สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  62.97K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

28) ลงสู่ใต้ดิน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมตื่นตะลึงรีบหันไปมองที่ด้านล่างของชั้นไม้แล้วหันกลับมามองหน้าไอริณ

"อะไรล่ะ...?" ผมถามอย่างมึนๆ "ข้างล่างชั้นไม้นี่ก็คงจะมีแต่ปูนกับดิน พวกเราคงจะดำดินตามเขาลงไปยังวังบาดาลข้างล่างนั่นไม่ได้หรอกนะน้องริณ ?

"บ้าสิพี่กิต...!" ไอริณหันมาค้อนขวับ "ริณหมายถึงว่าข้างล่างชั้นไม้นี่ลงไป อาจจะมีห้องอะไรสักอย่างต่างหาก ชายที่ชื่อสิงห์นี่ดูเหมือนเขาจะสื่อสารออกมาอย่างนี้นะ พี่กิตไม่เฉลียวเหรอว่า ทำไมเขาจึงต้องค่อยๆเลื่อนหายลงไปแบบนั้นน่ะ ?"

ผมกระพริบตามองไอริณปริบๆ "จริงสิ... ทำไมเขาต้องมาแสดงอะไรแบบนี้ให้เราดู...?"

แล้วจันก็ก้าวเขยกๆมาใกล้ๆเรา "อูย...ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งจะเคยเห็นอะไรแบบนี้ คืนนี้ถ้าผมกลับไปนอนแล้ว ไม่รู้ว่าจะจับไข้หัวโกร๋นหรือเปล่านะนี่พี่กิต...?"

"อ้าว... จัน เขยกๆอย่างนั้นเป็นไรไปล่ะ ?" ผมถามอย่างแปลก ใจเพราะเมื่อกี้ก็ยังเห็นดีๆอยู่

"แหะๆ คงไม่เป็นไรหรอกพี่กิต เป็นเพราะพี่กิตนั่นแหล่ะ ที่ผลุนผลันรีบเดินมา ทำให้ผมเสียหลัก เท้าเกือบแพลงแน่ะ"

"โอ... โทษที ก็จันเอาแต่เกาะแขนฉันอยู่ตลอดนี่ ไหนจันเคยบอกฉันว่า เป็นคนไม่ค่อยกลัวผียังไงล่ะ ? แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว..."

"แหะๆๆ ก็เคยคิดไว้ว่ามันคงไม่น่ากลัวหรอก แต่พอมาเจอจริงๆ ไหงกลัวขึ้นมาเฉยเลยก็ไม่รู้" จันก้มหน้าก้มตาตอบอย่างเขินๆ

แล้วผมก็หันกลับไปหาไอริณ "แล้วเอาไงต่อกันดีน้องริณ... เราจะต้องย้ายชั้นไม้นี่ออกไป เพื่อจะดูว่าข้างใต้ชั้นไม้นี่จะมีถ้ำอยู่หรือเปล่าใช่ไม๊ ? แล้วถ้าทางเข้าถ้ำถูกโบกด้วยปูนจนหนาเตอะล่ะ ?"

ไอริณอมยิ้มขึ้นมา "พี่กิตกับจันก็ต้องเหนื่อยกันหนักเลยล่ะถ้าเป็นอย่างนั้น..."

"ห๋า... นี่จะให้พี่กับจันเจาะปูนเลยใช่ไม๊ ? ให้ตายสิ นี่เครื่องเจาะปูนเราก็ไม่มีนะน้องริณ ?" ผมเท้าสะเอวมองหน้าไอริณแล้วส่ายหัว

"คงไม่ต้องถึงกับต้องใช้เครื่องเจาะอะไรหรอกจ้ะพี่กิต" ไอริณพูดยิ้มๆ "ริณคิดว่า แค่เลื่อนชั้นไม้นี่ออกเราก็อาจจะเจอแค่ฝาปิดทางเข้าถ้ำของพี่กิตนั้นเลยล่ะมั้ง ชั้นไม้กับถ้วยชามกระเบื้องโบราณนี่ เขาคงเอามาตั้งไว้เพื่ออำพรางทางเข้าห้องใต้ดินมากกว่านะริณว่า"

"อะไรนะ... หะ... ห้องใต้ดินเหรอครับ ?" จันมองหน้าไอริณกับผมสลับกันไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก

"ถ้าไม่มีห้องใต้ดิน ก็อาจจะมีถ้ำค้างคาวของแบทแมน หรืออาจจะมีแค่ปูนแข็งโป๊กกับดินแข็งๆเท่านั้นก็ได้จัน" ผมกอดอกบอกจันอย่างหน้าตาย

"ผมคิดว่า... มันอาจจะมีหลุมศพอยู่ข้างล่างนั่นซะมากกว่านะครับพี่กิต ? บรื๊อ...เราจะต้องขุดหลุมศพกันด้วยหรือเปล่าครับพี่ ?" จันกอดอกตัวสั่นๆ

"พอๆ พอแล้ว อย่าอิมเมจิ้นกันให้มากนักทั้งสองคน" ไอริณส่ายหัว "ขอให้เชื่อที่ริณบอกหน่อยเหอะ แล้วก็รีบลงมือเลื่อนชั้นไม้นี่ได้แล้วคุณชายทั้งสอง !"

การเลื่อนชั้นไม้ไม่ใช่งานที่หนักหนาอะไรเท่าไรนักสำหรับผมกับจัน แต่การที่เรากลัวว่าพวกถ้วยชามกระเบื้องโบราณจะตกลงมาแตกเสียหายมากมายซะเปล่านั้น ก็เลยทำให้เราต้องช่วยกันย้ายพวกถ้วยชามออกจากชั้นไม้ให้เยอะที่สุดก่อนจะค่อยๆลงมือขยับเลื่อนชั้นไม้ไปอีกทาง

และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏแก่สายตาของผมหลังจากที่เราได้ขยับชั้นไม้ออกจากตำแหน่งเดิมไปแล้ว

ที่ตรงริมด้านซ้ายภายใต้บริเวณที่ชั้นไม้ได้เคยวางตั้งอยู่นั้น กลับปรากฏช่องสี่เหลี่ยมที่มีแผ่นไม้สีเข้มแผ่นหนึ่งปิดไว้อยู่จริงๆ ราวกับว่านี่จะเป็นช่องลับลงไปยังห้องใต้ดินอย่างที่ไอริณได้คาดการณ์ไว้

แล้วในที่สุดแผ่นไม้ที่เหมือนฝาปิดทางเข้าห้องด้านล่างนั้นก็ถูกผมกับจันเปิดออกมาอย่างไม่ยากเย็นนักเพราะมันไม่ได้ถูกใส่กุญแจใดๆไว้เลยสัักอันเดียว

จากนั้นเราทั้งสามคนต่างก็มองผ่านลงไปจากปากช่องทางเข้าสี่เหลียมนี้ แต่ก็ยังมองไม่เห็นอะไรในความมืดมิดข้างล่าง นอกจากบันใดเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆปากช่องทางเข้านี่เท่านั้น

"บรื๊อ... มืดตื๊ดตื๋อเลย นี่ผมคงจะไม่ต้องลงไปใช่ไม๊นี่ ?" จันหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าหวาดๆ

"ไม่ต้องลงไป..." ผมบอกจัน "เป็นคนแรก... แต่ก็ต้องลงไปเป็นคนที่สอง โดยฉันจะลงไปก่อนนะจัน"

จันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ "โธ่... พูดแบบนี้ผมเกือบแทบดีใจในตอนแรก แต่เอาเถอะ อย่างมากก็คงได้บู๊กับผีที่ใต้ดินนี่ล่ะ หลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลายช่วยคุ้มครองลูกช้างให้แคล้วคลาดด้วยเถ๊อะ...!" จันว่าแล้วก็พนมมือท่วมหัว ส่วนไอริณก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

หลังจากที่พวกเราได้ไต่ลงไปจนถึงด้านล่างที่อยู่ไม่ลึกมากแล้ว ผมก็เอาไฟฉายส่องไปที่ทางเดินที่เห็นอยู่ข้างหน้า แล้วก็ทำให้ผมได้เห็นประตูอีกบานหนึ่งที่ตั้งขวางอยู่ข้างหน้าในระยะไม่ไกลในทางเดินแคบๆใต้ดินนี้

เมื่อพวกเราเข้ามาจนถึงหน้าประตูที่ขวางอยู่นี้ ไอริณก็มีสีหน้าอัศจรรย์ใจในอะไรบางอย่างที่เป็นรูปสัญลักษณ์คล้ายๆสัตว์มีเขาประหลาดๆติดอยู่ที่หน้าประตู

"อะไรเหรอน้องริณ ?" ผมถาม แล้วก็พยายามเอาไฟฉายส่องดูรูปสัญลักษณ์นั้นใกล้ๆ

"สัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายค่ะพี่กิต..." ไอริณหันมาตอบผม "มันผู้นั้นไง... เจ้าคนที่มีดวงตาราวกับเปลวเพลิงคนนั้น...!"

"หา... อย่าบอกนะว่า ที่นี่เคยเป็นที่อยู่ของมัน ?" ผมเลิกคิ้วอย่างพิศวง "ก็แล้วบ้านแฝดข้างบนนี้ล่ะ... ก็เคยเป็นบ้านของมันด้วยงั้นเหรอ ?"

"เป็นไปได้อย่างมากค่ะพี่กิต..." ไอริณตอบด้วยรอยยิ้มเฝื่อนๆ "ทั้งห้องใต้ดินและบ้านแฝดนี้ ได้เคยอยู่ในความครอบครองของมันมาก่อนอย่างแน่นอน เจ้าของบ้านหลังนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ และอาจจะเป็นคนๆเดียวกับมัน...!"

แล้วผมก็ถึงกับต้องอ้าปากค้างไป พอหันไปมองจัน ก็เห็นเขาทำหน้าเด๋อด๋า ดูแล้วเขาคงจะงงว่าผมกับไอริณกำลังพูดถึงใครกัน ?

"เอ่อ... เราจะกลับกันก่อนไม๊ครับ พี่กิตพี่ไอริณ บางทีเราค่อยมาดูห้องนี้กันวันหลังก็ได้ล่ะมั้ง...?" จันทำท่าอยากจะกลับอยู่เรื่อย จนบางทีผมก็รู้สึกว่าเขาจะปอดกว่าที่ผมคิดไว้มากทีเดียว

"ไม่...!" ผมพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มๆ "เราจะต้องเข้าไปดูในห้องนี้กันในวันนี้เลย เราจะต้องเคลียร์เรื่องลึกลับในบ้านนี้ให้ได้ในวันนี้ เพราะในคราวหน้าเราอาจะไม่มีมีโอกาสเหมือนในวันนี้อีกก็ได้นะจัน...!"

การตัดสินใจเด็ดขาดของผมทำให้จันเงียบเสียงไปทันที และต่อมาพวกเราก็ช่วยกันเปิดประตูเก่าๆนี้จนสำเร็จ

แต่หลังจากที่ไฟฉายของผมได้ส่องกราดไปมารอบๆห้องใต้ดินที่ดูกว้างขวางไม่ใช่เล่นนี้ได้รอบห้องแล้ว ผมก็มาสะดุดตาอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องที่มีเตียงหรือแท่นสี่เหลี่ยมอะไรสักอย่างตั้งอยู่

เตียงหรือแท่นสี่เหลี่ยมประหลาดนี้แม้จะอยู่ในเงามืด แต่ก็ให้รูู้สึกแปลกประหลาดอย่างแปลกๆ ราวกับว่ามันไม่ใช่ของที่ทำมาจากโลกใบนี้ นอกจากนี้มันก็ยังมีแสงสว่างเรื่อเรืองสีฟ้าๆส่องลอดออกมาจากด้านบนด้วย

"มุมนั้น..." ผมบุ้ยปากไปทางนั้นกับไอริณ "มีอะไรสักอย่างแปลกๆอยู่ตรงนั้นน่ะน้องริณ...?"

"รีบไปดูกันเร็วพี่กิต..." ไอริณว่าแล้วก็ถลาไปที่ตรงนั้นทันที

ผมกำลังจะขยับตามไป ก็พอดีเห็นจันยืนขาสั่นๆอยู่

"ในห้องนี้บรรยากาศไม่ค่อยสู้ดีเลยพี่กิต... มันเหมือนอยู่ใน... ในหลุมฝังศพเลยอ่ะพี่...?" หางเสียงของจันดูจะสั่นๆเล็กน้อยเหมือนกับขาของเขา

ผมตบบ่าจันค่อนข้างแรง "อย่าปอดนัก... มาทางนี้เร็ว !"

เมื่อผมกับจันมาหยุดที่ข้างหลังไอริณ ก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้ไอริณกำลังยืนมองตาค้างอยู่พอดี

ลึกลงไปในแท่นสี่เหลี่ยมยาวประหลาดๆ ที่มีฝาปิดเป็นแก้วโปรงใสราวแซฟไฟร์ที่ดูแข็งแกร่งนั้น มีร่างของคนผู้หนึ่งนอนหลับตาสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางแสงสีฟ้าอ่อนๆที่รายล้อมอยู่รอบตัว ดูเผินๆแล้ว ก็ราวกับว่าเขาได้นอนหลับอยู่ในโลงประหลาดๆที่อาจจะติดไฟสีฟ้าไว้อยู่ด้านในนั่นเอง...!

"เอ๊ะ... นี่เขาก็คือ.... ?!" ผมรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดอย่างที่สุด เมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ในแท่นหรือโลงประหลาดนี้ได้อย่างชัดเจนเต็มตา...!!

(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้นะครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา