพูดกับคนลึกลับด้วยเสียงอ่อยๆ
และเมื่อผู้ที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไปของคนลึกลับผู้นี้ได้ยินคำพูดของหมาป่ายมราชแล้ว ก็ได้เข้าใจขึ้นมาในจังหวะนั้นพอดีว่า คนลึกลับผู้นี้ก็คือหัวหน้ากลุ่มหรือพี่ใหญ่ของนักรบอัศวินแห่งโบโรเธียนั่นเอง
บุคคลิกของคนลึกลับผู้นี้ดูแล้วช่างน่าเกรงขามไม่ต่างกับน้ำเสียงที่พูดออกมา และมันผู้นี้เมื่อดูแบบเผินๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าจะยังมีอายุไม่มากนัก แต่ทว่าเส้นผมที่ยาวจนจรดกลางหลังของมันนั้นกลับมีสีขาวราวกับหิมะเช่นเดียวกับชุดยาวสีขาวของมัน และเมื่อมันได้หันมาทางด้านที่พวกแอนโดร่ายืนอยู่ พวกแอนโดร่าก็ได้เห็นว่ามันผู้นี้กลับเป็นบุรุษผู้ที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายเป็นอย่างมาก และขนคิ้วทั้งสองข้างบนใบหน้ามันนั้นก็มีสีขาวเช่นเดียวกับเส้นผมของมัน
และเมื่อมันได้กวาดตาดูหน้าของพวกชาวแอนโดร่าทุกคนแล้ว มันก็ไปหยุดสายตาอยู่ที่เมธานอสและคาเมเลียสที่อยู่เลยไปทางด้านขวา
"เมธานอสขอคำนับพี่ใหญ่..." เสียงของเมธานอสเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสดงการคารวะคนลึกลับอย่างนอบน้อม "ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่อาจจะปกป้องศิษย์น้องคนเล็กได้ดีนัก บัดนี้นางได้สูญเสียแขนของตัวเองไปหนึ่งข้างแล้ว ข้ารู้สึกเสียใจจริงๆ ..."
คนลึกลับผู้นี้โบกมือขึ้น "ไม่ต้องเสียใจอะไร... ข้าเองก็เคยได้คาดการไว้แล้วว่า คาเมเลียสจะต้องมีความหุนหันพลันแล่นกับการทำงานครั้งนี้ ดังนั้นตอนแรกข้าจึงได้วางแผนกับอาจารย์ของพวกเราให้นางได้จับคู่กับเจ้าเพื่อทำงานในครั้งนี้ โดยในท้ายสุดข้าก็แค่หวังให้พวกเจ้าเยื้อพวกแอนโดนร่าตัวใหญ่ๆ ไว้ที่นี่ ซึ่งเจ้ากับคาเมเลียสก็ถือว่าได้ทำงานครั้งนี้ได้ไม่เลวนัก"
คาเมเลียสผู้ยังนั่งเดินพลังรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกตัดแขนขาดเสมอไหล่ก็ยิ้มออกมาที่มุมปากราวกับซาบซึ้งกับคำพูดนั้น
"ขอบคุณพี่ใหญ่ เรื่องแขนที่ขาดไปข้างหนึ่งของข้านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และหลังจากนี้ข้าก็ยังทำงานต่อไปได้อีก โปรดอย่าได้ห่วงอะไรในตัวข้า" วาจาของคาเมเลียสกลับเข้มแข็งไม่มีย่อท้อ มันช่างเหลือเชื่อว่านางจะเป็นแค่สตรีเพศ
ขณะนั้นองครักษ์หน้ากลมซึ่งกำลังยืนพิจารณาคนลึกลับผู้นี้มาได้สักพักหนึ่งก็ถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมา เมื่อเขาราวกับจะเพิ่งนึกออกในตอนนี้ว่าคนลึกลับผู้นี้เป็นใครกันแน่...?
"อา... ม... มันผู้นี้ก็คือ... ไอรอส ผู้มีฉายาว่า 'อินทรีอสูรหิมะ' คนที่อยู่ในตำนานของพวกโบโรเธียนั่นเอง...! ' คำพูดขององครักษหน้ากลมไม่ดังนัก แต่ทว่าเกือบทุกคนในที่นั้นที่ยังไม่เคยพบเจอคนผู้นี้มาก่อนก็ถึงกับตะลึงกันทั้งหมด!
องครักษ์หน้ายาวรีบหันกลับไปที่องครักษ์หน้ากลมด้วยใบหน้าฉงนฉงาย "อิทรีอสูรหิมะ คนที่ได้โดดลงจากเรือของกษัตริย์แห่งดาวทาบู (ดาวน้ำแข็ง) ในตำนานเมื่อราวสามร้อยห้าสิบปีนั้นน่ะเหรอ? "
องครักษ์หน้ากลมพยักหน้า "น่าจะ... น่าจะใช่ล่ะ ในเหตุการณ์ตอนนั้นคนที่เล่าสืบต่อกันมากล่าวว่า เพราะกษัตริย์แห่งดาวทาบูในตอนนั้นต้องการศาตราในตำนานชิ้นหนึ่งที่จมอยู่ตรงบริเวณขั้วโลกของดาวทาบู จึงได้หว่านล้อมให้ไอรอสผู้มีความสามารถต้านความเย็นสุดขั้วได้ลงไปงมหาศาตราชิ้นนั้น แต่ทว่าหลังจากที่ไอรอสได้โดดลงไปในทะเลขั้วโลกตรงนั้นแล้ว มันเองก็กลับหายสาปสูญไปจนกลายเป็นตำนานเรื่องเล่ามาจนถึงบัดนี้..."
"เจ้า... เจ้าแน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับมันผู้นี้เหรอ? " องครักษ์หน้ายาวยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน
องครักษ์หน้ากลมพยักหน้า "ไม่น่าจะผิด ผมที่ขาวราวหิมะ รวมทั้งคิ้วทั้งคู่นั่นด้วย และที่สำคัญ ที่กลางหน้าผากนั่น มันยังมีร่องรอยของเนตรมารหิมะที่เป็นตาที่สามอยู่ด้วย เจ้าลองมองดูดีๆ สิ"
องครักษ์หน้ายาวรีบพิจจารณาดูที่ตรงหน้าผากของคนลึกลับ และในที่สุดก็ได้มองเห็นร่องรอยของเนตรมารหิมะที่ราวกับเป็นตาที่สามจริงๆ ซึ่งลักษณะที่สำคัญตรงหน้าผากนั้นมันดูคล้ายๆ กับมีเปลือกตาที่กำลังหลับตาวางตำแหน่งอยู่ในแนวตั้งระหว่างตาปกติทั้งสองข้าง
"แต่ดูเหมือนว่าข้าจะได้ยินอยู่ว่า มันได้พูดถึงอาจารย์ของมัน ถ้ามันคือคนเดียวกับคนในตำนานอย่างที่เจ้าว่า ก็แล้วมันยังจะมีอาจารย์ในยุคนี้เพื่ออะไรกันล่ะ...? " แม้องครักษ์หน้ายาวจะยอมรับในสิ่งที่เห็นตรงหน้าแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามที่เป็นที่น่าสังเกตุจนได้
แล้วองครักษ์หน้ากลมก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่กับเหตุผลนี้ "นั่น... นั่นน่ะสิ แปลกจริงๆ? "
"มันจะเป็นใครหรือสำคัญแค่ไหนก็ช่างมันเถอะ..." โรมิยาสที่ได้ยินคำพูดของทั้งสองมาโดยตลอดพูดสอดขึ้น "เพราะลักษณะการปรากฏตัวแบบนี้ของมัน มันก็เห็นๆ กันอยู่ว่า มันเป็นศัตรูของพวกเราอย่างแน่นอน...! "
องครักษ์ทั้งสองถึงกับเงียบไปทันที
"เจ้านี่ดูหน้าเด็ก แต่ก็ดูจะร้ายกาจที่สุดด้วย ท่านรู้สึกไหมโคแวน? " โรมิยาสหันไปบอกโคแวนที่ได้ยืนห่างจากเขาไปราวสิบก้าว
และแน่นอนว่า โคแวนเองก็รู้สึกถึงพลังปราณแบบแปลกประหลาดที่แผ่ออกมาจากร่างของคนลึกลับชุดขาวนั้นเช่นเดียวกับที่โรมิยาสรู้สึก และเขาก็ยังใช้พลังปราณของเขาวิเคราะห์จนรู้สึกอีกว่า พลังปราณประหลาดนั้นนอกจากจะมีพลังอันกดดันออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ามันก็ยังมีความอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาอย่างมากมายพร้อมๆ กับพลังปราณนั้นด้วย...!
แต่จะว่ากันจริงๆ ความกดดันที่แท้จริงของโคแวนนั้นกลับอยู่ที่การที่เขาอาจจะไม่สามารถปกป้ององค์พระจักรพรรดิ์และพระราชโอรสไม่ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกศัตรูอย่างที่เขาต้องการได้
เขาเองในขณะนี้กำลังเริ่มคิดหาทางหนีที่ไล่เพื่อที่จะให้เขาเองหรือใครคนใดคนหนึ่งในที่นี้หลบเร้นออกไปยังจุดที่มีองค์พระจักรพรรดิ์และพระราชโอรสอยู่ให้ได้โดยเร็ว
แต่ทว่า ศัตรูที่ได้เพิ่มขึ้นหรือเริ่มรายล้อมอยู่รอบๆ นี้ ก็หาใช่ระดับธรรมดา ยิ่งบุรุษหนุ่มผมขาวที่อยู่ข้างหน้านี้ ก็ยังไม่แน่ว่าใครในที่นี้จะสามารถรับมือได้ และแม้ว่าโคแวนจะเชื่อมั่นในฝีมืออันกล้าแกร่งของโรมิยาสปานใด เขาก็คาดว่าโรมิยาสเองก็ไม่น่าจะเอาชัยบุรุษผมขาวได้
ดังนั้นที่ถูก เขาควรจะหาทางให้โรมิยาสเร้นหลบไปช่วยองค์พระจักรพรรดิ์ และเขาเองนี่ล่ะจะคอยรับมือกับบุรษผมขาวที่น่าสะพรึงผู้นี้เอง
ราวกับว่าบุรุษผมขาวจะได้ลอบสังเกตุเห็นอาการครุ่นคิดของโคแวน ดังนั้นมันจึงได้ย่างก้าวตรงมาทางโคแวน และมันก็ได้หยุดอยู่ที่เบื้องหน้าเขาในระยะประมาณยี่สิบก้าว
"โคแวน ยอดขุนพลผู้กระเดื่องเรืองนามแห่งอณาจักรแอนโดร่า..." น้ำเสียงของมันยังคงเนิบๆ "ดูๆ ท่านแล้วคงจะมีสิ่งที่ต้องคิดให้ล้นสมองอยู่สินะ หึหึ หรือว่าท่านกำลังคิดจะแบ่งกำลังให้ใครไปช่วยองค์พระจักรพรรดิ์กันล่ะ...? "
คำพูดราวกับจะรู้ทันของบุรุษผมขาวถึงกับทำให้หางตาของโคแวนกระตุกขึ้นมาทันที
"แต่ไม่ว่าท่านจะคิดวางแผน หรือคิดทำอย่างไร ในตอนนี้..." บุรุษชุดขาวกล่าวมาอีกเนิบๆ ดุจคนเกียจคร้าน "ข้าก็อยากจะบอกให้ท่านรู้ล่วงหน้าเลยว่า ท่านทำไม่สำเร็จแน่นอน..."
วาจาที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมากนั้น ถึงกับทำให้โคแวนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
แล้วบุรุษชุดขาวก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย "ท่านยิ้ม... เมื่อท่านยอมรับหรือยอมจำนนในวาจาที่ข้ากล่าว ท่านถึงกับยิ้มเช่นนี้เหรอ? "
โคแวนพยักหน้าให้บุรุษผมขาว
"ข้ายิ้มให้กับวาจาของท่านที่กล่าวอย่างมั่นใจจนเกินไป..."
"ทำไม...? "
"เพราะคนที่มั่นใจจนเกินไปมักจะผิดพลาดและพ่ายแพ้ในท้ายสุด"
"ความมั่นใจของข้าไม่ใช่สิ่งไม่ดี..."
"ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่มันคือจุดอ่อนที่ทำให้พ่ายแพ้...! "
"ท่านกำลังเล่นคารมกับข้า...! "
สิ้นเสียงของบุรุษผมขาว พลังที่บ่งบอกถึงความอำมหิตก็แผ่ซ่านถึงเบื้องหน้าของโคแวนทันที...!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
และเมื่อผู้ที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไปของคนลึกลับผู้นี้ได้ยินคำพูดของหมาป่ายมราชแล้ว ก็ได้เข้าใจขึ้นมาในจังหวะนั้นพอดีว่า คนลึกลับผู้นี้ก็คือหัวหน้ากลุ่มหรือพี่ใหญ่ของนักรบอัศวินแห่งโบโรเธียนั่นเอง
บุคคลิกของคนลึกลับผู้นี้ดูแล้วช่างน่าเกรงขามไม่ต่างกับน้ำเสียงที่พูดออกมา และมันผู้นี้เมื่อดูแบบเผินๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าจะยังมีอายุไม่มากนัก แต่ทว่าเส้นผมที่ยาวจนจรดกลางหลังของมันนั้นกลับมีสีขาวราวกับหิมะเช่นเดียวกับชุดยาวสีขาวของมัน และเมื่อมันได้หันมาทางด้านที่พวกแอนโดร่ายืนอยู่ พวกแอนโดร่าก็ได้เห็นว่ามันผู้นี้กลับเป็นบุรุษผู้ที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายเป็นอย่างมาก และขนคิ้วทั้งสองข้างบนใบหน้ามันนั้นก็มีสีขาวเช่นเดียวกับเส้นผมของมัน
และเมื่อมันได้กวาดตาดูหน้าของพวกชาวแอนโดร่าทุกคนแล้ว มันก็ไปหยุดสายตาอยู่ที่เมธานอสและคาเมเลียสที่อยู่เลยไปทางด้านขวา
"เมธานอสขอคำนับพี่ใหญ่..." เสียงของเมธานอสเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสดงการคารวะคนลึกลับอย่างนอบน้อม "ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่อาจจะปกป้องศิษย์น้องคนเล็กได้ดีนัก บัดนี้นางได้สูญเสียแขนของตัวเองไปหนึ่งข้างแล้ว ข้ารู้สึกเสียใจจริงๆ ..."
คนลึกลับผู้นี้โบกมือขึ้น "ไม่ต้องเสียใจอะไร... ข้าเองก็เคยได้คาดการไว้แล้วว่า คาเมเลียสจะต้องมีความหุนหันพลันแล่นกับการทำงานครั้งนี้ ดังนั้นตอนแรกข้าจึงได้วางแผนกับอาจารย์ของพวกเราให้นางได้จับคู่กับเจ้าเพื่อทำงานในครั้งนี้ โดยในท้ายสุดข้าก็แค่หวังให้พวกเจ้าเยื้อพวกแอนโดนร่าตัวใหญ่ๆ ไว้ที่นี่ ซึ่งเจ้ากับคาเมเลียสก็ถือว่าได้ทำงานครั้งนี้ได้ไม่เลวนัก"
คาเมเลียสผู้ยังนั่งเดินพลังรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกตัดแขนขาดเสมอไหล่ก็ยิ้มออกมาที่มุมปากราวกับซาบซึ้งกับคำพูดนั้น
"ขอบคุณพี่ใหญ่ เรื่องแขนที่ขาดไปข้างหนึ่งของข้านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และหลังจากนี้ข้าก็ยังทำงานต่อไปได้อีก โปรดอย่าได้ห่วงอะไรในตัวข้า" วาจาของคาเมเลียสกลับเข้มแข็งไม่มีย่อท้อ มันช่างเหลือเชื่อว่านางจะเป็นแค่สตรีเพศ
ขณะนั้นองครักษ์หน้ากลมซึ่งกำลังยืนพิจารณาคนลึกลับผู้นี้มาได้สักพักหนึ่งก็ถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมา เมื่อเขาราวกับจะเพิ่งนึกออกในตอนนี้ว่าคนลึกลับผู้นี้เป็นใครกันแน่...?
"อา... ม... มันผู้นี้ก็คือ... ไอรอส ผู้มีฉายาว่า 'อินทรีอสูรหิมะ' คนที่อยู่ในตำนานของพวกโบโรเธียนั่นเอง...! ' คำพูดขององครักษหน้ากลมไม่ดังนัก แต่ทว่าเกือบทุกคนในที่นั้นที่ยังไม่เคยพบเจอคนผู้นี้มาก่อนก็ถึงกับตะลึงกันทั้งหมด!
องครักษ์หน้ายาวรีบหันกลับไปที่องครักษ์หน้ากลมด้วยใบหน้าฉงนฉงาย "อิทรีอสูรหิมะ คนที่ได้โดดลงจากเรือของกษัตริย์แห่งดาวทาบู (ดาวน้ำแข็ง) ในตำนานเมื่อราวสามร้อยห้าสิบปีนั้นน่ะเหรอ? "
องครักษ์หน้ากลมพยักหน้า "น่าจะ... น่าจะใช่ล่ะ ในเหตุการณ์ตอนนั้นคนที่เล่าสืบต่อกันมากล่าวว่า เพราะกษัตริย์แห่งดาวทาบูในตอนนั้นต้องการศาตราในตำนานชิ้นหนึ่งที่จมอยู่ตรงบริเวณขั้วโลกของดาวทาบู จึงได้หว่านล้อมให้ไอรอสผู้มีความสามารถต้านความเย็นสุดขั้วได้ลงไปงมหาศาตราชิ้นนั้น แต่ทว่าหลังจากที่ไอรอสได้โดดลงไปในทะเลขั้วโลกตรงนั้นแล้ว มันเองก็กลับหายสาปสูญไปจนกลายเป็นตำนานเรื่องเล่ามาจนถึงบัดนี้..."
"เจ้า... เจ้าแน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับมันผู้นี้เหรอ? " องครักษ์หน้ายาวยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน
องครักษ์หน้ากลมพยักหน้า "ไม่น่าจะผิด ผมที่ขาวราวหิมะ รวมทั้งคิ้วทั้งคู่นั่นด้วย และที่สำคัญ ที่กลางหน้าผากนั่น มันยังมีร่องรอยของเนตรมารหิมะที่เป็นตาที่สามอยู่ด้วย เจ้าลองมองดูดีๆ สิ"
องครักษ์หน้ายาวรีบพิจจารณาดูที่ตรงหน้าผากของคนลึกลับ และในที่สุดก็ได้มองเห็นร่องรอยของเนตรมารหิมะที่ราวกับเป็นตาที่สามจริงๆ ซึ่งลักษณะที่สำคัญตรงหน้าผากนั้นมันดูคล้ายๆ กับมีเปลือกตาที่กำลังหลับตาวางตำแหน่งอยู่ในแนวตั้งระหว่างตาปกติทั้งสองข้าง
"แต่ดูเหมือนว่าข้าจะได้ยินอยู่ว่า มันได้พูดถึงอาจารย์ของมัน ถ้ามันคือคนเดียวกับคนในตำนานอย่างที่เจ้าว่า ก็แล้วมันยังจะมีอาจารย์ในยุคนี้เพื่ออะไรกันล่ะ...? " แม้องครักษ์หน้ายาวจะยอมรับในสิ่งที่เห็นตรงหน้าแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามที่เป็นที่น่าสังเกตุจนได้
แล้วองครักษ์หน้ากลมก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่กับเหตุผลนี้ "นั่น... นั่นน่ะสิ แปลกจริงๆ? "
"มันจะเป็นใครหรือสำคัญแค่ไหนก็ช่างมันเถอะ..." โรมิยาสที่ได้ยินคำพูดของทั้งสองมาโดยตลอดพูดสอดขึ้น "เพราะลักษณะการปรากฏตัวแบบนี้ของมัน มันก็เห็นๆ กันอยู่ว่า มันเป็นศัตรูของพวกเราอย่างแน่นอน...! "
องครักษ์ทั้งสองถึงกับเงียบไปทันที
"เจ้านี่ดูหน้าเด็ก แต่ก็ดูจะร้ายกาจที่สุดด้วย ท่านรู้สึกไหมโคแวน? " โรมิยาสหันไปบอกโคแวนที่ได้ยืนห่างจากเขาไปราวสิบก้าว
และแน่นอนว่า โคแวนเองก็รู้สึกถึงพลังปราณแบบแปลกประหลาดที่แผ่ออกมาจากร่างของคนลึกลับชุดขาวนั้นเช่นเดียวกับที่โรมิยาสรู้สึก และเขาก็ยังใช้พลังปราณของเขาวิเคราะห์จนรู้สึกอีกว่า พลังปราณประหลาดนั้นนอกจากจะมีพลังอันกดดันออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ามันก็ยังมีความอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาอย่างมากมายพร้อมๆ กับพลังปราณนั้นด้วย...!
แต่จะว่ากันจริงๆ ความกดดันที่แท้จริงของโคแวนนั้นกลับอยู่ที่การที่เขาอาจจะไม่สามารถปกป้ององค์พระจักรพรรดิ์และพระราชโอรสไม่ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกศัตรูอย่างที่เขาต้องการได้
เขาเองในขณะนี้กำลังเริ่มคิดหาทางหนีที่ไล่เพื่อที่จะให้เขาเองหรือใครคนใดคนหนึ่งในที่นี้หลบเร้นออกไปยังจุดที่มีองค์พระจักรพรรดิ์และพระราชโอรสอยู่ให้ได้โดยเร็ว
แต่ทว่า ศัตรูที่ได้เพิ่มขึ้นหรือเริ่มรายล้อมอยู่รอบๆ นี้ ก็หาใช่ระดับธรรมดา ยิ่งบุรุษหนุ่มผมขาวที่อยู่ข้างหน้านี้ ก็ยังไม่แน่ว่าใครในที่นี้จะสามารถรับมือได้ และแม้ว่าโคแวนจะเชื่อมั่นในฝีมืออันกล้าแกร่งของโรมิยาสปานใด เขาก็คาดว่าโรมิยาสเองก็ไม่น่าจะเอาชัยบุรุษผมขาวได้
ดังนั้นที่ถูก เขาควรจะหาทางให้โรมิยาสเร้นหลบไปช่วยองค์พระจักรพรรดิ์ และเขาเองนี่ล่ะจะคอยรับมือกับบุรษผมขาวที่น่าสะพรึงผู้นี้เอง
ราวกับว่าบุรุษผมขาวจะได้ลอบสังเกตุเห็นอาการครุ่นคิดของโคแวน ดังนั้นมันจึงได้ย่างก้าวตรงมาทางโคแวน และมันก็ได้หยุดอยู่ที่เบื้องหน้าเขาในระยะประมาณยี่สิบก้าว
"โคแวน ยอดขุนพลผู้กระเดื่องเรืองนามแห่งอณาจักรแอนโดร่า..." น้ำเสียงของมันยังคงเนิบๆ "ดูๆ ท่านแล้วคงจะมีสิ่งที่ต้องคิดให้ล้นสมองอยู่สินะ หึหึ หรือว่าท่านกำลังคิดจะแบ่งกำลังให้ใครไปช่วยองค์พระจักรพรรดิ์กันล่ะ...? "
คำพูดราวกับจะรู้ทันของบุรุษผมขาวถึงกับทำให้หางตาของโคแวนกระตุกขึ้นมาทันที
"แต่ไม่ว่าท่านจะคิดวางแผน หรือคิดทำอย่างไร ในตอนนี้..." บุรุษชุดขาวกล่าวมาอีกเนิบๆ ดุจคนเกียจคร้าน "ข้าก็อยากจะบอกให้ท่านรู้ล่วงหน้าเลยว่า ท่านทำไม่สำเร็จแน่นอน..."
วาจาที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมากนั้น ถึงกับทำให้โคแวนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
แล้วบุรุษชุดขาวก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย "ท่านยิ้ม... เมื่อท่านยอมรับหรือยอมจำนนในวาจาที่ข้ากล่าว ท่านถึงกับยิ้มเช่นนี้เหรอ? "
โคแวนพยักหน้าให้บุรุษผมขาว
"ข้ายิ้มให้กับวาจาของท่านที่กล่าวอย่างมั่นใจจนเกินไป..."
"ทำไม...? "
"เพราะคนที่มั่นใจจนเกินไปมักจะผิดพลาดและพ่ายแพ้ในท้ายสุด"
"ความมั่นใจของข้าไม่ใช่สิ่งไม่ดี..."
"ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่มันคือจุดอ่อนที่ทำให้พ่ายแพ้...! "
"ท่านกำลังเล่นคารมกับข้า...! "
สิ้นเสียงของบุรุษผมขาว พลังที่บ่งบอกถึงความอำมหิตก็แผ่ซ่านถึงเบื้องหน้าของโคแวนทันที...!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ