สืบสู้ผี ภาค 1-2
8.7
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.
73 ตอน
3 วิจารณ์
63.03K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ก่อนเหตุระทึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความไอริณยิ้มแล้วก็ส่ายหัว "ริณบอกไป พี่กิตก็คงไม่รู้จักหรอกค่ะ เอาว่าสักวันหนึ่งพี่กิตคงจะได้เจอพี่เขาแน่ๆ ถ้าพี่กิตไม่มาหายไปจากชีวิตริณซะก่อนนะ"
"เอ๊ะ... ทำไมพี่จะต้องมาหายไปจากชีวิตของน้องริณด้วยล่ะจ๊ะ ตอนนี้เราก็อยู่ใกล้ๆกันแค่นี้ จากชั้นเก้าลงมาชั้นเจ็ด จากชั้นเจ็ดขึ้นไปชั้นเก้า แหม... พริบตาเดียวเอง"
"พูดดีไปเถ๊อะ... แล้วสมัยก่อนเป็นไงล่ะ สัญญาว่าปิดภาคเรียนคราวหน้าจะแวะลงไปเที่ยวไปหาริณ และดำริว่าจะไปสอนภาษาอังกฤษให้ริณอีกด้วย แล้วพอถึงเวลาจริงๆก็ไม่เห็นหัวอีกเลยจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ... ชิ !"
"อ้าว... พี่เคยสัญญาไว้อย่างนั้นเรอะ ? เอ... พี่ไม่เห็นจะจำได้เลยนะน้องริณ สงสัยว่ามันจะนานไปจนพี่ลืมซะล่ะ ฮ่าๆ"
"ผู้ชายก็เป็นซะอย่างงี้ล่ะ... ริณล่ะเบื่อนัก... เชอะ !"
ทั้งชิทั้งเชอะของไอริณตอนนี้มากันครบครัน ผมเองตอนนี้ก็เลยแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เมื่อมองเห็นเธอทำหน้าค้อนประหลับประเหลือก และทำเบือนหน้ามองไปทางอื่น
"เอาล่ะ..." ไอริณหันกลับมายิ้มเหมือนเดิม "แล้วเรื่องที่บ้านแฝดของพี่กิตน่ะ ตอนนี้พี่กิตจะทำยังไง ตอนนี้ริณเองก็รู้เรื่องไปกับพี่แล้ว พี่กิตอยากจะให้ริณช่วยอะไรก่อนเป็นอันดับแรกล่ะ...?"
"เออใช่..." ผมขมวดคิ้วขึ้นมาทันที "คุยไปคุยมาจะกลายเป็นเล่นไปซะเองแล้วพี่นี่... คืองี้ พี่เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะกลับไปคุยกับเจ๊ร้านขายของชำที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องอะไรๆแต่เก่าก่อนในบริเวณหมู่บ้านจัดสรรค์นั้นอยู่ไม่น้อย เจ๊แกดูเป็นกันเองและดูท่าทางแล้วคงจะเล่าทุกอย่างที่แกรู้ให้พี่ฟังหมดทุกอย่างแน่ๆ ปัญหาคือท่าทางผัวของแกดูจะหึงๆเจ๊แกอยู่เหมือนกัน เพราะอยู่ดีๆก็มีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาชวนเมียตัวเองคุยอยู่นานสองนาน คราวก่อนนั้นพี่กับเจ๊ก็เลยต้องสต็อบเรื่องที่คุยกันยังไม่จบไว้ก่อน แล้วพี่ก็มาคิดว่า ถ้าไปหาแกอีกคราวหน้าก็จะชวนใครสักคนไปเป็นเพื่อนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดกันสักหน่อย เออ... ตอนนั้นพอพี่นึกไปนึกมาก็นึกถึงน้องริณพอดีเลยนะ เพราะพี่จำกิตติศัพท์ของน้องริณที่เขาลือกันได้ว่าน้องริณเป็นคนไม่กลัวผี แถมยังสนใจเรื่องพวกนี้มากๆ พี่ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวจะลองติดต่อน้องริณดูว่าพอจะไปเป็นเพื่อนพี่ได้ไม๊ เพราะถ้าพี่ขืนไปชวนพวกเพื่อนๆในกองบก.ชั้นเก้าให้ไปเป็นเพื่อนก็รับรองได้ว่าไอ้พวกนั้นจะกลัวกันหัวแทบหดตั้งแต่ได้ยินคำว่าผีแน่ๆเชียว..."
ไอริณยิ้มละมัย "ดีจัง ที่พี่กิตยังอุตส่าห์นึกถึงริณขึ้นมาได้ แต่ก็นั่นแหล่ะนะ... แค่นึกขึ้นมาได้เพราะจำได้แค่ว่าริณเป็นคนไม่กลัวและสนใจเรื่องผีแค่นั้นเองใช่ไม๊ล่ะ...?"
ผมอดหัวเราะขึ้นมาหน่อยนึงไม่ได้ "แหม... ก็ถ้าพี่รู้ว่าน้องริณคนนี้ก็คือน้องริณคนนั้น พี่ก็คงจะไม่ต้องคิดอะไรให้มันปวดหัวหรอก คงจะรีบแจ้นมาหาหรือมาคุกเข่าอ้อนวอนขอความช่วยเหลือต่อหน้าน้องริณซะก่อนหน้านี้แล้วล่ะคร้าบบบ..."
ไอริณเท้าคางหัวเราะคิกก่อนถามว่า "งั้นสรุปว่า... เราจะไปหาเจ๊ร้านขายของชำกันก่อนสินะ...?"
"ก็คงต้องไปหาเจ๊แกก่อน เพราะพอมามีเหตุการณ์ที่พี่ได้ฝันเห็นผู้ชายที่ชื่อสิงห์และผู้หญิงที่ชื่อนุชรวมทั้งพวกไอ้โรจน์แล้ว พี่ก็ยิ่งต้องไปถามเจ๊แกว่า คนเหล่านั้นมีตัวตนจริงๆกันหรือเปล่า และถ้ามีบุคคลเหล่านั้นอยู่จริงๆเราก็อาจจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความฝันของพี่นั้นก็คงจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจริงๆในอดีตด้วยกระมัง...?"
"ริณว่าใช่แน่นอน... คือถ้าพี่กิจไม่ได้มดเท็จเล่าเรื่องราวพวกนี้ให้ริณฟังสนุกๆอ่ะนะ"
"ปัดโธ่เอ๊ย... น้องริณเห็นพี่เป็นคนชอบเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน เกิดมาตั้งแต่เด็กจนโตพี่ก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยสักนิด ถ้าวันนั้นไม่เห็นกับตาล่ะก็ วันนี้พี่เองก็คงจะไม่ได้มานั่งมาคุยปรึกษาเรื่องพวกนี้อยู่กับน้องริณจนถึงตอนนี้ล่ะม้าง..."
ไอริณยิ้มกริ่ม "งั้น... พรุ่งนี้เราจะไปลุยกันเลยใช่ไม๊...? พรุ่งนี้ริณจะได้เบรคเรื่องอื่นๆให้หมดเลย"
"พี่แล้วแต่น้องริณจ้ะ ถ้าพรุ่งนี้ได้เลยก็ดี งั้น... เดี๋ยวพี่จะได้บอกกองบก.ชั้นเก้าว่าพรุ่งนี้พี่จะไม่เข้ามา..."
จากนั้นผมกับไอริณก็ได้คุยเรื่องสัพเพเหระกันอีกนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันออกไป และตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะมาเจอกันตอนเที่ยงวันที่ร้านกาแฟอเมซอนหน้าปากซอยทางเข้าสำนักพิมพ์นี้ก่อน...
ก่อนแยกย้ายกันไป ไอริณยังอุตส่าห์หันกลับมาแซวว่า คืนนี้ระวังจะฝันระทึกอีกนะ ผมก็เลยแค่ส่งยิ้มกลับไป
แต่พอถึงตอนดึก หลังจากที่ผมได้เข้านอนไปแล้วผมก็ไม่รู้สึกว่าจะฝันอะไรอีกเลย
แต่สุดท้าย... ก็มีเรื่องระทึกขึ้นมาจนได้... แต่คราวนี้คนที่เจอเหตุการกลับเป็นจันซะเอง...!
(ขอลงตัวอย่างตอนหน้าสักนิดนะครับ)
{ "เขา...? เขาเป็น... ผู้ชายขนดกตัวสูงๆผอมๆที่มะลิเคยเห็นใช่ไม๊จัน....?" ผมถามจันเร็วปรื๋อ
"ห๋า...?" จันทำหน้างง "ไม่... ไม่ใช่พี่... ไม่น่าจะใช่นะพี่กิต ?"
"พี่กิต... ผมคิดว่าตอนแรกเขาไม่เห็นผม แต่ตอนที่ฟ้าแล่บแปลบอีกครั้ง เขาก็.... ก็ ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมตรงระเบียงนี้...."
จันปากคอสั่น แต่พยายามพูดต่อไป "ตา... ตาของเขาดูน่ากลัวมากเลยล่ะพี่กิต...! มันเหมือนมีเปลวไฟหรืออะไรสักอย่างที่น่ากลัวอยู่ในตาของเขาตอนนั้น...!" }
"เอ๊ะ... ทำไมพี่จะต้องมาหายไปจากชีวิตของน้องริณด้วยล่ะจ๊ะ ตอนนี้เราก็อยู่ใกล้ๆกันแค่นี้ จากชั้นเก้าลงมาชั้นเจ็ด จากชั้นเจ็ดขึ้นไปชั้นเก้า แหม... พริบตาเดียวเอง"
"พูดดีไปเถ๊อะ... แล้วสมัยก่อนเป็นไงล่ะ สัญญาว่าปิดภาคเรียนคราวหน้าจะแวะลงไปเที่ยวไปหาริณ และดำริว่าจะไปสอนภาษาอังกฤษให้ริณอีกด้วย แล้วพอถึงเวลาจริงๆก็ไม่เห็นหัวอีกเลยจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ... ชิ !"
"อ้าว... พี่เคยสัญญาไว้อย่างนั้นเรอะ ? เอ... พี่ไม่เห็นจะจำได้เลยนะน้องริณ สงสัยว่ามันจะนานไปจนพี่ลืมซะล่ะ ฮ่าๆ"
"ผู้ชายก็เป็นซะอย่างงี้ล่ะ... ริณล่ะเบื่อนัก... เชอะ !"
ทั้งชิทั้งเชอะของไอริณตอนนี้มากันครบครัน ผมเองตอนนี้ก็เลยแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เมื่อมองเห็นเธอทำหน้าค้อนประหลับประเหลือก และทำเบือนหน้ามองไปทางอื่น
"เอาล่ะ..." ไอริณหันกลับมายิ้มเหมือนเดิม "แล้วเรื่องที่บ้านแฝดของพี่กิตน่ะ ตอนนี้พี่กิตจะทำยังไง ตอนนี้ริณเองก็รู้เรื่องไปกับพี่แล้ว พี่กิตอยากจะให้ริณช่วยอะไรก่อนเป็นอันดับแรกล่ะ...?"
"เออใช่..." ผมขมวดคิ้วขึ้นมาทันที "คุยไปคุยมาจะกลายเป็นเล่นไปซะเองแล้วพี่นี่... คืองี้ พี่เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะกลับไปคุยกับเจ๊ร้านขายของชำที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องอะไรๆแต่เก่าก่อนในบริเวณหมู่บ้านจัดสรรค์นั้นอยู่ไม่น้อย เจ๊แกดูเป็นกันเองและดูท่าทางแล้วคงจะเล่าทุกอย่างที่แกรู้ให้พี่ฟังหมดทุกอย่างแน่ๆ ปัญหาคือท่าทางผัวของแกดูจะหึงๆเจ๊แกอยู่เหมือนกัน เพราะอยู่ดีๆก็มีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาชวนเมียตัวเองคุยอยู่นานสองนาน คราวก่อนนั้นพี่กับเจ๊ก็เลยต้องสต็อบเรื่องที่คุยกันยังไม่จบไว้ก่อน แล้วพี่ก็มาคิดว่า ถ้าไปหาแกอีกคราวหน้าก็จะชวนใครสักคนไปเป็นเพื่อนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดกันสักหน่อย เออ... ตอนนั้นพอพี่นึกไปนึกมาก็นึกถึงน้องริณพอดีเลยนะ เพราะพี่จำกิตติศัพท์ของน้องริณที่เขาลือกันได้ว่าน้องริณเป็นคนไม่กลัวผี แถมยังสนใจเรื่องพวกนี้มากๆ พี่ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวจะลองติดต่อน้องริณดูว่าพอจะไปเป็นเพื่อนพี่ได้ไม๊ เพราะถ้าพี่ขืนไปชวนพวกเพื่อนๆในกองบก.ชั้นเก้าให้ไปเป็นเพื่อนก็รับรองได้ว่าไอ้พวกนั้นจะกลัวกันหัวแทบหดตั้งแต่ได้ยินคำว่าผีแน่ๆเชียว..."
ไอริณยิ้มละมัย "ดีจัง ที่พี่กิตยังอุตส่าห์นึกถึงริณขึ้นมาได้ แต่ก็นั่นแหล่ะนะ... แค่นึกขึ้นมาได้เพราะจำได้แค่ว่าริณเป็นคนไม่กลัวและสนใจเรื่องผีแค่นั้นเองใช่ไม๊ล่ะ...?"
ผมอดหัวเราะขึ้นมาหน่อยนึงไม่ได้ "แหม... ก็ถ้าพี่รู้ว่าน้องริณคนนี้ก็คือน้องริณคนนั้น พี่ก็คงจะไม่ต้องคิดอะไรให้มันปวดหัวหรอก คงจะรีบแจ้นมาหาหรือมาคุกเข่าอ้อนวอนขอความช่วยเหลือต่อหน้าน้องริณซะก่อนหน้านี้แล้วล่ะคร้าบบบ..."
ไอริณเท้าคางหัวเราะคิกก่อนถามว่า "งั้นสรุปว่า... เราจะไปหาเจ๊ร้านขายของชำกันก่อนสินะ...?"
"ก็คงต้องไปหาเจ๊แกก่อน เพราะพอมามีเหตุการณ์ที่พี่ได้ฝันเห็นผู้ชายที่ชื่อสิงห์และผู้หญิงที่ชื่อนุชรวมทั้งพวกไอ้โรจน์แล้ว พี่ก็ยิ่งต้องไปถามเจ๊แกว่า คนเหล่านั้นมีตัวตนจริงๆกันหรือเปล่า และถ้ามีบุคคลเหล่านั้นอยู่จริงๆเราก็อาจจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความฝันของพี่นั้นก็คงจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจริงๆในอดีตด้วยกระมัง...?"
"ริณว่าใช่แน่นอน... คือถ้าพี่กิจไม่ได้มดเท็จเล่าเรื่องราวพวกนี้ให้ริณฟังสนุกๆอ่ะนะ"
"ปัดโธ่เอ๊ย... น้องริณเห็นพี่เป็นคนชอบเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน เกิดมาตั้งแต่เด็กจนโตพี่ก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยสักนิด ถ้าวันนั้นไม่เห็นกับตาล่ะก็ วันนี้พี่เองก็คงจะไม่ได้มานั่งมาคุยปรึกษาเรื่องพวกนี้อยู่กับน้องริณจนถึงตอนนี้ล่ะม้าง..."
ไอริณยิ้มกริ่ม "งั้น... พรุ่งนี้เราจะไปลุยกันเลยใช่ไม๊...? พรุ่งนี้ริณจะได้เบรคเรื่องอื่นๆให้หมดเลย"
"พี่แล้วแต่น้องริณจ้ะ ถ้าพรุ่งนี้ได้เลยก็ดี งั้น... เดี๋ยวพี่จะได้บอกกองบก.ชั้นเก้าว่าพรุ่งนี้พี่จะไม่เข้ามา..."
จากนั้นผมกับไอริณก็ได้คุยเรื่องสัพเพเหระกันอีกนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันออกไป และตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะมาเจอกันตอนเที่ยงวันที่ร้านกาแฟอเมซอนหน้าปากซอยทางเข้าสำนักพิมพ์นี้ก่อน...
ก่อนแยกย้ายกันไป ไอริณยังอุตส่าห์หันกลับมาแซวว่า คืนนี้ระวังจะฝันระทึกอีกนะ ผมก็เลยแค่ส่งยิ้มกลับไป
แต่พอถึงตอนดึก หลังจากที่ผมได้เข้านอนไปแล้วผมก็ไม่รู้สึกว่าจะฝันอะไรอีกเลย
แต่สุดท้าย... ก็มีเรื่องระทึกขึ้นมาจนได้... แต่คราวนี้คนที่เจอเหตุการกลับเป็นจันซะเอง...!
(ขอลงตัวอย่างตอนหน้าสักนิดนะครับ)
{ "เขา...? เขาเป็น... ผู้ชายขนดกตัวสูงๆผอมๆที่มะลิเคยเห็นใช่ไม๊จัน....?" ผมถามจันเร็วปรื๋อ
"ห๋า...?" จันทำหน้างง "ไม่... ไม่ใช่พี่... ไม่น่าจะใช่นะพี่กิต ?"
"พี่กิต... ผมคิดว่าตอนแรกเขาไม่เห็นผม แต่ตอนที่ฟ้าแล่บแปลบอีกครั้ง เขาก็.... ก็ ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมตรงระเบียงนี้...."
จันปากคอสั่น แต่พยายามพูดต่อไป "ตา... ตาของเขาดูน่ากลัวมากเลยล่ะพี่กิต...! มันเหมือนมีเปลวไฟหรืออะไรสักอย่างที่น่ากลัวอยู่ในตาของเขาตอนนั้น...!" }
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ