สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  63.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

38) กุสุมากับกุญแจปริศนา ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

"13 กุญแจ รวมกัน ผู้คนล้มตาย? " ไอริณทวนคำพร้อมกับขมวดหัวคิ้วเข้าหากัน
"หนูไอริณก็เคยได้ยินเรื่องนี้เหรอ? " พี่เมฆหันไปถามทันที
"คลับคล้ายคลับคราน่ะค่ะ" ไอริณพยักหน้าน้อยๆ "เหมือนจะเคยได้ยินพี่สาวของริณพูดถึงอยู่นะคะพี่เมฆ"
"พี่สาวของน้องริณที่ชื่อ'อคิราห์'คนนี้ ดูเหมือนจะรู้อะไรดีๆ เยอะเลยนะ ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่ล่ะเนี่ย? " ผมถามไอริณแล้วก็เลิกคิ้วมองสิงห์ในร่างนุชอย่างอยากจะได้คำอธิบายที่ชัดเจน
แต่ขณะที่ไอริณขยับปากจะพูดอะไรออกมา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน เสียงนั้นมันเป็นเสียงสะเทือนครืนๆ ดังเบาๆ และดังอยู่รอบๆ ห้องใต้ดิน แต่มันดังอยู่แค่เพียงระยะสั้นๆ แล้วก็หยุด
แล้วพวกเราแต่ล่ะคนต่างก็เหลียวหน้าเหลียวหลังมองไปรอบๆ ห้อง
"เมื่อกี้... มันเสียงอะไรกัน? " ผมเอ่ยขึ้นมาอย่างแปลกใจ"เสียงราวกับมีแผ่นดินไหวเบาๆ นะ? "
"หา...?! แผ่นดินไหว! " จันหน้าตาตื่นโพล่งขึ้นมา "ต้องใช่แน่ๆ เลยพี่กิต เมื่อกี้ผมยังรู้สึกว่าตัวเบาๆ ไปหน่อยนึงตอนเสียงนั่นดัง โอแม่เจ้า แล้วบ้านของเราข้างบนจะเป็นไงบ้างล่ะนี่?! "
"อย่าเพิ่งตื่นตูมนักเลยน่า...! " พี่เมฆโบกมืออย่างรำคาญหน่อยๆ "มีการสั่นสะเทือนรอบๆ ห้องใต้ดินนี่จริง แต่นั่นน่าจะไม่ใช่แผ่นดินไหวอะไรหรอก พี่ว่า ห้องใต้ดินนี้น่าจะกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ "
สิ้นคำของพี่เมฆ เสียงสะเทือนครืนๆ ก็ดังมาอีกรอบ แต่คราวนี้มันดังมาจากใต้ล่างของแท่นศิลาน้ำแข็งที่มีร่างของสิงห์นอนอยู่ในโลงแก้ว พวกเราทั้งหมดต่างตกใจ รีบขยับตัวถอยห่างมาจากแท่นศิลานั้นทันที
แล้วสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเรา
เมื่อแท่นศิลาที่ก่อนหน้านี้ยังตั้งอยู่นิ่งๆ ตอนนี้กลับเริ่มเลื่อนเข้าไปหาผนังที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหลัง และพอมันเลื่อนไปจวนจะชิดผนังแล้ว ผนังตรงนั้นก็กลับเปิดเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดพอๆ กับแท่นศิลาทันที และแล้วแท่นศิลาก็เลื่อนเข้าไปในช่องผนังนั้นอย่างรวดเร็ว!
ขณะที่พวกเรากำลังยืนตะลึงโดยไม่ทันจะเคลื่อนไหวใดๆ แท่นศิลาก็หายเข้าไปในช่องผนังจนหมดสิ้น และช่องสี่เหลี่ยมของผนังก็ปิดตัวเองทันที
สติของสิงห์ในร่างนุชดูเหมือนจะกลับมาไวกว่าคนอื่น เขารีบทะยานเข้าไปที่ผนังนั้น แต่อย่างไรมันก็ช้าเกินการณ์เพราะช่องผนังได้ปิดตัวเองโดยสมบูรณ์แล้ว
พวกเราที่เหลือรีบเข้าไปหาสิงห์ในร่างนุช แล้วเขาก็หันหน้ากลับมามองพวกเรา พลางส่ายหน้าไปมาเป็นความหมายว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว
"นี่มันหมายความว่าไง..? " ผมมองหน้าพี่เมฆสลับกับไอริณ "หรือว่านี่จะเป็นฝีมือพี่กุสุมา? "
พี่เมฆกับไอริณต่างมองหน้ากัน แต่ขณะที่ยังไม่มีใครตอบอะไรเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังพวกเรา
"ถูกต้องแล้วนะจ๊ะน้องกิตติ...! "
พวกเราทั้งหมดต่างหันขวับไปทางด้านหลัง และไม่ผิดเลย เจ้าของเสียงที่ผมเพิ่งจะคุ้นเคยนี้ ก็คือกุสุมานั่นเอง!
กุสุมากำลังยืนกอดอกมองมาทางพวกเรา แต่สายตาของเธอดูเหมือนจะจดจ้องที่ใบหน้าของพี่เมฆราวกับอยากจะกินเลือดกินเนื้อของเขาซะเต็มประดา
"แสบมากนักนะ เจ้าตุ๊กแกกำมะลอ! " เธอพูดเสียงดังฟังชัด
พี่เมฆอมยิ้ม แล้วเดินไปอยู่ข้างหน้าพวกเรา "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะแม่ยาหยียอดดวงใจของพี่! "
คำทักทายของพี่เมฆที่แสดงกับกุสุมา เล่นเอาผมกับไอริณหันมามองหน้ากัน นี่หมายความว่าพี่เมฆกับกุสุมาคงจะเคยคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เก่าก่อนอยู่ไม่น้อยทีเดียว
"อย่ามาเรียกด้วยคำแบบนั้นอีกนะ ฉันไม่เคยเป็นแม่ยาหยีหรือยอดดวงใจอะไรนั่นของ.. ของแกเลยนะ"
"ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ " พี่เมฆหัวเราะหน้าลอย แล้วรีบเปลี่ยนมาทำหน้าขรึม
"ขอโทษ ดันลืมไปว่าตอนนั้นเธอไม่ได้มีความจริงใจกับชายคนซื่อคนนี้เลยแม้แต่น้อยนิด" แล้วพี่เมฆก็ยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้ากุสุมา "เธอน่ะแค่... เคยหลอกผู้ชายคนนี้ด้วยวิธีที่ต่ำช้าแบบหนึ่งเท่านั้นเอง! "
"เอาเถ๊อะ...แล้วแต่จะคิด" กสุมาตีหน้าลอยขึ้นมา "เรื่องเก่าๆ เหล่านั้นน่ะ มันเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องอันน่าอับอายของพี่..เอ่อ... ของแกเองไม่ใช่หรอกหรือ ฮิฮิ"
ดูเหมือนผมจะสังเกตุเห็นว่า หน้าของพี่เมฆจะแดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่พี่เมฆก็แค่ตียิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
แล้วผมก็หันไปกระซิบกับไอริณ "ในอดีตสงสัยว่าพวกเขาจะเคย...? "
ผมพูดค้างอยู่แค่นั้น แล้วไอริณก็กระซิบตอบยิ้มๆ "ใช่ พวกเขาเคยมีอะไรแบบนั้นล่ะ แต่ไม่ใช่อย่างที่พี่กิตเข้าใจซะทีเดียว ถ้ามีโอกาสริณจะเล่าให้ฟังล่ะกัน"
"อะแฮ่ม...! เอาล่ะ ขอถามหน่อย" พี่เมฆกอดอกมองหน้ากุสุมาเขม็ง "น้องแมวกุสุมาต้องการจะเอาร่างของสิงห์นั้นไปทำอะไรกันแน่ คือพี่อยากจะรู้สักนิดสักหน่อยว่าเจ้านายของเธอน่ะมันกำลังคิดวางแผนจะทำเรื่องชั่วอะไรอีกล่ะนี่ ? "
"แกก็ไม่น่าจะถามฉัน... เอาล่ะ เรียกนายเมฆดีกว่า นายเมฆก็ไม่น่าจะถามฉัน เพราะนายเมฆเองก็รู้แล้วว่าฉันทำงานให้กับเจ้านายผู้เก่งกาจและน่ากลัวของฉันมาตั้งนานนมแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาสั่งให้ฉันทำอะไร ฉันก็แค่ทำ โดยไม่ต้องไปอยากรู้ว่าเขาให้ทำไปทำไม !" กุสุมาตอบชัดเจน
"ไอ้ตาไฟคนนั้น...! " พี่เมฆเน้นเสียง "เธอได้จงรักภักดีกับมันมาตั้งกี่ปีแล้วนะ... และสิ่งที่มันได้เคยให้สัญญาไว้กับเธอ เธอก็ยังคงคิดว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมาได้อีกหรือ ? "
"อย่ามารู้ดีเรื่องของฉันเกินไปนัก! " กุสุมาเสียงดังขึ้นกว่าเดิม "ยังไงฉันก็ต้องทำงานของฉันให้นายท่านของฉันพึงพอใจไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายแค่ไหน... และไม่ว่าจะอีกนานเท่าไรก็ตาม..." คำตอบของกุสุมายังคงชัดเจน แต่หางเสียงคำสุดท้ายกลับฟังดูอ่อนแรงลงไปอย่างประหลาด ?
หากว่าประสาทสัมผัสของผมไม่ผิดเพี้ยนไปแล้ว ก็ดูเหมือนมันจะคอยบอกอยู่ว่า ผู้หญิงที่ชื่อกุสุมาคนนี้ไม่น่าจะใช่คนที่ชั่วร้ายอย่างเหลือคณาซะทีเดียว เพราะดูเหมือนเธอจะมีจิตใจที่ดีงามแฝงอยู่ในส่วนลึกของจิตใจเธอด้วย สังเกตุจากคำพูดของเธอที่ได้คุยกับไอริณก็สามารถสะท้อนสิ่งนั้นได้อยู่พอควร บางทีการที่เธอต้องมาทำงานให้กับนายท่านของเธอคนนั้นก็เพราะว่าอาจจะมีความจำเป็นอะไรบางอย่างก็อาจจะเป็นไปได้เหมือนกัน?
แล้วพี่เมฆก็พูดต่อไป "เอาล่ะ สำหรับเรื่องของสิงห์ที่พี่พอรู้มามีอยู่ว่า เจ้านายของเธอต้องการตัวของเขาไปเพื่อใช้ต่อรองอะไรบางอย่างกับพ่อของเขา... ซึ่งที่จริงต้องเรียกว่า พระราชบิดาของเขาน่าจะถูกกว่า เพราะนายสิงห์คนนี้ก็คือ พระราชโอรสแห่งอณาจักร'วาณิกา'ที่เป็นอณาจักรของภิภพที่อยู่ในมิติที่ทับซ้อนกับโลกของเรานี่เอง! "
นั่นไง... จริงอย่างที่พี่กุสุมาได้เคยเกริ่นๆเรื่องนี้ให้ผมกับไอริณได้ฟังมาก่อนหน้านี้ ชายที่ชื่อสิงห์นอกจากไม่ใช่มนุษย์โลกโดยทั่วๆ ไปแล้วแต่เขายังกลับมีฐานะฐานันดรที่สูงส่งอยู่ในดินแดนของเขาอีกด้วย แต่ถึงยังไงเรื่องพวกนี้ มันก็เหลือเชื่อสำหรับตัวผมอยู่ดี
"ฟังนะน้องกุสุมา..." พี่เมฆเน้นเสียง "พี่มั่นใจว่า เจ้าตาไฟนั่นมันกำลังวางแผนการร้ายที่น่าจะร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆทั้งหมด และการที่มันกับน้องกุสุมามาเจอกับสิงห์ที่บ้านแฝดหลังนี้เมื่อราว 10 ปีที่แล้วนั้น มันก็ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ...! "
แล้วพี่เมฆก็ยกนิ้วขึ้นชี้หน้ากุสุมาอีกครั้ง "น้องน่ะ จงเลิกทำงานสกปรกทุกอย่างให้กับมันเสียทีเถอะนะ อย่าให้มันเกิดเวรเกิดกรรมแก่น้องมากขึ้นไปกว่านี้เลยจะดีกว่า แล้วจงบอกพี่ที่เคยดีกับน้องอยู่มากๆ คนนี้สักหน่อยซิว่า เป้าหมายที่แท้จริงของไอ้ตาไฟน่ะ มันคืออะไรกันแน่ ?! "
ดวงตาที่คมกริบของกุสุมาเริ่มลดประกายของความน่ากลัวลงไป แต่เธอก็ยังอดหัวเราะขึ้นมาตามสไตล์ของเธอไม่ได้ แล้วเธอก็ส่ายหน้า
"ฉันน่ะ... คงจะเลิกทำงานให้กับนายท่านของฉันไม่ได้แน่" แล้วเธอก็ก้มหน้าเพื่อหลบสายตาของพี่เมฆ "แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของนายท่านฉันคืออะไร ฉันก็จะบอกให้! "
แล้วพวกเราทั้งหมดก็แทบทะยานเข้าไปฟังคำพูดของพี่กุสุมาให้ชัดๆ!
พี่กุสุมาเงยหน้าเพื่อมองพวกเราด้วยดวงตาคมกริบ "เป้าหมายอันสูงสุดของนายท่านก็คือ... เชื่อมต่อนรก เข้ากับโลก และและภิภพต่างๆ อีกครั้ง! "
เชื่อมต่อนรกเข้ากับโลกและภพต่างๆ อีกครั้ง...?!!
ในที่สุด กุสุมาก็บอกออกมา แต่นี่มันไม่น่าเชื่อ มันไม่น่าเชื่อสักนิดเดียว? เรื่องพวกนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?!
"เธอ... เธอรู้ไม๊ น้องกุสุมา? " พี่เมฆถามด้วยลมหายใจที่เริ่มติดขัด "การเปิดนรกน่ะ มันไม่ใช่ความคิดโดยปกติของคนดีๆ เลย และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ แม้ว่าจะมีอำนาจจิตอันแรงกล้าแค่ไหนก็ตาม? "
กุสุมายิ้มขึ้นมาอย่างเยียบเย็บ "เขาทำได้..."
"ยังไง...? "
"ด้วยเครื่องมือพิเศษที่มีมาตั้งแต่โบราณกาลนับล้านปี..."
"มันคือ... มันคืออะไรกัน?? "
"กุญแจ 13 ดอก! "
อีกครั้ง กับคำว่ากุญแจ 13 ดอก! นี่หรือคือเครื่องมืออันสำคัญที่บุรุษที่มีดวงตาราวกับไฟนรกนั่นจะใช้เป็นเครื่องมือเพื่อ'เชื่อมต่อนรกเข้ากับโลกและภิภพต่างๆ " นี่ก็คือเป้าหมายอันสูงสุดของเขาคนนั้นอย่างงั้นหรือ?
ดูเหมือนพี่เมฆจะหน้าซีดลงไปไม่น้อย ก่อนเขาจะเดินเข้าไปหากุสุมาและมองหน้าอย่างชิดใกล้
"เป็นเป้าหมายที่เลวร้ายสุดๆ ถ้ามันทำได้ และนั่นจะเป็นการนำหายนะต่างๆ มาสู่สิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา สมดุลย์ธรรมชาติต่างๆ จะพินาศลงโดยสิ้นเชิงนะกุสุมา..."
"แล้วไง...? " กุสุมาจ้องตาพี่เมฆ
"พวกกุญแจเหล่านั้น พี่เหมือนจะเคยได้ยินเรื่องมาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมีอยู่จริง แต่เชื่อเถอะ ถ้ามันมีอยู่จริงมันก็คงจะหาไม่ได้ง่ายๆ หรอก...? " พี่เมฆพูดแล้วก็ส่ายหน้า
"หาได้ไม่ง่ายจริงๆ "กุสุมาพยักหน้า "แต่นายท่านกลับได้มาแล้วหลายดอก...! "
สีหน้าของพี่เมฆดูพิกล เหมือนเขาจะไม่เชื่อสิ่งที่กุสุมาบอก ส่วนพวกเราที่อยู่ข้างหลังพี่เมฆต่างก็ตกตะลึงกับคำพูดนั้น! "
ไม่จริง..." พี่เมฆพูดใส่ใบหน้าของกุสุมา
"จริง...! มันอยู่นี่แล้วไง 1 ดอก! "
แล้วกุสุมาก็ชูกุญแจดอกใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดขึ้นมาทันที!
คุณพระ...! นี่กุสุมาพูดเล่นหรือจริงกันแน่ (แต่สีหน้าของเธอไม่ได้เล่น)
นี่น่ะหรือ คือ 1 ในกุญแจ 13 ดอกที่รวมกันเมื่อไรก็จะเปิดประตูนรกขึ้นมาบนโลกของเรา...??!!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา