สืบสู้ผี ภาค 1-2
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
57) เริ่มฝ่าออกไป !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสืบสู้ผี ภาค 2 บทที่ 57
"เอาล่ะ พักเหนื่อยกันสักนิด" มูติชาห์บอกพวกเรา "เพราะหลังจากนี้พวกเราก็จะได้ลงมือฝ่าออกไปจากตรงนี้กันเสียที"
"ตามที่ข้าได้บอกมาก่อนหน้านี้ว่า ท่านพ่อของข้ากับพวกทหารของฝ่ายเราและรวมทั้งเพื่อนคนนั้นของท่านได้หลบออกไปทางด้านขวาสุดตรงนั้น ตรงที่มีโขดหินใหญ่ๆ นั่น" มูติชาห์พูดพลางชี้มือไปที่จุดนั้นอีกครั้ง
"และที่หลังโขดหินนั่นก็ยังเป็นจุดหนึ่งที่มีศิลาฤดูกาลตั้งอยู่หนึ่งลูกด้วย และพวกเราทั้งหมดในที่นี้ก็จะต้องรีบเข้าไปสมทบกับพวกท่านพ่อให้เร็วที่สุดโดยในคราวนี้พวกเราก็จะต้องทำเวลาในการวิ่งไปให้ถึงจุดนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ โดยที่พวกเราก็จะมีจุดพักหรือจุดหลบระหว่างกลางที่เห็นเป็นโขดหินต่ำๆ อยู่ตรงนั้นด้วย และคราวนี้ก็เช่นกันที่สิงห์จะนำท่านกับจันไปให้ถึงที่จุดนั้นก่อน ในขณะที่ข้าจะอยู่รั้งท้ายที่ตรงจุดนี้เพื่อคอยยิงสกัดพวกทหารทรยศที่น่าจะออกมาคอยยิงสกัดพวกท่านไม่ให้วิ่งไปถึงโขดหินใหญ่ได้"
"จากนั้น ข้าจะให้สัญญาณกับสิงห์เพื่อที่จะให้ท่านกับจันวิ่งไปที่โขดหินใหญ่ให้เร็วที่สุดโดยที่ข้าจะยังคอยยิงสกัดพวกทหารนั่นอยู่ที่ตรงนี้ในขณะที่สิงห์จะคอยยิงสกัดจากที่โขดหินต่ำๆ นั่น หลังจากนั้นเมื่อข้ากับสิงห์เห็นว่าท่านทั้งสองปลอดภัยแล้ว ข้าก็จะออกจากที่ตรงนี้ไปสมทบกับสิงห์ที่โขดหินนั่น ก่อนที่ข้ากับสิงห์จะตามพวกท่านไปที่โขดหินใหญ่เป็นลำดับต่อไป ที่ข้ากล่าวมาทั้งหมดนี่ ท่านทั้งสองคงจะเข้าใจกันนะ...? "
ผมหันไปมองหน้าจัน "ไหวไม๊จัน... จันเข้าใจที่เขาพูดมาทั้งหมดนี่ใช่ไม๊? "
จันยิ้มแหยๆ ออกมาตามสไตล์ "ผม... ผมเข้าใจครับพี่กิต แต่ไม่รู้ว่าผมจะวิ่งได้เร็วขนาดไหนนะครับพี่กิต คือ... ผมน่ะไม่มั่นใจตัวเองเลยสักนิดนะพี่ แฮะๆ "
"ตอนที่วิ่งลงมาจากสะพานล่องหน จันวิ่งได้เร็วมาก ฉันเชื่อว่าจันจะวิ่งแบบนั้นได้อีก เอาแค่นั้นก็คงจะพอล่ะ" ผมพูดแล้วก็ตบบ่าเขาให้เขาเกิดความมั่นใจ
แล้วผมก็หันไปหามูติชาห์ "แต่ตัวท่านล่ะ การที่จะต้องคอยยิงสกัดอยู่รั้งท้ายแบบนั้น จะไม่ทำให้ท่านลำบากหรือเสี่ยงเกินไปหรอกรึมูติชาห์? "
มูติชาห์เชิดหน้าขึ้นมาอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ "อย่าได้ห่วงข้าในเรื่องนี้ เพราะตัวของข้าเองนั้นก็ได้ฝึกฝนเรื่องการทำศึกรบพุ่งเป็นอย่างหนักมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ โดยที่ข้าเองนั้นก็ได้แบกความหวังของการกู้อณาจักรมิตทราห์ของข้ามาโดยตลอดอีกด้วย เพราะฉนั้นเรื่องแค่นี้มันก็ไม่ได้ลำบากหรือเสี่ยงเกินไปสำหรับข้าเลยนะ"
อา... ช่างไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่ามูติชาห์ผู้ที่เป็นบุตรคนเดียวของท่านจ้าวแห่งมิตทราห์ จะมีความองอาจมั่นใจถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อยิ่งมองดูเขาดีๆ เขาก็ยิ่งดูมีความอ้อนแอ้นแบบสตรีเพศโดยที่ยังไม่ต้องนับที่ใบหน้าอันงดงามดุจสตรีเพศด้วยเช่นกัน ไอ้ครั้นที่ว่าหน้าตาของชนชาวมิตทราห์ส่วนใหญ่จะดูไร้กรามเหมือนกับคนในโลกของเรา แต่กับลักษณะทางกายภาพของมูติชาห์ผมก็กลับยิ่งเห็นว่าเขาดูแตกต่างจากผู้ชายชาวมิตทราห์คนอื่นๆ แน่ๆ
"ทำไมท่านจึงมองข้าแบบแปลกๆ อย่างนั้นท่านคนเถื่อน? " มูติชาห์ถามผมทันทีจนผมสะดุ้งเล็กน้อย และคิดว่าตัวผมเองคงจะมองสำรวจเขามากจนเกินไปหน่อย
"เอ่อ... ขอโทษที ไม่มีอะไรหรอก เอ่อ... ถ้ายังไงช่วยอย่าเรียกผมว่า'คนเถื่อน'จะได้ไหม มันฟังดูไม่ดีสำหรับคนบนโลกเราน่ะ ท่านเองก็รู้แล้วนี่ ว่าผมน่ะชื่อ กิตติ"
"อย่างงั้นรึ? " มูติชาห์เลิกคิ้ว "ก็ได้ ท่านกิตติ ต่อไปข้าจะเรียกท่านแบบนี้"
ดูเหมือนมูติชาห์จะไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องที่ผมแอบสำรวจกายภาพโดยรวมของเขาอีกต่อไป จากนั้นเขาก็สั่งให้พวกเราเริ่มปฏิบัติการทันที
และตามแผนของมูติชาห์พวกเราก็ทำไปแต่ละขั้นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และจันเองก็กลับวิ่งได้เร็วกว่าที่ตัวผมเองได้คาดไว้ซะอีก แต่ขณะที่ผมกับจันกำลังวิ่งออกจากจุดที่เป็นโขดหินต่ำๆ ไปยังโขดหินใหญ่หลังจากที่มูติชาห์ให้สัญญาณอีกครั้งหนึ่งแล้ว ผมก็เหลือบไปเห็นว่า พวกทหารที่ทรยศต่างก็ฮือกันออกมาจากเนินหินที่ซ่อน โดยที่ส่วนหนึ่งที่กำลังวิ่งออกมาด้านหน้าสุด ต่างก็ระดมยิงลูกธนูมาทางผมกับจันที่กำลังวิ่งหนีห่างออกไปอย่างสุดชีวิต และแม้ว่าสิงห์จะคอยยิงสกัดไปยังกลุ่มของทหารทรยศที่กำลังจะไล่กวดตามมาทางผม แต่ลูกธนูหลายลูกก็ยังพุ่งมาทางผมกับจันอยู่หลายดอก เพียงแต่ว่าวิถีทางของพวกมันนั้นกลับเฉไฉออกไปราวกับไม่มีจังหวะในการยิงที่ดี
ขณะที่กำลังจะถึงโขดหินใหญ่ ผมก็ยังเหลือบไปเห็นว่า มูติชาห์กำลังวิ่งมายังโขดหินต่ำๆ ที่สิงห์กำลังใช้กำบังกายและคอยยิงสกัดพวกทหารทรยศที่กำลังดาหน้ากันออกมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องโดนลูกธนูอันแม่นราวกับจับวางของสิงห์เสียบทะลุร่างกันอยู่หลายคนเลยทีเดียว
แต่ในที่สุดมูติชาห์ก็วิ่งเข้าไปสมทบกับสิงห์โดยปลอดภัย และเขากับสิงห์ก็ช่วยกันระดมยิงไปทางด้านหน้าของกลุ่มทหารทรยศที่เริ่มจะถาโถมกันเข้ามาอีกเรื่อยๆ
แล้วผมกับจันก็วิ่งเข้ามาถึงด้านหน้าของโขดหินใหญ่ในที่สุด แต่ก่อนที่ผมกับจันจะวิ่งอ้อมไปหลบอยู่ที่ด้านหลังของโขดหินนี้ อยู่ๆ ที่บนโขดหินด้านบนก็กลับปรากฏเงาร่างของคนสามคนขึ้นมายืนบนโขดหินอย่างปุปปับ แล้วผมกับจันก็ต้องชงักอย่างตื่นตะลึงกันทันที...?!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ